ครบ ๑๐๐ วันของคุณบิก ลดน้ำหนักได้ ๑๐ กิโล


ทำด้วยตัวเอง ทำเอง คิดเอง เลือกเอง ไม่ต้องให้ใครมายุ่ง

ดิฉันพยายามทำหน้าที่ "คุณประสาน" ของเครือข่าย งานส่วนหนึ่งคือการหาเรื่องเล่าที่มีความรู้ปฏิบัติมาลงในบล็อก เพื่อให้เกิดเวทีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ จึงต้องคอยถามข่าวคราวจากสมาชิกและคนรอบข้างว่ามีอะไรดีๆ เกิดขึ้นบ้าง จะไม่ถามเรื่องปัญหา ดิฉันพบว่าคนที่ทำงานประสบความสำเร็จ เขาต้องการ "แบ่งปัน" ความสำเร็จนั้นๆ เราจึงควรช่วยกันส่งเสริมโดยนำเรื่องราวความสำเร็จดังกล่าวมาเผยแพร่ เพื่อให้ผู้อื่นได้นำความรู้ในความสำเร็จนั้นไปใช้ต่อ

"คุณบิก" เคยเล่าเรื่องคอร์สลดน้ำหนักของตนเองมาแล้ว คุณบิกลดน้ำหนักได้สำเร็จ เป็นความสำเร็จในการดูแลตนเอง เมื่อตรวจพบความผิดปกติของน้ำตาลในเลือด มีความรู้หลายอย่างอยู่ในความสำเร็จของคุณบิก ซึ่งเราสามารถนำไปใช้กับตนเอง ถ่ายทอดแก่ผู้ป่วยเบาหวานหรือผู้ที่มีความเสี่ยงได้

เคล็ดลับของคุณบิกคือกินข้าวกล้องในมื้อเช้า มื้อกลางวันและเย็นกินวุ้นเส้นแทนข้าว คุณบิกใช้วิธีกินอาหารตามร้านนอกบ้าน เพราะจำกัดอาหารได้มากกว่า สั่งแค่ไหนก็ได้แค่นั้น ถ้าทำกินเองที่บ้านมักจะเลยเถิด วันเสาร์-อาทิตย์จะมีอาหารนอกระบบเยอะ วันจันทร์จึงต้องรีบชั่งน้ำหนักจะได้รู้ตัวและแก้ไขได้ทันการ

วัลลา ตันตโยทัย วันที่ ๖ กันยายน ๒๕๔๘

ครบ ๑๐๐ วันของคุณบิก 

ครั้งก่อน (ลิงค์) เราได้ทิ้งท้ายไว้ถึงการติดตามผลความคืบหน้าของการจำกัดคาร์โบไฮเดรต ตอนนี้ผ่านไป ๑๐๐ วันเต็มๆ แล้ว ผลปรากฎว่าน้ำหนักลดลงไปอีก รวมแล้วประมาณ ๑๐ กิโล พอดิบพอดี อาจมีเศษบ้างเล็กน้อย ถ้าชั่งน้ำหนักหลังทานอาหารใหม่ๆ

อดทน...ก็ไม่ใช่ ทนอดก็ไม่เชิง

ก่อนเราจะเริ่มลดน้ำหนัก เราตรวจสุขภาพพบว่า BG สูง ๑๓๓ มก./ดล.และ  HbA1C สูง ๗.๖%ตอนนั้นเราหนักประมาณ ๑๐๔ กิโล เราตกใจมากแทบช็อค พอตั้งตัวได้ เริ่มจากทำใจให้นิ่ง หันมามองตนเอง และยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น

เมื่อเรามองตนเองจนมั่นใจว่า ณ วันนี้ เราต้องควบคุมตนเองเพิ่มอีกด้าน ก่อนหน้านี้เราได้ฝึกการควบคุมตัวเองมาแล้วคือเรื่องอารมณ์.....เราเริ่มกลับมามองวิธีการรับประทานอาหารของตนเองและควบคุม นึกถึงคุณค่าของอาหารก่อนการรับประทาน เช่น อยากกินขนมจีนแกงไก่ เราก็จะนึกว่าในนั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง แกงไก่-มีกะทิ ขนมจีน-แป้งล้วนๆ ก็จะพบว่ามีไขมันกับแป้งเยอะ ในมื้อนั้นรับรองได้เลยว่าไม่ได้มีแต่รายการอาหารแค่นี้แน่ๆ เราก็อาจต้องมองหาต่อ เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วอาหารตักขายทั่วไปตามร้าน จะไม่ทำรายการอาหารมาอย่างเดียวแน่นอน เราอาจพบกลุ่มพวกผัดผักต่างๆ กับกลุ่มแกงส้มหรือไม่ก็แกงเลียง เผอิญเราเป็นคนที่ทานผักได้แทบทุกอย่าง โปรดที่สุดคือผักบร็อกเคอรี่ผัดกุ้ง เมื่อเรามองรายการอาหารให้มากกว่าสิ่งที่เราอยากทาน (แกงไก่) เราก็จะพบว่ามีอาหารอย่างอื่นที่เราสามารถชดเชยอาหารที่เราอยากทานได้ มื้อนั้นเราได้กินแกงส้ม ๑ ถ้วย กะหล่ำปลีผัดไก่

เป็นอย่างไรบ้างกับการ "คิดก่อนเคี้ยว ทวนก่อนทาน" ของเรา ทำในอาหารมื้อแรกและในทุกๆ มื้อ จงอย่าไปบอกใครให้บอกตัวเองเป็นพอ เราต้องฝึกการมองและพิจารณาอาหารเอง การที่ให้คนอื่นช่วยแล้วจะเสียใจ เพราะมักจะได้ยินเสียงในใจของคนๆ นั้นบอกว่า "เรื่องมาก กินๆ เข้าไปเถอะ แค่กินน้อยก็ทำให้ได้เถ้อะ...แหมอยากลดความอ้วนยังทำเป็นเรื่องมากกับรายการอาหารอีก" ถ้าเราได้ยินอย่างนี้จะหงุดหงิด พาลให้เราอยากเลิกควบคุมเลยทีเดียว ดังนั้นต้องทำด้วยตัวเอง ทำเอง คิดเอง เลือกเอง ไม่ต้องให้ใครมายุ่ง

น้ำหนักลด ไม่ดีใจเท่ากับผลเลือดที่ลดลง

เมื่อครบวันที่หมอนัดให้เจาะเลือดครั้งใหม่ เราตื่นเต้นมากๆ ไม่ใช่กลัวเข็มนะ แต่คิดว่าถ้าเราเป็นเบาหวานจริงๆ แล้วต้องฉีดอินซูลิน เรียกว่าชีวิตต้องอยู่กับเข็มฉีดยาไปตลอด ต้องแย่แน่ๆ เวลาที่รอคอยก็มาถึงคือเวลาที่ผลการตรวจเลือดออก หมอบอกว่า "ดีใจมาก ค่าผลเลือดทั้ง ๒ ค่าลดลงมาก" ผล BG เหลือ ๑๐๗ มก./ดล.และ HbA1C เหลือ ๖.๓% หมอจัดให้เราอยู่ในกลุ่มควบคุมอาหาร เราต้องแสดงความยินดีกับตัวเองมากๆ ที่สามารถควบคุมตนเองได้ และก็สามารถดำเนินชีวิตได้โดยไม่รู้สึกว่าการปรับการกินอาหารแล้วทำให้รู้สึกแย่ เราได้กินทุกอย่างที่อยากกิน (แค่คิดก่อนกิน) ผลพลอยได้จากการที่มีน้ำหนักลดลงตามความคาดหวัง วันนี้เราไปที่ไหนได้ยินคนเรียก "พี่ที่ตัวใหญ่" เหมือนที่เคยได้ยินเมื่อก่อนและไม่ได้ยินมานาน แทนที่จะเรียก "พี่ที่ตัวอ้วนๆ ใหญ่ๆ" เราเสีย self มานานทีเดียว

วันนี้เราจะดำเนินชีวิตของตนเองอย่างนี้ต่อไป เพราะมันไม่ยากจริงๆ

หมายเลขบันทึก: 3504เขียนเมื่อ 6 กันยายน 2005 15:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 มิถุนายน 2012 22:52 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
ยุวดา สิงหเมธา (แหม่ม)
อยากทราบค่ะว่า นอกจากควบคุมเรื่องอาหาร แล้วพี่ออกกำลังกายบ้างหรือเปล่า เพราะลดไป 10 กก. เยอะมากทำได้งัย เก่งจิง ๆ เล้ยยยยยย

อย่างที่เล่าแหละคะ การออกกำลังการเรียกว่ายังไม่ได้แอ้ม เพราะการที่กลีวเรื่องเหงื่อออก และก็ที่สำคัญไม่มีเวลา (เป็นข้อแก้ตัวยอดฮิต ก็ต้องบอกตามตรงว่าไม่อยู่ในแผนการดำเนินชิวิตในวันหยุดซะที (นั่นเมื่อ 1 เดือนก่อนนะคะ) พอเริ่มเข้าเดือนพฤศจิกายนก็เริ่มวางแผนการออกกำลังกาย โดยการออกเดิน อย่างน้อย ในวันเสาร์-อาทิตย์ ให้ได้วันละ1ชั่วโมง การที่เลือกวิธีการออกกำลังการโดยการเดินเพราะก่อนหน้านี้ตนเองเคยเกิดอุบัติเหตุที่หลังทำให้เดินไม่ได้ไป 1 สัปดาห์ ทำให้ต้องระวังการออกกำลังการของตัวเอง เลยเลือกวิธีการเดิน ซึ่งถ้าว่ายน้ำเป็นก็จะเลือกการว่ายน้ำละค่ะ เพราะทำให้หลังไม่ต้องรับน้ำหนัก และลดโอกาศErrorกับหลังตนเอง

 ณ วันนี้น้ำหนักก็คงเดิมอยู่นะค่ะ เพราะหมอบอกว่าการที่เราจำกัดอาหารที่บริโภคกลุ่มต่างๆ(โดยเฉพาะคาร์โบไฮเดรต)นั้น ร่างการจะสามารถลดน้ำหนักได้อย่างมากไม่เกิน 10%ของน้ำหนักเริ่มต้น ซึ่งก็จริงแฮ่ะ เราพยายามยังไงก็ไม่ลงกว่าเดิม อย่างมากก็ลงเพิ่มได้ประมาณอีก1-1.5กก. ตอนนี้เลยจะลองจับดูว่า ถ้าเริ่มออกกังการในอีก1 เดือนจากนี้ น้ำหนักจะลงเพิ่มหรือไม่ คาดหมายว่าน่าจะลง เพราะเราก็ยังควบคุมกลุ่มอาหารเหมือนเดิม (อย่างที่เล่าให้ฟังก่อนหน้านี้) ณ วันนี้ผ่านการออกกำลังกายไป2วัน พบว่าน้ำหนักลงไปประมาณ0.5กก. น่าลองมั๊ยละ ง่ายๆ ลองดู แล้วกลับมาคุยกันใหม่นะคะ

ยุวดา สิงหเมธา ( แหม่ม)
ขอบคุณค่ะ คุณบิก ที่ให้คำแนะนำ ตอนนี้แหม่มก็ เลือกวิธีออกกำลังกายโดยการเดิน เหมือนกัน เพราะไม่มีเวลาออกกำลังกายอย่างอื่น เมื่อก่อน แหม่มจะเต้นแอโรบิค แต่ตั้งแต่มาทำงานที่นี้ก็ เลิกทำไป เลยทำให้น้ำหนักขึ้นเยอะมาก เพราะ เป็นคนกินเก่ง ตอนนี้น้ำหนักเริ่มลงมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ อยากให้ลงเร็ว ๆ กว่านี้ ขอขอบคุณอีกครั้งที่ให้คำแนะนำค่ะ
ผกามาส สิงหเมธา (อิ๋ว)

ได้อ่านเรื่องของคุณบิกแล้วทำให้อิ๋วมีกำลังใจที่จะลดนำหนักมากเลย ตั้งแต่ลดมาก็ไม่ค่อยได้ผลเท่าไรหนักทำให้หมดกำลังใจเลยต้องกลับมาทานมากเหมือนเดิม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท