.....ช่วงเวลาของเดือนปลายปี เหมือนกับชีวิตครบรอบความแห้งแล้งเหน็บหนาวตามสภาพอากาศ แต่ก็ยังดีที่ในแต่ละปีช่วงนี้จะมีสีเขียวๆของผักหวานที่สดชื่นเป็นเพื่อนใจให้กันอยู่ในสวน...
...แต่ปีนี้พิเศษกว่าที่เคยๆเพราะได้รู้จักกับผู้คนอีกมากมายในโลกย่อส่วน(gotoknow) ให้ได้ทักทายปราศัยไมตรีจิต แบ่งปันสิ่งดีๆ และได้รับข้อคิดอีกมากมายที่สามารถนำมาพิจารณาปรับใช้ในชีวิตของตัวเอง(คำพูดธรรมดาๆเพียงหนึ่งคำ แต่สามารถทำให้หัวใจหายเหน็บหนาวให้รู้ว่ายังมีใครๆอีกมากมายในโลกใบใหญ่ ใช่มีเพียงเราคนเดียว)...
...หลังได้อ่านบันทึกของหลายๆท่าน(ท่านนงนาท,ท่านดร.พจนา,คุณหมอปัทมา)รวมทั้งคำพูดบางประโยคจากความคิดเห็นในบันทึกเหล่านั้น ก็นำพาสะกิดหัวใจให้หวนพิจารณาความหมายความเข้าใจของคำเหล่านั้น...
...มุมสะท้อนอีกมุมหนึ่งในโลกใบนี้เปรียบไปกับใจตัวเอง:อ่านบันทึกของท่านดร.พจนา ได้สัมผัสพลังหัวใจอันพิเศษในมุมของลูกที่บรรยาย เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับคุณพ่อคุณแม่แล้ว ก็พลอยนำพาหัวใจของผู้อ่านที่เหน็บหนาวได้รับอาณิสงฆ์ความอบอุ่นไปด้วย...
...ในบันทึกของท่าน ดร.พจนา นำพาหัวใจของข้าพเจ้าให้นึกถึงเรื่องราวที่เป็นไปในอีกด้านหนึ่งในโลกใบนี้ ที่นอกจากความอบอุ่นแล้วสิ่งตรงข้ามก็คือความหนาวเหน็บในหัวใจ...
...ในบันทึกดังกล่าวบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการศึกษา...ยกระดับฐานะทางสังคม ประโยคหลังได้นำพาหัวใจสะท้อนไปพลิกไปหลายตลบ กับสิ่งที่ต้องพบเจอกับชีวิตตัวเอง...
...หลายครั้งที่ต้องพบเจอกับชีวิตข้าพเจ้าเอง กับบุคคลที่ชีวิตล้วนติดใบปริญญา แต่ในความถูกต้องหรือถูกใจ(การแยกแยะผิดหรือถูก)กับสิ่งที่เรียกว่าการศึกษามันไม่สามารถฉุดรั้งหัวใจคนได้เลย ให้แยกแยะยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง กลับตรงกันข้ามที่พยายามนำข้อผิดพลาดของตัวเองไปให้คนอื่นรับแทน(เหตุเพราะการศึกษาสูงกว่า ทุกอย่างที่ทำจึงถูกเสมอ เพราะสังคมส่วนมากยอมรับกันที่การศึกษา(ใบปริญญา)มากกว่าคนทำ แม้จะมีผลงานมากมายแต่ถ้าหากปราศจากใบปริญญา คุณค่ากลับด้อยกว่าคนนั่ง(ทำ)เขียนบนแผ่นกระดาษ (หลายครั้งคนมีการศึกษากลับชุบมือเปิบผลงานของคนจบแค่ ป.4)...
...ด้วยความเคารพครูอาจารย์ มิได้มีเจตนาอคติให้ร้ายในการศึกษา แต่เรื่องจริงในชีวิตที่กล่าวมามันก็มีอยู่จริง ยิ่งนับวันยิ่งจะมีเพิ่ม(แล้วจะแก้ไข พัฒนาเช่นไร ในมุมการศึกษา) เพื่อสิ่งที่น่าภูมิใจ...กว่านี้
***อีกหนึ่งเรื่องราวในบันทึกที่เล่าสะท้อนเรื่องราวจากความลำบาก การเห็นคุณค่ากับการศึกษาของพ่อแม่สื่อสะท้อนส่งผลมาถึงลูกในโอกาส หน้าที่ ที่ควรเป็นไปตามลำดับของชีวิต...
***แต่อีกมุมหนึ่งของชีวิต หากพ่อแม่ที่ไม่เห็นค่าของการศึกษาเล่าเรียน(ทั้งที่ลูกต้องการเรียนรู้โลกที่มันกว้างๆขึ้นต้องทำอย่างไรในการดำเนินชีวิต "หมดโอกาส") แต่นำความเป็นพ่อแม่มาสั่งสอน(พูด)ลูก พร้อมนิ้วที่ชี้ให้ลูกต้องทำตามและต้องทำให้ถูก(ผิดไม่ได้ ผิดพลาดเมื่อไหร่ยิ่งกลับโดนซ้ำเติม ไม่เคยมีแม้รางวัลปลอบใจ) ด้วยเหตุนี้คนเป็นลูกได้แต่โหยหาต้นแบบทำ(ใช้ธรรมนำชีวิตอย่างเดียว)
***เพราะบุญคุณของพ่อแม่ล้นเหลือที่ลูกทุกคนทราบดีจึงไม่อาจเลือกเดินได้ ทั้งทางที่ทำตามพ่อแม่(ถูกใจ พ่อแม่) กับทำตามสิ่งที่ตัวเองคิด (หากเป็นท่านจะเลือกเดินทางสายไหน)
***สำหรับข้าพเจ้าและความเป็นลูกที่มิอาจเลือก เพราชีวิตเลือกเกิดไม่ได้ จึงต้องแยกใจ แล้วหาทางทำ(ธรรม) ด้วยใจเป็นกลาง(อย่างเช่นในบันทึกจากคุณหมอปัทมา ได้กล่าวไว้)
***อาจจะเป็นเพราะมุมชะตาชีวิต(ดวงชะตาขีดไว้ให้ฝ่าฟันเพียงลำพัง)กับสิ่งที่ต้องเจอมากมาย บางถึงเรื่องกับทดท้อ เหนื่อยในหัวใจได้แต่บนกับตัวเองทำไมฟ้าช่างใจร้ายจัง.แต่ก็ยังมีสิ่งดีๆชีวิตด้านดีๆที่คอยนำทางเสมอมาให้กับชีวิตข้าพเจ้านั่นคือเรื่องราว"นิมิต"ที่มันมากกว่าความฝัน (เทวดามาโปรด)
***ด้วยวิธีคิดนอกกรอบ(และต้นทุนชีวิต คำกล่าวของท่านนงนาท)ทำให้ข้าพเจ้าสะท้อนชีวิตตัวเองในห้วงเริ่มต้นพลิกชะตาชีวิต จากชีวิต(หัวใจ)ที่อาจจะกดดัน เกือบพลิกพลันนำทางชีวิตดิ่งเหว เมื่อวันที่หัวใจเหน็บหนาวมองไม่เห็นใครๆ ตัดสินใจให้ชีวิตในเมื่อทุกคนทิ้งไปหมด"ดีไม่ได้จะร้ายให้ดู"
***อาจจะเป็นความคิดโง่ๆในช่วงใจดิ่งเหวกับช่วงหนึ่งของชีวิตที่ผ่านมาของข้าพเจ้า.แต่เมื่อตั้งประโยคเลวร้ายออกจากใจ ตัดสินใจ ในค่ำคืนนั้นเทวดาเบื้องบนมาโปรด(ในหลวง)เตือนสติ รุ่งเช้าถูกคว้าตัวเข้าวัดบวชชี(ไม่ใช่กล้วยแต่เป็นคน) พ.ศ.2539
***นับเป็นช่วงชีวิตที่สุขในแดนสุกที่มีโอกาสได้ตามหาสิ่งที่หัวใจสงสัย(วิถีธรรม-วิธีทำ)ได้ท่องในดินแดนสัจธรรมจากพ่อแม่ครูบาอาจารย์(พระอรหันต์)พระอาจารย์เมตตานำพาไปท่องวัดมากมายกราบอัฐิธาตุ วัดหนองป่าพงศ์หลวงปู่ชา วัดภูทอกหลวงปู่จวน วัดดอยธรรมเจดีย์หลวงปู่แบน วัดป่าอุดมสมพรหลวงปู่มั่น หลวงปู่ฝั้น วัดถ้ำกลองเพลหลวงปู่ขาว วัดป่าแก้วชุมพลพระอาจารย์สิงห์ทอง แม่ชีแก้ว วัดพระธาตุฝุ่นและอีกหลายวัดที่จำชื่อวัดไม่ได้ เหมือนพระอาจารย์ท่านรู้ชะตาชีวิตที่ต้องพบเจอสิ่งใดในวันข้างหน้า ถึงได้พาทัวร์วัดให้นำแก่นแท้เข้าสู่ใจ.
*****จากวันนั้นจนถึงวันนี้ภาพเหล่านั้นยังอยู่ในใจ ธรรมที่ตามหาได้นำมาทำในหัวใจกับงานใหญ่งานแรกที่ต้องเจอกับชีวิตตัวเองที่ต้องฝ่าด่านทุกข์นั้นไปให้ได้ กับการต้องสูญเสียลูกชายที่เพียรพยายามฟูมฟักอุ้มท้องมาได้6เดือน(คำพูดจากหมอกึกก้องในหัวใจ "เขาไม่อยู่กับเราแล้ว"เหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางหัวใจ ไม่มีแรงแม้แต่จะลุกมองดูลูกที่ถูกอุ้มจากไปได้แต่ร้องตามและคิดในใจทำไมหมอช่างใจร้าย)
***แต่เมื่อถึงวันหนึ่งวันนี้จึงได้เข้าใจเหตุผลที่คุณหมอทำ ข้าพเจ้าอาจจะเจ็บปวดยิ่งกว่านี้หากได้มองดูชีวิตที่ลาลับไป(9'6'2540) นับเป็นการจากลา(การพลัดพราก) ความเจ็บปวดแรกของชีวิต และชีวิตต้องนำธรรมมาทำให้หัวใจของตัวเองฟื้นขึ้นมาให้ได้(เมื่อต้องใช้งานจริงๆไม่มีเวลาเรียบเรียงหรอกค่ะ บทธรรมะแต่ละข้อที่เราอ่าน-ท่อง) ในความเป็นลูกที่ชีวิตมิอาจเลือก ในความเป็นแม่ที่ต้องรับ.ความเจ็บปวด
*****ใดๆเหล่านี้คือด่านแรกของชีวิตที่เรียนรู้ "มรณสติ" และเป็นด่านเริ่มต้นของข้าพเจ้ากับผักหวานป่า"ฉันจะทำให้สำเร็จฉันจะสร้างป่ากลางเมืองให้ได้"บ้าขุดดินแข็งทำบ่อแก้มลิง3ปีกว่าจะยอมรับ ได้.
***ใจเป็นกลาง ต้นทุนชีวิต คำไม่กี่คำแต่ทำให้ใจหมุนถึงเรื่องราวชีวิตนำมาพินีจพิจารณา ธรรม***
เป็นคนหนึ่งที่ชอบวิธีเขียนบทความของ อาจารย์พจนา เช่นกันค่ะ
บทความอาจารย์ไม่ยาวมาก และแต่ละคำที่บรรยายออกมา ผ่านการกลั่นกรอง และมีความอบอุ่นในตัว :-)
...
วันนี้ที่กำลังจะย้ายออกจากหอพัก
เก็บบรรดากระดาษ กับหนังสือ กองใหญ่ มานั่งมองพิจารณา ก่อนขนไปทิ้ง
น่าแปลกที่ไม่รู้สึกเสียดายเลย..
เพราะเชื่อว่า ความรู้ที่แท้จริงเกิดจาก "ใจหมุนถึงเรื่องราวชีวิตนำมาพินีจพิจารณาธรรม"
อ่านแล้วได้แง่คิดและมุมมองใหม่ๆเยอะเลยครับ
สวัสดีค่ะ
...ขอบคุณที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแนวความคิดและแรงใจ...แวะมาเยี่ยมมาทักทาย เป็นกำลังใจให้กันนะคะ ...การทำสิ่งที่ตามใจพ่อแม่กับการทำสิ่งที่ตามใจตัวเอง ซึ่งมีทั้งความกตัญญูรู้คุณ ความฝัน ความรัก ความหวัง ความสับสนขัดแย้ง และความมีเหตุผล...เป็นสภาพการณ์ที่ต้องอาศัยการหันหน้าเข้าหากัน พูดคุยกัน พบกันคนละครึ่งทาง ...แต่ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากๆ เพราะเกิดช่องว่างทางความคิดขึ้น ...ถ้าใครผ่านช่องว่างจุดวิกฤตินี้มาได้ ก็จะต้องได้รับผลตอบแทน...สวรรค์มีตาค่ะ ...
...ในหลายครั้งที่ต้องพบเจอคนที่มีการศึกษามีใบปริญญาจะรู้สึกว่ามีการได้เปรียบ เสียเปรียบเกิดขึ้น รู้สึกในความไม่ถูกต้องหรือไม่ถูกใจกับการกระทำของคนที่มีการศึกษาเหล่านั้น... ปรับแก้ได้หากมีการยอมรับ และเชื่อถือซึ่งกันและกัน ก็จะเกิดประโยชน์ ได้ช่วยเหลือ และสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันได้นะคะ ...
...ในเรื่องความพลัดพรากจากของที่รัก นั่นเพราะกรรมนั้นให้ผลแก่เรา ...เคยมีทั้งลูกชายและลูกสาวซึ่งไม่มีโอกาสได้ลืมตาดูโลก...ได้แต่เสียดายที่ตัวเองไม่มีโอกาสได้ดูแลและเห็นการเติบโตของเขา...ตอนนี้เรายังมีชีวิตอยู่...ยังมีโอกาสทำประโยชน์ให้แก่ครอบครัว สังคมและประเทศนะคะ...
(ช่วยลบความเห็นที่ 2572761ด้วยนะคะ...)
ขอบพระคุณค่ะคุณหมอ
...ใช่ค่ะ!บางสิ่งที่เมื่อก่อน(อดีต)อาจจะเคยคิดว่าสิ่งต่างๆโน๊ตเล็กๆ กระดาษซักแผ่นที่ขีดเขียนเก็บไว้ มีคุณค่ามากมายไมอะไรเปลี่ยน
...แต่เมื่อวันหนึ่งเวลาผ่านไป(กฏอนิตจัง ไม่มีสิ่งใดในโลกที่จะหยุดอยู่นิ่งๆได้นาน!)ก็จะรู้ว่า หากวางเมื่อวานที่ดีแล้ว วันนี้จะได้พบสิ่งดีที่สุดกว่าเมื่อวาน แต่ถ้าหากสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดแล้วยังวางได้ เมื่อนั้นหัวใจย่อมได้ปิดใหม่กับโลกที่เราเองไม่คาดคิดว่าจะมีและเป็นไปได้ค่ะ
...เช่นเดียวกันกับด้านที่เคยคิดว่าอาจจะแย่(แต่อาจจะแค่คิด ปรุงแต่งไปเองเมื่อวันเวลาแห่งอารมณ์นั้นๆได้ผ่านพ้นไปแล้ว
...ข้าพเจ้าเองก็เช่นกันค่ะคุณหมอ เมื่อหลายสิ่งหลายปัญหาในชีวิตคลี่คลาย เอสาร(เกี่ยวกับศาล-กฏหมาย)คงได้ถึงเวลาโละเสียที่(อีก3-5ปีข้างหน้า)ตั้งใจมาเป็นเกษตรกร "คนจนผู้ยิ่งใหญ่"แต่กลับต้องได้เรียนกฏหมายจากประสบการณ์ตรง...
***ขอบคุณค่ะ สำหรับแรงบันดาลใจ เล็กๆแต่ยิ่งใหญ่"สำหรับหัวใจ"
ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะท่านอาจารย์พจนา แย้มนัยนา
...กับคำตอบทั้งสามประเด็นที่ท่านอาจารย์กรุณาให้คำอธิบาย(ชี้แนะ)ทำให้ข้าพเจ้าได้คลายหายสงสัยภายในจิตใจหลายอย่างทีเดียวค่ะ...
...ทำให้ข้าพเจ้าสัมผัสได้ถึง การมองโลกตามความเป็นจริง การยอมรับสภาพ และภายใจจิตใจที่ดีงามจากอาจารย์ค่ะ...
...ข้าพเจ้าหวังว่าคงมีโอกาสได้อานบันทึกเกี่ยวกับจิตวิทยา(ศาสตร์ใจ)มนุษย์ศาสตร์-สังคมศาสตร์ ในมุมมองการมองโลกจากประสบการณ์ตรงจากท่านอาจารย์นะคะ...
...กราบขอบพระคุณค่ะ!
...(กบในอุฑยานผักหวานป่า)...
ขอบคุณค่ะคุณอาณา!
...จังหวัดเชียงรายเป็นที่หนึ่งที่ตั้งใจจะไปเยี่ยมเยือนซักครั้งในชีวิตค่ะ.
ขอบคุณค่ะคุณคนบ้านไกล!
...ดีใจแทนลูกๆนะคะที่มีพ่อที่รักและเอาใจใส่ดูแลครอบครัว(แม้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยยังจดจำและนำมาอธิบายได้ในบันทึก)
...ขอบคุณค่ะพี่แสนฝนสำหรับดอกไม้กำลังใจ ยังไม่มีโอกาสได้เรียนรู้การบ้านที่ พี่แสนฝนฝากไว้เลยค่ะ แต่คงไม่นานเกินรอหัวใจคงหมุนเข้าไปซึมซับแบบเต็มๆซักวัน.
สวัสดีครับคุณน้อย ...ตามคุณมาจากบ้านคุณหมอ ป.เห็นปลาช่อนติดข่าย
จึงมาติดตาม
แต่พอมาถึงที่จึงได้รู้ว่า ข่ายเป็นภาพลวงตา เพราะปลได้หลุดพ้นจากการพันธนาการไปแล้ว
ด้วยคารวะและขอบคุณที่ชวนคิด
ขอบพระคุณค่ะท่านวอญ่า
...ประกอบอาชีพทำสวน-ปลูกต้นไม้ค่ะ (เลือกเป็นคนจนผู้ยิ่งใหญ่ จนเงินแต่พออยู่ มีกินในวิถีพอเพียง ตามคำสอนของพ่อหลวงค่ะ)
...ปลาที่ติดข่าย ติดลอบ ติดจั่น เป็นปลาที่จับจากบ่อปลาภายในสวนค่ะ(ตู้กับข้าวประจำบ้าน)นำมาประกอบอาหารทานเองค่ะ ไม่ได้จำหน่าย...
...จับเอง ทำกับข้าวเอง (ข้าวเป็นหลัก ผักเป็นยา ปลาคือโปรตีนหลัก)
...อาหารที่อยู่ในน้ำ จับโดยวิธีธรรมชาติได้มากน้อยไม่แน่นอน(แต่แน่นอนตรงที่ไม่ต้องชี้นิ้วระบุชีวิตเช่นในตลาด) ทานแล้วแผ่เมตตาอุทิศอาณิสงฆ์ความดีให้ปลาที่สละชีวิตเป็นอาหารให้คนมีแรงทำคุณความดี
...นำภาพปลาที่จับโดยลอบมาฝากค่ะ...
ขอบคุณ ตู้กับข้าวพ่อเฒ่า ข้าวในนา ปลาในหนอง ทองในดิน
วิถีพอเพียงไม่พึ่งพา
เลี้ยงเป็ดไว้กินไข่
เลี้ยงไก่ไว้กินตัว
เลี้ยงวัวไว้ใถนา
เลี้ยงหมาไว้เฝ้าบ้าน
ขอบคุณค่ะท่านอาจารย์ขจิต
...ไปแว็บเข้าไปชมไร่อาจารย์มาแล้วค่ะดินดี น้ำดี ปลามีเยอะแต่ไม่มีรจนา55
...ทุกวันนี้รจนาไม่ชอบป่ารจนาไปอยู่ในเมืองฟ้ากะพี่น้ำฟ้า555
...ปลาหมูอร่อยค่ะ.
...ตาข่ายอีสานเรียกดางหรือมองค่ะ ภาคกลางเรียกละ อีสานเรียกยามปลาค่ะ
...ปลาฉลาด(ภาคกลาง)เพราะมันฉลาดหลบภัยเก่ง หากินเก่ง อีสานเรียกปลาตองเพราะตัวอ่อนคล้ายใบตอง อิสานนิยมทำลาบแล้วนำใส่ใบตองมาย่างไฟอ่อนๆจะเพิ่มความหอมและดับกลิ่นคาว.
...การเว้นจากการทำบาปทั้งปวงได้คือชีวิตที่ประเสริฐ.
...แต่ตราบใดที่ต้องดำเนินชีวิตอยู่ในฐานะปุถุชนคนธรรมดา ก็ต้องทำไป งดเว้นไป อยู่ที่ใจเจตนา(หิริโอตัปปะ)วันละเล็กวันละน้อยซักวันย่อมเต็ม.
...ท่านที่ทำก่อนย่อมถึงก่อนเป็นธรรมดา เร็วหรือช้าก็เป้าหมายเดียวกันค่ะ.
...เดินตามหลังผู้ใหญ่เขาว่าสุนัขไม่กัด(เพราะผู้ใหญ่โดนก่อน555)...
...ขอบพระคุณที่มาเยี่ยมชมและนำบรรยากาศดีท้องนาท้องไร่มาฝากเป็นบุญตาค่ะ...
*****บาปเกิดจากอารมณ์ใดใด พึงห้ามใจจากอารมณ์นั้นนั้น*****
ขอบพระคุณค่ะคุณหมอที่กรุณานำข้อมูลความรู้มาฝาก
...จะค่อยๆเรียนเพียรศึกษาหาความรู้ค่ะ..
...ขอนำสิ่งนี้ฝากคุณหมอนะคะ(บำรุงๆ)...
*ขอบคุณค่ะที่บันทึกนี้พาดพิงถึงพี่ใหญ่ด้วย และดีใจที่การเล่าเรื่องจิตอาสาเพื่อสังคมเป็นแรงบันดาลใจดีๆในการแบ่งปันความสุขกันนะคะ
*มาเยี่ยมที่นี่แล้วได้อนุโมทนาบุญแก่น้อง ดร.ขจิต ที่บำเพ็ญศีลบารมีละเว้นชีวิตสัตว์ บังเกิดเป็นกุศลปลอดจากโรคภัยไข้เจ็บค่ะ..
*เก็บภาพดอกบวบเหลี่ยมก่อนน้ำท่วมสวนที่บ้านมาฝาก..เมล็ดพันธุ์ของผู้บำเพ็ญศีลท่านนี้ค่ะ
สายลมหนาว มักมาพร้อมกับความเปลี่ยนเหงาเสมอ แค่ถ้าคิดในมุมบวก ความเหงาก็ทำให้ได้มีเวลาสำรวจตัวเอง ได้เข้าใจตนเองมากยิ่งขึ้นนะครับ
ขอบพระคุณค่ะท่านนงนาท สนธิสุวรรณ
...พืชผักตระกูลบวบเป็นยาเย็น(ดับร้อนอาการร้อนในได้ดี)ชอบทานเช่นกันค่ะ.
...ที่สวนจะเป็นบวบนก(พันธุ์ดั้งเดิมนกช่วยปลูก)เอกลักษณ์คือกลิ่นจะหอมมากค่ะ.
...บันทึกจากท่านๆที่ผ่านประสบการณ์อาบน้ำร้อนมาก่อน สำหรับข้าพเจ้าคือตำราชีวิตที่มีคุณค่า น่าศึกษานำมาปรับใช้ประคับประคองชีวิตตัวเองค่ะ(สายตรง).
ขอบคุณค่ะคุณนกขมิ้น!
...ขอบคุณสำหรับไมตรีจิตและความปราถนาดีค่ะ.