วันนี้...หนูทนไม่ไหวแล้วค่ะ


วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2554
น้องพยาบาลเดินมาขอคำปรึกษา พี่แก้วคะขอคำปรึกษาเรื่อง น้อง ก หญิงไทยวัยรุ่น อายุ 22 ปี เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว มารับยาเคมีบำบัด ESHAP 3rd line drug
น้องบอกว่า  วันนี้สภาพร่างกายและจิตใจไม่ไหวแล้ว  จากที่เคยเป็น 80% ตอนนี้เหลือ 10-15% วันนี้น้องจะขอกลับบ้าน

 

เราก็บอกน้องพยาบาลว่า... เดี๋ยวพี่จะลองเข้าไปคุยกับน้องให้ เวลา 15.00น. เราเข้าไปคุยกับน้อง ก
..
น้อง ก ..บอกว่า น้องไม่สามารถทนสภาพในตอนนี้ รู้สึกทนไม่ไหวแล้ว เราก็เลยจับมือน้องและถามว่า
..
พยาบาล...น้องรู้สึกว่า  ทนกับอะไรคะ
..
น้องบอกว่า...  ทนกับตัวเอง เคยแข็งแรง เคยมารับยาเสร็จก็ขับรถกลับได้ หนูต้องขับรถกลับสัตหีบ ไปหาแม่ เพราะหนู่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี 4 แถวนั้น แต่ตอนนี้หนูทำไม่ได้ ต้องให้พี่สาวที่อยู่ มหาสารคามมารับหนู บ้านพ่อของหนูอยู่ใกล้โรงพยาบาล
..
พยาบาลก็อธิบายว่า... ช่วงนี้หลังให้ยาเคมีบำบัด ยาจะกดไขกระดูกทำให้เราติดเชื้อได้ง่าย พี่จะช่วยสังเกตอาการของหนูว่ามีไข้ไหม ประมาณ 14 วัน หลังจากนี้ ถ้าไข้ไม่มีจะได้กลับบ้าน ถ้ามีจะต้องให้ยาป้องกันการติดเชื้อ เพราะถ้าเราติดเชื้อจะอันตรายมาก
..
น้อง ก.. บอกว่า หนูรู้แต่หมอบอกว่า โรคของหนูเป็นระยะสุดท้ายจะอยู่ได้ 3-6 เดือน ตอนนี้ก็ 1 ปี กับ 2 เดือนแล้ว หนูอยากอยู่กับพ่อ กับแม่หนู หนูเคยร่างกายแข็งแรง เคยเป็นนักกีฬา หนูเรียนใกล้จะจบแล้ว มีคยมาจองตัวหนูให้ไปทำงาน หนูเสียดาย
..
พยาบาล... ถึงแม้ว่าใครจะบอกกับเราว่าจะอยู่กี่เดือนไม่สำคัญหรอกนะคะ อยู่ที่เราว่าเราจะดูแลตัวเองตามแผนการรักษาไหม ซึ่งช่วงนี้สำคัญที่สุดเกิดหนูมีไข้ขึ้น ถ้ากลับบ้านเราจะสังเกตได้ไม่ทันและอาจช๊อคไปเลย เราอาจเข้า รพ ไม่ทัน ตอนนี้เรามาสนใจกับการรักษาและการดูแลตัวเองก่อนดีไหม เรื่องอื่นๆรอไว้ก่อน ถ้าหนูแข็งแรงดีขึ้น หนูก็จะกลับไปทำได้ทุกอย่างที่เล่ามา
..
น้อง ก... รักษาไม่ทันก็ไม่เป็นไร  เพราะแม่หนูและญาติหนูเขาคงทำใจได้แล้ว เพราะเขามีเวลาเตรียมใจตั้งปีแล้ว และแม่ก็อนุญาตให้หนูไปได้ ถ้าหนูต้องอยู่อย่างทุกข์ทรมาน 
..
พยาบาล...แต่พ่อกับแม่หนูก็คงอยากอยู่กับหนู ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ได้อยู่ได้กี่เดือนหรือกี่ปี ถ้าเราลองทำองทำตามที่หมอและพยาบาลแนะนำ เราก็จะยังไม่มีปัญหา เพราะตอนนี้สภาพร่างกายหนูยังดีอยู่เลย  ถ้าดูน่าจะ 70% เหลือเรื่องใจอย่างเดียวที่จะต้องสู้ค่ะ   เดี๋ยวพี่จะลองไปคุยกับแพทย์ให้ว่า เขาคุยกับอาจารย์แพทย์ว่ายังไง
..
พยาบาล ...วันนี้อดทนนิดนะคะ รอให้ถึงพรุ่งนี้  คุณหมอจะมาให้คำตอบว่าแผนการรักษาของหนูจะทำยังไงกันต่อ ช่วงนี้หนูจะให้พี่ช่วยอะไร อยากฟังเพลงไหม หรือไปเล่นเกมส์คอม หรือ อ่านหนังสือดี
..
น้อง ก ...หนูเคยบวชชี
..
พยาบาล...ถ้าอย่างนั้นลองนอนทำสมาธิดูไหมคะ จะได้ใจเย็นได้จนถึงพรุ่งนี้ น้องก หนูจะลองดูค่ะ
เดี๋ยวพี่จะไปคุยกับหมอให้นะคะ เราจบการสนทนาไว้ก่อน วันนี้จะต้องติดตามกันต่อค่ะ

......................

แก้ว...

หมายเลขบันทึก: 424012เขียนเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2011 06:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

เศร้าใจนะครับและเห็นใจคนป่วยเป็นโรคร้ายนี้จริงๆ แต่ก็ดีใจที่เขาได้อยู่ใกล้คนดูแลที่ใส่ใจทั้งกายและจิตใจ

ดีจังเลยครับที่แนะนำให้ทำสมาธิภาวนา เป็นการเอาบุญช่วยให้บาปส่งผลน้อยลง หรือหมดไปในที่สุด

ว่าแต่ว่า มะเร็งเม็ดเลือดขาว เกิดจากสาเหตุอะไรครับ

กำลังใจเป็นเรื่องสำคัญมากค่ะ ขอฝากกำลังใจไปให้น้อง และบอกน้องว่ายังมีคนอีกมากมายบนโลกนี้ที่เขาอาจจะต่อสู้อยู่ในรูปแบบเดียวกับน้อง ผู้ต่อสู้จะลุกขึ้นจากจุดที่ตัวเองล้มลงเสมอ อาร์มเชื่อว่าน้องเป็นผู้ต่อสู้ที่แข้มแข็งอีกคนหนึ่งที่จะฝ่าฟันไปให้ได้ค่ะ...เอาใจช่วยนะค่ะ ^__^

สวัสดีค่ะพี่แก้ว

  วันนี้น้องเขาดีขึ้นยังค่ะ กายใจสัมพันธ์กัน เห็นใจ เข้าใจน้องเขาค่ะ คงเศร้ามาก เป็นกำลังใจให้ บางครั้งถ้าได้ระบายความรู้สึกออกมาอาจดีขึ้นบ้าง

  ชื่นชมบุคลากรค่ะที่ใส่ใจดูแลอย่างดี เป็นกำลังใจให้เช่นกันค่ะ

ในสถานการณ์เช่นนี้ ความสับสนความท้อแท้ของผู้ป่วยจะแว้บเข้ามาอยู่เรื่อยๆ ค่ะ การจับมือ การกอด การอยู่ด้วยใกล้ๆ ไม่ต้องพูดอะไรก็ได้ จะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นค่ะ

ขอบคุณ ครูหยุย น้องมะปรางค์ อ โสภณ น้องอาร์ม น้องอุ้ม อ จัน

ที่เข้ามาช่วยให้คำแนะนำในการดูแลผู้ป่วยของเรา

เราพบปัญหาผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวที่มารับยาเคมีบำบัดในขนาดสูงๆ จะทนกับอาการข้างเคียงของยาเคมีบำบัดไปด้วยความยากลำบาก และต้องใช้เวลาอยู่ในโรงพยาบาลนาน

ในกรณีผู้ป่วยผู้ใหญ่ จะพอทนไหว เราจะยืดหยุ่นให้ญาติอยู่เฝ้าดูแล เอาใจใส่ อย่างไรก็ดี แพทย์ พยาบาลจะต้องคอยให้กำลังใจ ให้ข้อมูลสำคัญเช่น แผนการรักษา ผลเลือด และดูแลเรื่องอาหาร สิ่งแวดล้อมให้สะอาด รวมทั้งกิจกรรมการพยาบาลต้องป้องกันการติดเชื้อทั้งหมด งดอาหาร นอก รพ และผัก ผลไม้สด

..

สำหรับผู้ป่วยเด็กและวัยรุ่น จะเป็นกรณีที่ยากลำบาก เพราะจะทนไม่ได้ อยากกลับบ้าน บางรายไม่ต้องการมีไข้ แอบรับประทานยาลดไข้ ทำให้เราไม่สามารถประเมินอาการติดเชื้อได้ ถ้าไข้ไม่ขึ้นติดต่อกันหลังจากช่วงที่เม็ดเลือดเริ่มอยู่ในช่วงขาขึ้น จะได้กลับบ้าน เราจะต้องหากิจกรรมให้เด็กทำ เช่น เล่นเกมส์ ฟังเพลง ดูคอนเสริตในคอมพิวเตอร์ พอช่วยได้

ขอเป็นกำลังใจให้น้องนะคะ พยาบาลและแพทย์เป็นบุคคลสำคัญที่จะป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยนะคะ ฝากไว้ด้วย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท