กำหนดการ – กำหนดงาน
วันเสาร์ที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๕๕
ครูอาสาแต่ละกลุ่มวิชาส่งแผนการเรียนการสอนและอุปกรณ์ที่ต้องการใช้ (ส่งทางอีเมลมาที่ [email protected])
วันพุธที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๕๕
แผนการสอนแต่ละวิชาได้รับการพิจารณาตอบรับ รวมทั้งคำเสนอแนะ/คำแนะนำเกี่ยวกับการปรับแผน (ทางอีเมล)
วันพุธที่ ๑ กุมภาพันธ์ - ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๕
ครูอาสาแต่ละกลุ่มวิชาเริ่มลงพื้นที่ปฏิบัติงาน สัปดาห์ละ ๑ - ๒ ชั่วโมง
วันเสาร์ที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๕
ครูอาสารับทราบผลการเรียนการสอนและการบรรลุเป้าหมาย (ทางอีเมลล์) และได้รับเงินค่าลงทะเบียน ๘๐๐ บาท คืนภายใน ๒ สัปดาห์แรกของเดือนเมษายน ๒๕๕๕
ทำแผนการเรียนรู้
ครูอาสามีเวลาทำแผนการเรียนรู้ให้เสร็จภายใน ๑ สัปดาห์ เพื่อส่งกลับไปให้คุณหมอโจ้พิจารณาทางอีเมล
กลุ่มครูภาษาไทยแลกอีเมลกันไว้ตั้งแต่วันที่ไปพบกันที่ห้องประชุมภารกิจบริการวิชาการ และคุยกันทางเมลเรื่อยๆ ตอนคิดแผนการเรียนรู้ก็คิดเป็น ๒ แผน คือ แผนสำหรับเด็กอายุ ๘ ปีขึ้นไป และแผนสำหรับเด็กอายุ ๑๐ ปีขึ้นไป โดยคิดเป็นแผนต่อเนื่องตั้งแต่ครั้งที่ ๑ จนถึง ครั้งที่ ๙
คุณเดือน กับฉัน ช่วยกันคิดแผนเป็นหลัก เพิ่งมารู้ตอนช่วยกันคิดแผนว่าคุณเดือนเคยเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนรุ่งอรุณมาก่อน และคุณเอ๋ก็เคยไปดูโรงเรียนรุ่งอรุณ เพราะชอบแนวคิดทางการศึกษา แต่ในที่สุดก็ไม่ได้เอาลูกไปเข้าเพราะโรงเรียนอยู่ไกลบ้านไปหน่อย
เมื่อส่งแผนการเรียนรู้ไปให้คุณหมอพิจารณา คุณหมอตอบเมลกลับมาว่า "แผนการสอนดูรัดกุมดีค่ะ น่าจะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก" และพร้อมกันนั้น คุณหมอยังได้ส่งภาพถ่ายอุปกรณ์ตามที่เราขอกันเอาไว้กลับมาให้ดูด้วยว่าได้จัดเตรียมเอาไว้ให้ในรถเข็นพร้อมใช้เรียบร้อยแล้ว
แรกพบ
กลุ่มครูภาษาไทย นัดกันไปสอนในวันเสาร์ เวลาบ่ายสอง – บ่ายสี่โมงเย็น วันแรกเรานัดพบกันที่ห้องกิจกรรมตอนบ่ายโมงครึ่งเพื่อนัดแนะกันก่อน เมื่อฉันไปถึง คุณเอ๋ และคุณสุไปรออยู่ก่อนแล้ว วันนั้นเข็นรถอุปกรณ์ไปข้างเตียงเด็กๆ กันเลย
วันที่อบรมความรู้พื้นฐาน คุณหมอโจ้ให้หลักคิดเอาไว้ว่า
“การให้ที่ไม่ระวังของครูอาสาจะทำให้เด็กพัฒนาความคิดบางอย่าง เป็นการเพาะนิสัยที่ไม่สมควร และจะทำให้คุณค่าในตัวเด็กลดลง เพราะเด็กจะสับสนว่าเราจะมาสอนหรือเอาของมาแจก ถ้าเริ่มต้นด้วยการให้ของ เขาจะไม่สนใจเรื่องอื่นที่เราตั้งใจนำมาให้
ที่สำคัญคือ เวลา และความปรารถนาดี ที่ครูอาสาต้องแสดงออกให้เขาสัมผัสได้ และการสร้างแรงจูงใจให้เด็กอยากเรียน”
กลุ่มเด็กที่อยู่ในวอร์ดวันนั้น มีเด็กเล็กตัวจิ๋วๆ อายุ ๒ – ๓ ขวบ และเด็กที่โตประมาณ ๘ – ๙ ขวบ แต่ยังไม่มีเด็กที่โตกว่านี้ เด็กเล็กดูง่วงนอน ครูก็เลยปล่อยให้นอน ส่วนเด็ก ๘ – ๙ ขวบที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย มีเตียงตั้งอยู่เรียงกันพอดี พวกเราเลยเข้าดูแลกันคนละเตียง
เริ่มจากการสร้างความสัมพันธ์แรกพบ และสังเกตว่าเด็กแต่ละคนสนใจอะไรเป็นพิเศษ แล้วสานต่อมิตรภาพจากจุดนั้นด้วยการสร้างความสนใจร่วม แล้วชวนกันเดินทางสู่การเรียนรู้ด้วยการทำความรู้จักกันและกัน