เผล้ง = เป็นภาชนะดินเผา ใช้ใส่ข้าวสารหรือน้ำ น้ำที่ใส่ในเผล้งจะเย็น
หลา =หรือ ศาลาริมทาง
เผล้งหลา =ก็คือ ถาชะใส่น้ำที่ทำด้วยดินเผาใส่น้ำไว้ให้คนสัญจรไปมาใด้ดื่มกิน
เมื่อก่อนได้มีโอกาสอ่านนิตยสารหลายเล่ม หลายแนว เลยพอทราบว่าภาคใต้มีนักเขียนมากมาย มากกว่าทุกภาค และเด่นดังมีชื่อเสียงด้วย
แต่ช่วงหลังนับสิบปีได้ ไม่ได้ซื้อหนังสือประเภทนิตยสารอ่านเลย และชักจะลืมๆชื่อนักเขียนไปด้วยแล้ว
ขอบคุณที่นำความเคลื่อนไหวคนในแวดวงวรรณกรรมมาบอกกล่าว
น่าชื่นชมในอุดมการณ์ที่มุ่งมั่นและอดทนทำมาได้อย่างไม่ย่อท้อ
รู้สึกถูกใจหลายเรื่องเลย โดยเฉพาะแนวชุมชน บ้านนอกๆ
คงต้องบอกรับเป็นสมาชิกเสียแล้วงานนี้
แวะมารับอาหารสมองยามเช้าค่ะท่าน
ชื่นชมกับความคิดและงานที่ทำครับ
สวัสดีครับท่านวอญ่า
ผมทราบว่าที่ปากพยูนมีโรงเรียนที่จัดกิจกรรมแจ้งเตือนภัย...จากท่าน
หากผมต้องการสัมภาษณ์การจัดกิจกรรมในประเด็นเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอน
ภัยพิบัติคงจะรบกวนท่านช่วยแนะนำบุคคลสำคัญให้ด้วยนะครับ
ขอบพระคุณครับ
แนวคิดดีจังเลยนะคะ
คนใน...ที่รู้จักตัวเอง พื้นที่ สังคม วิถีตนเอง...เขียนเอง
เก็บไว้เป็นแรงบันดาลใจ
ขอบคุณนะคะท่านลุง
นมัสการพระคุณเจ้า พระมหาแล
ครับท่านเหมือนกัน หลายสิบปีก่อน จะมีโอกาสอ่านวรรณกรรมหลากหลาย
และคุ้นชินนักเขียนหลายท่าน
มีโอกาสไปฟัง ไปคุยในวงเสวนานักเขียนบ่อย
ก่อนที่ ช่อการะเกดสัญจรจะปิดตัว ในเล่มรถไฟขบวนสุดท้ายก็มีโอกาสได้ไป
มาระยะหลังมีหนังสือแต่ไม่คอยได้อ่าน ได้ซับซับ
หรืออ่านบ้าง ก็หยิบมาอ่านเหมือนกิน "มาม่า"ไม่ได้ละเลียดกินเคี้ยวให้ละเอียด
มีหนังสือไม่มากเล่มที่หยิบมาอ่านรอบสอง รอบสาม
หนึ่งในนั้นคือเพชรพระอุมา , พันธ์หมาบ้าพวกนี้อ่านได้หลายรอบ
ส่วนหนังสือขึ้นหิ้งก็หยิบมาอ้างอิงเมื่อต้องการ
ส่วนกองทุนเผล้งหลา มีวรรณกรรมหลายเล่มที่น่าสนใจ ของนักเขียนปักษ์ใต้
พันธ์พื้นเมือง เป็นอีกเล่มหนึ่งที่ชอบ แต่หายไปกับบอกให้เพื่อนอ่าน เพื่อนเลยเอาไป ไม่รู้เอาไปอ่านหรือเอาไปเก็บ ไม่อยากถาม
ขอเชิดชู ยกย่องคนดีค่ะ
สวัสดีครับคุณ ชาตา หนังสือคืออาหารสมอง ประเทืองปัญญา
ฝนตกๆ หนังสือดีๆสักเล่มเป็นเพื่อนยามเหงาได้ทีเดียว....ฝนใต้ตกอีกแล้ว
ขอบคุณครับอาจารย์ธเนศ ที่มาให้กำลังใจ ชื่นชม
กำลังใจนำพามาซึ่งการทำงานให้กับชุมชน
สวัสดีครับ คุณวอญ่า (ตอนนี้รู้จักแล้ว จำได้แล้ว)
เมื่อก่อนสงสัยว่าคุณเป็นใคร จึงติดตามเข้ามาดู อ่านดูก็ชักจะชอบ อ่านจนจบเรื่องเห็นเป็นสาระดีๆก็ค่อยติดตามอ่านต่อไป วันนี้ต้องรีบเข้านอน พรุ่งนี้จะเดินทางไปภูเก็ตต้องตื่นเช้าหน่อย
วัยก่อนที่บอกว่าจำไม่ได้ ต้องขอโทษนะ
สวัสดีครับท่านผอ. จักกฤษณ์
เรื่องการแจ้งเหตุเตือนภัย เราไม่ได้จัดหลักสูตรในโรงเรียน
แต่เราให้เยาวชนรวมตัวกันในนามต้นกล้า ปากพะยูน ประเด็นหลักก็ทำเรื่องสิ่งแวดล้อม
เรื่องขยะ เรื่องปลูกป่าชายเลน ล่าสุดสถาบันพระปกเกล้าให้งบประมาณมาต่อยอด เยาวชน จึงมาเน้นเรื่อง ภัยพิบัติ
มีการเดินสำรวจแหล่งต้นน้ำ แหล่งทำให้น้ำท่วมขัง
ทำเป็นแผนที่ทำมือ นำเสนอทางเทศบาล เทศบาลก็ต่อยอดให้อีก
กิจกรรมก็มีหลายอย่าง จัด ละคร ยามน้อยเฝ้าเตือนภัยไปตาม รร.ต่างๆ
ออกเสียงตามสายของเทศบาล กระตั้นเตือนให้ผู้ใหญ่มีความตระหนัก เตรียมรับมือ และอพยพ เมื่อถึงคราวจำเป็น
ในการนี้เราใช้เยาวชนจากหลายโรงเรียน แล้วมูลนิธิ ศุภนิมิตร ก็มาเติมเต็มด้วยเยาวชนพี่สอนน้อง อีกระดับหนึ่ง
ส่วนครูที่ดูแลให้ข้อมูลเป็นพี่เล้ยง ชื่อ ครู หวันสนา สันสาคร
หากท่านผอ.จะพูดคุยด้วยก็ติดต่อเบอร์ผมครับ (เกรงใจไม่ก้าให้เบอร์คนอื่นทางบล็อค
เบอร์ผม 089 772 9573 ครับ
สวัสดี คุณหมอ ธิรัมภา นักคิดนักเขียนกลุ่ม นาคร จะได้ไปร่วมฟังร่วมจดจำ เป็นนักเขียน ซีไรท์หลายคน
ทำให้แนวคิดในการทำงานจนถึงปัจจุบัน
สวัสดีครับครู ทิพย์ ครูนิทาน
ชอบแวะเข้าไปอ่านนิทาน ของครู
กลอนดีมีสาระได้อารมณ์ศิลป์
สวัสดีครับนายคำถามเดียว
ตอนนี้คงอยู่ภูเก็จ กับลูกสาวหรือไปธุระค้าขาย
กับนายหัว ใหญ่ ก็ไม่ค่อยได้ ทะ นึกถึง บรรยากาศ ไปกินข้าวสัญจร ที่นายหัว ปูทาง สร้างรูปก่อร่างไว้ให้ แล้วเสียดายที่พวกผม ม้ายปัญญาไปสานต่องานดีๆ
ศวพถ.ชื่อนี้เป็นที่รู้จักรักใคร่ของหลายคน
แต่พอขาดผู้นำคนสำคัญ งานก็ไม่เดิน คนทำงานก็ไม่เพลินเหมือนเก่าก่อน
ได้แต่เก็บสิ่งดีๆที่ได้รับเอาไว้
ยังคงหวังว่า ศวพถ.จะฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง
สวัสดีคุณ สุภัทรา
เผล้ง กับอุ๋ดิน น่าจะเป็น สิ่งเดียวกัน หรือการใช้งานในลักษณธเดียวกัน
ขอบคุณที่มาแลกเปลี่ยน อุ๊ดิน
บังครับ ตอนนี้เป้นอย่างไรบ้าง พี่รูญ เขียนเหมือนต่อว่าเลย ฮ่าๆๆ
ขอบคุณมากครับท่านวอญ่า
มาชม
ดีจังได้เจอนักเขียนเมืองใต้อย่าง อาจารย์ จรูญ หยูทอง-แสงอุทัย
ช่วงอยู่ด้วยกันที่สถาบันทักษิณคดีศึกษา ผมได้คุยได้ฟังแนวคิดท่าน
ท่านเป็นคนคุยสนุก หัวเราะได้ทั้งวันละ...อิ อิ อิ
ครับท่านอาจารย์ ขจิต..
ผมอ่านจดหมายแล้วคิดว่าหลายคนที่เป็นแควนคลับ เผล้งหลา สะดุ้งเหมือนกัน
แต่อาจารย์รูญ ท่านก็ส่งหนังสือมาให้อ่านเป็นประจำ
มีงานประชุมสัมนาแนวของนักเขียนท่าน ส่งข่าวมาบอกมาชวนเสมอ
กองทุนเผล้งหลาทำให้รู้ความเคลื่อนไหวของนักเขียนบ้านเรา
ชื่นชมและขอบคุณ อาจารย์ รูญ เสมอมา
ตามมาอ่านหนังสือดีๆด้วยคนครับ แต่ดูแล้ว เหมือน อ. จรูญท่านกำลังต่อว่าใครอยู่น้อ อิๆๆ ฮ่าาาา
ไม่เคยรู้จักมาก่อน ไม่คุ้นหูเลย...ได้มีโอกาสรู้จักกองทุนเผล้งหลา ดีจัง
ไม่เคยรู้จักมาก่อน ไม่คุ้นหูเลย...ได้มีโอกาสรู้จักกองทุนเผล้งหลา ดีจัง
ครับท่านผอ.จักรกฤษณ์ มีอะไรให้รับใช้แบ่งปัน ก็ยินดียิ่งครับ
สวัสดีครับอาจารย์ ยูมิ
รู้จักกับอาจารย์ จรูญ ตั้งแต่ปี 35 หลังจากนั้นก็ทำกิจกรรมกันมาตลอด เกือบทุกเวที
โดยเฉพาะเวที นักพูดนักเขียนที่ ห้องพาไล ของสถาบันฯ
สวัสดีครับคุณ พีเตอร์
อ.รูญ เขามีอารมณ์ขัน เวลาอยูในวงนักเขียนเขาจะอำกันสนุกสนาน
ในเรื่องจดหมายนี้ก็เป็นการบ่นมากว่า นี้ยังน้อยน่ะครับ กับคนกันเอง
ขอบคุณที่นำเรื่องน้องแพท ผัดกระเพรา น่ารักมากๆครับ
กลุ่มนักเขียน และนักกวี...จากปักษ์ใต้
ยอดเยี่ยมกันมากทุกท่านครับ
ขอบคุณนะครับที่ได้สัมผัสถึงครับ
สวัสดีครับ ท่านเภสัช มด
กองทุนเผล้งหลา เป็นกองทุนทางความคิด กองทุนอาหารสมอง ที่บรรดานักเขียน ปักษ์ ใต้ ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมเขียน ร่วมแลกเปลี่ยนกันทางวรรณกรรมครับ
เผล้งหลา ก็ คือที่ใส่น้ำเย็นๆ ตั้งไว้ที่ศาลา หรือหน้าบ้าน ให้ผู้ผ่านพบได้ดื่มกิน ผ่านทางครับ
สวัสดีน้องทิมดาบ....
นักเขียนภาคใต้หลายคน คุ้นชินกันมาก
เมื่อก่อน ช่อการะเกด จัดงานที่ใหน ผมมักไปปรากฎตัวอยู่เสมอ
งานวันนักเขียนก็มักไม่พลาด ติดเรื่องสั้นของหลายๆคน โดยเฉพาะ ของ จำลอง ฝั่งชลจิตร ที่ชื่นชอบ