อารมณ์ขัน...ที่มากับ "มวลน้ำ"
ภาพน้ำท่วมพุทธมณฑล จาก Sky Report Ch. 3
ในห้วงเวลา ที่ใครๆ ต่างเผชิญกับความเครียด (Cope with Stress) อันเนื่องมาจากมหาอุทกภัยน้ำท่วม "การมีอารมณ์ขัน (Sense of Humour) เป็นวิธีคลายเครียดที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง" ดังคำกล่าวที่ว่า "หัวเราะวันละนิดจิตแจ่มใส" ..........
(ภาพแรกผู้เขียนถ่ายเองที่ฟาร์มไอดิน-กลิ่นไม้ ภาพนอกนั้นขอบคุณแหล่งข้อมูลต่างๆ ทาง Internet)
ลองมาผ่อนคลายความเครียด กับผลงานการ์ตูนประกอบเพลงล้อเลียนน่ารักๆ ที่รังสรรค์ โดย http://glitter.kapook.com/ดูบ้างนะคะ เผื่อจะผ่อนคลายความเครียดลงได้บ้าง (ขอบคุณ www.kapook.com มาก ค่ะ)
ล้อเลียนเพลง "ช้าง" คงไม่ต้องทบทวนเนื้อเพลงช้างนะคะ
ล้อเลียนเพลง "เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม" ประกอบละคร "เกมร้าย เกมรัก" เนื้อเพลงเดิม ท่อนสุดท้ายมีว่า
............................................
เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม
เห็นเงาของเมฆหรือเปล่า
ทะเลสีครามที่ทอดยาว
เห็นความรักฉันบ้างไหม
และ แถม "Joke" อีก 1 เรื่อง ที่ผู้เขียนประยุกต์มาจากเรื่องที่เคยอ่านกว่า 10 ปีมาแล้ว
(ขอบคุณภาพจาก Internet)
ประกาศด่วนจากเรือนจำกลางจังหวัด...
ขอให้นักโทษที่หลบหนีขณะอพยพย้ายที่คุมขังจากเหตุน้ำท่วมเรือนจำ
กลับไปรายงานตัวกับเจ้าพนักงานภายใน 16.00 น. วันนี้
ผู้ที่ไม่ไปรายงานตัวตามเวลาที่กำหนด จะถือว่าสละสิทธิ์...(ฮา...)
ความเห็น (53)
สวัสดีค่ะขอบคุณที่ให้ความสุขในยามน้ำท่วมกับทุกคน
ขออนุญาตเพิ่มเติมรอยยิ้มด้วยนะคะ
ภาพนี้ชื่อ "กรุงเทพฯชั้นใน" ค่ะ
- วันนี้ มีความสุขแต่เช้าค่ะ ได้เจอะเจอรอยยิ้มแจ่มใสจาก "คุณมะลิ" และ "คุณอิงจันทร์ บ้านกลอนไฉไล"
- ขอบคุณ "คุณอิงจันทร์ บ้านกลอนไฉไล" มากนะคะ ที่ช่วยสร้างอารมณ์ขันจากคลิบ "รักสามเส้า ของ น้ำ กรุง และทราย" แล้ว ยังกรุณานำภาพสร้างอารมณ์ขันมาร่วมแจม ช่วยให้บันทึกนี้มีอารมณ์ขันหลากหลายมากขึ้น ขอบคุณจริงๆ ค่ะ
มาคลายเครียดครับ
- ชอบลิงอุ้มหมา(คงเป็นห่วงกลัวหมาจะไปเล่นน้ำจนตกน้ำตกท่า)
- ชอบแมวปิดตาหมาตัวโต(ดูอารมณ์ดี มีน้ำใจกันทั้งคู่เลย)
ขอบคุณอาจารย์มาก ที่พยายามหาสิ่งดีๆ มาแบ่งปัน
- ไปช่วยชาวบ้านมา
- น้ำยังไม่ท่วม
- 555
- อาจาย์แม่สบายดีนะครับ
แอบฮัมเพลง น้ำๆๆ
จุดแข็งคนไทยคือยิ้มได้ (แม้แห้งๆบ้าง) เมืื่อภัยมาคะ
- ขอบคุณกัลยาณมิตรทุกท่านมากนะคะ ที่เข้ามาคลายเครียด ให้กำลังใจและแสดงความเห็น
- จะตอบเป็นรายท่าน ในภายหลังค่ะ
- ตอนนี้ขออนุญาตออกไปรับตู้เย็นก่อนนะคะ ตู้เย็นเสียช่วยกันยกขึ้นรถไปซ่อมกับพ่อใหญ่สอ พ่อใหญ่สอนัดรับวันพุธ แต่ลูกกลับมาแล้วก็น่าจะมีตู้เย็นใช้ ก็เลยขอให้ช่างซ่อมให้เสร็จวันนี้ค่ะ
- เช้านี้ช่วงประมาณ 09.30 น. ได้ออกไปรับลูกสาวที่สถานีรถไฟ อ.วารินชำราบ เธอมาแบบทุลักทุเลกับกรงสุนัข ดังภาพขวาสุดซึ่งขนาดค่อนข้างใหญ่ตามขนาดสุนัขของเธอ(ภาพ 3-4) เพราะวันที่น้องชายไปซื้อตั๋วรถไฟให้ เธอออกไปช่วยเขา Pack ของบริจาค เลยสื่อสารทางโทรศัพท์กันไม่ค่อยจะรู้เรื่อง กอปรกับที่เธอไม่คุ้นกับการโดยสารรถไฟ ทำให้เกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาด แม่บอกลูกชายว่าให้ซื้อตั๋วนอนและให้นำกรงสุนัขไปไว้ที่ตู้เสบียง แต่เธอเลือกที่จะให้สุนัขอยู่กับเธอ จึงต้องซื้อตั๋วนั่งโดยมีคนอื่นนั่งข้างๆ สุนัขของเธอที่ถูกวางยานอนหลับก็แปลกที่แปลกทางไม่ยอมหลับและเห่าตลอด ทำให้เธอเครียดเพราะเกรงใจผู้โดยสารที่นั่งข้างๆ และผู้โดยสารอื่นๆ ในตู้เดียวกัน สงสารเธอเหมือนกันที่ต้องหอบหิ้วกรงสุนัขและข้าวของลงจากคอนโดฯ ชั้น 8 ไปขึ้นแท็กซี่จากท้ายซอยสุขุมวิท 50 ไปหัวลำโพงโดยลำพัง แต่ก็ดีเหมือนกันที่เธอจะได้ลิ้มลองความยากลำบากดูบ้าง ส่วนน้องชายขับรถไปอุดรพร้อมด้วยเพื่อนสนิทและสุนัข 3 ตัว ตั้งแต่บ่ายวันเสาร์แล้ว
- นับว่ายังโชคดีที่วันที่เธอเดินทาง น้ำท่วมซอยสุขุมวิท 50 แต่ยังไม่ถึงถนนหน้าคอนโดฯ ที่เธอพักอาศัยอยู่ แต่ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว มีข่าวอุปกรณ์ป้องกันน้ำพัง น้ำเข้าถึงถนนหน้าคอนโดแล้ว
...หัวเราะ..เป็นยา..อายุวัฒนะ..ยิ้มสู้..(แม้จะแห้งไปบ้าง)...เติมน้ำได้..ตอนนี้...น้ำมา(เยอะเลย)..และเขาว่าน้ำขึ้นให้..รีบตัก..แต่ทำไม"รีบวิด"..ก็ไม่รู้..อ้ะๆๆ...
- ขอบคุณ "คุณสันติสุข สันติศาสนสุข
" นักวิชาการศึกษา สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ มากนะคะ ที่มาร่วมคลายเครียด กับบันทึกนี้ - จากบันทึกเรื่อง "มาตรวจสอบความเข้มแข็งในการมองโลกกันดีไหม" ทำให้รู้ว่า คุณสันติสุข "เป็นคนมีอารมณ์ขัน(Sense of Humour) " อยู่เหมือนกัน จากที่บอกว่า "ชอบนักโทษคนนี้จัง เข้าใจว่าจะรักษาสิทธิ์ของตัวเองไว้อย่างเหนียวแน่น" (เคยนำ Joke ประกาศจากเรือนจำกลาง...ลงในบันทึกดังกล่าว) และจากแนวคิดที่นำเสนอในบทร้อยกรองเกี่ยวกับน้ำท่วมของคุณสันติสุข ก็แสดงถึงความ "เป็นคนมองโลกในแง่ดี (Optimist)" ของคุณสันติสุข
- และในบันทึกนี้ ที่คุณสันติสุขบอกว่า "ชอบลิงอุ้มหมา (คงเป็นห่วงกลัวหมาจะไปเล่นน้ำจนตกน้ำตกท่า [ตอนที่ดิฉันเลือกรูปนี้ ดิฉันจินตนาการว่า ลิงอุ้มสุนัขหนีน้ำท่วม เพราะเห็นท่าทีที่รีบเร่งของลิงค่ะ]) และ "ชอบแมวปิดตาหมาตัวโต (ดูอารมณ์ดี มีน้ำใจกันทั้งคู่เลย) ก็แสดงถึง การเป็น "คนที่มีจิตใจดีงาม (Goodhearted)" ของคุณสันติสุข ค่ะ
เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม
- อาจารย์แม่เริ่มจะสังเกตว่า "ลูกขจิต
" ทำงานเพื่อสังคมจนสูญเสีย Focus on "Here and Now" ไปแล้วมั้ง - ตั้งข้อสังเกตด้วยความเป็นห่วง ในฐานะที่เห็นเป็นลูกชายคนหนึ่งนะคะ
- ภาพนี้ไม่ขำ แต่ ซึ้ง ๆ แบบน่ารัก ๆ นำมาฝากอาจารย์แม่ของศิษย์น้องขจิต คริ คริ
- (ขยายความ : คือว่า อาจารย์ขจิต เป็นศิษย์น้องของครูอิง สมัยเรียน ม.ทักษิณ หน่ะค่ะ)
- ก่อนนี้ มอง "ภาพลักษณ์ (Image)" อาจารย์หมอ ป.
" เป็นคนจริงจัง เป็นนักคิด เป็นผู้ใฝรู้ใฝ่เรียน ใจกว้าง มุ่งมั่น และมีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ (Achievement Motive) จึงนีความรู้สึกชื่นชมในคุณลักษณะต่างๆ ดังกล่าว - มีความเห็นในครั้งนี้ ที่ทำให้รู้สึกเอ็นดู ที่อาจารย์หมอป. บอกว่า "แอบฮัมเพลง น้ำๆๆ..." ทำให้จินตนาการถึงภาพอาจารย์หมอ ป. แต่งชุดนักเรียนอนุบาล ค่ะ
- ดีใจมากค่ะ ที่ได้รู้จัก "คุณ...ยายธี
" แม้จะเป็นเพียงด้านหลัง - ขอบคุณมากนะคะ ที่เข้ามาให้กำลังใจและร่วมแสดงความเห็น
- ที่ "คุณ ยายธี" บอกว่า "เขาว่าน้ำขึ้นให้..รีบตัก..แต่ทำไม"รีบวิด"..ก็ไม่รู้..อ้ะๆๆ..." แสดงว่า คุณ ยายธี มีอารมณ์ขันเหมือนกันนะคะ
- สุภาษิตเก่ามีว่า "น้ำขึ้น ให้รีบตัก" แต่สงสัยจะมีสุภาษิตใหม่ที่เกิดขึ้นพร้อมกับมหาอุทกภัย 2554 ว่า "น้ำท่วม ให้ร่วมวิด" มังคะ
- ขอขอบคุณ "กัลยาณมิตรชาว GotoKnow" ท่านต่อไปนี้ ที่มาร่วมสร้างอารมณ์ขันแและให้กำลังใจ
ท่านวอญ่า จากพัทลุง คุณครู Noktalay จากสงขลา คุณ หนูรี ชาวสงขลา คุณ Nobita จากกทม. (ไม่ทราบว่าเป็นพี่กรุง
ที่มีรักสามเส้ากับน้องน้ำ/น้องทราย หรือเปล่า)
คุณ NU 11 จากจังหวัดที่รวยที่สุด และ คุณ "ทวิช บุญธรรม ผู้มีคติว่า "เสียได้ ถ้าสมควรเสีย ประหยัดได้ ถ้าสมควร
(แม้แต่กำแพงยังทำด้วยเพชร) ประหยัด และเลือกได้ ถ้าสมควรเลือก"
- ดีใจจังค่ะ ที่รู้ว่า "คุณอิงจันทร์ บ้านกลอนไฉไล
" มี "ลูกขจิต" เป็นศิษย์น้องที่ ม.ทักษิณ - ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ ที่มีกลอนซึ้งๆ มาฝากอีก มี "อารมณ์ขันปนอารมณ์โรแมนติค" ก็ไม่เลวนะคะ สงสัยเพียงว่า "เธอ" คนนั้น จะพอใจกับ "ความห่วงใยที่ฝากไปกับสายน้ำ" ไหม
สวัสดีครับคุณพี่
ขอบคุณที่แวะไปให้กำลังใจ พอเห็นคุณพี่ว่าขำ จัดหนัก ก็เลยลบบันทึกทิ้งไปเสีย เพราะบางคนเขาก็รับไม่ได้ ที่นี้เป็นเรื่องปรกติ คนที่เป็นคนของสาธารณะต้องย่อมถูกวิจารณ์เป็นธรรมดา คนไทยมีมารยาทดีมาก เลยปล่อยคนโกง โกงบ้านโกงเมืองกันตามสบาย ที่นี้เป็นอันว่าต้องติดคุกถ้าทำผิดกฏหมาย
รูปหมาของลูกสาวคุณพี่คล้ายๆหมาของลูกสาวเพื่อนที่แอลเอ น่ารักดีผมชอบพามันไปวิ่งทุกๆเช้าถ้าผมไปเที่ยวที่แอลเอ ต้องพาเขาไปขับถ่ายครับ เราก็ได้ออกกำลังกายด้วย win win กันทั้งคู่
ได้ข่าวว่าน้ำเริ่มลดลงแล้วที่เมืองนนท์วันละ สองสามเซนติเมตร นับว่าเป็นข่าวดีสำหรับคนไทย ลูกสาวและลูกชายพี่คงต้องขาดเรียนหรือต้องลางาน ไม่รู้ว่าเขาจะชอบกันหรือเปล่า คิดในแง่ดี พ่อ แม่ ลูก จะได้อยู่ร่วมกันอีกครั้ง แบบที่หนังกำลังภายในชอบเขียนว่า มีสุขร่วมเสพย์ มีทุกข์ร่วมต้าน คงจะใช้ได้แล้วคราวนี้
ส่งใจมาช่วยครับ
-
เสียดายจัง ที่ "คุณน้อง คนบ้านไกล
" ลบบันทึกเรื่อง "คิดได้อย่างไร" พี่เป็นสาเหตุใช่ไหมคะนี่ พี่เองน่ะชอบนะคะ เพราะเป็นคนตรง พูดและแสดงออกตรงกับใจทุกอย่าง ที่บอกว่า "ขำจัดหนัก" ก็ว่าตามแนวคิดของภาพ ไม่ได้คิดว่า ไม่เหมาะสมนะคะ พี่เองเป็นอาจารย์ที่ผู้บริหารไม่พอใจ เพราะชอบพูดตรงๆ ในที่ประชุมมหาวิทยาลัย ที่อาจารย์คนอื่นเขาไม่พูดเพราะกลัวว่าตนเองจะได้รับผลกระทบ (แต่ไปพูดข้างนอกกัน) - ภาพขำแบบเบาๆ ที่พี่นำไปลงในความเห็นต่อบันทึก "คิดได้อย่างไร" ของคุณน้อง พี่ใช้วิธีฝากไฟล์ แล้วพี่ก็ Copy ภาพจากความเห็นในบันทึกของคุณน้อง มาลงในบันทึกนี้ของพี่ พอเข้ามาจะตอบความเห็นในบันทึกของพี่พบว่าภาพดังกล่าวหายไป เลยตามไปเพื่อจะ Copy ใหม่จากบันทึกของคุณน้อง แต่หาบันทึกไม่เจอ (เพิ่งรู้ว่าลบไปแล้วนี่เอง) พี่ก็เลยแก้ปัญหาโดยใช้วิธีแนบไฟล์ในบันทึกของพี่เอง สมาชิกที่เข้ามาอ่านคงงงว่าพี่ลงภาพไว้ในความเห็นทำไม
- จากที่เล่ามา แสดงว่า คุณน้องก็รักสุนัขเหมือนกันนะคะ ลูกชายของพี่น่ะเขาไม่ได้กลับไปอุบลฯ หรอกค่ะ เขาไปอุดรพร้อมกับสุนัขของเขา 3 ตัว คือ หนูดี บีเอ็ม (ดังภาพหนูดีที่ลูกชายอุ้ม และบีเอ็มบนรถลูกชายตอนที่ไปส่งพี่ที่สนามบิน) และน้องพลอย (ไม่มีภาพ) ลูกสาวถึงกลับอุบลฯ พร้อมด้วยโมชิที่เธอรักมาก เป็นเพศผู้แต่หน้าหวานพี่ถึงคิดว่าเขาเป็นเพศเมีย โมชิกับบีเอ็มไม่กินเส้นกันจึงอยู่ร่วมชายคากันไม่ได้ค่ะ ภาพโมชิที่ลูกสาวอุ้มตอนไปเที่ยวน้ำตกสร้อยสวรรค์ และน้ำตกตาดโตนที่อุบลฯ เป็นภาพเก่า ภาพที่ไหว้ขอของกินพี่ถ่ายวันที่ 2 เม.ย. 54 วันที่สมัครสมาชิก GotoKnow และภาพขวาสุด เป็นภาพที่เพิ่งกลับถึงบ้านเรือนขวัญที่อุบลฯ แม่ของโมชินอนเพราะหมดสภาพไปแล้ว จากการที่ต้องหอบหิ้วโมชิออกจากที่พักที่กทม. เวลา 18.00 น. (6 pm) เวลาประมาณ 10.00 น. (10 am) ถึงกลับถึงบ้าน รวมเวลา 16 ชั่วโมงที่ต้องนั่งหลังขดหลังแข็ง โมชิเองก็คงล้าเพราะอยู่ในกรงในเวลาเท่าๆ กัน จึงนั่งหมดแรงอยู่ที่ปลายเท้าของแม่ (ลูกชายเคยพาสุนัขขึ้นเครื่อง แล้วสุนัขช็อคเสียชีวิต เขาจึงไม่แนะนำให้พาโมชิขึ้นเครื่อง)
- ลูกๆ ของพี่ทำงานส่วนตัว ลูกชายรับเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และเพิ่งลงทุนเปิดร้าน Internet กับเพื่อน เจอน้ำท่วมพอดี ส่วนลูกสาวทำบริษัทของตัวเองกับเพื่อน ส่วนที่เธอรับผิดชอบคือ บริการด้าน Modelling (ดูออกจะขัดกันกับการชอบปฏิบัติธรรมของเธอสักหน่อย) ภาวะอย่างนี้ก็คงไม่มีงานให้ทำ ส่วนเรื่องเรียน พบว่า หลักสูตร MS ด้านการแพทย์แผนตะวันออกที่ลูกสาวลงเรียน มีข้อมูลเชิงลึกว่าจะมีปัญหาเรื่องการรับรองหลักสูตร (ก่อนลงทะเบียนเรียนพี่ตรวจสอบข้อมูลตามที่เผยแพร่อย่างรอบคอบแล้ว แต่พอลูกไปเรียนเพิ่งจะได้ข้อมูลจากนิสิตที่เรียนมาก่อนรุ่น 1, 2 ว่า หลักสูตรมีปัญหา มหาวิทยาลัยเปิดรุ่น 1, 2 เป็นแขนง "คลินิก" แต่มีปัญหาการรับรองหลักสูตร จึงเปลี่ยนเป็นแขนงการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรในรุ่น 3 โดยต้องให้รุ่น 1, 2 มาเรียนด้วย) จึงตัดสินใจให้ลูกสาวขอลาออก เพราะค่าลงทะเบียนก็แพง แล้วยังทำท่าจะมีปัญหาอีก ปีการศึกษา 2555 ค่อยว่ากันใหม่ ค่ะว่าจะเรียนอะไร ที่ใด
- การที่ลูกได้เคลื่อนย้ายออกจากกรุงเทพฯ ก็ทำให้โล่งใจไปได้เปลาะหนึ่งค่ะ ไม่งั้นก็กังวลอยู่นั่นแหละค่ะ หลังจากที่ลูกสาวออกมาก็มีข่าวซอยสุขุมวิท 50 มีปัญหาน้ำทะลักอยู่ครั้งแล้วครั่งเล่า ขอบคุณมากนะคะ ที่ส่งใจไปช่วย
- หวังว่าคุณน้อง ภรรยา และ 3 ดรุณีหัวแก้วหัวแหวน คงสุขสบายดีนะคะ
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณความสุขในยามนี้ คลายเครียดได้ดีจริงๆค่ะ อ่านไปอมยิ้มไปค่ะ
- มารายงานตัวว่า แถวนครปฐมบางอำเภอเริ่มท่วมแล้วครับ
- กำลังเตรียมของไปช่วยชาวบ้านแถวพุทธมณฑลและนครชัยศรี
- เห็นเรือลำนี้ตอนไปบางบัวทองแล้วชอบจังเลยครับ
- เข้าใจคิดน่าดู
- มาได้ทั้งครอบครัว
-
- น้องๆสองคนกลับบ้านได้แล้วใช่ไหมครับ
ได้ข่าวว่าลูกคุณพี่และหมาของเด็กๆสบายดีพอสมควรในภาวะน้ำท่วมขณะนี้ก็เบาใจครับ
เพิ่งไปคุยกับคุณหมอที่รู้จักกันแต่เกษียณแล้ว เขาถามถึงลูกสาวเหมือนกันว่าเรียนเป็นอย่างไร เพราะที่นี่เรียนยากมาก เพราะเนื้อหาเยอะ ถ้าสอบไม่ผ่านต้องมาเรียนซ้ำชั้นตอนฤดูร้อน เขาบอกว่าเรียนหมอเมืองไทยง่ายกว่า ขนาดเพื่อนที่เรียนด้วยกันชอบไปพายเรือตลอดเวลายังจบ มาเป็นหมอหัวใจที่นี้(เกษียณเหมือนกัน เครียดมาก) ข้างล่างคืออีแมลของลูกสาว โทรไปทีไรก็อยู่แต่ในห้องสมุด บอกว่ากำลัง study อยู่ พ่อจึงได้เพียงแต่ย้ำเตือนว่าอย่างลืมนั่งสมาธิทุกวันนะลูก
Hope you guys are doing great. I wanted to tell you that I put in a work order for my mailbox today (it isn't closing properly). I also checked online to see if I owe anything for my housing, but it says that there is no current balance. Tomorrow I have a quiz, so I have been studying all day for that. Not much else in medical school but study study study! (I spent all day in the library).
Oh, I finished the rest of Mom's chicken today, so good :). I haven't used the rice maker to make rice yet, but I've used it to steam some vegetables. It works great!
Miss you and love you
วิ๊ดวิ้ว คิดเติงจ๊าดนัก
มามะขอหอมแก้มสักสิบฟอดอิอิ
- ขอบคุณ "คุณถาวร
" มากนะคะ ที่หลังจากจัดกิจกรรมคลายเครียดให้กับกัลยาณมิตร ในแบบที่ผู้จัดต้องได้รับการฝึกฝนมาโดยเฉพาะ ต้องมีสื่อที่ใช้ในการจัดกิจกรรม และผู้เข้าร่วมคลายเครียดต้องปฏิบัติกิจกรรมผ่อนคลายกล้ามเนื้อโดยต้องใช้สมาธิและจินตนาการประกอบ แล้ว ก็ได้เข้ามาร่วมคลายเครียดแบบง่ายๆ ที่ไม่ต้องใช้ผู้จัดกิจกรรม ใช้เพียงสื่อ IT ที่กัลยาณมิตรชาว GTK สามารถเข้าถึงได้ง่าย ผู้เข้าร่วมกิจกรรมคลายเครียดเพียงแค่ใช้จักษุสัมผัส (Seeing) และการรับรู้ (perceiving) เท่านั้นก็อาจคลายเครียดได้แล้ว - เมื่อวานนี้มีเรื่องที่ทำให้สลดใจ ลูกสาวเพิ่งจะหนีมหาอุทกภัยจากกทม.กลับอุบลฯ วันรุ่งขึ้นก็ได้ข่าวและไปร่วมงานศพเพื่อนผู้ชายที่เคยเรียนห้อง 6/1 ด้วยกันที่โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช ซึ่งเป็นวิศวกรทำงานที่ ม.อุบลฯ และเสียชีวิตด้วยการกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ผู้ตายมีครอบครัวแล้วและมีลูก 2 คน เสียดายที่หนีปัญหา ไม่ทราบว่าบุคคลแวดล้อมจะโศกเสร้าเสียใจแค่ไหน ดิฉันไม่ได้ไปร่วมงานด้วยเพราะลูกไปพร้อมกับเพื่อนๆ ค่ะ
- ดิฉันบอกกับนักศึกษาเสมอว่า ห้ามฆ่าตัวตายเป็นอันขาด ทุกปัญหามีทางออก ถ้าใครคิดจะฆ่าตัวตาย มาคุยกับครูก่อน เผื่อครูจะได้แนะนำวิธีที่เหมาะกับบุคคล...คิคิ... แม้ดิฉันจะไม่ใช่นักจิตเวช แต่ก็ได้เรียนวิชาสุขภาพจิต (Mental Health) มาบ้าง กอปรกับวัย ประสบการณ์ชีวิต และความเมตตากรุณาที่มีในจิตใจ ก็คิดว่าเราน่าจะยับยั้งเขา/เธอจากการฆ่าตัวตายได้
- ได้อ่านเรื่องวิศวกรฆ่าตัวตายเศร้าเลย
- ทุกๆอย่างมีทางแก้ไข
- ถ้าอาจารย์แม่เอา กิจกรรม Running dictation ไปปรับใช้ ใช้เนื้อหาของจิตวิทยา
- ได้ผลอย่างไรมาเขียนให้อ่านบ้างนะครับ
- อาจารย์แม่รับรายงนตัวแล้วค่ะ "ลูกขจิต" เมื่อวาน อาจารย์แม่ก็ได้ไปเยี่ยมค่ายอบรมครูที่ลำปาง (3) ของลูกขจิต มาค่ะ
- สงเคราะห์ชาวบ้านแล้วก็อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยนะคะ หลายวันก่อนคุณสามารถบอกว่าลูกขจิตไปช่วยผู้ประสบอุทกภัยแล้วตกท่อ อาจารย์เห็นว่าไม่เป็นอะไรมากก็โล่งอก แต่ก็อยากเห็นลูกขจิตอยู่ในสภาพที่สามารถดูแลคนอื่นได้ มากกว่าอยู่ในสภาพที่ต้องให้คนอื่นมาดูแลค่ะ
- ตอนนี้ลูกเอ๋อยู่กับอาจารย์แม่ที่อุบลฯ ค่ะ เธอได้รับบทเรียนพัฒนาความอดทนต่อความยากลำบาก (Adversity Quotient : AQ) บทที่ 1 โดยการที่ต้องหอบหิ้วกรงสุนัขที่ขนาดค่อนข้างใหญ่ตามขนาดของโมชิสุนัขลูกรักของเธอ พร้อมด้วยสัมภาระอื่นๆ ลงจากคอนโดฯ ชั้น 8 ไปขึ้นแท็กซี่จากท้ายซอยสุขุมวิท 50 ไปหัวลำโพงโดยลำพัง วันที่น้องชายไปซื้อตั๋วรถไฟให้ เธอออกไปช่วยเขา Pack ของบริจาค เลยสื่อสารทางโทรศัพท์กันไม่ค่อยจะรู้เรื่อง กอปรกับที่เธอไม่คุ้นกับการโดยสารรถไฟ ทำให้เกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาด แม่บอกลูกชายว่าให้ซื้อตั๋วนอนและให้นำกรงสุนัขไปไว้ที่ตู้เสบียง แต่เธอเลือกที่จะให้สุนัขอยู่กับเธอ จึงต้องซื้อตั๋วนั่งโดยมีคนอื่นนั่งข้างๆ โมชิซึ่งถูกวางยานอนหลับก็แปลกที่แปลกทางไม่ยอมหลับและเห่าตลอด ทำให้เธอเครียดเพราะเกรงใจผู้โดยสารที่นั่งข้างๆ และผู้โดยสารอื่นๆ ในตู้เดียวกัน เธอออกจากที่พักที่กทม. เวลา 18.00 น. ประมาณ 10.00 น. จึงกลับถึงบ้าน รวมเวลา 16 ชั่วโมงที่เธอต้องนั่งหลังขดหลังแข็งและแทบไม่ได้หลับได้นอน (ลูกชายเคยพาสุนัขขึ้นเครื่อง แล้วสุนัขช็อคเสียชีวิต ลูกเอ๋จึงไม่เลือกพาโมชิขึ้นเครื่อง) ส่วนลูกชายขับรถพาสุนัข 3 ตัวไปอยู่ที่อุดรบ้านเพื่อนสนิท (BM หวงหนูดีและน้องพลอยเลยทะเลาะกับโมชิ จึงให้อยูร่วมชายคากันไม่ได้ค่ะ)
ได้ทราบข่าวว่าคุณพี่ต้องอดทนต่อความยากลำบากเพราะน้ำท่วม
เลยส่งปาฐกถาธรรมเรื่อง นกแก้วเจ้าปัญญามาให้ฟัง
ฟังแล้ว ยิ้มแล้ว เห็นแล้ว จะนำไปให้ลูกศิษย์ฟังก็ได้นะครับ
- ขอบคุณ "คุณน้องคนบ้านไกล" มากนะคะ ที่ใส่ใจกับสุขททุกข์ของลูกๆ ของพี่และสุนัขของพวกเขา
- คุยกันครั้งนี้ คงจะว่าด้วยเรื่อง "Medical Study" นะคะ ซึ่งจะผนวกการเสวนาว่าด้วยจิตวิทยาการเรียนรู้ เข้าด้วย ค่ะ
- คุณน้องบอกว่า "เพิ่งไปคุยกับคุณหมอที่รู้จักกันแต่เกษียณแล้ว เขาถามถึงลูกสาวเหมือนกันว่าเรียนเป็นอย่างไร เพราะที่นี่เรียนยากมาก เพราะเนื้อหาเยอะ ถ้าสอบไม่ผ่านต้องมาเรียนซ้ำชั้นตอนฤดูร้อน เขาบอกว่าเรียนหมอเมืองไทยง่ายกว่า ขนาดเพื่อนที่เรียนด้วยกันชอบไปพายเรือตลอดเวลายังจบ มาเป็นหมอหัวใจที่นี่ (เกษียณเหมือนกัน เครียดมาก)"
- ประเด็นแรกที่ขอ Share คือ เรื่อง "ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (Scholastic Achievement) หรือผลการเรียน ซึ่งจะสูงหรือต่ำ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง จะยกตัวอย่างปัจจัยสำคัญด้านผู้เรียนบางปัจจัย ได้แก่ 1) เชาวน์ปัญญา (IQ) ซึ่งเป็นความสามารถทางสมองทั่วๆ ไปที่ใช้ในการเรียนรู้ คนที่ IQ สูงกว่าจะเรียนรู้ได้เร็วกว่า และดีกว่าคนที่ IQ ต่ำกว่า 2) ความถนัด (Aptitude) ซึ่งเป็นความสามารถเฉพาะด้าน ทฤษฎี "Multiple Intelligences" ชี้ว่า บางคนถนัดทางตัวเลข บางคนถนัดทางตรรกศาสตร์ บางคนถนัดทางทักษะกล้ามเนื้อ บางคนถนัดทางดนตรี ฯลฯ คนที่ถนัดด้านใดจะเรียนรู้ในด้านนั้นได้เร็วกว่าและดีกว่าคนที่ไม่ถนัด 3) แรงจูงใจในการเรียน (Motivation to Learn) ซึ่งเป็นพลังที่ผลักดันให้ผู้เรียนหาทางเรียนรู้ให้สำเร็จตามเป้าหมาย คนที่มีแรงจูงใจสูงกว่ามีโอกาสที่จะเรียนได้สำเร็จมากกว่าผู้ที่ขาดแรงจูงใจในการเรียน 4) ยุทธวิธีในการเรียน (Learning Strategy) ซึ่งเป็นเทคนิควิธีการที่ใช้ในการเรียนรู้ ผู้ที่ใช้ยุทธวิธีที่เหมาะสมกับเนื้อหา จุดประสงค์ในการเรียนรู้ และลักษณะการวัดผลจะเรียนรู้ได้ดีกว่าและมีผลการเรียนดีกว่าผู้ที่ใช้วิธีที่ไม่เหมาะสม และ 5) สุขภาพจิต (Mental Health) ผู้เรียนที่มีสุขภาพจิตดีจะเรียนรู้ได้ดีกว่าผู้ที่มีสุขภาพจิตเสื่อม
- การที่คุณหมอคนคุ้นเคยของคุณน้องคนบ้านไกลบอกว่า "เรียนหมอเมืองไทยง่ายกว่า (เรียนที่อเมริกา) ขนาดเพื่อนที่เรียนด้วยกันชอบไปพายเรือตลอดเวลายังจบ" นั้น จะไม่พูดถึงประเด็นที่ว่า เรียนหมอเมืองไทยง่ายกว่าเรียนที่อเมริกาจริงหรือไม่ เพราะลูกสาวที่เคยมีประสบการณ์ตรงในการเรียนหลักสูตร์แพทยศาสตร์ (BS : Medicine) ที่ ม.ขอนแก่นก็คงบอกไม่ได้เพราะไม่มีโอกาสมาเรียนแพทย์ที่อเมริกา จึงเปรียบเทียบกันไม่ได้ค่ะ แต่จะพูดถึงประเด็นที่นักศึกษาแพทย์คนนั้นเรียนสำเร็จหลักสูตร พี่เชื่อว่า เขาคงไม่พายเรืออยู่ตลอดเวลาหรอกค่ะ แต่เขาไม่ได้ใช้เวลาคร่ำเคร่งอยู่แต่กับตำรา มีเวลากับการทำกิจกรรมเพื่อผ่อนคลายความเครียดจากการเรียน และพี่สันนิษฐานว่า เขาอาจจะเป็นคนที่มี IQ สูงพอสมควร มีความถนัดในแขนงวิชาทางการแพทย์ มีแรงจูงใจในการเรียนจึงมีความตั้งใจเรียนในชั้น ใช้วิธีการเรียนที่เหมาะสม และมีสุขภาพจิตดี ซึ่งที่กล่าวมาอาจเป็นเป็นปัจจัยร่วมที่ทำให้เขาเรียนได้สำเร็จ
- ตอนเรียนม.6 ที่โรงเรียนที่มีชื่อเสียง (ระดับประเทศโรงเรียนหนึ่ง) ด้านคุณภาพในการจัดการเขาศึกษา พี่เห็นลูกสาวกลับจากโรงเรียนก็นอน และไม่ค่อยจะอ่านหนังสือ พี่ก็เลยบ่นเธอ เธอตอบว่า เรียนในห้องเรียนเข้าใจหมดแล้ว ที่กลับมาแล้วนอนก็เพื่อให้สมองมันจัดระบบ ก็ไม่ทราบว่า จะเป็นเพราะเธอได้ใช้ยุทธวิธีในการเรียนที่เหมาะสมดังกล่าว และมีปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วยหรืออย่างไร ที่ทำให้เธอมีผลการเรียนอันดับสองของห้อง King ในขณะที่เพื่อนๆ ต่างก็เรียนกันแบบเอาเป็นเอาตาย เลิกเรียนในชั้นเรียนปกติแล้วก็ไปเรียนต่อที่โรงเรียนกวดวิชาอีก เสาร์อาทิตย์ก็เรียพิเศษอีก ตอนที่เธอเรียนแพทย์ที่มข.ปี 1-2 ก็เรียนได้ผลการเรียน 3.8 เพื่อนที่ไม่ถึง 2.00 ก็มี แต่ที่เธอไม่ยอมเรียนให้จบหลักสูตร แค่เรียนปี 5 ก็ขอลาออกก็เป็นเพราะเธอขาดแรงจูงใจในการเรียนแพทย์ เพราะเห็นว่าเน้นการจำ ไม่ค่อยได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ และต้องอยู่กับสิ่งแวดล้อมที่เธอไม่ชอบ (ตกลงเลยได้แค่ วท.บ.วิทยาศาสตร์การแพทย์)
- ดูแล้วลูกสาวของคุณน้องเรียนหนักมากนะคะ จากข้อความใน E-mail ของเธอที่ว่า "Not much else in medical school but study study study! (I spent all day in the library)."
- และดูว่าเธอมีแรงจูงใจในการเรียนรู้ในระดับสูงจากที่บอกว่า "Tomorrow I have a quiz, so I have been studying all day for that" จึงทำให้มั่นใจได้ว่า เธอจะเรียนสำเร็จแน่นอน
- ไม่ทราบว่าทางมหาวิทยาลัยได้มีกิจกรรมคลายเครียดให้กับนักศึกษาบ้างหรือไม่ อยากเห็นคุณหมอทุกท่านที่เรียนสำเร็จหลักสูตรพร้อมด้วยความสามารถและการมีสุขภาพจิตที่ดี เชี่ยวชาญทั้งเรื่องของโรคภัย และเรื่องของคน เพราะคุณหมอประเวศ วะสี นักวิชาการที่คนไทยเชื่อถือศรัทธา บอกว่า "ที่หมอรักษาคนไข้ไม่หาย เป็นเพราะรู้จักโรค แต่ไม่รู้จักคน"
- ภูมิใจที่คุณหมอที่เรียนในเมืองไทย และทำงานที่ประเทศไทยจำนวนไม่น้อยที่มีผลการศึกษาวิจัยที่เป็นความคิดริเริ่มระดับโลก
- อาจารย์หมอท่านหนึ่งที่พี่มีความภาคภูมิใจที่ได้รู้จัก คือ "อาจารย์หมอ ป." ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค่ะ
- ขอบคุณ "คุณน้องคนบ้านไกล" มากค่ะ ที่กรุณาส่ง "ปาฐกถาธรรมเรื่อง นกแก้วเจ้าปัญญา" ไปให้ พี่จะฟังพร้อมกับลูกสาว และจะนำไปให้นักศึกษาฟังด้วย ในภายหลัง ค่ะ
- "น้องกาย
" ไม่ต้องมาทำ Sweet วี้ดวิ้ว อู้คำเมือง "คิดเติงจ๊าดนัก"
- ไม่เชื่อลมปากเธอหรอก พี่เข้าไปเยี่่ยมพูดคุยในบันทึกอบรมครูผู้สอนภาษาอังกฤษ และบันทึกเปิดตัวว่าที่ลูกสาว ของเธอ ไม่เห็นเธอจะสนใจเข้าไปตอบ
ขอบคุณ "ท่าน ผศ.โสภณ เปียสนิท
" มากนะคะ ที่มาให้กำลังใจ ภาพนี้อยู่ใกล้บ้านสวนของท่านโสภณหรือเปล่าคะ
ขอบคุณ "คุณ Krusorn
" มากนะคะ ที่มาร่วมคลายเครียด และให้กำลังใจ
ขอบคุณนะคะที่ชื่นชอบดอกปีบสวมแหวน
เลยนำมาฝากถึงบ้านและมาชวนไปชมดอกปีบจากบ้านหนูรีค่ะ
ขอบคุณค่ะ
- ก็อย่างที่บอกคุณ "Wasawat Demarn" ไปนั่นแหละนะคะว่า "ตั้งแต่ดูดอกกางของ (ยโสธร) หรือ ดอกปีบ (ภาคกลาง) หรือ ดอกกาสะลอง (ภาคเหนือ) มา ยังไม่เคยเห็นดอกปีบที่ไหนสวยงาม น่ารัก น่าทนุถนอม เหมือนดอกปีบสวมแหวนของคุณ หนูรี"
- ขอบคุณ "คุณหนูรี
" มากค่ะ ที่นำมาฝากถึงบ้าน ทำให้มีภาพจรรโลงใจเพิ่มเข้ามาในบันทึกนี้ - เดี๋ยวจะตามไปชมดอกปีบที่บ้านหนูรีในบันทึก "นานแล้วที่รอโธอ...ดอกปีบ" ค่ะ
- เห็นชื่อบันทึกของหนูรีก็ทำให้คิดถึงประสบการณ์ที่เคยพูดประโยคนี้เมื่อหลายปีก่อน ที่ตอนเช้าเพิ่งสังเกตว่าต้นปีบที่ปลูกไว้มี่มุมรั้วหน้าบ้านกำลังออกดอกทุกยอด ประมาณ 10 ยอดได้ แต่ละยอดมีช่อดอกดกมาก หลายดอกทำท่าว่าจะบานในตอนบ่าย ออกไปสอนตอนเช้า กะว่ากลับมาตอนบ่ายจะถ่ายรูปและน่าจะได้เก็บดอกปีบที่บานและร่วงหล่นในวันรุ่งขึ้น ที่ไหนได้ กลับพบว่า ปีบทุกยอดถูกตัดเรียบเหตุเพราะคนตัดบอกว่าดูรก บังบ้าน คุณหนูรีคิดดูสิคะ คนที่ปลูกและรอมานานกำลังจะได้ชื่นชมสมใจ กลับเจอกับเหตุการณ์ดังกล่าว จะเสียใจแค่ไหน จำได้ว่าน้ำต่ร่วงพูดไม่ออกนั้งหมดแรงไปเลแหละค่ะ
สวัสดีค่ะ
บ้านครูปออยู่บางใหญ่...น้องน้ำคงอยู่นานแน่ ๆ ค่ะ.....แถมน้องเข้ก็โผล่มาพร้อมน้องน้ำใกล้ ๆ บ้านซะด้วยค่ะ่ท่านอาจารย์....หลาน ๆ บอกว่าจะลองเป็นไกรทองกันสักตั้ง..อิ ๆ
- ขอบคุณ "ครูปอ
" มากนะคะ ที่มาร่วมคลายเครียดและให้กำลังใจ - ครูปอให้ข้อมูลว่า บ้านอยู่บางใหญ่ บางใหญ่นี่ อยู่ที่จังหวัดไหนคะ ตามไปดูที่ประวัติ...ครูปอก็ไม่ลงประวัติไว้ เลยยังไม่รู้จังหวัดบ้านครูปอค่ะ มีคำว่า "บาง" นี่คงเป็นภาคกลางนะคะ ถ้าเป็นทางอีสานจะมีชื่อขึ้นต้นว่า ห้วย หนอง บึง ค่ะ เช่น หนองบัวลำภู เป็นต้น
- ครูปอบอกว่า "น้องน้ำคงอยู่นานแน่ ๆ ค่ะ.....แถมน้องเข้ก็โผล่มาพร้อมน้องน้ำใกล้ ๆ บ้านซะด้วยค่ะท่านอาจารย์....หลานๆ บอกว่าจะลองเป็นไกรทองกันสักตั้ง..อิ ๆ" แสดงว่า ครอบครัวครูปอมีสุขภาพจิตดีกันทั้งแม่ทั้งลูกนะคะ (เข้าใจว่า คำว่า "หลานๆ" หมายถึง ลูกครูปอ ไม่ทราบว่าเข้าใจถูกหรือเปล่านะคะ)
- ดูจากคำสำคัญในประวัติครูปอ มีคำว่า "กล้อง" คงจะชอบถ่ายรูปนะคะ อยากเห็นภาพหลานๆ ที่จะลองเป็นไกรทอง และสภาพน้ำท่วมใกล้บ้านครูปอ จังค่ะ
- ยินดีทีรู้จัก "คุณบูโรกี
" หัวหน้า กศน. เมืองพัทยาใต้ และขอบคุณมากนะคะที่มาร่วมคลายเครียด และให้กำลังใจ คุณบูโรกีมีรอยยิ้มสดใส และใส่เสื้อสีชมพูหวานแหววอย่างนี้ คงไม่ใช่คน "Serious" และไม่สร้างความเครียดให้กับใครๆ ใช่ไหมคะ
- Thanks "S.02-CNE2.1-14" for following me and giving me the encouragement.
สวัสดีค่ะ
ตามมาร่วมคลายเครียด และให้กำลังใจ...ขอบคุณเพลง ภาพ และ joke คลายเครียด ค่ะ
โอ๋ๆๆๆอย่าพึ่งงอนสิคะคุณพี่จ๋า
ต้องขอพระอภัยมณีปี่ชวา
ข้าน้อยสมควรตาย
555
เหว่
ท่านเปาจึงสั่งใหข้าเจ้ายกเหล้ามาสามไห
เพื่อขอขมาลาโทษต่อท่านพี่
พรรษาหน้าข้าเจ้า
จาไปบวชเป็นผีขนุน 555
ขอท่านพี่จงให้อภัยต่อข้าน่อยด้วยเถิดเพพะคะอิๆๆ
ไปตอบแล้วนะเจ้าคะท่านพี่ขา จุ๊ฟๆๆ
ถึงแม้ว่าจะช้าไปหน่อยเหอๆหวังว่าท่านพี่งให้อภัย
ต่อไปจะรีบตอบทันทีทันใดด่วนจี๋ไปรษณีย์จ๋าเล๊ยค่ะ
ด้วยเกียรติ์ของลูกเสือสำรองถ้าไม่หลับเสียก่อนคิกๆ
เหมท่านพี่ที่น่าร๊ากSและใจดี๊ๆ
อุตส่าห์เสียสละเวลาไปเม้นให้ทั้งทีจะไม่ตอบได้ไงล่ะคะ
ต้องตอบจิ...รับรอง...ชัวร์ป๊าบ
รู้ไม๊ว่าคะปลื้มมากมายสักเพียงไหน
มากจนมือาจที่จะเขียนบรรยายหรือพรรณาโวหาร
ออกมาเป็นตัวอัษร
ที่ท่านผศ.วิไล ไปเม้นให้ที่บล็อคอะ
จะให้น้องอดข้าวเป็นวันเพื่อท่านพี่ยังได้เลยนะพะคะ555
(แต่มีกาแฟแอบไว้กระซวกแย้วหนึ่งกระติกเหอๆๆ)
น้องเป็นคนที่ไปใจอ่อนรักคนอื่นยากเน้อ
แบบว่าเกิดมาพร้อมนิสัยใจแข็ง
คุณพ่อบอกว่าลูกสาวต.ช.ด.จะอ่อนแอไม่ได้
ทั้งกายและใจจะต้องเข้มแข็งเพื่อเตรียมรับมือต่อสู้กับสิ่งร้ายๆ
ตาร้องไห้ได้แต่ใจห้ามร้องตาม
หุหุนิสัยเลยไม่ดีเยี่ยงนี้มานานนม
หากได้ลองรักใครแล้วรักหมดใจอิๆๆ
ก็มาตกหลุมรักท่านพี่แล้วไงล่ะ
ถึงแม้ท่านพี่จะงอลลลง๊อนๆๆ
ก็จะรักตลอดๆไปกร๊ากๆๆๆ
มันจะเกี่ยวกันไหมฟะนี่กับเรื่องน้ำท่วม555
อาจารย์คะ..คอลัมภ์ที่ อ.เขียน น่าสนใจมากเลยค่ะ
หนูจะแนะนำเพื่้อนๆให้เข้าไปเรียนรู้เว็บไซต์ของอาจารย์นะคะ
จะได้รู้ว่าอาจารย์ ใจดี น่ารัก เหมือนที่หนูได้สัมผัส ตังแต่เรียนคาบแรกค่ะ...
- ว่าจะตามไปคุยในบันทึกของ "ดร.พจนา แย้มนัยนา
" ยังไม่ทันได้เข้าไปคุย ดร.นัยนา แวะมาคุยและให้กำลังใจ่ก่อน - ขอบคุณมากนะคะ และขอโทษด้วยที่นอนซมเพราะไข้หวัดอยู่ 2 วัน เลยตอบช้า
- ขอบคุณ "คุณอักขณิช
" และ "ลูกขจิต" มากนะคะ ที่แวะมาให้กำลังใจ - อาจารย์แม่นอนซมเพราะไข้หวัดเล่นงานเลยเพิ่งมีแรงลุกขึ้นมาตอบค่ะ (ที่อุบลฯ อากาศหนาวมาแล้วค่ะ ถ้าอาจารย์แม่พักผ่อนน้อยก็จะสู้กับโรคหวัดไม่ได้ วันที่ 5 น่ะ นอนตี 4 กว่าๆ ค่ะ ลืมพิจารณาสังขารตัวเอง)
- น้องกาย "" ขอบคุณมากๆ นะคะ ที่ให้ดูภาพประจำตัวภาพนี้นานๆ ถ้าเปลี่ยนแสดงว่า ที่บอกว่า "รักท่านพี่" น่ะ "ขี้หกทั้งเพ"
- ทำให้หัวเราะได้ยังงี้ อารมณ์ดีย่อมกลับมา...อิอิ
- ทำไปอ้างท่านเปา บอกว่า "ท่านเปาสั่งใหข้าเจ้ายกเหล้ามาสามไห เพื่อขอขมาลาโทษต่อท่านพี่" ไม่เชื่อว่าท่านเปาจะสั่งแบบนั้น เพราะท่านเปารู้ดีว่าพี่ไม่รับสุรายาดอง เป็นความคิดของเธอเองมากกว่า
- ขอบคุณนะคะที่ช่วยสร้างอารมณ์ขัน "เหว่" น่ะเรียกเสียงหัวเราะได้
- ขอโทษที่ตอบช้า ไม่ได้เจตนาจะเอาคืน แต่พอดีป่วยเพิ่งมีแรงลุกขึ้นมาตอบ
- Hi! "S.03-T2.2-10".
- Thanks for following me and giving me the encouragement.
- You can learn many interesting and useful things from GTK, not only from my own blog but from others' ones as well.
- It's your generous mind to advice your friends to study from this beneficial learning resource.
- Well, please check the right spelling of "คอลัมภ์์" and be careful whenever you write down; such as "เพื้อน" and "ตังแต่". Please dont' immitate me to make some mistakes.
- ว่าแล้วไหมล่ะ น้องกาย "ขี้หกๆๆ"
- ขอบคุณ "คุณบุษยมาส
" สำหรับกำลังใจค่ะ
สวัสดีครับ ผมต้อง ศึกษาโพสต์รูปลงบ้างแล้ว ดูมีชีวิตชีวาดีครับ
-
ขอบคุณค่ะ "ท่านประทีป
" ที่เข้ามาเยี่ยมในบันทึกเบาๆ เป็นอีกแนวหนึ่งที่ไม่ค่อยได้เขียนค่ะ
- การ Post รูปก็ทำได้ไม่ยากนะคะ ทาง Webmaster ก็ได้อธิบายไว้ในบันทึก ที่ปรากฏในหน้าแรก แต่ก็ต้องสารภาพค่ะ ว่า เวลาทำกิจกรรมภาคปฏิบัติ ตนเองจะใช้ความสามารถของสมองซีกขวา จึงไม่ชอบศึกษาอะไรที่เป็นไปตามขั้นตอน และทำตามทีละขั้น แต่จะใช้การลองผิดลองถูกแทนค่ะ