เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ ๑๓ ธันวาคม ๕๓ ชีวิตการทำงานก็เริ่มต้นอย่างเป็นปกติ แต่คล้อยหลังอาหารเช้า ก็เห็นนักศึกษาปนศิษย์เก่า นั่งคุยกันที่หน้าภาควิชาฟิสิกส์ ส่วนหนึ่งเป็นนักศึกษาที่เพิ่งจบการศึกษาไปเมื่อมีนาคมที่ผ่านมา อีกส่วนยังเรียนไม่จบ เพราะเป็นคนเรียนละเอียด ล้วนแต่งชุดสีดำๆ ทึมๆ
"นี่ เกิดเหตุอะไรขึ้นครับ ... ไม่ค่อยเห็นพวกคุณตอนเช้าๆ แบบนี้" ผมก็ทักทายไปตามประสา แต่คำตอบที่ได้คือ "พวกผมกำลังจะไปงานศพเพื่อนครับ" คำตอบไม่ต่างจากที่เตรียมใจเอาไว้ ความพลัดพราก...ไม่ได้ไกลจากตัวเรา และเราต้องประสบเป็นแน่แท้
ผู้เสียชีวิตเป็นนักศึกษาชั้นปีสุดท้าย กำลังทำโครงงานเพื่อที่จะสำเร็จการศึกษา แต่เกรดยังขาดๆ อยู่นิดๆ ก็เลยต้องขายเวลาการเรียนไปมากกว่าเพื่อน นี่ถ้าจบไปพร้อมเพื่อนก็คงได้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรในวันที่ ๒๓ ธ.ค. ที่จะถึงนี้ เธอเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุจากคนเมาที่ขับขี่มอเตอร์ไซค์ฝ่าไฟแดงมาชนเธออย่างจัง ความหงุดหงิดก่อตัวขึ้นในความรู้สึกสูญเสีย... เหล้า... อีกแล้วเหรอ...
นักศึกษาสาขาฟิสิกส์ เป็นกลุ่มหนึ่งที่รับการกล่าวขานว่า เป็น"ขี้เมา"ประจำมหาวิทยาลัยขอนแก่น หาเรื่องเมากันทุกวัน ดีใจเสียใจ หรือนึกอะไรไม่ออก ก็กินเหล้า... ซึ่งแน่นอน ผมไม่เคยเห็นด้วย ไม่ใช่เพราะผมดื่มไม่เป็น หรือ ไม่ดื่ม แต่ ผมมองผลดีของการดื่ม...ไม่ออกเลย ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน นศ.ฟิสิกส์ ก็เมาเหล้าขี้มอเตอร์ไซค์แหกโค้ง (วงเวียนอันสุดประทับใจชาว มข.) สลบไป ...พอรอดมาได้ก็กลายเป็นฮีโร่ซะอีก
การเสียชีวิตของนักศึกษาอันถือเป็นบุคคลใกล้ชิดนั้น ยังความสลดเป็นอันมาก แม้ความตายจะเป็นเรื่องที่เราไม่อาจก้าวล่วงไปได้ แม้ความตายเป็นความเที่ยงที่ยืนยันความไม่เที่ยงของสังขารแล้ว ความโทมนัสก็ยังบังเกิดแก่ผู้ใกล้ชิดกับผู้จากไปยิ่ง ด้วยยิ่งเป็นการตายผิดลำดับเช่นนี้ (ผิดลำดับเช่น ลูกตายก่อนพ่อ หรือ พ่อตายก่อนปู่) ก็ยิ่งสร้างความเศร้าโศกเหลือคณา
ทางหนึ่งก็ขอแสดงความเสียใจกับญาติมิตรผู้ใกล้ชิด ทางหนึ่งก็อาลัยรักต่อศิษย์ ทางหนึ่งศิษย์ผู้นี้ก็ได้สอนเรื่องความไม่เที่ยงและความตายแก่เราเช่นกัน
ท่ามกลางกลิ่นไอหอมหวลของสถาบันการศึกษา ที่ล้อมรอบด้วยอบายมุขทุกรูปแบบ ร้านเหล้าจำนวนมหาศาลที่อยู่รอบรั้วมหาวิทยาลัย สิ่งยั่วยุ มีแทบทุกตารางเมตร ดั่งเช่นโคลนตมใต้น้ำ หากบัณฑิตสามารถเรียนรู้จากความไม่รู้(อวิชชา)เหล่านั้นได้ ปัญญาก็จะเบ่งบานเหมือนดอกบัวที่ได้พ้นจากโคลนตม นั้น เอย
สวัสดีค่ะ
เรียนละเอียด พี่คิมเป็นคนเรียนละเอียดค่ะ ๔ ปีไม่พอแถมอีก ๑ ปีในระดับปริญญาตรีค่ะ
บันทึกนี้เตือนสติได้กับทุกคน น้อง ๆ นักศึกษา และพ่อแม่ของนักศึกษาน่าจะได้มาอ่านด้วยนะคะ
อนิจจัง วัฏสังขารา ครับ
ขอบคุณครูคิม และ ภูฟ้า ครับ
ที่มาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณค่ที่แวะไปเยี่ยมกันในบันทึก ความผิดปกติของแบบเรียนวิชาพระพุทธศาสนา
ความตาย อยู่ใกล้เราเพียงลมหายใจถัดไป
สิ่งใดตามธรรมที่คิดว่าควรทำ
จึงควรรีบทำนะคะ