ตามรอยพอเพียง1: เรียนรู้และแบ่งปัน


วันอาฑิตย์วานนี้ ฝนตกปรอย ๆ   ตั้งแต่ช่วงบ่าย คุณพ่อบ้านชักชวนเด็ก ๆ ทำขนมโคกิน ผู้เขียนได้ยินแล้วก็นึกอยากกินขึ้นมาด้วย  ก็บรรยากาศฝนตก ๆ  ได้กินขนมโคร้อน ๆ  ที่เพิ่งทำเสร็จ (แต่ก็อดนึกในใจไม่ได้ว่า ถ้าหาซื้อกินเองน่าจะง่าย และอร่อยกว่ารึเปล่าน๊า! แต่ก็เก็บเอาไว้ในใจ) ....

อุปกรณ์เครื่องปรุงก็มีไม่กี่อย่าง ก็มีแป้ง น้ำผึ้งแว่น และมะพร้าว(สำหรับคลุก)

การทำก็แสนจะง่ายดาย ก็แค่ผสมแป้งกับน้ำให้พอเหมาะพอดี พอให้ปั้นได้ ไม่ติดมือ แล้วก็นำน้ำตาลแว่นมาผ่าเป็นก้อนเล็ก ๆ  แล้วนำแป้งมาห่อ หลังจากนั้นก็นำไปต้มในน้ำเดือดให้แป้งสุก (สังเกตจากขนมจะลอยขึ้น) แล้วตักขึ้นมาคลุกกับมะพร้าว เป็นอันเสร็จ

<p>Kanhom2  Kanhom3</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">แต่จะทำให้อร่อยน่ะมันยากแฮะ หลังจากลองไปหม้อแรก รู้สึกว่ามันจืด ๆ เบา ๆ คุณพ่อบ้านก็ลองนำเกลือมาผสมกับแป้งเล็กน้อย ก่อนที่จะนำไปห่อ รสชาดก็ดีขึ้น การห่อก็เหมือนกันคุณพ่อบ้านย้ำนักย้ำหนาต้องห่อน้ำตาลให้มิดชิด ไม่งั้นแป้งมันจะแตก </p>  <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ดูเหมือนแรก  ๆ พวกเด็ก ๆ จะสนุกกับกิจกรรมห่อแป้งกับน้ำตาล แต่สักครู่ก็ชักเริ่มเบื่อสังเกตจาก หลัง ๆ  ลูกขนมโคดูเหมือนจะใหญ่ขึ้น ๆ เพื่อจะให้เสร็จไวไว ฉะนั้น</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ตอนกินต้องระวังให้ดีเพราะอาจโดนวางยา มีแต่แป้งเพียงอย่างเดียวแต่ไม่มีไส้อยู่ข้างใน (แต่ผู้เขียนก็ใช้เทคนิคใช้ช้อนส้อมเขี่ยก่อน ถ้ามีก้อนน้ำตาลถึงจะนำขึ้นมากิน)</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p>การทำทานเองก็ดีไปอย่าง เป็นต้นว่า…..</p><p>1.ร่วมกันทำกิจกรรม
2.เรียนรู้ด้วยกัน
3.รู้จักอดทน
4.รู้จักแบ่งปัน
</p><p>เด็ก ๆ ได้เรียนรู้การทำขนมร่วมกัน แบ่งสันปันส่วนกันทำหน้าที่แล้ว ยังมีเหลือแบ่งปันให้กับคุณยายและน้า ๆ ของพวกเด็กอีกด้วย …..</p><p>Kanhom1</p><p></p><p></p>

หมายเลขบันทึก: 35599เขียนเมื่อ 26 มิถุนายน 2006 08:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:26 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
น่ารักจัง ทำกันทั้งบ้านเลย ผิดกับคุณเมตตา เมื่อวานนี้คุณพ่อบ้าน บอก "เธอทำผัดเปรี้ยวหวานให้กินหน่อยซิ" คุณเมตตา บอก "จะกินอย่างเดียวเหรอ ไปหยิบกุญแจรถมาเดี๋ยวไปซื้อให้นะจ๊ะ"  การทำอะไรทานกันเองในบ้าน นอกจากจะได้อย่างที่ได้ 4 ข้อข้างต้น ที่คุณศิริว่าไว้ จะได้รู้ว่า  คนที่เขาทำขายนั้นยากลำบากอย่าไปต่อเขาให้มากเวลาซื้อ  

เห็นด้วยค่ะ เห็นใจคนที่ทำขายเช่นกันค่ะ กว่าจะทำเสร็จจนออกขายได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ไหนจะต้องเก็บกวาด เช็ด ล้างอีก ตัวเองเห็นด้วยว่า เราก็ไม่ควรจะไปต่อเขามากนัก โดยส่วนตัวตัวเองก็ไม่ค่อยต่อมากนัก ถ้าราคาไม่สูงจนเกินไป

น่ากินมากค่ะ  หากจะตั้งชื่อขนมโคให้แปลกดูหรูหรา  แปลกใหม่  น่าสนใจ  ควรจะตั้งชื่อว่าอะไรดีคะ

กรุณาตอบด่วน  กำลังรอคำตอบ

ขอบคุณค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท