เมื่อพูดถึงการจัดการเรียนรู้แบบใช้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง หรือ Child-centered จะมีประเด็นที่ยังเป็นปัญหาในการนำสู่การปฏิบัติจริงให้ได้ผลอีกหลายรายการ แต่ดูๆแล้วปัญหาใหญ่น่าจะอยู่ที่ การเข้าถึง "หัวใจ" หรือ "จิตวิญญาณ" ของการสอนตามแนวทางดังกล่าวของครูเป็นสำคัญ
เท่าที่สัมผัสมา พบว่าครูได้รับการอบรมเรื่องวิธีการและการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย มีการนำมาทดลองใช้ แต่ก็มักทำไปด้วยจิตใจหรือกระบวนทัศน์เดิมๆของครู ยังมี "อำนาจนิยม" หรือการเป็น "ผู้พิพากษา" แฝงอยู่ในใจโดยไม่รู้ตัวก็มาก แต่ที่มองไม่เห็นก็เนื่องจากมีคำว่า "ด้วยความหวังดี" มาเป็นม่านบัง เช่น.. ดุด่าเพราะหวังดี เฆี่ยนตี เพราะรัก หรือ ครูเป็นผู้ใหญ่ อาบน้ำร้อนมาก่อน เป็นต้น ถ้ายังเป็นแบบนี้ น่าจะหวังความสำเร็จได้ยาก
หนึ่งในหลายเรื่องที่เป็นปัญหาคือการถามว่า ครูควรพูดมาก พูดน้อยเพียงใด ในการจัดการเรียนการสอนตามแนวทางดังกล่าว เรื่องนี้ครูบางคนพยายามอดกลั้น ไม่พูดมาก เพื่อจะได้เปลี่ยนแปลงไปสู่การสอนแนวใหม่ แต่ผมมองว่าแท้จริงแล้วไม่น่าจะกังวลใจมากนักในเรื่องพูดมาก-พูดน้อย เพราะการพูดมากของครูคงต้องดูด้ว ยว่า พูดอะไร เพื่ออะไร หากพูดแบบบอกความรู้ความคิดให้เด็กเป็นฝ่ายรับฟังและเชื่อตามล่ะก็ คงต้องรีบลดแล้วล่ะครับ แต่หากเป็นการใช้วาทกรรมที่หลากหลาย อุดมด้วยอุบายเพื่อให้ผู้เรียนเกิดความกล้าที่จะพูดแสดงความรู้ ความคิดเห็น แบบนี้ไม่น่าห่วงครับ เนื่องจาก การพูดมากของครู จะค่อยๆเปลี่ยนแปลงสู่การพูดน้อยลง ฟังมากขึ้นเองโดยอัตโนมัติ เพราะแท้จริงแล้ว ที่พูดมากตอนแรกๆก็ล้วนทำไปเพื่อจะได้พูดน้อยลงในตอนท้ายนั่นเอง
กราบสวัสดีปีใหม่ไทยค่ะอาจารย์แฮนดี้แมน :)
อาจารย์แฮนดี้แมนมองเห็นเป็นเช่นนั้นเลยครับ ฝรั่งเขาว่า Socratic questioning ประมาณว่าถ้านักเรียนถามมา เราถามกลับทันที ถามไปถามมากันให้งงกันไปข้างนึงเลย ^_^
Happy BD ท่านพี่
ขอบคุณมากครับ ทั้งสามท่าน .. ขออภัยที่เข้ามาไม่บ่อยนัก ภารกิจรุมเร้าครับ