นักเรียน ๑ : อาจารย์เปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่อีกแล้วเหรอ ขอดูหน่อยซิคะ แล้วเครื่องเดิมใช้ได้ถึงปีแล้วเหรอ
ผู้เขียน : ได้ตั้งปีกว่าแล้วนะ
นักเรียน ๒: ทำไมเปลี่ยนบ่อยจัง กลัวว่าไม่ Intrend เหรอคะ
ผู้เขียน : ใครบอกเล่า มีคนขโมยไป ครั้งนี้เล่นยกไปทั้งเครื่องชาร์ตฯเลย
นักเรียน ๒: อาจารย์วางไว้ที่ไหนล่ะคะ
ผู้เขียน : ที่ห้อง สนง. เอเอฟเอสฯนั่นแหละ เผอิญแบตฯหมด ครูจะต้องออกไปธุระ คิดว่าไปไม่นาน แต่เกรงว่าจะมีคนโทรฯมาจึงเปิดเครื่องชาร์ตแบตฯทิ้งไว้บนหลังตู้เย็นด้านในสุด ลับตาขนาดนั้น ใครจะไประวัง….. ล้วงคอกันได้ไง !
นักเรียน ๓ : แล้วอาจารย์ไม่ล็อกห้องเหรอครับ
ผู้เขียน : ก็ช่วงนี้ มีคนมาขอยืมห้องพัก เห็นนั่งอยู่ตลอด
นักเรียน ๒ : อาจารย์สงสัยใครคะ หนูว่าไม่ใช่นักเรียนหรอก พวกหนูไม่ทำอาจารย์อยู่แล้ว หนูไม่เคยเห็นมีนักเรียนคนไหนเข้าไปห้องพักอาจารย์เลย เวลาอาจารย์ไม่อยู่น่ะ
ผู้เขียน : ไม่รู้จะสงสัยใครดี กลัวบาปกรรม ปล่อยไปเหอะ!
ผู้เขียน : พี่นันท์ โทรศัพท์เครื่องนี้สวยดีนะ รุ่นอะไรเนี่ย
พี่นันท์ : รุ่น 2000
ผู้เขียน : รุ่นนี้ไม่รู้จักแฮะ เล่นอะไรได้บ้าง
พี่นันท์ : ไม่รู้ พี่ใช้โทรฯ-รับ แค่นั้นเอง
ผู้เขียน : ยี่ห้ออะไรนะ
พี่นันท์ : ก็ Nokia นั่นแหละ รุ่น 2000 บาทไง( ฮา)
น้องแคท : คราวหลังพี่ต้องซื้อแบบแค่โทรฯออก-รับได้ก็พอแล้ว อย่างโทรศัพท์ของหนูนี่วางปล่อยทิ้ง-ขว้าง ยังไม่มีคนเอาเลย
ผู้เขียน : แหม…. ก็อยากเล่นอย่างอื่นด้วยไง จริงๆ แค่สูงกว่าระดับพื้นๆ ไม่ถึงกับ Full Option สักหน่อย ชอบรุ่นนี้เพราะขนาดมันไม่ใหญ่นัก แต่รองรับ 3 G ได้แค่นั้นเอง
ผู้เขียน : เธอโทรฯมาก็ดีแล้วจะได้ Save เบอร์ไว้ เพราะเบอร์หายหมด
ยัยกล้วย : โทรศัพท์หายอีกแล้วเหรอ บ่อยจัง คราวก่อนก็หายที่เกาหลีไม่ใช่เหรอ
ผู้เขียน : ใช่ พนักงานทำความสะอาดโรงแรมที่เกาหลีต้องลักไปแน่ๆ จำได้แม่นว่าปิดเครื่องเก็บไว้ในกระเป๋าเดินทางที่โรงแรม เพราะนอนพักที่โรงแรมนั้น ๒ คืน
ยัยกล้วย : เขาจะเอาไปทำไม ใช้ได้เหรอที่นั่นน่ะ
ผู้เขียน : จะไปรู้ได้ไงว่า ใช้ได้หรือเปล่า กว่าจะรู้ตัวก็บินกลับมาถึงที่พักในประเทศไทยแล้ว เทกระเป๋าหาทุกซอก-ทุกมุมก็ยังไม่พบ ตั้งใจว่าจะฝากเบอร์ทั้งหมดไว้ที่ศูนย์บริการ แต่ก็ไม่ได้ฝากสักที ……เซ็งเป็ด!
ณ ห้องเรียนภาษาญี่ปุ่น ....
นักเรียน ๑: ไหนอาจารย์บอกว่าจะนำ Talking Dictionary ภาษาญี่ปุ่นมาให้หนูศึกษาไง
ผู้เขียน : ครูยังหาไม่เจอเลยว่าไว้ไหน
นักเรียน ๒: ก็เห็นอยู่ว่ามันอยู่ในตู้ใบนั้น
ผู้เขียน : งั้นเธอเอากุญแจไปไขประตูห้อง แล้วหยิบมาให้เลยละกัน
นักเรียน ๒ : อาจารย์ซื้อมาทำไมรุ่นนี้น่ะ ใช้ยากจะตายไป
ผู้เขียน : ใครจะไปรู้เล่า ก็ฝากเขาซื้อที่ญี่ปุ่น กำชับไปว่าใช้ง่ายๆ นะ เขาก็หวังดีซื้อรุ่นใหม่ล่าสุดมาให้ ราคาเป็นหมื่นเลยนะ เธอไปศึกษาวิธีใช้แล้วมาสอนครูหน่อย ถนอมๆหน่อยนะยะ
นักเรียน ๑ : ต้องเปลี่ยนแบตฯใหม่ ใช้แบตฯ ๔ ก้อน อาจารย์เอาเงินมา ๘๐ บาทแล้วกันค่ะ
ผู้เขียน : ได้... รีบๆศึกษาหน่อยแล้วกัน เป็นปีแล้วยังไม่ได้ใช้งานเลย
วันหนึ่งในอเมริกา
“ วันนี้เราไปแถว China Town กันนะ อยากได้โทรศัพท์มือถือสักเครื่องหนึ่ง เวลาเดินทางคนเดียว มันจำเป็นน่ะต้องเดินทางคนเดียวตั้งหลายมลรัฐด้วย ”
วันถัดมา……
“ ไม่รู้แหละ….. อย่างไรก็ต้องพาไปซื้อกล้องก่อน ไม่มีกล้องใช้สู้กลับเมืองไทยดีกว่า ”
วันถัดไป……
“ คิดดูแล้วนะ ไปหาซื้อ Netbook ดีกว่า เพราะอย่างไรก็ต้องซื้อ Flash Drive หรือไม่ก็ Hard Disk Eternal แต่หากซื้อ Netbook จะได้ประโยชน์หลายอย่าง พิมพ์งานได้ ใช้ Internet ได้ เก็บภาพได้ด้วย ”
พี่ต้อย : นี่ตกลงเธอจะซื้อบ้านและที่ดินที่อเมริกาเลยไหม พี่จะได้พาไปซื้อ (ฮา…..)
น้องอ้อม : เอ๊ะ กล้องตัวนี้ ใช่ตัวที่ซื้อที่ญี่ปุ่นหรือเปล่าคะ
ผู้เขียน : ไม่ใช่จ้า ตัวนี้เป็นแคนนอนสัญชาติอเมริกัน ตัวนั้นดันไปทำหล่นที่หน้า White House
น้องอ้อม : เสียดายนะคะ ตัวที่แล้วใช้ยังไม่ถึงปีไม่ใช่เหรอ
ผู้เขียน : ประมาณ ๘ เดือนจ้า
น้องอ้อม : ตัวก่อนหน้านั้น คนอื่นก็ทำของพี่หายเนาะ
ผู้เขียน : เฮ้อ!
*** สงสัยชาติที่แล้วไปหยิบของคนอื่นมาเยอะ ชาตินี้จึงต้องชดใช้บ่อยเหลือเกิน ***
*** ตกลง Intrend หรือว่าจำเป็น ***
เลือกรุ่นที่ใช้ได้มากที่สุดแต่ไม่ต้องแพงมากครับ
สวัสดีครับ ได้สาระและสนุกดีครับ ขอบคุณที่แบ่งปันครับ
สวัสดีครับ
บังเอิญช่วงนี้กำลังทำโครงการสร้างแกนนำเยาวชนเฝ้าระวังสื่อ มีบางประเด็นน่าจะหยิบยกใช้เป็นตัวอย่างแก่เด็กๆ ได้บ้าง ขอบคุณครับกับเรื่องราวดีๆ ที่แบ่งปัน
สวัสดีค่ะดีจังที่นำมาแบ่งปัน เลือกที่ใช้งานจำเป็นแบบว่าใช้สะดวกไปจะไม่ได้ทำอะไรไปกว่านี้ อิอิ มีความสุขในวันหยุดอีกวันนะคะ
สวัสดีค่ะ
ควรเลือกรุ่นที่การใช้งานของเรา เพราะลูกเล่นใหม่ๆ บางทีไม่ได้ใช้เลย
แพงโดยใช่เหตุ... แต่วัยรุ่นสมัยนี้ไม่คิดเรื่องใช้งาน เป็นเหมือนของประดับไว้อวดกันมากกว่า
แม้ว่าครูใจดีจะเขียนบันทึกเรื่องใหม่จากที่เขียนถึงแม่แล้ว แต่ก็ยังเป็นบรรยากาศของวันแม่อยู่นะคะ พอดีพึ่งได้ภาพแม่เมื่อวันที่ 12 สค. จากกล้องของเพื่อนแม่ค่ะ แม่เป็นตัวแทน อสม.และชุมชนตลาดท่าเสา ถวายพานพุ่ม และจุดเทียนชัยถวายพระ จึงอยากพาแม่มาเยี่ยมชาวบล็อกด้วย วันนี้แม่สวมชุดผ้าไทยสีฟ้า พี่มอบต่างหูให้แม่เป็นในวันแม่ แม่ดีใจมาก ถอดอันเดิม แล้วใส่ต่างหูที่ครูใจดีเอาไปกราบแม่ ใส่เป็นปฐมฤกษ์ วันนี้แม่สวยมากค่ะ
* คุณครู K.Pually ลองทายซิคะว่าแม่ของครูใจดีคนไหน????
* ระถึงเสมอค่ะ
มาชม
อ่านสนุกๆ แต่เศร้าใจตรงที่มีคนชอบมือถือของคุณ เอาไปแบบไม่ขอยืมเลยหนานี่...
อาจารย์ธนิตย์คะ
* ต้องหาวิธีปลอบใจตนเองไง.... จะได้ไม่ต้องคิดมาก-คิดนาน....... ขอบคุณนะคะ....
* อ้อ......เมื่อวานติดร่างแหเข้าประชุมร่วมกับคณะกรรมการสถานศึกษาเพราะเกี่ยวพันเรื่องงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน...หัวข้อหนึ่งในวาระการประชุมคือ การจัดงาน ๑๐๐ ปีโรงเรียนกำแพงเพชรพิทยาคม ... หากอาจารย์ธนิตย์อยู่แถวนี้...คงได้เสนอชื่อให้ร่วมเป็นกรรมการฯ รับผิดชอบงานใด-งานหนึ่งไปแล้ว....นี่เกรงใจนะเนี่ย!
Intrend เรื่องน่าคิด
สมัยพี่รุ่นๆก็ไม่ต่างจากเด็กสมัยนี้
เพียงแต่พี่Intrendกันในบ้าน
ชิ้นไหนเก๋ดูดีก็แย่งกันใช้
เรื่องของหายนี่ พี่ก็บ่อย
เพราะวางไว้บนโต๊ะทำงาน
คิดว่าคนอื่นจะใจเหมือนเรา
แต่ๆก็เครียดเหมือนกัน
คิดอีกที่เขาคงไม่มีปัญญาจึงต้องทำอย่างนี้
จำเป็น มากกว่า Intrend เพราะ หายนี่ค่ะ พอซื้อใหม่ก็อยากได้แบบที่ชอบ
ใช้โทรศัพท์ มือถือก็มีข้อ ควรระวังค่ะ เชิญแวะอ่านนะคะ
http://gotoknow.org/blog/kanda02/385301
เดินคุย โทรศัพท์มือถือ เสี่ยงกล้ามเนื้อเสื่อม
Inrend คือ ซื้อมา 15,000 ใช้ได้ 1,500
จำเป็น คือ ซื้อมา 1,500 ก็ใช้ได้ 1,500 นั่นแหละ
นั่นคือบทสรุปความแตกต่าง
พี่ครูครับ มีอะไรเร่งด่วนไหมครับ ยังอยู่ในค่ายครับ
ป๊ะก็ใช้โทรและรับเช่นกัน สบายดีนะลูกสาวคนสวย