ผมหมดแค่นี้แล้วครับ ไม่มีอะไรจะสู้แล้วครับ...
...ผมขอกลับไปเป็นวัวเป็นควายอยู่บ้านผมดีกว่าครับ (ที่นั่น) ยังมีคนให้กำลังใจผมอยู่”
อนันต์ ทับเสาร์ทอง หนุ่มชาวไทใหญ่ จาก อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ กล่าวกับกรรมการทั้งสามหลังจากที่ยุติการแสดงของเขาในรายการ “Thailand Got Talent” แล้วสนทนาตอบโต้กันอีกไม่กี่ประโยคและนี่คือบทสนทนานั้น
นิรุตติ์ : เพลงเกี่ยวกับอะไรครับ ฟังแล้วยังไม่เข้าใจ
อนันต์ :เป็นภาษาไทใหญ่ครับ
นิรุตติ์ :ภาษาไทใหญ่ แล้วร้องไปแล้วได้อารมณ์อะไรออกมาครับ
อนันต์ :ตอนนี้ผมกลัว ยังไม่กล้าพอครับ
นิรุตติ์ :ไม่เป็นไรครับ สรุปเลยดีกว่าคุณอนันต์ เชียงใหม่บ้านอยู่แถวไหนครับ
อนันต์ : อยู่บนดอยครับ
นิรุตติ์ :ดอยไหนครับ
อนันต์ : อำเภอเวียงแหง ดอยเวียงแหงครับ
นิรุตติ์ : เดี๋ยวจะไปหาที่นั่น วันนี้ไม่ผ่านนะครับ ไปรอผมที่นั่นครับ (น้ำเสียงดุดัน-ผู้เขียน)
การกล่าวถึงตัวเองว่า “เป็นวัวเป็นควาย” ของอนันต์ เป็นการตอกย้ำและทำให้บทสนทนากับท่าทีของนิรุตติ์เป็นรูปธรรมและตรงไปตรงมามากขึ้น และก็น่าจะเป็นเช่นเดียวกับผู้ชมจำนวนมากในห้องส่งในขณะนั้นรวมทั้งสองพิธีกรที่หัวร่องอหงายอยู่ข้างเวทีที่เข้าใจและมีทัศนะไปในแบบเดียวกัน ผมออกจะมั่นใจว่าเพราะการตีตราอนันต์เช่นนั้น จึงทำให้นิรุตติ์และผู้ชมในห้องส่งและพิธีกรเข้าไม่ถึงความหมายโดยนัยที่เขาสื่อออกมา
อันที่จริงแล้ว “วัวควาย” ก็คือ “วาทกรรม” ที่ชนชั้นกลางในเมืองตีตราชาวบ้านชาวช่องที่อยู่ตามชายขอบ ชาวบ้านรวมทั้งอนันต์ต่างก็รู้ว่าคนชั้นกลางในเมืองหมายความถึงพวกเขาเช่นนั้น แต่อนันต์คงไม่คาดคิดว่าเขาจะประสบเหตุการณ์นี้บนเวทีประกวดที่เขาตั้งใจมาแสดงความสามารถให้ได้ชม
อนันต์ คงไม่ได้คาดหวังรางวัลใด ๆ จากการประกวดในรายการนี้ นอกจากจะใช้เป็นเวทีหรือพื้นที่สำหรับบอกกล่าวกับสังคมว่าในแผ่นดินที่เรียกว่าประเทศไทยนี้ ยังมีเขาที่เป็นชาวไทใหญ่อาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินนี้ด้วย เขามีศิลปวัฒนธรรมเป็นของตนเอง รวมทั้งเพลงที่เขานำมาแสดงให้ชมให้ฟัง
เหตุการณ์ไม่กี่นาทีที่เกิดขึ้นบนเวที คงกล่าวได้ว่าความคาดหวังของอนันต์นั้นไม่บรรลุผลตามที่ตั้งใจไว้ ไม่เพียงไม่ได้การต้อนรับและเงี่ยหูรับฟังสิ่งที่เขานำเสนอจากคณะกรรมการและผู้ชมในห้องส่งเท่านั้น อนันต์กลายสภาพ “เป็นวัวเป็นควาย” ที่ถูกไล่ลงจากเวทีที่ต้อนรับเฉพาะคนพวกเดียวกัน ผู้ที่มีรสนิยมทางศิลปวัฒนธรรมในแบบที่ผู้สร้างรายการโทรทัศน์ในประเทศนี้สามารถทำรายได้เป็นกอบเป็นกำจากพวกเขา รสนิยมที่ว่าเป็นอย่างไรนั้นผมขอยกเอาคำกล่าวของฝรั่งคนหนึ่งชื่อเบน แอนเดอร์สัน ว่า
...หลับหูหลับตาบริโภคหนังขยะฮอลลีวู้ด หนังขยะกังฟูจีนที่แสนซ้ำซาก นำเข้าวิดีโอเกมกับละครงี่เง่าต่อไป ถ้าเราดูจากโฆษณาทั้งหลาย ก็จะเห็นว่าชนชั้นกลางกรุงเทพฯ สนใจแต่อาหารดีๆ แฟชั่นจากต่างประเทศ รีสอร์ตหรูๆ และการไปเที่ยวช้อปปิ้งในเอเชียตะวันออกกับยุโรป ...”
อันที่จริงนั้น ศิลปวัฒนธรรมบนโลกใบนี้ มิใช่มีเพียงจากฝั่งตะวันตกที่ครอบงำผู้คนทั่วทั้งโลกโดยเฉพาะคนชั้นกลางในเมืองอยู่ในขณะนี้เท่านั้น แต่โลกยังมีศิลปะวัฒนธรรมที่งดงามซี่งกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปอีกมากมาย แน่นอนว่าย่อมมีความต่างไปจากขนบ แบบแผนในแบบที่คุ้นชิน ซึ่งหากยังยึดมั่นในสิ่งที่ครอบงำอยู่อย่างหัวปักหัวปรำและไม่คิดจะเปิดหูเปิดตาออกไปจากสิ่งครอบอยู่ ก็ยากที่จะเห็นความงดงามที่แตกต่างออกไป ดังกรณีคณะกรรมการ พิธีกร และผู้ชมในห้องส่ง
แต่จะว่าไปแล้ว หากนั่นมิใช่ความคาดหวังของอนันต์ ในทางตรงกันข้ามเขาต้องการจะสื่อให้เห็นว่าสังคมบ้านเรายังมีการเหยียดหยามทางชาติพันธุ์อยู่ อนันต์ก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นชัดยิ่งกว่าชัด ไม่ว่าจะเป็นท่าทีที่ปรากฏในห้องส่ง
กระบวนการโลกาภิวัตน์ที่พยายามเชื่อมให้โลกเป็นผืนเดียวกัน แต่ก็การดูหมิ่นเหยียดหยามก็ยังพบเห็นอยู่ทั่วไปบนโลกใบนี้ ไม่เพียงในรายการโทรทัศน์ในประเทศไทยที่อนันต์เจอด้วยตัวเองเท่านั้น แต่ผมคิดว่านิรุตติ์ก็น่าจะเคยประสบเหตุการณ์ในทำนองเดียวกันกับอนันต์เมื่อคราวไปอาศัยอยู่ต่างบ้านต่างเมืองก่อนจะย้ายกลับมาเมืองไทย
ครั้งหนึ่งในชีวิตครับที่ได้สัญจรอยู่บนเส้นทางเวียงแหง ถ้าจำไม่ผิดที่ปลายทางจะเข้าเขตพม่ามีวัดอยู่ด้วย
นานหลายปี อาจจะถึง 20 แล้วครับ
เหมารวมว่าชนชั้นกลางในกรุงเทพ สนใจแต่ ...
ก็คงไม่ถูกนะครับ ผมพบว่าคนชั้นกลางหลายๆ คนในกรุงเทพไม่ได้สนใจแต่ ...
อย่างน้อย เบนซ์ พรชิตา ยังพอมีคุณธรรมให้เห็นบ้างค่ะ ที่ยังให้กำลังใจเขานะ
สิ่งที่เรียกว่า วาทกรรม ที่กีดกันบางสิ่งออกไปสู่ชายขอบ
ความรู้ชุดหนึ่ง ของระบบทุนนิยม ซึ่งเป็นองค์รวมของของการใช้ชีวิต
รสนิยม การบริโภค ได้ถูกถักทอและครอบงำด้วยระบบสื่อสารมวลชน
โรงเรียน ด้วยมาตรฐานการบริโภค ที่ไม่ยอมรับความเป็นอื่น (the otherness)
ผมเองก็ไม่แปลกใจเลย ที่ความเป็นอื่นถูกกีดกันไปสู่ชายขอบ
ด้วยความรู้ชุดหนึ่งจริง ๆ ที่ครอบงำระบบสังคมเราอยู่
สวัสดีครับ อ.โสภณ เปียสนิท
|
เวียงแหงนั้นมีวัดอยู่หลายแห่งครับ โดยเฉพาะวัดของชาวไทใหญ่ ข้ามจากเวียงแหงไป อ.ปาย ระหว่างทางก็ยังมีวัดอีกสองสามแห่ง มีวัดหนึ่งที่ผมแวะประจำคือ วัดที่บ้านเมืองน้อยครับ หมู่บ้านนี้สวยงามมาก ๆ อยู่ติดกับลำน้ำปาย...
สวัสดีครับ พี่ลำดวน
ผมไม่ได้ดูรายการสด ๆ หรอกครับ ดูหลังจากนั้นพักใหญ่จากการแนะนำของเพื่อนคนหนึ่ง
บอกตามตรงเลยครับว่าดูเสร็จแล้วโมโหมาก ไม่เฉพาะกรรมการ พิธีกรและผู้ชมในห้องส่งเท่านั้น แต่โมโหสังคมคนชั้นกลางในเมืองครับ
ผมคิดว่าคนชั้นกลางในเมืองแม้ไม่ทั้งหมดแต่ก็ส่วนใหญ่ที่เป็นเช่นนี้ครับ
บทความเดิมผมเขียนแรงกว่านี้มาก หลังจากค่อยหายโกรธแล้วก็ค่อปรับแก้ให้เบาลง
แหะ แหะ ยังไม่หายโมโหเลยครับ...
สวัสดีครับ คุณบีเวอร์
ต้องขออภัยด้วยนะครับ หากการกล่าวหาของผมทำให้ขุ่นเคืองใจ
ผมเห็นด้วนครับว่าคนชั้นกลางในกรุงเทพฯ มิได้เป็นแบบที่ อ.เบน กล่าว (และผมก็เข้าใจเช่นนั้นด้วย) เสียทั้งหมด
เห็นด้วยครับว่าบ้านเราคนชั้นกลางจำนวนหนึ่งที่มีรสนิยมที่ต่างออกไปจากภาพรวม แต่มันก็น้อยมากครับ น้อยจนไม่สามารถอุปถัมภ์ศิลปะดี ๆ ให้แพร่หลายได้ เพลงดี ๆ ภาพเขียนดี ๆ หนังดี ไม่เคยได้รับการอุปถัมภ์อย่างที่ควรจะเป็น ตรงกันข้ามกับความบันเทิงแบบสาธารณ์ที่ปรากฏอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ขอบคุณที่เข้ามาแลกเปลี่ยนนะครับ...
ผมกลับมองต่างว่า ความงามของวัฒนธรรมซ่อนเร้นอยู่ในที่ความเจริญยังไปไม่ถึง เพราะความเจริญเข้าถึงเมื่อความงามของวัฒนธรรมดั้งเดิมจะสูญหายไป ทุกวันนี้ชาวโลกที่เจริญแล้วจึงมุ่งเดินทางไปสู่ความเป็นดั้งเดิม ผมเชื่อว่าไม่นานอนันต์จะมีคนเดินทางไปหาเขา และเขาเองจะเป็นสินค้ารายใหม่ที่คนฉวยโอกาสตักตวงไปจากเขา
สบายดีนะครับท่านหนานเกียรติ
ถ้ามาพังงาด้วยก็จะดี กพจะไปหาฉิมพลี บางทีอาจได้ไปตีผึ้งที่โตนพันเมตร เหมืองโชน และไปดูรรที่จะค่าย เกาะหมาก
...เป็นวัว...เป็น..เทพเจ้า..ของคนอินเดีย...เป็น..ควาย...น่ะดีนัก..เดี๋ยวนี้..คนเห็นคุณค่าของควายทั้งเมือง..(ก็ช่างหัวมันปะไรกับคนชั้นกลางที่จวนจะสูญพันธุ์ในประเทศไทย..อ้ะๆๆ)....คนนี้เขาเลือกถูกแล้ว...ที่จะไปเป็นวัวควายตามวาทะวาท...แล้วไม่อยู่กับคำว่าตัดสิน..ของคนเหมือนกัน..หากอาจด้อยกว่าตรงปัญญามั้ง..ยายว่า...อย่าไปโกธรเขาเลย..อ้ะะๆ..ทำลายตัวเอง..อภัยๆๆไปเหอะ...อิอิ..สวัสดียายธีจ้ะ
สวัสดีครับ อ.วิรัตน์ คำศรีจันทร์
อ่านความเห็นอาจารย์ทำให้ระลึกขึ้นมาได้เลยว่าเคยจะหาหนังสือเล่มนี้มาอ่าน แต่แล้วก็ลืมไป ตอนนี้สั่งศื้อแล้วครับ คาดว่าจะได้ภายในสองสามวัน เห็นคำแนะนำจากอาจาจารย์แล้ว หนังสือเล่มนี้คงจะสนุกมาก
ผมติดตามความคิดอ่านของ อ.เบน เท่าที่จะหาอ่านได้ครับ อ่านแล้วก็ไม่ผิดหวัง คมและลุ่มลึกมาก
ขอบคุณอาจารย์ัีที่เข้ามาแบ่งปันความเห็นนะครับ
สวัสดีครับ พี่ ธรรมทิพย์
จริง ๆ แล้วผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกับตะวันตกหรอกครับ เพียงแต่ไม่ชอบความสัมพันธ์แบบการครอบงำ
ศิลปะชั้นเยี่ยมของตะวันตกก็มีไม่น้อยครับ แต่บ้านเรามักเอาเยี่ยงแต่เปลือกเขามาแต่เปลือก
วันที่ผมชมอนันต์ ผมโกรธมากครับ บทความเดิมที่เขียนแรงกว่านี้มาก
ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมอ่านบันทึกนะครับ
สวัสดีครับ แก้ว..อุบล จ๋วงพานิช
เห็นด้วยกับพี่แก้วครับ ที่จะพยายามรักษาความรู้สึกของอนันต์อยู่บ้าง
สวัสดีครับ อ.วัฒนา คุณประดิษฐ์
ขอบคุณที่ต่อยอดความคิดของบันทึกนี้นะครับ
เราเป็นพวกเดียวกันครับที่ถูกเบียดขับให้ออกมาอยู่ที่ชายขอบครับ...
คารวะท่านผู้เฒ่า วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--
ตอนนี้แม่เฌวาอยู่ที่พังงาครับ เห็นว่าจะกลับค่ำนี้ ผมไม่ได้ลงไปด้วย เมียใช้ให้เลี้ยงลูกครับ ฮิ ฮิ...
สวัสดีครับ อ.พรชัย
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะครับ
วันก่อนไปตะเวนแถวอีสาน ว่าจะแวะไปหาแต่ไม่มีเบอร์โทรฯ เลยไม่ได้ไปครับ
กรณีอนันต์ สำหรับผมเนี่ยไม่มีอะพไรไปกว่าการโมโหโกรธากรรมการ พิธีกร ในห้องส่งวันนั้นครับ โมโหจริง ๆ
สวัีสดีครับ ยายธี
ขอบคุณยายธีมาก ๆ เลยนะครับ ที่มาเตือนสติ
ยอมรับว่าโมโหมากครับตอนที่นั่งดูรายงานนี้ผ่าน youtube
บันทึกเดิมแรงกว่านี้เยอะครับ แต่พอเบาลงก็ค่อยปรับแก้ลง แต่ก็ยังโมโหอยู่
ยายธีอยู่ไหนแล้วครับตอนนี้..
ต้องขอโทษที่ผมวุ่นมากจนไม่มีเวลาไปพบเลย
ตอนนี้ผมนั่งทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ ครับ