ขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
คุณครูทอมป์สันโกหกนักเรียนชั้น ป. 5 ของครูทั้งชั้นซะแล้ว
ตั้งแต่วันแรกเลยด้วย คุณครูบอกเขาว่าครูรักเด็กๆ เท่ากันหมดเลย
แต่นั่นก็เป็นไปไม่ได้... เพราะว่ามีเด็กตัวเล็กๆ ท่าทางขี้เกียจคนนึง
ชื่อ เท็ดดี้ สต๊อดดารด์. ครูทอมป์สันได้จับตาดูเท็ดดี้มาปีนึงและ
สังเกตว่าเขาไม่ค่อยเล่นดีๆ กับเด็กคนอื่นเท่าไหร่
เสื้อผ้าของเขาสกปรกและเค้าตัวเหม็นหึ่งอยู่ตลอดเวลา
และบางทีเท็ดดี้ก็เกเรด้วย
ถึงขั้นที่ว่าครูทอมป์สันสนุกกับการตรวจงานของเท็ดดี้ด้วยหมึกสีแดง
กากบาทไปหนาๆ และใส่ตัว F ตัวใหญ่ๆ ลงไปบนหัวกระดาษ
ที่โรงเรียนที่คุณครูทอมป์สันสอน - - -
คุณครูต้องทบทวนประวัติของเด็กแต่ละคนด้วย
และครูก็ไม่ยอมตรวจประวัติของเท็ดดี้จนกระทั่งเหลือแฟ้มสุดท้าย
แต่เมื่อคุณครูตรวจแฟ้มเข้า ครูทอมป์สันก็แปลกใจใหญ่เลย เมื่อพบว่า
….
ครูชั้น ป. 1 ของเท็ดดี้วิจารณ์มาว่า "น้องเท็ดดี้เป็นเด็กที่ฉลาดและร่าเริง
ทำงานเรียบร้อย มารยาทดี เป็นเด็กที่น่ารักมากทีเดียว"
คุณครูที่สอนเท็ดดี้ตอน ป. 2 เขียนว่า "เท็ดดี้เป็นเด็กที่เรียนเก่งมาก เพื่อนๆ
ชอบกันทุกคนแต่กำลังมีปัญหา
เพราะแม่ของเท็ดกำลังป่วยหนักและชีวิตทางบ้านต้องลำบากมากแน่ๆ"
คุณครูที่สอนเท็ดดี้ตอน ป. 3 เขียนว่า "เขาเสียใจมากที่เสียแม่ไป
เขาพยายามเต็มที่แล้วแต่คุณพ่อก็ไม่ค่อยให้ความรัก
ความสนใจเขาเท่าไหร่ และชีวิตที่บ้านเขาต้องส่งผลกระทบต่อเขาแน่ๆ
ถ้าไม่มีคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ"
คุณครูที่สอนเท็ดดี้ตอน ป. 4 เขียนว่า "เท็ดดี้ไม่ยอมเข้าสังคมและไม่ค่อยสนใจการเรียนเท่าที่ควรไม่ค่อยมีเพื่อน
และหลับในห้องเรียน
ตอนนี้
คุณครูทอมป์สันรู้ถึงปัญหาแล้ว และอับอายในการกระทำของตนเองมาก
ครูรู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิมอีกเมื่อนักเรียนในห้องซื้อของขวัญวันคริสต์มาสมาให้ห่อในกระดาษสีสดๆ
พร้อมผูกโบว์อย่างดี ยกเว้นแต่ของเท็ดดี้
......ของขวัญของเท็ดดี้ถูกห่ออย่างหยาบๆ
ในกระดาษลูกฟูกหนาๆที่ได้มาจากถุงใส่กับข้าวครูทอมป์สันกัดฟันเปิดกล่องของเท็ดดี้ดู
กลางกองของขวัญอื่น ๆ
เด็กบางคนเริ่มหัวเราะเมื่อเห็นว่าเท็ดดี้ให้กำไลลูกปัดที่ไม่ครบเส้นและขวดน้ำหอมที่เหลือน้ำอยู่ก้นขวดแก่เธอ
แต่ครูก็หยุดเสียงหัวเราะของเด็ก ๆ ....
เมื่อครูเอ่ยขึ้นว่ากำไลเส้นนั้นสวยเพียงใดสวมมันไว้ที่ข้อมือ
และฉีดน้ำหอมไปบนข้อมือด้วย เท็ดดี้ สต๊อดดารด์
นิ่งอยู่นานพอที่จะพูดว่า "ครูทอมป์สันครับ
วันนี้ครูตัวหอมเหมือนที่แม่ผมเคยหอมเลยครับ"
หลังจากที่นักเรียนทุกคนกลับบ้าน
ครูทอมป์สันก็ร้องไห้อย่างนั้นเป็นชั่วโมง วันนั้นเอง
คุณครูเลิกสอนหนังสือ เลิกสอนการเขียน และเลิกสอนเลขคณิต
.......คุณครูเริ่มสอนเด็กๆ แทน .....
คุณครูทอมป์สันเอาใจใส่เท็ดดี้เป็นพิเศษ เมื่อครูพยายามช่วยเขา
จิตใจของเขาก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ยิ่งครูให้กำลังใจเท็ดดี้เท่าไหร่ เขาก็ยิ่งตอบรับเร็วขึ้นเท่านั้น
ภายในสิ้นปีนั้น เท็ดดี้ได้กลายเป็นเด็กที่ฉลาดที่สุดในห้อง
และแม้ว่าคุณครูจะบอกว่าครูรักเด็กทุกคนเท่ากัน
เท็ดดี้ก็ได้กลายไปเป็น"ศิษย์โปรด" ของครู
หนึ่งปีต่อมา
คุณครูพบจดหมายอยู่ใต้ประตู จดหมายนั้นมาจากเท็ดดี้
บอกครูว่าคุณครูยังเป็นครูที่ดีที่สุดที่เขาเคยมี
หกปีต่อมาครูก็ได้จดหมายจากเท็ดดี้อีก บอกว่าเขาเรียนจบ ม.ปลายแล้ว
ได้ที่สามในทั้งระดับ
และคุณครูยังคงเป็นครูที่ดีที่สุดที่เขาเคยเจอมาในชีวิต
สี่ปีหลังจากนั้น คุณครูก็ได้จดหมายอีก
บอกว่าแม้ว่าชีวิตเขาจะลำบากบ้าง เขาก็ไม่ได้เลิกเรียนหนังสือ
และจะจบปริญญาตรีในเร็วๆ นี้ด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง (เหรียญทอง)
และยังย้ำกับครูทอมป์สันว่า
คุณครูเป็นครูที่ดีที่สุดและเป็นครูคนโปรดในชีวิตเขา
จากนั้นสี่ปีผ่านไปแต่จดหมายอีกฉบับหนึ่งก็มา
ครั้งนี้เขาอธิบายว่าหลังจากที่เขาได้รับปริญญาตรีแล้ว
เขาตัดสินใจที่จะเรียนต่ออีกนิด
จดหมายนั้นอธิบายว่าคุณครูยังเป็นครูคนที่ดีที่สุดที่เขาเคยมี
แต่ตอนนี้ชื่อของเขายาวขึ้นอีกหน่อย จดหมายนั้นลงชื่อว่า นพ. ทีโอดอร์ เอฟ
สต๊อดดารด์
เรื่องยังไม่จบแค่นี้นะ คือว่า ฤดูใบไม้ผลินั้นก็ยังมีจดหมายมาอีก
เท็ดดี้บอกว่า เขาได้เจอสาวคนนึงและก็จะแต่งงานกัน
เขาอธิบายว่าพ่อของเขาได้เสียไปเมื่อสองสามปีก่อนและเขาสงสัยว่าคุณครูทอมป์สันจะตกลงมานั่งในที่นั่งสำหรับพ่อ-แม่เจ้าบ่าวในงานแต่งงานหรือไม่
..........แน่นอนที่สุด ครูทอมป์สันก็มา
และทายสิว่าเกิดอะไรขึ้น......
คุณครูใส่กำไลข้อมือเส้นนั้น เส้นที่มีลูกปัดหายไปหลายลูก
และต้องฉีดน้ำหอมที่เท็ดดี้จำได้ว่าแม่เขาฉีดตอนที่ฉลองเทศกาลคริสต์มาสครั้งสุดท้ายด้วยกัน
ครูกับศิษย์กอดกันกลมเลย และคุณหมอเท็ดก็กระซิบในหูคุณครูทอมป์สันว่า
"ขอบคุณมากนะครับคุณครูที่เชื่อในตัวผม
ขอบคุณมากที่ทำให้ผมรู้สึกสำคัญและแสดงให้ผมเห็นว่าผมสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ
ได้"
ครูทอมป์สันกระซิบตอบพร้อมน้ำตานองหน้าว่า "หมอเท็ด เธอเข้าใจผิดแล้วแหละ
เธอต่างหากที่สอนครูว่าครูสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ได้
ครูไม่รู้จักการสอนจนกระทั่งครูได้รู้จักเธอ..."
เรื่องเล่าดีดีแด่คุณครูทั้งหล้าค่ะ..
ที่มา : fwd mail
ขอบคุณเรื่องเล่าที่ให้คติดีๆค่ะ..ขอให้ครูแป๋มมีความสุขมากๆนะคะ..พี่ใหญ่ใจจดจ่อขอให้...
น้องแป๋มเรื่องเล่านี้ดีจริงๆ
ถ้าเราไม่รีบตัดสินคนเพียงแต่สิ่งที่เห็นภายนอก
เราให้โอกาสและยื่นมือออกไปช่วยเหลือเขา
ด้วยความจริงใจ ด้วยความรัก
ผลตอบแทนของการดูแลด้วยความเข้าใจมันดูมีคุณค่ามากมายต่อชีวิตคนนะคะ
ทั้งครูทั้งศิษย์มีสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนกันคือความเชื่อ..เชื่อว่าเป็นไปได้
ไม่อยากจะบอกว่า ครู ป.1 เข้าใจสถานการณ์แบบนี้ดี
พบเห็นมามากเลย..แม้ไม่มี นพ.เท็ดดี้แบบในเรื่องนี้
แต่ก็มีคนธรรมดาที่เป็นคนดีในสังคมได้ .. เช่นกัน
สวัสดีค่ะ คุณพี่ใหญ่ นงนาจ
สวัสดีค่ะ คุณพี่นาง มณีวรรณ
สวัสดีคะพี่ครูแป๋ม เป็นเรื่องที่ได้เรียนรู้มากค่ะ
สิ่งที่เราเห็น เราคิดอาจจะไม่ใช่อย่างที่เราคิดไว้
ความรักความเมตตา ต่อกัน ให้มากที่สุดค่ะ
ขอบคุณมากมายค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณพี่ครูป.๑
เมื่อหนูอ่านจบแล้ว หนูรู้ได้ถึงการที่คนเราตัดสินบุคคลแต่ภายนอก ทั้งยังยึดติดกับความคิดและความเชื่อของตนเอง ทั้งนี้มีพื้นฐานของมนุษย์ข้อนึงที่ไม่เคยเปลี่ยน คือชอบคิดเข้าข้างตัวเอง คิดว่าตัวเองคิดถูกแล้ว โดยที่ไม่ได้มองลงไปถึงปัญหานั้นๆอย่างแท้จริง หนูคิดว่าถ้าเราเจอเด็กชายคนนั้นจริงๆ เราน่าจะนำกลับมาคิดว่าเหตุใดเด็กชายจึงเป็นเช่นนั้น เพราะทางบ้านของเขาจนหรือ? ทางบ้านของเขามีปัยหาหรือเปล่า? หรือเด็กชายมีปัญหาทางการเรียน หรือเขามีปัญหากับเพื่อนๆ ถ้าเราลองเดินเข้าไปพูดคุยถามถึงปัญหานั้นสักนิด แทนที่เราเราจะมานั่งมีอคติต่อเด็กซึ่งครูไม่ควรทำเช่นนั้นเลย ยิ่งเห็นเด็กมีปัญหาครูยิ่งต้องช่วย แต่ก็ต้องให้เค้าร่วมเสนอความคิดเห็น เราเพียงชี้แนะแนวทาง และเอาใจใส่ เมื่อหนูเฝ้าดูน้อง เหมือนหนูกำลังมองดูตนเองในอดีต เคยซุกซน เอาแต่ใจ งอแงเพื่อเรียกร้องความสนใจ เด็กเป็นสิ่งมีชีวิตที่เปราะบาง เมื่อมีสิ่งที่มากระทบต่อจิตใจก็อาจจะเปราะแตกง่าย ต้องทะนุถนอมแต่ก็อย่าทะนุถนอมจนเกินไป เมื่อถึงเวลาควรให้เค้าเผชิญกับปัญหาบ้าง เพื่อที่เค้าจะได้รู้จักการแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง แน่นอนการสูญเสียแม่อันเป็นที่รักเป็นใครก็ต้องเสียใจ เมื่อแม่เสียไปพ่อก็ต้องทำงานหนักยิ่งขึ้น อาจทำให้ไม่มีเวลามาใส่ใจดูแลมากนัก ทำให้เด็กเกิดปมในใจ การที่เกเรกับเพื่อนอาจเป็นการแสดงออก ที่อยากจะให้เพื่อนๆหันมาสนใจตน การกระทำของครูที่บอกว่าสนุกกับการตรวจงานด้วยหมึกสีแดงและเขียนตัวFตัวใหญ่ๆลงในกระดาษ แสดงถึงการขาดจริยธรรม และขาดจิตสำนึกในการเป็นครู ครูจะไม่ซ้ำเติมเด็ก ครูมีหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ เอาใจใส่เด็ก ยิ่งถ้าเด็กคนนั้นดูท่าทางมีปัญหา ครูยิ่งจะต้องสังเกตุสืบหาต้นเหตุ แต่เมื่อครูทราบถึงปัญหาและเสียใจกับการกระทำของตนเองแล้ว เขาก็เอาใจใส่เด็กชายมากขึ้นแสดงถึงว่าความเป็นครูของเค้าเพิ่มมากขึ้นแล้ว ของขวัญที่เด็กชายให้ แสดงถึงการที่เด็กชายยอมรับในตัวของครู และให้ความสำคัญกับครู ใครจะรู้..บางทีกำไลลูกปัดเส้นนั้นอาจจะเป็นของแม่ของเด็กชายก็ได้ ทำให้เรารู้ได้ว่าเด็กชายรู้สึกดีเพียงไรที่มีคนเอาใจใส่ แล้วเขาก็กลับมาเป็นเด็กชายที่น่ารักอีกครั้ง หนูประทับใจประโยคที่บอกว่าเค้าเลิกสอนหนังสือ เลิกสอนเลข แต่หันมาสอนเด็กๆแทน ตอนนี้หนูกำลังจะขึ้นม.๕ค่ะ พอได้อ่านบทความนี้ทำให้ได้คิดอะไรหลายๆอย่าง ทัศนคติของหนูยังไม่กว้างนักแต่หนูก็เขียนตามที่หนูคิด
ขอเป็นกำลังใจให้กับครูทุกท่าน
ศิษย์ของครู
น้องครูเเป๋มพีกุ้งอ่านไปขนลุกไป ทำไมเป็นเช่นนั้น เห็นน้องเเป๋มบอกว่าต้องอ่านให้จบจึงตั้งหน้าตั้งตาอ่าน เป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจจริงๆค่ะ คิดถึงนะคะ
สวัสดีค่ะ
มาขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมค่ะ
เคยมีโอกาสช่วงหนึ่ง(2 ปี)ได้สอนคอมพิวเตอร์ และภาษาอังกฤษพื้นฐาน(เรียกครูได้ป่าวคะ????)
แต่เนื่องจากเป็นคนที่ค่อนข้างจะเคี่ยวกะนักเรียน
หลายคนก็ไม่ชอบ(แต่ก็มาเรียน) แล้วก็ไปบ่นลับหลังว่า "ครูเคี่ยว"
คือถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ให้ผ่านเลยอ่ะค่ะ(สอบไม่ได้ครึ่งคะแนนก็ไม่ให้ผ่านค่ะ ลงเรียนใหม่)
แต่หลังจากที่ไม่ได้สอนแล้ว
นักเรียนหลายคนบอกว่า "ทำไมครูไม่กลับมาสอนอีกคะ"
ก็เลยแกล้งตอบแซวนักเรียนไปว่า....
ครูชอบหน้าที่ใหม่เพราะได้ไปเจอะเจอผู้คนข้างนอก...
คนในศูนย์ฯ เจอทุกวัน เบื่ออ่ะ
ขอบคุณสำหรับบันทึกดีดีนะคะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณพอลล่า
สวัสดีค่ะ พี่กุ้ง ที่คิดถึง
สวัสดีค่ะ
* แม้ว่าจะเคยอ่านมาแล้วหลาย แต่อ่านอีกเมื่อไหร่เป็นต้องน้ำตาไหลด้วยความซาบซึ้งใจทุกครั้งค่ะ...
* ขอบคุณมากนะคะ ที่นำเรื่องราวดีๆ อย่างนี้ มาเล่าสู่กันฟัง เป็นเรื่องที่มีคุณค่ามากค่ะ
* ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
คอบคุณคะที่มีความรู้ดีๆมาให้อ่านเป็นอีกคนหนึ่งที่อ่าวแล้วรู้สึกประทับใจและน้ำตาไหลทุกทีที่โรงเรียนก็มีเด็กที่เป็นแบบนี้เหมือนกันคะพอเราเข้าใจเขาพอเด้กมีเรื่องอะไรก็จะมาพูดให้เราฟังเพราะเชื่อใจไว้ใจและรักเราพอเด็กจบการศึกษาไปที่อื่นก็ยังกลับมาไหว้เหมือนเดิมเพราะเขามีความรู้สึกดีๆตลอดเวลาอยากให้คุณครูทุกท่านเป็นอย่างคุณครูในบทความข้างบนคะ
สวัสดีค่ะ คุณพี่krugui Chutima
สวัสดีค่ะ หนูLightAngle
สวัสดีค่ะ คุณ Natcha Chalermklang
สวัสดีค่ะ คุณพี่ครูใจดี
สวัสดีค่ะ คุณพี่ใหญ่ นงนาท สนธิสุวรรณ
สวัสดีค่ะ คุณtukta
สวัสดีค่ะอาจารย์
สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณน้องซิลเวีย
สวัสดีค่ะ คุณพี่คิม ที่คิดถึง
สวัสดีครับคุณครูแป๋ม
ดั่งเรื่อง ครูทอมป์สัน และเท็ดดี้
ขอให้คุณครูแป๋มมีความสุขนะครับ
จากศิษย์หลังห้อง
สวัสดีค่ะ คุณสิทธิชัย
สวัสดีครับครู แป๋ม
"หมอเท็ด เธอเข้าใจผิดแล้วแหละ เธอต่างหากที่สอนครูว่าครูสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ได้ ครูไม่รู้จักการสอนจนกระทั่งครูได้รู้จักเธอ..."
เก็บบันทึกนี้ไปเล่าต่อครับครู
สวัสดีค่ะ ท่านวอญ่าฯ
สวัสดีค่ะครูพี่แป๋ม .. เรื่องราวดีๆ สร้างสรรค์ อ่านกี่ครั้ง มิรู้เบื่อ
... เรื่องเล่าเร้าพลัง จะช่วยจุดประกาย แรงบันดาลใจให้เด็กๆ
เหมือนน้องสาว ที่เค้า อ่าน ปุลากง ... เธอซึมซับ มีความคิด
เลียนแบบพฤติกรรมดีๆ ของตัวละคร และสะท้อนมุมมองต่างๆ
... ขอบคุณค่ะพี่ มีความสุขในวันหยุดอาทิตย์หน้านะคะ ;)
สวัสดีค่ะ แวะมาอ่านเรื่องครูทอมอำเด็กค่ะ..น่ารักดีน่ะค่ะ
ใกล้เปิดเทอมแล้ว หลักสูตรก็ยังไม่เรียบร้อย..โอย!..ปวดเฮดค่ะ..
สวัสดีค่ะ คุณpoo
สวัสดีค่ะ คุณครูบันเทิง
สวัสดีคะน้องแป๋ม พี่สุก็เคยได้รับ FW เมลย์เรื่องนี้คะ ประทับใจมากนะคะ อ่านเท่าไหร่ ก็ยังน้ำตาซึม ที่คุณครู เข้าใจ นักเรียนทุกๆๆคน แบบยุติธรรม สิ่งที่ตามมาก็คือกำลังใจที่มีให้กันตลอดมา ซึ้งคะ ซึ้งตรงที่ทุกๆคนต่างก็ได้แรงบันดาลใจจากกันและกัน และสามารถ พลิกผัน นำไปสู่แต่สิ่งดีดีคะ ขอบคุณนะคะ ที่นำสิ่งดีดีมาให้กันอ่านคะ
-สำหรับคุณครูนั้น เมื่อเป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็ต้องวิเคราะห์เด็กหน่อยนะคะ คนดี คนเก่ง คนมีปัญหา นำมาหลอมรวมกัน ให้เป็นคนดี หมด และการกตัญญูรู้คุณ ของนักเรียน ที่คิดถึงครูเสมอเมื่อได้ดี จะมีซักกี่คน และนักเรียนคนที่คิดว่าไม่ดี กลับประสบผลสำเร็จได้อย่างสวยงาม เพราะมีคนให้โอกาสคะ
-และพี่สุก็ปรารถนา อยากให้นักเรียน อยากให้คุณครู ต่างก็ให้โอกาสซึ่งกันและกัน โดยคิดดี ทำดีคะ คิดบวกด้วยคะ
-ครูก็เหมือนแสงเทียนส่องทาง ให้เด็กได้พบ หนทางที่ถูกต้องคะ
ชื่นชมบทเขียน ขอบคุณที่นำมาเผยแพร่คะ
สวัสดีค่ะ พี่สุ ที่คิดถึง
สวัสดีค่ะ คุณพี่ใหญ่ นงนาจ
สวัสดีค่ะน้องแป๋ม
สวัสดีค่ะ คุณพี่อิง ที่คิดถึง
เหมือนนิยายครับ ชีวิตมันก็นิยายดี ๆ นี่เอง
สวัสดี ครับ ครูแป๋ม
น้ำค้างบนยอดหญ้า...ลึกซึ้ง และกินใจ นะครับ
เป็นเรื่องที่อ่านแล้ว...ทำให้ผมรู้สึกว่า พลังใจของคนเรา สำคัญมากมาก เลยนะครับครู
ขอบคุณ ที่ผมได้อ่านบันทึก ดี ดี บันทึกนี้เช่นกัน
สวัสดีค่ะ ท่านอาจารย์เลิศฤทธิ์
สวัสดีค่ะ คุณแสงแห่งความดี
สวัสดีค่ะ คุณครู ครูแป๋ม
มาอ่านค่ะ ขอบคุณที่แบ่งปัน.. "พลังใจของคนเรา สำคัญมากมาก" มาร่วมยืนยันด้วยค่ะ มีความสุขมากมาย มีสุขภาพแข็งแรงเสมอนะคะ (◡‿◡✿)
สวัสดีค่ะ คุณนีนานันท์
สวัสดีค่ะ
แวะมาฟังเรื่องเล่าด้วยนะคะ
ขอบคุณสำหรับบันทึกนี้ค่ะ^__^
สวัสดีค่ะ คุณครูจ่อย
สวัสดีจ๊ะ หนูต้นเฟิร์น
สวัสดีค่ะ พี่มหาฯ
ครูแป๋มครับ
อ่านเรื่องนี้แล้ว เป็นตัวอย่างที่ดีมากๆเลยครับ สำหรับ "ครู"
"ครูทอมป์สัน" เป็น "กัลยาณมิตร" ของเด็ก อย่างแท้จริงครับ
สวัสดีค่ะ ท่านรองฯวิชชา
สวัสดีค่ะครูแป๋ม
หนูด.ญ.อรวรรณ บุญเกิด ชั้น.ม.4/7 เลขที่ 45
ได้เข้าไปอ่านเรื่องโดนใจของครูกับนักเรียน
ก็สนุกนะค่ะ ทำให้รู้เรื่องราวครูกับนักเรียนค่ะ
เดี๋ยวหนูไปก่อนนะค่ะ สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะ หนูอรวรรณ บุญเกิด ชั้น.ม.4/7 เลขที่ 45
เรื่องนี้อ่านแล้วรู้สึกดีมาก ๆ เลยค่ะ
หนูคือ นางสาวปิยวรรณ กอบบุญ ชั้น ม.4/7 เลขที่ 13 นะคะ ฮ่า ๆ *
เกือบลืม สวัสดีค่ะ ครูแป๋ม ^^''
สวัสดีค่ะ คุณเด็กไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก