ครูของครูหยุย


ครูปลั่งศรี มูลศาสตร์

ครูของครูหยุย

                ผมเป็นศิษย์มีครู   เป็นศิษย์ที่มีครูหลายคน   แต่หากจะถามผมว่า ครูคนใดของผม ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงชีวิตผมมากที่สุด    คำตอบก็คือ “ครูปลั่งศรี มูลศาสตร์”  ครูที่ผู้คนมากมายในจังหวัดสุรินทร์ให้ความเคารพนับถือตลอดมา 

                 เหตุที่ ครูปลั่งศรี มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงชีวิตของผมนั้น  ไม่ใช่เพราะครูเป็นครูที่สอนผมในห้องเรียน  เหมือนครูคนอื่นๆ  แต่ครูเป็นจุดเริ่มต้นของหลายสิ่งหลายอย่างสำหรับผม

                 หนึ่ง...ครูให้โอกาสตั้งต้นในการเข้าศึกษาต่อในระดับมัธยมปลายแก่ผม  พูดเช่นนี้เพราะผมเป็นคนประเภทไม่ใส่ใจในการศึกษาเล่าเรียนมากนัก  หากแต่หนักไปในทางเกเรและเที่ยวเตร่เสียมาก  การเรียนจึงลุ่มๆ ดอนๆ  สอบผ่านแต่ละชั้นปีมาด้วยเกณฑ์หวุดหวิดหวาดเสียว  ดังนั้นเมื่อถึงคราวไปสอบเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนสิรินธร  จ.สุรินทร์ ในระดับมัธยมปลาย  จึงพลาดและชื่อตกไปอยู่ในกลุ่ม “ตัวสำรอง”

                 ช่วงเวลานั้น  แม้ใจจะหวาดหวั่น แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ไปเอาความกล้ามาจากไหน ถึงอาจหาญเข้าไปพบ ครูปลั่งศรี  ถึงห้องอาจารย์ใหญ่   เข้าพบก็ได้พบ  ทันทีที่พบ  ความหวาดหวั่นในจิตใจก็หายไป  เพราะ ครูปลั่งศรี  ที่ได้พบนั้น  นั่งยิ้มและแววตาเต็มไปด้วยความอารี  

                 เมื่อความหวาดหวั่นหายไป ความกล้าก็เพิ่มมากขึ้น   ครูปลั่งศรีเสนอให้ผมเรียนสายศิลป์  แต่ผมยืนกรานขอเรียนสายวิทย์    ท้ายสุดครูคงทนความดื้อดึงของผมไม่ไหว ก็อนุญาต  โดยมีข้อแม้ว่าต้องตั้งใจเรียนให้มาก  (จำได้ว่าคราใดที่ครูพบเห็น  จะถามเสมอว่าเรียนไหวไหม  ตั้งใจเรียนนะ)

                  ข้อนี้  ครูได้ส่งเสริมให้คนๆ หนึ่ง  มีโอกาสได้เรียน  หากวันนั้นถูกปฏิเสธ  ผมไม่แน่ใจว่าผมจะเรียนต่อหรือไม่  หากไม่เรียนต่อ  ผมก็ไม่ทราบเช่นกันว่า วันนี้ผมจะเป็นอย่างไร  แต่ที่แน่ๆ คือ “ ผมคงไม่ได้เป็นครูหยุย”อย่างแน่นอน

                  สอง..ครูให้กำลังใจและข้อคิดแก่ผมเรื่อยมา  พูดเช่นนี้ด้วยความภาคภูมิใจ เพราะครูได้เขียนจดหมายมาถึงผมหลายครั้งครา  เนื้อความในจดหมาย จะเริ่มต้นกล่าวถึงงานที่ผมทำอยู่เสมอ  ตามด้วยการเล่าถึงข่าวคราวของโรงเรียน  ก่อนจะลงท้ายด้วยการให้กำลังใจและขอให้มุ่งมั่นกระทำประโยชน์เพื่อสังคมสืบไป 

                  จดหมายกระชับ เขียนด้วยลายมือของครู  ทำให้ผมตระหนักเสมอว่า กิจการงาน ข่าวคราวและข้อเขียนต่างๆ ของผมนั้น  อยู่ในการติดตามของครูเสมอ ซึ่งผมก็เชื่อว่าครูได้ติดตามข่าวคราวของลูกศิษย์คนอื่นๆ เช่นเดียวกัน 

                  ข้อนี้  ทำให้ผมได้คิดและบอกตนเองอยู่เสมอว่า  ผมต้องตั้งมั่นในกิจการงานเพื่อสังคมและทุ่มเทใส่ใจช่วยเหลือเด็กๆ ให้มากยิ่งขึ้น  เพราะการทำประโยชน์และความดีมากเพียงใด  ครูของผมย่อมมีความสุขใจมากเพียงนั้น

                  ปีนี้  ครูปลั่งศรีของผม  อายุครบ  80 ปีบริบูรณ์   แม้อายุของครูจะเพิ่มมากขึ้น  แต่ครูทราบหรือเปล่าครับว่า  ครูยังเป็นครู ที่คงมีรอยยิ้มเหมือนเดิม  มีแววตาที่เมตตาอารี เสมอต้นเสมอปลาย  ศิษย์ที่ได้พบครูจะรู้สึกเช่นกันทุกคน คืออบอุ่นและมีความสุข  

                  ในวาระดีงามเช่นนี้  ผมขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์และคุณงามความดีทั้งหลาย  ได้หนุนส่งให้ครูมีสุขภาพสมบูรณ์  มีความสุขกายสุขใจ  เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร  เป็นกำลังใจ  เป็นหลักมั่นให้ศิษย์ทั้งหลายในด้านต่างๆ  นานสืบไป

                                  น้อมกราบครูด้วยความรักเคารพยิ่ง

                                                  ครูหยุย

หมายเหตุ  ข้อเขียนในหนังสือครบรอบ 80 ปี ครูปลั่งศรี มูลศาสตร์ ปูชนียบุคคลของชาวสุรินทร์

 

หมายเลขบันทึก: 371442เขียนเมื่อ 2 กรกฎาคม 2010 11:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (45)

สวัสดีครับครู หยุย มาร่วมเชิดชู บูชาครู ครู ปลั่งศรี ครูดีในดวงใจครับผม

คุณวอญ่าครับ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนนะครับ ผมคิดถึงครูปลั่งศรีครั้งใด ผมรู้สึกมีกำลังใจเพิ่มขึ้นครับ

  • หากวันนั้น ไม่ได้เรียนสายวิทย์ ก็คงไม่ได้หมายความว่า ณ วันนี้จะไม่มีครูหยุย เพราะจะอย่างไร ท้ายที่สุดก็คงเป็นครู ... เพราะจบครุศาสตร์ ....
  • ณ ปัจจุบันก็ยังเห็นแววความเก่งด้านภาษาไทย
  • ดูจากคำตอบใน blog หลาย ๆ คำสดุดหุ สดุดตา
  • ... มะขามป้อม ... ขบแรกฝาด ... นานมากแล้วที่ไม่เคยได้ยินคำนี้
  • ... ภาพดอกไม้ ... พิศแล้วชื่นใจ ... และอื่น ๆ อีกหลายคำ
  • เด็กรุ่นปัจจุบันเค้าคงไม่ใช้กันแล้วมั่ง ...
  • อยากทำเกียรติบัตร " ศิษย์กตัญญู " มอบให้

คุณใยไหมครับ ก็เพราะครูให้เรียนถึงได้เรียน ถ้าไม่ได้เรียนก็ไม่สามารถไปเรียนต่อจนจบครุศาสตร์ จุฬาฯ ได้

ส่วนภาษาที่ใช้นั้น มันออกมาเองโดยอัตโนมัติครับ

ขอบคุณสำหรับเกียรติบัตรที่คิดจะมอบให้ ผมแก่เกินไปแล้วครับ มอบเด็กๆ กตัญญูทั้งหลาย จะยังประโยชน์ มากกว่าครับ

สวัสดีครับ...ครูหยุยอ่านแล้วประทับใจในความเป็นคุรุ...ของ..ครูปลั่งศรี..แม่พิมพ์ที่หล่อหลอมความเป็นครูหยุยผู้ให้กับเด้กด้อยโอกาส......ขาดโอกาส....และพลาดโอกาส......ในสังคมไทย...มีโอกาสพบครูหยุยหลายเวลา...หลายโอกาสทั้งบนเวที..โต๊ะอาหารและสุดท้ายที่รัฐสภา...ท่านทำหน้าที่สมกับเป็นศิษย์มีครูที่ชื่อ...ครูปลั่งศรี มูลศาสตร์..แม่พระของชาวสุรินทร์โดยแท้..ขอชื่นชมทั้งศิษย์และครูที่หล่อหลอม

คุณ ajankoy ครับ ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยียนและช่วยทำให้นึกต่อว่าได้พบกันที่ไหนบ้าง

ในงานวันครบรอบ 80 ปีของครูปลั่งศรี มีลุกศิษย์ลูกหามากันเนืองแน่น แม้แต่ "คุณโกวิท วัฒนกุล"ก็เป็นลูกศิษย์ท่านเหมือนกัน

สวัสดีค่ะ คุณครูหยุย

น้อมระลึกถึงพระคุณครูด้วยคนค่ะ

คุณ New ครับ ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยียนครับ

ขอบคุณสำหรับ ภาพงามกระพริบ ชมพูหวาน ที่ฝากมาให้นะครับ

เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือครูมีครูของครูหยุย ช่างสง่างามเหลือนเกินคุณครูปลั่งศรี

คุณเบดูอินครับ ครูปลั่งศรี มูลศาสตร์ ท่านสง่างามมาก เก่งวรรณศิลป์ชนิดหาตัวจับยากด้วยครับ ผลงานด้านร้อยแก้ว บทกวี บทเพลง มีอยู่จำนวนไม่น้อย

เรียนครูหยุยค่ะ ...ร่วมชื่นชมยินดี กับบันทึกแห่งความประทับใจ

คุณครูคนแรกของครูหยุยค่ะ ...

 

ขอบคุณคุณปิ่นธิดาที่มาเยี่ยมเยียนครับ ขอบคุณสำหรับกล้วยไม้งดงามนะครับ

ขอบคุณครูหยุยค่ะสำหรับกำลังใจ

สวัสดีค่ะ

  • อ่านเรื่องราวของคุณครูปลั่งศรี มูลศาสตร์ แล้วชื่นใจค่ะ
  • นับเป็นความภาคภูมิใจของศิษย์เช่นกันที่จะได้พูดถึงคุณครูผู้มีพระคุณ
  • แป๋มชอบอ่านและสดับเรื่องราวที่แสนจะสร้างสรรค์แบบนี้
  • ขอยกย่องครูศิษย์ที่เป็นแบบอย่างที่น่าชื่นชม
  • คุณครูปลั่งศรี มูลศาสตร์ และคุณครูหยุยค่ะ.

ขอน้อมรำลึกถึงพระคุณครูด้วยคะ

ถ้าไม่มีครู ก็คงจะไม่มีวันนี้ นะคะ

สวัสดีค่ะครูหยุย

อ่านบทความของคุณครูแล้วรู้สึกดีจังเลยค่ะ ทำให้กลับไปนึกถึงคุณครูที่เคยให้ความรู้เรามาตั้งแต่เด็กเลยค่ะ แวะมาให้กำลังใจนะคะ

ขอบคุณครูแป๋มที่มาเยี่ยมเยียนนะครับ ผมเขียนด้วยแรงบันดาลใจและมีความสุขที่ได้เขียนถึงครูของผมนะครับ

คุณประกายครับ ใช่ครับ ถ้าไม่มีครู ก็คงไม่มีวันนี้ครับ

ขอบคุณครับคุณ Eureka ที่มาเยี่ยมเยียนและรู้สึกดีมาก ที่ผมมีส่วนทำให้คุณ Eureka ระลึกนึกกถึงครูเก่าๆ ได้

สวัสดีครับ

  • ตั้งใจมาชื่นชมครูของครูหยุย "ครูปลั่งศรี มูลศาสตร์"
  • ขอขอบพระคุณบันทึกดีดีเช่นนี้
  • พระคุณที่สามครับ

ขอบคุณคุณไทบ้านผ่าที่มาเยี่ยมเยียนครับ เพราะผมมีครูดีเช่นนี้ ผมจึงมีวันนี้ครับ

สวัสดีค่ะครูหยุย ขอบคุณนะค่ะทีแวะเข้าไปอ่านบันทึกเล็กๆของ ต้นไผ่

ก็เลยแวะเข้ามาอ่านข้อความดีๆของครูเช่นกันค่ะ

อ่านแล้วทำให้สามารถตอบคำถามที่ตอนแรกจะถามครูอยู่พอดีเลยค่ะ

ว่าทำไมครูถึงทำงานเกี่ยวกับเด็ก และสังคม

ขอบคุณครับคุณต้นไผ่ที่มาเยี่ยมเยียน และดีใจที่เมื่อได้อ่านแล้ว พบคำตอบ

วันหน้าพูดคุยกันใหม่นะครับ

ข้าพเจ้ารู้สึกปลาบปลื้มและรู้สึกมีเกียรติเป็นอย่างยิ่ง ที่ครูหยุยได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นในบล้อกของข้าพเจ้า...

ได้ยินชื่อของครูหยุยมานานแล้ว ดีใจมากๆที่ได้สัมผัสกับตัวจริงถึงแม้จะผ่านตัวหนังสือก็ตาม..

ข้าพเจ้าถือว่าท่านก็เป็นครูคนนึงของข้าพเจ้า...

หวังว่าสักวันนึง ข้าพเจ้าคงได้มีโอกาสเจอคุณครูในดวงใจ

คุณอรอนงค์ครับ ขอบคุณเช่นกันนะครับที่มาเยี่ยมเยียน และขอให้ได้พบครูในดวงใจเร็ววันนะครับ

ขอรับการสนับสนุนการวิจัยเพื่อเด็กและชุมชน การวิจัยเพื่อเด็กและชุมชน

สวัสดีค่ะครูหยุย..

เนื่องจากข้าพเจ้าคิดว่า สังคมในปัจจุบันนี้มีประชาชนกำลังความถดถอยเรื่องศีลธรรมและขาดความสมัคร สมาน สามัคคี ความมั่นคงเป็นปึกแผ่น ทำให้ข้าพเจ้ามีแนวคิด

ที่จะศึกษาวิจัยเรื่องเกี่ยวกับเด็กและชุมชน 3 เรื่องดังต่อไปนี้

1. บทบาทของพ่อแม่ ผู้ปกครองต่อพฤติกรรมการเรียนรู้ของเด็กในชั้นเรียน

2. บทบาทของบัณฑิตอาสาพัฒนามาตุภูมิ พลังขับเคลื่อนใหม่ของการพัฒนาสู่รากหญ้าที่แท้จริง

3. เด็กรุ่นใหม่ (ในพื้นที่เสี่ยงภัย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้) ยืนหยัดอยู่ได้ด้วยศีลและธรรม

ครูหยุยที่ความคิดเห็นอย่างไรบ้างคะ..

ขอคำแนะนำด้วยค่ะ

คุณอรอนงค์ครับ เข้าใจว่าเรื่องที่หนึ่งนั้น น่าจะมีผู้ทำอยู่แล้ว สำหรับเรื่องที่สองและสามนั้น น่าสนใจมาก เพียงแต่ข้อสามนั้นออกจากกว้างไปสักหน่อย อาจต้องหาคำจัดการความที่ชัดว่า ยืนหยัดอยู่ได้ด้วยศีลและธรรมนั้น เป็นเช่นไร

ขอบคุณค่ะ..สำหรับคำแนะนำ

ข้าพเจ้าจะลองไปสืบค้นหาคำที่มีความเฉพาะเจาะจง แล้วนำมาให้คุณครูช่วยดูให้อีกครั้งนะคะ

คุณครูคะ..

ข้าพเจ้ามีคำถามเกี่ยวกับใบประกอบวิชาชีพครูค่ะ

มีหลายคนพูดกันหลายกระแสมาก แต่ข้าพเจ้าไม่ค่อยจะเชื่อมากนัก กำลังหาข้อมูลอยู่ค่ะ

ถ้าข้าพเจ้าเรียนจบวิทยาศาสตร์ เอกเทคโนโลยีชีวภาพ และกำลังเรียนป.โท สาขาบริหารการศึกษา

ถ้าข้าพเจ้าต้องการเป็นครูของ กศน มีคนแนะนำดังนี้

ทางเลือกที่1

1. ให้ไปเทียบโอนวิชาที่จบ ป.ตรีมา เกี่ยวกับภาษาและคอมพิวเตอร์ รวมทั้งวิชาการสอนวิทยาศาสตร์ที่เรียนมา (ได้ 3 วิชา)

2. เทียบโอนจาก ป.โท หลักสูตรบริหารการศึกษาได้ ประมาณ 4 วิชา

3. ไปอบรมเพิ่มอีก 2 วิชา เพื่อให้ได้ครบ 9 วิชาของมาตรฐานวิชาชีพครู

หมายเหตุ. ช่วงที่กำลังเรียน ป.โท ให้ไปลองสมัครครูอัตรจ้าง หรือสมัครครูผู้ช่วย แล้วเข้าไปท้งานประมาณ 2 ปีแล้วค่อยสอบผู้บริหาร

ทางเลือกที่ 2

1. ลงเรียน ป.บัณฑิตวิชาชีพครู มสํธ.พร้อมๆกับเรียน ป.โท

2. พอจบ ป.โท แล้วให้ต่อ ป.เอก เลย และไปเป็นอาจารย์พิเศษตามมหาลัย

หมายเหตุ. จะได้มีเวลาว่างมาทำงานจิตอาสาและดูแลลูกได้เต็มที่

อาจารย์ช่วยให้คำแนะนำหน่อยได้มั้ยคะ...

คุณอรอนงค์ครับ เรื่องเทียบโอนต่างๆ ตามข้อหนึ่งนั้น ผมไม่แม่นครับ พูดไปจะพลาดได้ คงต้องสอบถามทาง กศน.โดยตรง รู้เพียงแต่ว่า มีการเทียบโอนได้ แต่เห็นด้วยมากกับแนวทางที่สอง เรียนโท มสธ.ด้านครู ตรงเลยครับ ดีใจนะครับที่วงการครู จะได้คนดีมีคุณภาพเพิ่มขึ้นอีกคนในอนาคต แต่หากจบโทจะต่อเอก ก็ดีครับ มหาวิทยาลัยต้องการคนหนุ่มคนสาวเข้าไปเสริมเป็นอาจารย์ประจำมากขึ้น แต่เขาจะมีเงื่อนไขในทางวิชาการอยู่บ้าง เช่นต้องมีการทำวิจัย มีผลงาน เพื่อก้าวไปสู่การได้ตำแหน่ง

ทางวิชาการต่อไป

ขอบคุณอีกค่ะครั้งสำหรับคำแนะนำ..

ข้าพเจ้าอยากจะสอบถามคุณครูตรงนี้พอดีเลยค่ะ..

ถ้าหากเขาจะมีเงื่อนไขในทางวิชาการอยู่บ้าง เช่นต้องมีการทำวิจัย มีผลงาน เพื่อก้าวไปสู่การได้ตำแหน่งทางวิชาการ

แล้วถ้าหากข้าพเจ้าเคยเป็นครูอาสามาแค่ไม่กี่เดือนเอง ถ้าหากจบ ป.เอกแล้วเค้าจะรับมั้ยคะ เพราะประสบการณ์การสอนน้อย

แต่ถ้าหากให้เอาประสบการณ์ทั้งหมดที่ข้าพเจ้ามี มาบูรณาการแล้ว ข้าพเจ้าคิดว่า ข้าพเจ้าน่าจะทำได้ดี

คุณอรอนงค์ครับ มีอาจารย์มหาวิทยาลัยจำนวนไม่น้อย มาเป็นอาจารย์โดยไม่เคยผ่านงานใดใดมาก่อนเลยก็มี เพราะเรียนต่เนื่อง ป.ตรี โทและเอก แล้วค่อยมาทำงานครับ

ผมพิจารณาจากความคิด และประสบการณ์ของคุณอรอนงค์แล้ว สอนได้ครับและเด็กๆ น่าจะชอบด้วย เพราะดูลักษณะแล้ว น่าจะใช้หลักการเรียนการสอนที่เป็นกระบวนการเรียนรู้ มากกว่าถ่ายทอดความรู้

อ่านแล้วรู้สึกรักคุณครูมากเพิ่มขึ้นเลยครับ

ขอบคุณครับคุณ ดีใจ ที่อ่านแล้วเกิดแรงบันดาลใจเช่นนั้น

ดีมากเลยครับครูหยุย ช่วยกันเผยแพร่ครูดีๆให้เป็นที่รู้จักกันครับ

คุณ tumdee ครับ ต้องช่วยกันหลายๆ ทางนะครับ เมื่อคนดีปรากฎมามาก โลกจะสดใสและมีความหวังมากขึ้นครับ

  • ดีจัง...ครูหยุยได้กลับไป จ.สุรินทร์อีกแล้ว (จากบันทึก ... ฉัตรวิมล)
  • ได้โอกาสกลับไปเยี่ยมครู และเติมเต็มความรู้สึกดี ๆ ระหว่างครูกับศิษย์

  

ครับ ผมไปสุรินทร์คราวนี้ ออกจะหนักเรื่องการเดินทางนะครับ ไปเยี่ยมเด็กหลายคน คนละทิศละทางทั้งนั้น ไม่เป็นไรครับ ยังหนุ่ม.....น้อย

  • ครูหยุย (หนุ่ม ... น้อย) มีความทรงจำดี ๆ ทำให้เกิดความรู้สึกอยากทำดี ให้กับครูที่ให้โอกาสเรา
  • แล้วสถานการณ์แบบปัจจุบัน ที่ครูทำหน้าที่สอนหนังสือ เด็กจะเกิดความผูกพันแบบนี้ได้อย่างไร
  • เชื่อว่า " สำนึกรักบ้านเกิด " จะทำให้คนกลับไปดูแลพัฒนาแดนดินถิ่นเกิด

คุณอรรถครับ คำถามนี้ทำให้ผมนึกถึงที่ผมเคยบันทึกเรื่อง ผมเป็นคนสุรินทร์ แต่รู้จักสุรินทร์น้อย เมื่อเรารู้จักบ้านเกิดเมืองนอนน้อย เราจะมีสำนึกรักบ้าเนกิดน้อยไปด้วย คงต้องฟื้นกันยกใหญ่ครับ

  • ขอคารวะครูอาชีพทุกท่าน ด้วยดวงใจด้วยคนครับ

คุณสามสักครับ ขอบคุณมากครับ แม้ครูทุกวันจะมีความเป็นปูชนียบุคคลน้อยลง แต่ส่วนมากยังกราบเคารพนบไหว้ได้ครับ

  • สวัสดีครับคุณครู
  • คนเราก้าวหน้าได้เกิดจากการได้รับโอกาส และเมื่อได้โอกาสแล้ว ก็มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาตนเองตามที่ตั้งใจจากโอกาสที่ได้รับครับ
  • ขอชื่นชมท่านคุณครูปลั่งศรี ที่ท่านให้โอกาสแก่ลูกศิษย์ครับนับว่าท่านเป็นตัวอย่างแก่คุณครูทุกท่าน เพราะปัจจุบันเราจะเห็นว่าจะมีคุณครูที่ไม่ผลักไสปัญหาโดยเฉพาะเด็กที่มีปัญหา และชื่นชมคุณครูหยุยด้วยครับ เมื่อได้รับโอกาสนั้นแล้วก็มุ่งมั่นพัฒนาตนเองจนสามารถช่วยเหลือคนอื่น ๆ อีกมากมายตามมา จากที่คุณครูกล่าวว่า  "ผมต้องตั้งมั่นในกิจการงานเพื่อสังคมและทุ่มเทใส่ใจช่วยเหลือเด็กๆ ให้มากยิ่งขึ้น  เพราะการทำประโยชน์และความดีมากเพียงใด  ครูของผมย่อมมีความสุขใจมากเพียงนั้น" ท่านอาจารย์ปลั่งศรีให้โอกาสคนไม่ผิดจริงๆ ครับ
  • มีความสุขในการทำงาน และมีความสุขในวันแม่ครับ

 

คุณชำนาญครับ ครูปลั่งศรีได้ให้หลักสำคัญในการทำงานแก่ผมจนถึงปัจจุบันคือ ความเชื่อมั่นในชีวิตคน การให้โอกาสแก่คนครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท