ความไพเราะของความเงียบ


ผมมีชีวิตที่เกี่ยวพันกับดนตรีมาตั้งแต่เรียนมัธยม ผมเล่นดนตรีไทยเป็นมือขิมของวงดนตรีไทยศรียาภัยที่โด่งดังกวาดรางวัลมานับไม่ถ้วนในสมัยนั้น (รุ่นพี่รุ่นน้องเขากวาด ส่วนผมอาศัยใบบุญไปกับเขา) แล้วยังแอบไปเล่นคีย์บอร์ดให้วงดนตรีสากลบ้างเป็นบางครั้ง (ไปมั่วเล่นกับเขา อาศัยไปกับเขาอีกเหมือนกัน) ตอนเรียนปริญญาตรีปีหนึ่งก็ไปเล่นคีย์บอร์ดให้กับวงดนตรีสากลอีกด้วย (อืมม… เริ่มรู้สึกว่าตัวเองมั่วเก่งจริงๆ)

แต่หลังจากปีหนึ่งแล้ว ผมก็ไม่ได้มีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับดนตรีอีกเลย กลายเป็นผู้ฟังอย่างเดียว และเป็นผู้ฟังที่ไม่ดี เพราะไม่มีเครื่องเสียงดีๆ ฟังเพลงกับเขา เนื่องจากไม่มีเงินเก็บพอจะซื้อเครื่องเสียงเสียที เป็นเพราะเริ่มรู้จักกับเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ตอนปีสอง จากนั้นมาเงินเก็บก็หมดไปกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ จนมาถึงทุกวันนี้ไม่เคยตกทอดลงมาถึงเครื่องเสียงได้สักที

มาถึงวันนี้ที่ได้อยู่บ้านของตัวเอง เริ่มมีพื้นที่ให้วางเครื่องเสียงและเริ่มไม่ต้องซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์เพิ่มเติมมากนัก (เพราะอุปกรณ์ในทุกวันนี้แต่ละชิ้น “unified” แทนที่หลายๆ ชิ้นที่เคยต้องมีแยกจากกันในอดีต) ก็ยังไม่ได้มีเครื่องเสียงดีๆ มีก็เพียงลำโพงต่อกับคอมพิวเตอร์เหมือนเดิม

เป็นสิ่งที่ผมพึ่งสังเกตเห็น ผมเลยนั่งคิดหาสาเหตุว่าทำไม?

คิดดูอย่างเงียบสงบ เพราะวันนี้ไม่มีใครอยู่บ้าน ผมก็พบคำตอบว่า เป็นเพราะผมชอบความเงียบ

ผมเป็นลูกคนเดียวที่โตมาในบ้านที่อยู่กลางนา พื้นที่ 240 องศารอบบ้านผมเป็นท้องนาสุดลูกหูลูกตา ส่วนองศาส่วนที่เหลือเป็นภูเขา

ทหารผู้น้อยอย่างพ่อผมไม่ได้ทำนา แต่ก็อุตส่าห์ไปสร้างบ้านในที่นาเก่าแก่ของย่า จะไปทำงานหรือจะไปโรงเรียนกันก็ลำบาก เพราะถนนหน้าบ้านเป็นถนนลูกรัง

ผมเติบโตมาท่ามกลางเสียงของธรรมชาติ โดยเฉพาะเสียงลม เพราะในท้องนา ลมพัดแรงดีนัก

สำหรับผม ท้องฟ้าเป็น panorama และดาวก็เป็นดาวที่สุกสว่างจริงๆ

ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมพ่อไปสร้างบ้านอยู่เสียไกล

แต่ตอนนี้อย่าไปดูบ้านผมนะครับ เพราะกลายเป็นว่าอยู่ติดกับวงเวียนใจกลางเมืองใหม่พอดี มีศาลากลางจังหวัดมาตั้งค้ำคอจ่อจมูก และพ่อผมก็ย้ายบ้านหนี ปล่อยบ้านเดิมให้เขาเช่าไปแล้ว

บ้านที่ผมอยู่ในปัจจุบัน สาเหตุอันดับหนึ่งที่ผมซื้อเพราะว่าเงียบสงบ แต่ก็ไม่ไกลจากที่ทำงานมากนัก

บ้านผมอยู่บนทางลมพอดี โดยเฉพาะหน้านี้ของปี ลมพัดแรง เสียงลมได้ยินชัดเจนมาก

ใช่แล้วครับ สาเหตุที่ผมไม่มีเครื่องเสียง เพราะผมมีดนตรีที่ไพเราะที่สุดให้ฟังอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว

ความเงียบแท้จริงแล้วไพเราะอย่างยิ่ง แต่คนไม่น้อยไม่ได้รับฟังความไพเราะของความเงียบ ยิ่งในยุคปัจจุบันที่ดูเหมือนผู้คนจะพยายามยัดเยียดเสียงเข้าไปในตัวเองในทุกโอกาสที่ทำได้ ผมเห็นแล้วน่าเป็นห่วงเหลือเกิน

ด้วยหูฟังที่อยู่ในหูตลอดเวลานั้น เขาไม่ได้มีความสุขกับสภาวะรอบตัวที่เขาอยู่ (being mindful of the present moment) ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้มีความสุขกับเสียงเพลงที่เขาฟังอยู่ บางคนอาจเถียงว่าเสียงเพลงนั้น “ขยาย” ความสุขของสภาวะรอบตัวนั้น ภาษานักเทคโนโลยีเรียกว่า Augmented Reality แต่ Augmented Reality ยังต้องมีการศึกษากันอีกเยอะมากแต่ผมไม่คิดว่าการฟังเพลงที่ไม่เกี่ยวกับสภาวะรอบตัวนั้นจะเป็นความหมายของ Augmented Reality

ดังนั้นในวันนี้ เพื่อที่จะฟังเสียงที่ไพเราะที่สุด เราอาจจะต้องเริ่มต้นจากการเอาหูฟังออกจากหูก่อนครับ

หมายเลขบันทึก: 472297เขียนเมื่อ 24 ธันวาคม 2011 20:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 15:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

- ตามมารับความรู้คะ

- เสียงของธรรมชาติ โดยเฉพาะเสียงลม เพราะในท้องนา ลมพัดแรงดี...ดีจังเลย

- ความเงียบ....แท้จริงแล้ว....ไพเราะอย่างยิ่ง


อาจารย์ค่ะ ช่วงงานเข้า เวลาเงียบช่างมีความสุข และสงบมากค่ะ ไพเราะในความเงียบ

...

อันความเงียบเปรียบได้เหมือนรับพร
สวรรค์สอนให้อยู่อย่างสงบ
ลิขิตฟ้าอายุขัยให้พานพบ
เมื่อเรามาบรรจบจึงพบกัน

...

ดูเหมือนจะไม่ค่อยสัมพันธ์กัน แต่มอบให้อาจารย์แล้วกันเนาะ ;)...

มาส่งความสุขด้วยปฏิทินชุด "รอยยิ้มของพ่อ" ค่ะ

http://www.gotoknow.org/blogs/posts/471969

  • เสียงน่าฟังกังวานผ่านความเงียบ
  • ที่อาจเทียบกังสดาลที่หวั่นไหว
  • เป็นเสียงทิพย์ลิบฟ้าสุธาลัย
  • กังวานใสในนามความเงียบงัน .....

สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๕ ค่ะ Ico64 ขอส่งความสุขด้วยคำกล่าวว่า สุขสันต์ วันปีใหม่ และทุกวันคืนตลอดไปนะคะ...

  • มาสวัสดีปีใหม่ขอให้อาจารย์มีความสุขมากๆ
  • เอาผักที่บ้านและพระอาทิตย์สวยๆมาฝากด้วยครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท