คีโม กับ มะเร็ง


กำลังตัดสินใจว่าจะเขียน เรื่องมะเร็งอะไรก่อนดีนะ หรือสมุนไพรที่พอจะทราบมาบ้าง  เพราะไม่ได้เขียนเรื่องมะเร็งนานแล้วพอเปิดmail ก็ดีใจ เพื่อนส่ง mail มาให้อ่านพอดีเลย  ขอนำฝากทันทีนะคะ ห้วข้อที่เป็น Foward mail ว่า  " ส่งต่อ: คีโมกับมะเร็ง เรื่องจริง ที่หมอไม่ได้บอก" ..................

 

คีโม กับ มะเร็งและการดำรงชีวิต ( ดีมาก ๆ)

 

หลังจากหลายปีที่พูดกันว่าการทำคีโมเป็นทางเลือกเดียวที่จะ ลอง และใช้ในการกำจัดโรคมะเร็ง ในที่สุดโรงพยาบาลจอห์น ฮอพกินส์ก็เริ่มแนะนำถึงทางเลือกอื่นๆอีก

 

ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับโรคมะเร็งจาก รพ.จอห์น ฮอพกินส์

 

1.  ทุกๆคนมีเซลมะเร็งอยู่ในร่างกาย เซลมะเร็งเหล่านี้จะไม่ปรากฎด้วยวิธีการตรวจสอบตามมาตรฐาน จนกระทั่งมันขยายตัวเพิ่มขึ้นในระดับพันล้านเซล (1,000,000,000 เซล เมื่อแพทย์บอกว่าไม่มีเซลมะเร็งในร่างกายผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับการรักษาแล้ว มันหมายถึงว่าระบบไม่สามารถตรวจสอบเซลมะเร็งได้ เพราะว่าจำนวนของมันยังไม่มากพอ จนถึงระดับที่สามารถตรวจจับได้เท่านั้น

 

2.  เซลมะเร็งเกิดขึ้นระหว่าง 6 ถึงมากกว่า 10 ครั้งในช่วงอายุของคนๆหนึ่ง

 

3.  เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงเพียงพอ เซลมะเร็งจะถูกทำลายและป้องกันไม่ให้เกิดการขยายตัวและกลายเป็นเนื้องอก

 

4. เมื่อใครก็ตามเป็นมะเร็ง มันกำลังบอกว่าคนๆนั้นมีความบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับโภชนาการ ซึ่งอาจเกิดจากยีน สิ่งแวดล้อม อาหาร  และปัจจัยอื่นๆในการดำรงชีวิต

 

5.  เพื่อเอาชนะภาวะบกพร่อง หลายประการเกี่ยวกับโภชนาการ การเปลี่ยนแปลงประเภทของอาหารรวมทั้งสารอาหารบางอย่างจะช่วยให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น

 

6.   การทำคีโม คือการให้สารเคมีที่มีความเป็นพิษกับเซลมะเร็งที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ขณะเดียวกัน มันก็จะทำลายเซลที่ดีที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในไขกระดูก ทำลายระบบทางเดินอาหาร ฯลฯ และเป็นสาเหตุทำให้อวัยวะบางส่วนถูกทำลาย เช่น ตับ ไต หัวใจ ปอด ฯลฯ

 

8.  การบำบัดโดยคีโม และการฉายรังสีมักจะช่วยลดขนาดของเนื้องอกได้ในช่วงแรกๆ อย่างไรก็ตามถ้าทำไปนานๆพบว่ามักไม่ส่งผลต่อการทำลายเซลเนื้องอก

 

9.  เมื่อร่างกายได้รับสารพิษจากการทำคีโม หรือการฉายรังสีมากเกินไป ระบบภูมิคุ้มกันอาจปรับตัวเข้ากันได้หรือไม่ก็อาจถูกทำลายลง ดังนั้นคนๆนั้นจึงอาจตกอยู่ในอันตรายจากการติดเชื้อหลายชนิดและทำให้โรคมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น

 

10.  การทำคีโมและการฉายรังสี  อาจเป็นสาเหตุทำให้เซลมะเร็งกลาย พันธุ์ ดื้อยา และยากต่อการทำลาย การผ่าตัดก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เซลมะเร็งกระจายไปทั่วร่างกาย

 

11. วิธีที่ดีที่สุดในการทำสงครามกับมะเร็ง คือการไม่ให้เซลมะเร็งได้รับอาหารเพื่อนำไปใช้ในการขยายตัว

 

อะไร  คือ อาหารที่ป้อนให้กับเซลมะเร็ง

 

A.   น้ำตาล คือ อาหารของมะเร็ง การตัดน้ำตาล คือการตัดแหล่งอาหารสำคัญที่จ่ายให้กับเซลมะเร็ง สารทดแทนน้ำตาลอย่างเช่น

"" นิวตร้าสวีต "" "" อีควล "" "" สปูนฟูล "" ฯลฯ ล้วนทำมาจากสารให้ความหวาน ซึ่งเป็นอันตราย สารทดแทนซึ่งเป็นกลางที่ดีกว่า คือ

น้ำผึ้งมานูคา (จากนิวซีแลนด์) หรือน้ำอ้อย แต่ในปริมาณน้อยๆเท่านั้น เกลือสำเร็จรูป ก็ใช้สารเคมีในการฟอกขาว ควรหันไปเลือกใช้ "" แบรก อมิโน "" หรือ เกลือทะเล แทน

 

b.   นม เป็นสาเหตุทำให้ร่างกายผลิตเมือก โดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหาร เซลมะเร็งจะได้รับอาหารได้ดีในสภาวะที่มีเมือก การใช้นมถั่วเหลือง ชนิดไม่หวาน แทนนม จะทำให้เซลมะเร็งไม่ ได้รับอาหาร

 

c.   เซลมะเร็งเติบโต ได้ดี ในภาวะแวดล้อมที่เป็นกรด อาหารจำพวก เนื้อ จะสร้างสภาวะกรดขึ้น ดังนั้นจึงควรหันไปรับประทาน ปลา จะดีที่สุด รองลงไป คือรับประทาน ไก่ แทนเนื้อ และ หมู ในเนื้ออาจมียาฆ่าเชื้อ ฮอร์โมนที่สร้างการเจริญเติบโตในสัตว์ และเชื้อปรสิต บางประเภทตกค้างอยู่ ซึ่งล้วนเป็นอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่เป็นมะเร็ง

 

d.   อาหารที่ประกอบด้วยผักสด 80% และน้ำผลไม้ พืช จำพวกหัวเมล็ดถั่วเปลือกแข็ง และผลไม้จำนวนเล็กน้อย จะช่วยทำให้ร่างกายมีสภาวะเป็นด่าง อาหารอีก 20% อาจได้มาจากการทำอาหารร่วมกับพืชจำพวกถั่ว น้ำผักสดจะให้เอ็นไซม์ ซึ่งสามารถดูดซึมได้ง่ายและซึมทราบสู่ระดับเซลภายใน 1 นาที เพื่อบำรุงร่างกายและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลที่ดี เพื่อให้ได้เอ็นไซม์ในการสร้างเซลที่ดี ให้พยายามดื่มน้ำผักสด ( ผักส่วนใหญ่รวมทั้งถั่วที่มีหน่อหรือต้นอ่อน) และรับประทานผักสดดิบ2-3 ครั้งต่อวัน เอ็นไซม์จะถูกทำลายได้ง่ายที่อุณหภูมิ140 องศา F ( ประมาณ 4 องศา C)

 

e.   ให้หลีกเลี่ยง กาแฟ น้ำชา และช๊อกโกแลต ซึ่งมี คาเฟอีนสูงชาเขียว ถือเป็นทางเลือกที่ดีและมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็ง น้ำดื่มให้เลือกดื่มน้ำบริสุทธิ์ หรือที่ผ่านการกรอง เพื่อหลีกเลี่ยงท๊อกซิน และโลหะหนักในน้ำประปา น้ำกลั่นมักมีสภาพเป็นกรด ให้หลีกเลี่ยง

 

12.   โปรตีนจาก เนื้อ จะย่อยยาก และต้องการเอ็นไซม์หลายชนิดมาช่วยในการย่อย เนื้อสัตว์ที่ไม่สามารถย่อยได้ในระบบทางเดินอาหารจะเกิดการบูดเน่าและมีความเป็นพิษมากขึ้น

 

13.   ผนังของเซลมะเร็งจะมีโปรตีนห่อหุ้มไว้ การงด หรือ การรับประทานเนื้อสัตว์น้อยลง จะทำให้มีเอ็นไซม์เหลือมากพอ มาใช้โจมตีกำแพงโปรตีนที่ห่อหุ้มเซลมะเร็ง และช่วยให้เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้น

 

14.    สารอาหารบางอย่างอาจช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ( สารIP6 [inositol hexaphosphate หรือ phyti acid],สาร Flor-essence, สาร Essiac, สารแอนตี้-อ๊อกซิแดนส์ , วิตามิน , เกลือแร่ , EFAs ฯลฯ) เพื่อช่วยให้เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้น สารอาหารอื่นๆเช่น วิตามินอี เป็นที่ทราบกันดีว่าทำให้เกิดการตายลงของเซล หรือ กำหนดระยะเวลาการตายของเซล ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกายในการกำจัดเซลที่ถูกทำลาย ซึ่งไม่เป็นที่ต้องการ หรือไม่มีประโยชน์ออกไป

 

15.   มะเร็งเป็นโรคที่สัมพันธ์ กับ จิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณการป้องกันเชิงรุก และ การคิดในเชิงบวก จะช่วยให้เราสามารถอยู่รอดจากการทำสงครามกับมะเร็ง

.... ความโกรธ การไม่รู้จักให้อภัย และความขมขื่นใจ จะทำให้ร่างกายเกิดความตึงเครียดและมีสภาวะเป็นกรดเพิ่มขึ้น ให้เรียนรู้ที่จะมีความรักและจิตวิญญาณแห่งการให้อภัย เรียนรู้ที่จะผ่อนคลายและมีความสุขกับชีวิต

 

16.   เซลมะเร็งไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาวะที่มีอ๊อกซิเจนเป็นจำนวนมาก การออกกำลังกายทุกวัน และการหายใจลึกๆจะช่วยให้ร่างกายได้รับอ๊อกซิเจนเพิ่มขึ้น ลงไปจนระดับเซล การบำบัดด้วย  อ๊อกซิเจนถือเป็นวิธีการอีกอย่างที่ใช้ในการทำลาย เซลมะเร็ง

 

( กรุณาช่วย Forward ไปยังบุคคลที่คุณรักและห่วงใย )

นี่คือเรื่องที่คุณควรส่งออกไปให้คนที่มีความสำคัญกับชีวิตคุณได้รับรู้รับทราบ

 

ขอบคุณ คุณพิษณุ วรนารถ  สภาพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ  ส่งมาให้  ผู้เขียนเห็นว่ามีประโยชน์จึงได้นำเขียนบันทึก เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยมะเร็ง จะได้พิจารณาการรักษา ฯ หรือผู้ที่ยังไม่เป็น มีทางเลือก วิธีป้องกันร่างกายไม่ให้เกิดมะเร็งได้ หรือโรคอื่นๆ

                          

ด้วยความปรารถนาดี  กานดา แสนมณี

 

 

หมายเลขบันทึก: 439973เขียนเมื่อ 20 พฤษภาคม 2011 10:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

สวัสดีครับ  เป็นความรู้ที่จำเป็นสำหรับทุกคนครับ   ขอบคุณที่แบ่งปันครับ

ขอบคุณค่ะ..ต้องคิดถึงความสมดุลย์ทุกครั้งในการดำเนินชีวิตประจำวัน เพื่อป้องกันโรคภัยไข้เจ็บทั้งปวงนะคะ..

ภาพจากโครงการ “รวมพล (ครอบครัว) คนพันธุ์ Rh-” ประจำปี ๒๕๕๔

ขออนุญาตต่อยอดค่ะ

การอ่านข้อมูลจาด Forwarded mail ต้องระวังในความถูกต้องของข้อมูลด้วยค่ะ

และอยากฝากไว้สำหรับผู้ป่วยโรคเลือดนะค่ะว่า

สำหรับมะเร็งเม็ดเลือดขาวนั้น คนไข้ต้องใช้โปรตีนไปสร้างเม็ดเลือดขาวและแดงและเกล็ดเลือด ดังนั้นคนไข้จำต้องได้โปรตีนที่เพียงพอนะค่ะ คนไข้หลายคนหันไปหาชีวจิตแต่อย่างเดียวก็อาจจะอันตรายได้นะค่ะ

ดังนั้นการหันไปทานแต่ผักผลไม้แต่เพียงอย่างเดียวนั้นต้องระวังปริมาณโปรตีนที่ได้รับด้วยค่ะ

และคนไข้ควรกินอาหารที่หลากหลายก็เป็นคำแนะนำที่ได้รับมาหลายๆ ครั้งจากคุณหมอหลายๆ คนค่ะ การทานแต่เนื้อปลาอย่างเดียวก็อาจจะไม่ใช่หนทางที่ดีที่สุดค่ะ

ดิฉันเชื่อว่า สิ่งสำคัญที่สุดของการดูแลตนเองในผู้ป่วยมะเร็งค่ะ ต้องมีสุขภาพจิตดี มีความสุข มีความสงบค่ะ

ส่วนเรื่องอาหารคือ ต้องมั่นใจว่าอาหารต้องสะอาดมากๆ และปลอดสารพิษค่ะ

จะกินปลาก็ต้องไม่ใช่ปลาชายฝั่งและควรเป็นประมงเรือเล็ก ปลาจะได้ไม่ได้ถูกแช่แข็งมาด้วยฟอร์มาลีนค่ะ

จะกินหมู กินไข่ กินสัตว์ปีกก็ต้องไม่ใช่เลี้ยงด้วยยาปฏิชีวนะ

จะกินข้าว กินผักและผลไม้ก็ต้องเลือกที่เลี้ยงแบบเกษตรอินทรีย์หรือปลอดสารพิษสารเคมีทั้งหลายไว้ก่อนค่ะ

คนข้างเคียงผู้ป่วยจะช่วยดูแลเรื่องเหล่านี้แทนผู้ป่วยได้ค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ            Ico48  Ico48   Ico48   Ico48 

  ขอบคุณมากนะคะ ดอกไม้และกำลังใจที่มอบให้  กานดาน้ำมันมะพร้าว

 

สวัสดีค่ะ              Ico48    Ico48    Ico48

 

คุณธนา 

ค่ะความรู้หลายๆอย่างที่บอกต่อกันมา ด้วยความหวังดีนั้นหลากหลายมาก การจะนำมาใช้กับต่อเองหรือผู้อื่นก็ต้องพิจารณา ร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน  การทำงานของแต่ละคนต่างกัน ปัจจุบันทางเลือกในการดูแลร่างกายมีมากหลายวิธี  โดยเฉพาะผู้ป่วยมะเร็ง  ขอบคุณมากนะคะ

 

คุณพี่ใหญ่  

 ความสมดุลย์ของร่างกาย  เดี๋ยวนี้สำคัญนะคะ อาหารทำให้ร่างกายขาดความสมดุลย์เกิดโรค  แล้วอาหารก็ทำให้ร่างกายมีความสมดุลย์ได้เช่นกัน แต่มีสักกี่คนที่ในบางช่วงเวลาของร่างกายนั้น ควรปรับความสมดุลย์บ้าง  อาหารอะไรบ้างที่ช่วยปรับสมดุลย์ ช่วงเวลาเราป่วย หรือไม่ให้ป่วย  เมื่อก่อนคนโบราณ ท่านก็มีภูมิปัญญาช่วยทุกอย่างได้จริงๆ   โดยเฉพาะเรื่องอาหาร ไม่ต้องมาปรัมความสมดุลย์ แต่สมัยเราอาหารแตกต่างจากสมัยก่อนมากทีเดียว บางคนไม่กินผักเลย   บางคนกินของทอดทุกวัน  กินอาหารฝรั่งที่มีเนย นม ครีมเพียบ  กินอาหารที่มีไขมันทรานส์ทุกวัน  ขนมหวาน ที่ทำด้วยน้ำตาลทรายขาวบ่อยๆ เป็นต้น ภาวะในร่างกายเลยเอียงจนสะสมเป็นโรคได้ตลอดเวลาหากไม่มีการช่วยปรับสมดุลย์ให้ร่างกายบ้าง   ก็มีสิทธิ์ได้รับมรดกจากพันธุกรรมง่ายขึ้น หรือเพราะที่เราอยากกินไม่ระวัง.........   ภาพที่นำมาฝากดามีลูกโป่งเพื่มความสดใสน่ารัก   ขอบคุณมากค่ะ

 

อาจารย์ จันทวรรณ 

     ดีใจและขอบคุณมากๆค่ะ ต่อยอดได้รับความเข้าใจมากขึ้น และทำให้ผู้ป่วยที่อาจารย์กล่าวหากได้มาอ่าน หรือคนรู้จักผู้ป่วยมาอ่านแล้วบอกต่อก็จะได้ประโยชน์มากๆ และทำได้ถูกต้องกับร่างกายเมื่อเป็นมะเร็ง

      ผู้ป่วยมะเร็ง โดยเฉพาะเรื่องอาหาร  ส่วนใหญ่ความเชื่อต่างกัน แล้วมะเร็งแต่ละจุดการรักษาบางอย่างก็ต่างกัน  บางที่ไม่ต้องผ่าตัดก็หาย แต่นานปีต่อมาก็เกิดใหม่ เพราะ เพราะเชื้อเซลล์ร้าย มันอาจจะแอบอยู่ เช่น ในกระดูกสันหลังข้อใดข้อหนึ่งก็ได้เป็นต้น  และ เราทราบกันอยู่แล้วว่า เจ้าโรคนี้ผู้ที่เคยเป็นมาก่อนห้ามเผลอ โดยเฉพาะเรื่องอาหาร อย่างเช่น มีท่านหนึ่งเคยเป็นมะเร็งกระดูก งดเนื้อสัตว์ อาหารที่มาจากสัตว์ทุกชนิดอย่างเคร่งครัด แล้วท่านก็ห้ามใจเด็ดขาดไม่ได้ ไปกิน เจ้ามะเร็งก็กลับมา ต่อมาไม่นาน ท่านก็เสียชีวิต  หรือเพื่อนพี่ดาเป็นมะเร็งเต้านม รักษาหลายวิธีมาก รวมทั้งวิธีที่งดเนื้อส้ตว์เด็ดขาด แต่ร่างกายต้องทำงานนอกบ้าน ร่างกายไม่ไหว ก็หยุด ตัดเต้านมออก และฉายคีโม  จนครบ ปัจจุบันแข็งแรงมาก  และเพื่อนอีก 2 คนมะเร็งเต้านม ไม่ตัดออก กินเนื้อสัตว์บ้าง อีกคนอยู่มาได้ 6 ปีแล้ว 1 คน ทำคีโม  ส่วนอีกคน พึ่งทราบว่าเป็นได้ปีกว่า รักษาสมุนไพรอย่างจริงจังมาก ที่ไหนดีไปหมด ฝ่อลงหรือนิดเดียว  เป็นต้น 

     อาหารส่วนใหญ่เรื่องเนื้อสัตว์ เช่นปลา ขอบคุณอาจารย์มากนะคะ พี่ดาจะไปบอกเพื่อนด้วย    ปลาเดี๋ยวนี้ซื้อกินไปเรื่อยก็ไม่ได้ เพราะถูกเลี้ยงด้วยอาหาร ไม่ใช้ปลาหากินเองตามธรรมชาติ  รวมทั้งสัตว์อื่นๆ   และพืชผักผลไม้ก็เช่นกัน  การอยู่ในเมือง เสี่ยงกว่ากลุ่มที่อยู่ตามชนบทหรือบ้านที่ปลูกพืชผักกินเองมาก เขานำมาขายอย่างไรก็ต้องซื้อเลือกไม่ได้ ดูไม่เป็น   การอยู่ชนบทหรือบ้านมีเนื้อทีกว้างปลูกเองกินเองมีความสุขนะคะ และปลอดภัย

     ผู้ป่วยมะเร็ง ได้รับการดูแล เอาใจใส่ จากคนใกล้ชิดสำคัญมากๆอย่างที่อาจารย์บอก กำลังใจ จากทุกคน และที่สำคัญ ใจของผู้ป่วย ต้องสู้ไม่ท้อ พี่ดาได้เห็นเพื่อนๆเป็นแล้ว เขาแข็งแรงแจ่มใส ทำงานได้ตามปรกติ เราก็สบายใจ แนะนำอะไรได้ก็จะรีบบอก ทำไม่ทำนั่นอีกเรื่อง เพราะบางคนก็ไม่พร้อมที่จะทำได้ 

    และที่สำคัญมาก คือ ร่างกายของแต่ละคน ต่างกันที่กรุ๊ปเลือด และธาตุเจ้าเรือน ที่ถูกกำหนดตั้งแต่เกิดมาแล้วทุกคน  อาหารที่จะเข้าร่างกาย ไม่ถูกต้องบ่อยๆ ก็เกิดโรคได้ง่ายเช่นกันค่ะ

 

 

ปี้ดาเจ้า

ขอบคุณบันทึกดีๆ เดี๋ยวนี้มะเร็งเรื่องใกล้ตัวคนเรา ปูรู้จักรุ่นพี่ซึ่งเป็นมะเร็งผ่านการทำคีโม บางรายก็เสียชีวิตแล้ว บางรายก็ยังมีชีวิตอยู่กว่า ๒๐ ปี และที่น่าแปลกใจ คือบางครั้งก็ยังหาสาเหตุไม่เจอว่า จริงๆแล้วโรคนี้เกิดขึ้นมาเพราะเหตุผลใด

มาทายทัก และส่งความคิดถึง วันนี้ครบรอบหนึงปี ชมรมคนรักมวลเมฆนะเจ้าปี้ สุขสันต์ สุขี นึกถึงภาพงามๆ ของปี้เจ้า :)

  • สวัสดีค่ะ
  • คุณกานดามีข้อมูลดีๆมาฝากพวกเราเสมอ
  • ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะ

สถาบันนี้คุณหมอที่ทำงานด้วยก็จบจากที่นี่

เป็นประโยชน์มากนะคะ แต่ประสบการณ์ที่ทำงาน เวลาที่เด็กได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง มักจะเริ่ม เคมีเร็วที่สุด...ผลเสียก็ตามมาเยอะ บางทีเสียชีวิตก็มี...

สวัสดีค่ะ    Ico48     Ico48     Ico48

 

 น้องpoo   ค่ะโรคนี้ไม่เป็นที่ปรารถนา สงสารผู้ที่ทราบระยะสุดท้ายเลยทำใจไม่ได้ร่างกายทรุดเร็วมากๆ

  

คุณลำดวน  ค่ะข้อมูลพอได้อ่านได้พบเห็นว่ามีประโยขน์ก็อยากนำมาฝากทุกคนให้ทราบ จะได้บอกต่อให้ผู้ที่ไม่ทราบได้บ้างค่ะ ข้อมูลบางคนไม่ได้อ่าน ไม่ได้ฟัง  เราช่วยกันนะคะ

 

คุณแดง  ขอบคุณมากค่ะ ดีจังมีคุณหมอจบจากที่นี้ ก็เชื่อถือได้นะคะ  ค่ะเด็กๆฉายคีโม ให้เคมี ดูจะแรงนะคะ ผู้ใหญ่บางคนก่อนจะฟื้นก็แย่แล้ว เด็กยังเล็กก็ยิ่งแย่ พ่อแม่ก็เครียดห่วง กังวล ฯไปด้วย น่าเห็นใจที่สุดนะคะ

 

 

 

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท