เกี่ยวกับมูลนิธิเพื่อนไร้พรมแดน
ผู้คนที่อาศัยอยู่ในขอบเขตประเทศไทยมีความหลากหลายทั้งทางสัญชาติ ชาติพันธุ์ วัฒนธรรม ภาษา ศาสนาและความเชื่อ ความคิดเห็นทางการเมือง เราอาจเคยอยู่ร่วมกันมาอย่างสันติ ด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน ทว่าแนวคิดที่แบ่งแยก “พวกเรา” และคนที่ “ไม่ใช่พวกเรา” ให้ “เป็นอื่น” ทำให้คนจำนวนมากเริ่มมอง “ผู้อื่น” หรือ “คนกลุ่มอื่น” ซึ่งมีศาสนา ความเชื่อ ชาติพันธุ์ สัญชาติ “อื่น” เหมือนไม่ใช่มนุษย์ที่เท่าเทียมกัน
หรือในบางครั้ง กระทั่งไม่ใช่มนุษย์
หลายคนไม่ได้เข้าใจว่า “ความเป็นอื่น” เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้น แต่เชื่อว่าเป็นข้อเท็จจริงแนวคิดการ แบ่งแยก“ความเป็นอื่น”ซึ่งได้รับการตอกย้ำผ่านสื่อต่าง ๆ ส่งผลให้เกิดการเลือกปฏิบัติ ไปจนถึงความรุน แรงในสังคมไทย แม้กฎหมายและรัฐธรรมนูญไทย จะเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของทุกคนโดยเท่าเทียมกัน ชนเผ่าพื้นเมือง ชนกลุ่มน้อยทางศาสนา ผู้ลี้ภัย แรงงานอพยพหรือคนพลัดถิ่นจากประเทศเพื่อนบ้านก็ยัง ต้องเผชิญกับสภาพการไม่สามารถเข้าถึงระบบยุติธรรม บริการของรัฐ หรือแม้แต่สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน ของความเป็นมนุษย์ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังถูกตราหน้า และตกเป็นแพะรับบาปต่อกรณีปัญหาทั้งปวงในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาอาชญากรรม ทรัพยากร สิ่งแวดล้อม หรือปัญหาด้านการจ้างงาน
ด้วยเหตุนี้ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีการดำเนินงานด้านการศึกษาการสร้างศักยภาพด้านสิทธิ มนุษยชนและสันติภาพของชุมชนชายขอบและการประสานเครือข่ายภาคประชาชนอย่างเข้มข้นและยั่งยืน เพื่อให้สังคมไทยอยู่ร่วมกันท่ามกลางความหลากหลายทางวัฒนธรรม ชนชาติ สัญชาติ ด้วยการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และสิทธิมนุษยชนซึ่งกันและกัน
มูลนิธิเพื่อนไร้พรมแดนเริ่มดำเนินการในปีพ.ศ.๒๕๔๒ และได้รับการจดทะเบียนเป็นมูลนิธิอย่างเป็นทาง การในปีพ.ศ. ๒๕๕๑