ดีใจ จะได้บวช

อุปสรรค จะเป็นตัวกระตุ้นเราเอง

ลานศรีมหาโพธิ์

เช้าวันที่ ๒๘ มี.ค. ๕๓ ฉันตั้งนาฬิกาปลุกไว้ เพื่อเตือนว่าป็นเวลาที่ต้องโทรไปสอบถามเรื่องการบวชสามเณรภาคฤดูร้อน เมื่อถึงเวลา ๐๙.๐๐ น. ฉันหยิบโทรศัพท์โทรฯไปที่วัดอ้อน้อยทันที สอบถามกับพระภิกษุผู้รับสายได้ความว่า ให้มาสมัครในวันที่ ๓๐ มี.ค. ๕๓ ให้นำเด็กมาด้วย ที่ต้องให้มาในวันที่ ๓๐ มี.ค. ๕๓ เพราะถ้ามาในวันที่ ๓๑ เลยของที่ต้องเตรียมมาก่อน ก่อนบวชจะไม่ครบ ใจของฉันเต้นแรงด้วยความดีใจ ฉันตอบตกลงทุกคำอย่างว่าง่าย ด้วยความดีใจว่าพี่ก้องจะได้บวชแล้ว ฉันรีบยื่นใบลาในวันที่ ๓๐-๓๑ มี.ค. ๕๓ ทันทีเพื่อไปทำธุระเรื่องบวชของพี่ก้อง.....อุปสรรคทั้งหลายที่ผ่านมามันทำให้ฉันมองว่าเป็นสิ่งเร้าที่จะทำให้เราได้ทำอะไรที่ตื่นเต้นและกระตุ้นตัวเราเอง จากที่ฉันคิดว่าปัญหามันมีทางออกเสมอ เราค่อยๆคิด ค่อยๆทำอย่างมีสติ ขอให้ได้ลงมือก่อนอย่ารีบปฏิเสธ และทำด้วยความตั้งใจ ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันฉันคิดว่าต้องผ่านมันไปได้ด้วยดี

เช้าวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๓ ไปส่งน้องแก้มและน้องเกมส์ที่โรงเรียน แล้วก็เดินทางไปที่วัดอ้อน้อย ทันที ใช้เวลาในการเดินทาง ๒ ชั่วโมงโดยใช้เส้นทางบางบัวทอง ไปถึงวัด ๑๑.๓๐ น.เมื่อไปติดต่อ พระรูปหนึ่งท่านบอกให้ไปรับประทานอาหารที่โรงครัวก่อน อย่างเป็นห่วง พวกเราได้ตอบไปว่าได้รับประทานอาหารกลางวันมาแล้วก่อนมาถึงวัดไม่ไกลนัก จึงได้เดินเล่น ท่านยังกรุณาบอกเดินไปชมสถานที่ก่อนหรือจะคุยกับพี่ๆ เพื่อนๆ ที่เค้ามาอยู่วัดก่อนก็ได้ ด้านในมีเสือ จะไปชมเสือก่อนก็ได้ อยู่ด้านข้างลานโพธิ์ จากการสังเกตพบว่ามีบางคนที่มาอยู่วัดก่อนวันที่ ๓๑ มี.ค. ๕๓ สำหรับคนที่จะบวชพระจะต้องมาอยู่วัดก่อน ตั้งแต่วันที่ ๒๑ มี.ค. ๕๓ แล้ว ซึ่งสังเกตได้ง่ายคนที่มาอยู่วัดก่อนจะต้องสวมใส่ชุดขาว ซึ่งบางคนก็ขาวสะอาด บางคนก็ขาวแบบเหลืองๆ บางคนก็ขาวแบบมอมๆ ฉันสังเกตเห็นคนส่วนใหญ่ที่มาอยู่วัดจะเดินเท้าเปล่า สำหรับผู้ที่จะบวชต้องปฏิบัติดังนี้

หลักฐานการสมัครบวชสามเณร

๑. รูปถ่าย ๒ นิ้ว ๑ รูป

๒. สำเนาประจำตัวประชาชน หรือสำเนาสูติบัตร ๑ ใบ

๓. สำเนาทะเบียนบ้าน ๑ ใบ

๔. หลักฐานการตรวจโรคติดต่อทั่วไป

๕. สำเนาบัตรประชาชนผู้ปกครอง

สิ่งที่ต้องนำมาด้วย

๑. ใบมีดโกนตราขนนก และด้ามมีดโกนแบบเปิด ๒ คม

๒. ชุดขาว (สำหรับช่วงอยู่ดูความประพฤติที่วัด)

๓. ผ้าขาวม้า

๔. ชุดนาค (สบง สายรัดเอว และสไบเฉียงสีขาว)

๕. ไฟฉายพร้อมถ่าน

๖. ของใช้ส่วนตัว เช่น สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ผงซักฟอก

๗. รองเท้าแตะ

คุณสมบัติ (สามเณร)

๑. เป็นเด็กชายอายุตั้งแต่ ๑๒ ปีขึ้นไป

๒. เป็นผู้มีศรัทธาในการบวช (ไม่ถูกบังคับและผู้ปกครองอนุญาติ)

๓. เป็นผู้มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว

๔. ไม่มีลักษณะของเพศที่ ๓

๕. สามารถท่องคำขอบวชได้

๖. ต้องมาอยู่วัดก่อนอย่างน้อย ๓ วัน(บวชพระอยู่อย่างน้อย ๑๕ วัน)

อากาศวันนั้นร้อนอบอ้าวมาก เมื่อเวลาเหลือพวกเราจึงเดินไปเรื่อยๆ ตามคำบอกของพระคุณเจ้า ที่จะไปดูเสือ ผ่านศาลากลางน้ำ ที่เป็น พระอุโบส ถ รูปทรงจตุรมุข ทำให้นึกว่าตอนเย็นๆบริเวณนี้คงเย็นสบายมากเมื่อเทียบกับอากาศที่ร้อนในตอนนี้ เพียงแค่ได้ชมภายนอก และผ่านตรงไปอีกประมาณ ๑๐๐ เมตร ตลอดสองข้างทางมีต้นไม้ร่มรื่นจำนวนมาก พบ หอกรรมฐาน ซึ่งใช้ใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรมของพระภิกษุสงฆ์ ใช้ไม้เป็นส่วนใหญ่ (ไม้พระราชทานจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ) ปลูกสร้างคล้ายเรีอนไม้สมัยโบราณภาคเหนือและมีกาแลที่หน้าจั่ว รอบหอกรรมฐานแห่งนี้มีต้นไม้ล้อมรอบโดยเฉพาะต้นไทรที่ย้อยระย้า ดูร่มรื่นและสวยงาม ด้านหน้าของหอกรรมฐาน เป็น ลานศรีมหาโพธิ์ ร่มรื่นมาก คล้ายมีมณฑปสร้างเป็นฐานให้ต้นโพธิ์โผล่ขึ้นปลายยอด ซึ่งหลวงปู่เล่าว่า ท่านคิดจะปลูกโพธิ์จากพุทธคยาสักต้นเช้ามืดวันรุ่งขึ้น มีอีกาคาบต้นโพธิ์มาทิ้งต่อหน้าท่าน ๓ ต้น ท่านจึงปลูกรวมกัน ณ ที่นี้ หลวงปู่ฝังอัฐิของหลวงพ่อทวดไว้ข้างใต้ที่โคนต้น (จาก อยู่กับปู่ตอนที่๒ แอบไปดูวัด) รอบๆตัวมณฑปถูกสร้างด้วยประติมากรรมเป็นรูปประวัติพระพุทธเจ้า(หรือเปล่าฉันไม่แน่ใจนัก) ลงสีทองพื้นดำ สวยงามไปอีกแบบ และบริเวณลานศีรมหาโพธิ์เองมีรูปปั้นของพระเกจิหลายองค์ เช่น หลวงปู่ทวด และพระพุทธรูปหลายปาง ...เดินลัดเลาะไปทางด้านหลังหอกรรมฐาน พบกรงเสือขนาดใหญ่ มองเห็นเสือลายพาดกลอนนอนพักชูคอมองมาที่พวกเรา ทำให้ฉันรู้สึกกลัวนิดๆ รีบสะกิดพี่ก้องและคุณพ่อกลับ...บ่ายโมงนิดๆ ไปติดต่อเรื่องการบวชอีกครั้ง เอกสารไม่ครบพระที่ทำหน้าที่รับสมัครแจ้งว่าไม่เป็นไร ให้นำมาให้ครบในวันพรุ่งนี้ (๓๑ มี.ค.๕๓) พี่ก้องเองได้พบเพื่อนๆที่จะมาบวชด้วยกันกันหลายคน แต่ละคนล้วนมาจากต่างจังหวัด วันนั้นฉันกลับบ้านด้วยความดีใจและอิ่มใจ

ตกเย็นคุณพ่อไปขอใบรับรองแพทย์ให้พี่ก้องที่คลินิก นพ.สุพล ที่เคยเป็นเพื่อนร่วมงานกันหลังลาออกจากราชการและไปเรียนต่อแพทย์เฉพาะทางเนื่องจากไม่ชอบระบบของรัฐ ปัจจุบันกลายเป็นเพื่อนสนิทของคุณพ่อไปแล้ว ได้อนุโมทนาสาธุกับหลานในการบวชครั้งนี้

เขียนใน GotoKnow โดย namsha
ใน เรื่องราวผ่านเรื่องเล่า

คำสำคัญ (Tags): #namsha#บวชเณรภาคฤดูร้อน ๒๕๕๓#วัดอ้อน้อย กำแพงแสน นครปฐม

หมายเลขบันทึก: 351069เขียนเมื่อ 11 เมษายน 2010 15:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่าน