ครูภูมิปัญญาไทยหรือที่ยกย่องกันว่าปราชญ์ชาวบ้าน มีหลากหลายตามความถนัดและการปฏิบัติของแต่ละคนซึ่งมีองค์ความรู้ที่มีการหล่อหลอม ซึมซับ บ่มเพาะ ค้นคว้า ทดลองโดยใช้วิถีชีวิตของตนเองเป็นห้องทดลองขนาดใหญ่ เพื่อทดสอบความถูกผิดแล้วคิดสรรกลั่นกรองสิ่งที่มีคุณค่าแก่ชีวิต แก่แผ่นดิน ถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้สืบสานทั้งที่เป็นมรดกและทั้งที่เป็นสมบัติทางปัญญา ดังนั้นประสบการณ์ความคิดและวิถีการดำรงชีวิตของครูภูมิปัญญาไทยแต่ละท่านล้วนเป็นขุนทรัพย์ทางปัญญาที่สำคัญของแผ่นดิน
ครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ ผู้ซึ่งเรียกตนเองว่า " คนนอกระบบ " เป็นหนึ่งในจอมยุทธ์ปราชญ์ชาวบ้านพหุภาคีอีสาน เป็นชาวอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นผู้ดำเนินชีวิตตามประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงและคำสอนทางพระพุทธศาสนา เป็นบุคคลที่เรียนรู้ตลอดชีวิต โดยเรียนรู้จากปัญหาที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ตัว แล้วนำมาทดลองทำ ลองผิดลองถูก จนสามารถนำความรู้ที่ได้ไปเผยแพร่แก่ผู้อื่นได้ การนำความรู้ที่ได้รับจากการถ่ายทอดจากบุคคล แล้วนำมาจัดประสบการณ์หรือนำไปใช้ มีการจัดหาความรู้ใหม่ นำไปพัฒนาแล้วเผยแพร่สู่เครือข่าย ซึ่งเรียกว่า การจัดการความรู้ ในประเทศไทยนั้นเกิดขึ้นมานานแล้วโดยที่เราไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะในท้องถิ่นต่าง ๆ ก็มีกระบวนการจัดการความรู้กันอย่างน่าสนใจ การจัดการความรู้ของครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์นั้น เป็นการจัดการความรู้แบบฐานการเรียนรู้บูรณาการ ผู้ที่เข้าไปเรียนรู้ จะได้ลงมือปฏิบัติจริง มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อจะนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาและนำไปประยุกต์ใช้ให้เข้ากับท้องถิ่นของตนเอง หรือสถานศึกษาต่าง ๆ การจัดการความรู้จึงนำไปสู่การผลักจิตสำนึกใหม่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงตนเอง และ นำไปสู่การมีเมล็ดพันธุ์แห่งความดี ไปสู่การเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐาน ที่นับได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะนำไปสู่การพ้นทุกข์ร่วมกันได้