"เดี๋ยวนี้บล็อกคุณ rating ดีจังนะ"
***************
พี่เม่ยยังไม่แน่ใจตัวเองอยู่ตอนนี้ ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะดีหนอ...(ยิ้มๆดีกว่า..)
***************
"อืมม์....ก็เรื่องทั่วๆไปนั่นแหละ"
"เรื่องการ์ดวันแม่ของยิ้ม.... กลอนที่เขียนนั่นน่ะ ลูกแต่งเองเหรอ?"
"ก็ใช่แล... อ้าว คุณคิดว่าลูกไปเอามาจากไหนเหรอ?"
"เออ เข้าท่าแฮะ!...คิดว่าไปคัดลอกมาจากที่อื่น หรือไม่ก็ให้คุณช่วยแต่งให้" ...เอาเข้าไปนั่น คิดได้งัยเนี่ย?
"อีกอย่างนึงนะ กลอนไปตลาด น่ะ ตรงที่เขียนคำอังกฤษเป็นไทยน่ะ น่าจะวงเล็บภาษาอังกฤษไว้ด้วยเนาะ! อ่านๆไปแล้วสะดุด ต้องหยุดคิดว่าคำนี้คืออะไร...." (อ๋อ...หมายถึงคำว่า ทาสิท นอลลิจ/tacit knowledge นั่นเอง)
ในระหว่างการสนทนานั้นพี่เม่ยนั่งฟังอย่างตั้งใจ และสกัดประเด็นมุมมองของคุณพ่อบ้านได้....ดังนี้ค่ะ
ทำไมพ่อบ้านทุกบ้านต้องวางฟอร์ม เหมือนกันหมดเลย...จริงๆ ไม่มีอะไรค่ะเข้ามาอิจฉา...ข้าวเที่ยงก็กินด้วยกัน.....ตาคุณเมตตาเริ่มร้อน ค่ะ.....(แซว....แซว....)
อิจฉ้า อิจฉา เป็นครอบครัวที่อบอุ่นมากเลยค่ะ เห็นด้วยกับความคิดเห็นของคุณปภังกร วงศ์ชิตวรรณ มากเลยค่ะ
เสียดายจัง...ที่กะปุ๋มไม่มีคุณพ่อบ้าน...
ไม่งั้นคงได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันมากกว่านี้นะคะ..
แต่...แอบมาศึกษาครอบครัวชาวบ้านคุยกันไปพลางๆ..ก่อนคะ...
...
ขอบคุณคะ...
กะปุ๋ม
เป็นไปได้ยังไงน๊า เวลาคุยกับคุณพ่อบ้าน ไม่มีพูดสวนกันไป สวนกันมาเลยหรือคะ ... ที่บ้านน่ะเหรอ ถ้าคุยกันก็ไม่ค่อยมีใครฟังกันละค่ะ เว้นเสียแต่วันนั้นเหนื่อยหน่อย หรือเราเพิ่งกลับจาก ตจว. ไปมีใครฟังเขา ก็ทนฟังเอาหน่อย เท่านั้นแล ...
พี่เม่ยสอน KM ได้เนียนอย่างน่ารักมากเลยครับ
ขอบคุณสำหรับเทคนิคสุนทรียสนทนานี้ครับ
จะลองนำไปใช้จัดการ คุณปัญหา ดูครับ ชะแว้ป
ใช่ ใช่ ใช่ และอีกหลาย ใช่ ครับ ขอสนับสนุนทุกความเห็น และขอย้ำว่า ...
อ่านบันทึกของพี่เม่ยได้ทั้ง ความคิด ความรู้และ ความสุขมาก ๆ เลยครับ !
พี่เมตตาครับ งั้นวันก่อนที่เรานัดคุยกันตอนเที่ยง แล้วทานข้าวไปด้วย ถึงว่าดูพี่เม่ยกินข้าวไม่อร่อยเลย (พอรู้...ก็เอ็นดูเชียวครับ)