โรคที่รักษาไม่ได้


โรคที่รักษาไม่หายรักษาไม่ได้หรือเป็นขั้นสุดท้ายกันแน่ โรคแก่ เจ็บ ตาย สุดท้ายก็ต้องปลง

แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๘  เป็นวันพระใหญ่ เรียกว่าวันธัมมัสสวนะ ปกติในฤดูแห่งพรรษากาลก็เป็นที่นิยมของเหล่าอุบาสกอุบาสิกาได้เข้าวัดฟังธรรมมีการรักษาอุโบสถศีล เจริญภาวนาเป็นประจำตลอดวันยันรุ่ง วันนี้ก็เช่นกันมีญาติโยมอุบาสิกามาจำเริญศีลกันอยู่มิขาดสายแต่ให้แปลกอยู่อย่างโยมอุบาสกไม่มีมา จะด้วยความจำเป็นประการใดก็มิทราบ ถ้าจะว่าแบบคลุมๆเห็นว่าผู้ชายสู้ผู้หญิงไม่ได้ในเรื่องการเข้าวัดปฏิบัติธรรมนี่เองยอมรับโดยปริยาย ท่านอุบาสกเห็นด้วยนะ?

ผมในฐานะผู้นำในวัดวาอารามแห่งนี้(ชั่วคราว)ก็ได้แต่คิดหาหนทางอันนำไปสู่ความสิริสวัสดีแก่บรรดาอุบาสิกาและอุบาสกทั้งหลายนั้น เมื่อคิดไม่ออกก็ได้แต่อาศัยแสงประทีปคือพระธรรมตามที่ได้ร่ำเรียนมาจากครูอาจารย์เก่าก่อน เป็นแสงประทีปใต้ส่องทางเพื่อนำพาเหล่าญาติโยมพุทธบริษัทตามกำลังสติปัญญาสุดความสามารถที่มีอยู่

ในขณะที่กำลังนั่งปลงนอนปลงคิดหาทางอยู่นั้นเอง ก็ให้พิศวงงงงวยเข้าไปใหญ่เมื่อโยมผู้ช่วยขับรถมาหาแล้วถามข้าพเจ้าว่า "ญาคู ญาคู ผมว่าจะพาลูกสะใภ้มาบวชแก้บนตอนค่ำอย่างนี้จะบวชได้ไหม" ผมรึจะรอช้าตอบโดยไม่ต้องคิดเลยว่าได้สิทำไมจะไม่ได้อย่าว่าแต่ตอนค่ำเลยพระพุทธเจ้ายังออกบวชตอนกลางคืนเลย ว่าแต่จะบวชนานหรือเปล่าละ

โยมผู้ช่วยได้ตอบว่ากะว่าสักสามวัน "พุทโธ่ ถัง กะละมัง หม้อ" คิดในใจบวชแค่ ๓ วันจะช่วยอะไรได้ถ้าบารมีไม่เต็มจริงๆ(อุปถัมภกกรรม)บวชสามวันเพราะว่าลูกสาวของแกอายุประมาณขวบกว่าๆเป็นโรคอะไรไม่รู้ไปหาหมอโรงพยาบาลแต่ละที่ก็วินิจฉัยบอกไม่เหมือนกัน บางหมอก็บอกว่าเป็นตับใหญ่ บางหมอก็บอกว่าไม่เกี่ยวกับตับแต่เกี่ยวกับเลือดแต่ที่บอกเหมือนกันก็คือไม่สามารถช่วยได้เพราะเป็นขั้นสุดท้าย โธ่เอ้ย! 

ธรรมดาความรักของแม่แท้ย่อมรักลูกเหนือสิ่งอื่นใดแม้แต่ชีวิตของตัวเองก็ยอมแลกได้ถ้าสามารถ แต่ว่าความรักแท้อย่างเดียวไม่อาจเพียงพอสำหรับช่วยชีวิตของใครบางคนได้ ผมได้ฟังแล้วก็กลุ้มสิครับท่าน อึ้งเพราะไม่สามารถช่วยอะไรโยมได้เลยทำได้อย่างเดียวคือปลงแล้วก็ปลง ภาษาพระท่านบอกว่าปลงสังเวชว่า "ชีวิตของมนุษย์เมื่อเกิดก่อกำเนิดมาแล้วก็บ่ายหน้าไปสู่ความตายทุกเมื่อเช่นนี้เอง" 

ธรรมดาอีกละครับว่าชาวบ้านๆอย่างนี้เมื่อหาที่พึ่งไม่ได้ก็มีอย่างเดียวที่พอพึ่งในบัดสุดท้ายก็คือพระ วัด สุดท้ายก็ไม่รอดมือพระทั้งที่พระเองก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร ความเชื่อสุดท้ายที่ตกผลึกมาแต่ครั้งบุรพกาลก็คือ พระเป็นหมอ เวลาป่วยเป็นโรคอะไรก็แล้วแต่ หมอคือพระผู้วิเศษ บางที่ก็รักษาหาย บางทีก็หายไปจากโลก พระเป็นหมอ วัดเป็นโรงพยาบาล วัดเป็นโรงแรมพิเศษ เอ๋ ถ้าวัดเป็นโรงแรมแล้วพระจะเป็นอะไร? วัดเป็นสนามกลางบ้านเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ถ้าเป็นสมัยนี้วัดต้องเป็นสหกรณ์การเกษตรแน่เลย สัญลักษณ์วัดและพระเป็นอะไรก็ได้ตามใจโยม จริงๆแล้ววัดก็เป็นโรงพยาบาลพระเป็นหมอครับ แต่วิธีการรักษาของหมอพระไม่ต้องใช้ยาอะไรนอกจากธรรมโอสถ ยาที่วิเศษที่สุดก็คือพระธรรมดังสุภาษิตว่า "สักกัตตะวา ธัมมะรัตตะนัง โอสถัง อุตตะมัง วะรังฯ" แปลว่า เพราะการเคารพพระธรรม อันเป็นดังโอสถอันประเสริฐสุด ดับความเร่าร้อนเพราะกิเลสเสียได้ ขออุปัทวะภัยทั้งหลายของท่านจงสงบไปโดยดี ด้วยเดชแห่งพระธรรม ผมก็ไม่รู้แน่ว่าพระธรรมจะช่วยได้แค่ใดกัน แต่ที่แน่ๆก็เป็นที่พึ่งในวาระลมหายใจเฮือกสุดท้ายของใครหลายๆท่าน เขาเรียกว่าตายตาหลับละกัน

คนที่หมดที่พึ่งลูกหลานทิ้งไว้ตามยถากรรมหรือคนป่วยไม่มีญาติพี่น้องมาดูแลนั้นส่วนมากก็ได้วัดกับพระนี่ละครับช่วย ที่เห็นภาพได้ชัดเจนก็คือคนป่วยเป็นโรค HIV  หรือเอดส์ แม้แต่ญาติพี่น้องยังไม่เอาแต่ที่พึ่งสุดท้ายก็ยังเป็นวัด เห็นได้ในวัดพระบาทน้ำพุ แม้ว่าวัดจะไม่ดีในบางที่บางมุม แต่ถ้ามองด้วยใจเป็นกลางสังคมไทยเป็นหนี้พุทธศาสนาอยู่มากโข หลานของผู้ช่วยไม่ได้เป็นเอดส์ดอกครับ แค่เป็นอะไรไม่รู้ที่หมอบอกว่าอยู่ได้อีกไม่เกินปีหรือสองปี ลักษณะท้องบวมใหญ่ แต่ตัวผอมหน้าตาเด็กก็ยังยิ้มหัวอยู่ตอนเย็นพ่อเขายังอุ้มมาหาแม่อยู่เลย น่ารัก น่ารัก

 หัวอกผู้เป็นแม่เมื่อรู้ว่าลูกจะตายในไม่ช้าก็ต้องหาทางช่วยลูกสุดชีวิต มองไปมาเมื่อไม่เห็นเหตุอะไรที่จะช่วยได้ตามแรงผู้หญิงก็ได้แต่อุทิศตัวโกนหัวมาบวชแก้บนเผื่อว่าลูกอันเป็นที่รักเหมือนแก้วตาดวงใจของแกจะหายป่วย กิระได้ยินว่า ตั้งแต่ลูกแกป่วยมาแม่ก็พลอยป่วยไปด้วยกินไม่ค่อยได้นอนไม่ค่อยหลับ ผมเห็นแล้วอดสงสารไม่ได้แต่จะทำกระไรได้สิ่งที่เป็นทั่วไปของสังขารก็คือ ความไม่เที่ยง เจ็บป่วย แล้วตาย ถ้าหากว่าถึงคราวแล้วใครๆก็ไม่อาจช่วยได้มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ตามธรรมดาวิสัยของหมอเมื่อไม่สามารถรักษาได้ก็ได้แต่ปลอบโยนญาติของผู้ป่วยได้ทำใจ ผมก็เหมือนกันเมื่อไม่สามารถช่วยได้ก็เพียงแนะนำพร่ำสอนแม่ของเขาที่มาบวชแล้วให้ได้ตั้งใจปฏิบัติธรรมกรรมฐาน ได้ทำใจไว้บ้างในเวลานั้นมาถึงจริงๆจะได้รับได้ เขาเรียกว่าเตรียมตัวก่อน (ตาย)ได้เปรียบ ตัวเราหรือร่างกายเจ็บป่วยได้แต่สำคัญคือรักษาใจให้ดี

เท่านี้ก็เต็มความสามารถตามหน้าที่หมอพระอย่างผมแล้วละได้ทำหน้าที่รักษาใจแนะแนวทางให้กับญาติโยมที่มาหวังพึ่งถือว่าได้ทำหน้าที่ของพระตอบแทนคุณบ้างก็ยังดี

หมายเหตุ บันทึกนี้อุทิศให้เด็กหญิงภัทรพร ให้หายจากโรคที่ไม่รู้สาเหตุก็แล้วกัน สาธุ

 

 

คำสำคัญ (Tags): #ภัย#เจ็บป่วย#โรค
หมายเลขบันทึก: 384785เขียนเมื่อ 14 สิงหาคม 2010 22:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 พฤษภาคม 2012 12:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

ไม่รู้สินะว่ารู้สึกอย่างไรเมื่อเห็นใครบางคนกำลังจะจมแต่เราไม่สามารถช่วยได้ ในฐานะที่เป็นที่พึ่งสุดท้ายที่พึ่งทางใจ ก็ได้แต่เขียนไว้ให้ท่านทั้งหลายได้อ่าน คุณหมออาจบอกได้ว่าเป็นโรคอะไร?

นมัสการพระคุณท่านครับ   สาระบันทึกของพระคุณท่านล้วนมีประโยชน์ แต่ได้อ่านน้อยมาก   พระคุณท่านส่งบันทึกเผื่อแผ่ให้ถี่กว่านี้จะเป็นการโปรดสัตว์โลกได้มากครับ  สาธุที่แบ่งปันครับผม

เล่นยอซะจนหลุดลุ่ยเลยนะคุณโยม ขอบพระคุณที่ท่านทั้งหลายอ่านแล้วได้ประโยชน์ ความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกันอยู่ บันทึกของแต่ละท่านมีประโยชน์มากบ้างน้อยบ้างตามแต่เป็น การมองว่าเป็นประโยชน์หรือไม่คงไม่สำคัญกับชาวเราเท่ากับการที่เราได้เขียนได้ทำตามใจปราถนา แต่ยังไงก็แล้วแต่การมองเห็นเป็นบวกก็ทำให้โลกมีมุมที่อุ่นเหมือนอ้อมแขนใครบางคน (แม่)

กราบนมัสการค่ะ

       ฝากท่านแนะนำได้ไหมค่ะ ไหนๆเข้าใจว่าอะไรๆก็รักษาไม่ได้แล้ว ลอง น้ำมันมะพร้าวอีกสักอย่างได้ไหมค่ะ เพราะทำเองได้ ใส่ในอาหารหรือนมหรือน้ำ ฯให้ลูกกิน เพราะในกะทิหรือน้ำมันมะพร้าวมีกรดลอริกและอีก 6 กรดไขมันที่เหมือนน้ำนมแม่ กรดลอริก เมื่อเขาร่างกายจะเปลี่ยนเป็นสารชื่อโมโนลอริน  มีฤทธิ์ ฆ่าเชื้อโรคหลายชนิดและต้านทานเชื้อโรค ฯชนิดเดียวกับที่อยู่ในน้ำนมแม่  ที่ทุกคนเกิดมาแล้วกินนมแม่ให้ร่างกายแข็งแรงต้านทานเชื้อโรคได้ วิธีทำ ประโยชน์ อยู่ในบล็อก มหัศจรรย์น้ำมันมะพร้าวนะคะ   

      กานดาขอฝากท่าน แนะนำ ประชาชน ชาวพุทธ ให้หันกลับมาใช้น้ำมันมะพร้าวและกะทิที่ เป็นภูมิปัญญาไทยที่คนไทยลืม หันมาใช้ สิ่งที่มหัศจรรย์ ที่สารอาหารเหมือนน้ำนมแม่ ซึ่งเป็นอาหารชนิดเดียวในโลกตอนนี้ก็ว่าได้ที่เหมือนน้ำนมแม่ ที่หาง่ายและทุกครอบครัวสามารถทำใช้ได้เอง เพราะมะพร้าวหาง่ายมีทุกพื้นที่ของไทยเรา ขอบพระคุณมากค่ะ

                   

                http://gotoknow.org/blog/kanda01     มหัศจรรย์น้ำมันมะพร้าว

นมัสการเจ้าค่ะ

คนเป็นพ่อแม่ แม้รู้ว่าทุกชีวิตล้วนเดินทาง บ่ายหน้าเข้าหาความตาย

ก็อดจะทำอะไรเพื่อยืดเส้นทางของลูกให้ยาวไกลออกไปไม่ได้นะเจ้าคะ

โยมกานดา อาตมาเคยเข้าไปอ่านบันทึกท่านหลายครั้งเหมือนกัน อ่านแล้วได้ความรู้เรื่องของสมุนไพรเชื่อไหมว่าถึงกับให้โยมทำมาให้กระปุกหนึ่ง น้ำมะพร้าวเป็นยามาแต่โบราญดูเหมือนว่าโยมคนเฒ่าคนแก่จะรู้จักใช้ประโยชน์มากกว่าอาตมาเสียอีก แต่ยังไงก็จะบอกต่อให้นะครับ เจริญพร

คุณณัฐนี่ต้องบอกว่าเห็นบล๊อกของท่านแล้วไม่อาจผ่านให้เลยสายตาไปได้ ไม่รู้ไงนะสำหรับบันทึกของคุณโยมทุกท่านอาตมาพยายามอ่านถ้าได้เข้ามา เอาเป็นว่ามีเวลาจะบันทึกความเห็นให้ครบทุกท่านเลย ขอบคุณที่แวะมาอ่านเป็นกำลังใจครับ สาธุ

กราบนมัสการพระอาจารย์ หนูมีโอกาสได้ร่วมดูแลน้องภัทรพร ในช่วงท้ายก่อนที่จะเสียชีวิต งงมากที่อะไรไม่ทราบดลให้มาอ่านบันทึกพระอาจารย์ น้องเสียชีวิตเมื่อคืนตอนตีหนึ่งกว่าๆ เมื่อวานทีมยังได้คุยกับเเม่ พ่อ เรื่องจะประคับประคองให้ยาลดปวดเพื่อน้องจะไม่ปวดทรมาน เเต่ตัวโรคนั้นรักษายากเจ้าค่ะ โรคนี้ในเด้กเล็กเป็นมากเเละส่วนใหญ่จะเสียชีวิต สงสารมากค่ะ ตอนเช้าเดินไปจะไปเยี่ยมน้องเเต่ทราบจากพยาบาลที่ตึกว่าน้องเสียเเล้ว ทางตึกได้ร่วมทำบุญไปกับครอบครัวโดยเเผ่บุญในทีมการพยาบาลได้ตังค์ประมาณ หนึ่งพันบาท คราวนี้คนที่น่าสงสารเเละน่าเห็นใจที่สุดคือเเม่เเละพ่อ

ตอนเช้าได้โทรให้กำลังใจครอบครัว ประมาณ 9 โมง เเม่เเจ้งว่าพึ่งนำศพน้องถึงบ้าน ขอให้น้องบิวไปสู่สุคติเถิด

น่ายินดีอนุโมทนาในส่วนบุญที่ออกมาจากจิตใจของคุณหมอผู้รักษา อาตมาก็เขียนไปตามอารมณ์ที่พาไปไม่รู้ว่าบังเอิญหรืออย่างไรถ้าข้อเขียนเบียดเบียนคุณหมอผู้รักษาก็ขออภัยด้วย อารมณ์ที่เห็นน้องเขาแล้วสงสารมากว่าเอะพ่อแม่ก็พาไปรักษาตั้งแต่ตอนแรกที่ท้องยังไม่โต ไม่น่าจะปล่อยให้ถึงขนาดนี้ได้ นี้เป็นความคิดเท่านั้นโดยที่ยังไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไรรักษาได้แค่ไหน ก็เลยรำพันพิราบไปเรื่อย ยังไงน้องก็ได้เสียไปแล้วก็เลยเขียนบันทึกอีกทีเป็นสิ่งสุดท้ายด้วยลายอักษร ต้องขอขอบคุณคุณหมอที่ได้รักษาจนสุดความสามารถแล้ว

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท