บทความการสัมภาษณ์ พระวรรณ หายจาก มะเร็งกระดูกสันหลัง (2)
ต่อจากบันทึก บทความสัมภาษณ์พระวรรณ(1)
"ระหว่างนั่งอยู่บนเครื่องบิน ก็คิดว่าเราน่าจะกลับไปช่วยคนที่เป็นมะเร็งได้ เพราะคนที่รู้ว่าเป็นมะเร็งไม่ว่าจะเป็นมะเร็งตรงไหนก็แล้วแต่ ส่วนใหญ่ 90%จิตใจมันตายแล้ว มันเหลือแค่ 10% เท่านั้นในร่างกาย จะมีสักกี่คนที่ใจสู้แล้วยอมหาวิธีรักษาตนเอง มีน้อยมากอาตมาตั้งใจว่า ถ้ากลับถึงเมืองไทยจะช่วยคนที่เป็นมะเร็ง ถึงช่วยได้ไม่ถึง 100% ช่วยได้ 50% ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีแล้ว กลับมาเลยปรึกษาญาติๆ ว่าจะตั้งมูลนิธิเป็นของตัวเองชื่อว่า มูลนิธิวรรณ จุดมุ่งหมายก็คือดูแลพวกที่เป็นโรคร้ายเกี่ยวกับมะเร็ง ส่งเสริมให้การศึกษาเด็กดี ขยันเรียน คืนป่าให้แผ่นดิน มูลนิธิเราคงมีรายได้จากการปลูกผักไร้สาร จากอำเภอแม่สอด จังหวัด ตาก ส่งมาขายที่กรุงเทพฯหลายคนพอทราบข่าวก็ยินดีให้การสนับสนุน
หลังจากกลับจากต่างประเทศแล้ว ก็ไปตรวจร่างกาย ตรวจเลือดที่โรงพยาบาลที่เคยตรวจผลเลือดที่เรียกว่าPHA (ช่วงที่ป่วยก่อนรักษาอยู่ที่311.800) หมอใช้เวลาตรวจ 6 ชั่วโมง วัดได้ 5.090ต่อมาวันที่ 28 พฤษภาคม 2550 ไปตรวจอีกครั้งวัดได้ 0.268 หมอไม่แน่ใจส่งเลือดไปให้โรงพยาบาลอีก 2 แห่งตรวจ อีก ผลตรวจออกมาตรงกันหมด ถือว่า เยี่ยมแล้ว คนปกติทั่วไปที่ไม่มีเชื้อมะเร็งจะอยู่ที่ 0.000- 4.000 ของเราเลือดดีกว่าคนปกติอีก
หมอถามว่าไปทำอะไรมา อาตมาบอกไปรักษามา อาตมาไม่ยอมตายคิดว่ามะเร็งยังหลบอยู่ในตัวเรา แต่ไม่รู้อยูที่ไหน เราก็ไม่ชะล่าใจ มะเร็งเกิดจากภูมิบกพร่องของชีวิต มันต้องการอาหาร อาหารโปรดของมันคือ โปรตีนจากเนื้อสัตว์ทุกชนิด ซึ่งเราก็ไม่ให้มันกินเลย
มะเร็งถ้าเราไม่ให้อาหารมัน มันก็จะฝ่อและอ่อนแรง เราไม่ให้กินนานๆเข้ามันก็จะตายในที่สุด บ้านเราผู้ป่วยใหม่ที่เป็นมะเร็งมี 288 คน ต่อวัน ตายชั่วโมงละ 11 คน เราต้อง มาปรับเปลี่ยนวิธีกินอยู่กันใหม่ การเจริญเติบโตของมะเร็งเขาจะก้าวกระโดด จาก 1 เป็น2 จาก 2เป็น 4 จาก 4 เป็น 8 จาก 8เป็น 16 บวกขึ้นไปเรื่อยๆเพราะฉะนั้นคนที่ป่วยเป็นมะเร็งส่วนใหญ่ที่ตายเพราะโลเล ตัดสินใจไม่เด็ดขาด มะเร็งหยุดได้ถ้าใจสู้ "
คุณจำรัส ถามเพิมเติมว่า อาจารย์ครับจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาพอจะสรุปได้ไหมครับว่า เราต้องปฏิบัติตัวอย่างไรไม่ให้เป็นมะเร็ง
" เราต้องมีวินัย ถ้ามีวินัยเราสามารถหยุดมะเร็งได้ ต้องยึดกฏเหล็กดูแลเรื่องอาหาร การกิน การปฏิบัติตัว สิ่งแวดล้อม อากาศบริสุทธิ์ การออกกำลังกาย อาตมาอาจจะมีบุญเพราะเป็นมะเร็งแต่ไม่เคยคิดว่าเป็นมะเร็ง คิดอยู่อย่างเดียวว่าจะทำอย่างไรถึงจะชนะ ทำอย่างไรถึงจะมีชีวิตที่ยืนยาวดูแลลูกเต้าต่อไป ไม่เคยกังวลเลย แล้วเรื่องพืชผักต้องไร้สารพิษจริงๆไม่ใช่ปลอดสาร ไร้สารคือการดูแลการปลูก ตั้งแต่เริ่มต้นจนเก็บเกี่ยว จะไม่ใช้ยา แต่ถ้าปลอดสารคือใช้เคมี พอใกล้วันเก็บเกี่ยวประมาณ 15 วันก็หยุดใช้สารเคมีอันนี้ไม่ปลอดภัย จะมีสารตกค้างตามมา "
ต่อมาไม่นาน พระวรรณก็ สึกจากการเป็นพระ ท่านบอกว่า เราเป็นพระอาพาต บวชแล้วฉันข้าวไม่เป็นเวลา คนไม่รู้จะมองไม่ดี อีกอย่างก็ไม่สะดวกในการช่วยเหลือผู้ป่วย ก็เลย สึก หลังจากนั้นพ่อเลี้ยงวรรณก็ออกรายการพูดคุยบอกล่าว สอนการรักษา ฯ ผู้ป่วยในวิทยุทุกวันพฤหัส 13.30-14.00 รายการทั่วทิศถิ่นไทย สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยและเครือข่ายทั่วประเทศไทยและอินเตอร์เน็ต
พ่อเลี้ยงวรรณมีปณิธาน ว่า สำหรับผู้ยากไร้ มูลนิธิวรรณจะรักษาให้ ฟรี สำหรับผู้มีอันจะกินให้สนับสนุนค่าโอสถ เพียงวันละ 100 บาททางมูลนิธิวรรณจะจัดส่งไปให้ มูลนิธิวรรณ ตั้งอยู่ที่ 3/681 ประชานิเวศน์ ถ.เทศบาลนิมิตรเหนือ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม.10900 โทร. 084-3545552
ปัจจุบัน ลูกชายและครอบครัวของท่านดำเนินการต่อ ท่านได้เสียชีวิตเพราะติดเชื้อจากการเข้าโรงพยาบาล ติดเชื้อที่ปอด เมื่อต้นปี 2553 นี้
ด้วยความปรารถนาดี กานดา แสนมณี
ความเห็น (10)
เขามาศึกษาดู
มีวินัยเราสามารถหยุดมะเร็งได้
เพื่อนพี่มาถูกจุดแล้ว มีวินัยมากๆ
สวัสดีค่ะ
- ขอขอบคุณค่ะน้องดา สำหรับประโยชน์จากเรื่องเล่าของพระวรรณ
- อาหารการกิน สำคัญมากนะคะ
- กราบขอพระคุณที่ท่านได้เมมตาบอกกล่าว ขอให้ดวงวิญยาณของท่านสู่สุขคติค่ะ
สวัสดีค่ะคุณพี่ป.1
ค่ะคนที่ป่วยแล้วต้องคุมอาหาร ใหม่ๆจะลำบากใจในการไม่กินสิ่งที่ชอบอย่างมาก บางคนไม่ยอมปฏิบัติโรคกำเริบก็ทรมาน หากคิดได้ว่าเราก็กินมากแล้ว ทำใจได้ก็ดีเพื่อนดาก็ทำได้แล้วค่ะหน้าตาสดใสเป็นมะเร็งเต้านม รักษาสมุนไพร สูตรท่านพ่อเลี้ยงวรรณต้องเคร่งครัดสุดๆ ท่านเองก็สอนเหลือเกินให้ทุกคนเคร่งครัดแต่ท่านกลับไปลอง พิสูจน์ จนท่านเป็นรอบ2 ไปกินกุ้ง และรักษา จนดีขึ้นรอบสอง แล้วพอร่างกายอ่อนแอ จึงติดเชื้อได้ง่าย
สวัสดีค่ะคุณครูคิม
ขอบคุณค่ะตามมาอ่านอย่าลืมแวะอ่านบัญญัติ 10ประการ และอาหารของผู้เป็นมะเร็งที่บันทึกแรกบล็อกนี้นะคะ ท่านใจดีมากๆ ดาได้ส่งสูตรของท่านที่จดได้จากวิทยุ ให้ท่านด้วย ท่านอนุญาติให้เผยแพร่ต่อได้ท่านบอกในวิทยุเลยค่ะ ดาได้ส่งข้อมูลน้ำมันมะพร้าวไปให้ท่านด้วย ดาเสียดายมากที่บางอย่างดามาทราบหลังจากที่ท่านเสียชีวิตแล้ว เลยไม่มีโอกาสบอกท่านเรื่องการรักษามะเร็งกระดูกด้วย กระดูกอ่อนปลาฉลามกับเห็ดหลินจือสกัด ซึ่งได้บอกในบันทึกอาจารย์ ดร.ธวัชชัย ไว้บ้างแล้วค่ะ
เมล็ดแก่ของฟักข้าว มีสารรักษามะเร็งและเอดส์ได้
สวัสดีค่ะคุณนงนาท
ขอบคุณค่ะ ดามีข้อมูลเรื่องมะเร็งพอควรเก็บไว้ นำมาลงบันทึกบ้าง หลายคนอ่าน พิจารณาแล้ว หรือทราบมาบ้างแล้ว ได้นำไปปฏิบัติบ้างก็จะมีประโยชน์ ต่อร่างกายผู้ป่วยได้บ้างเพราะแต่ละสูตรของการรักษาจะมีแต่สมุนไพร ที่ปลอดภัยต่อร่างกาย ไม่ได้มีสูตรพิศดารที่จะหามาทานไม่ได้ ถึงไม่เหมือน แต่ขอให้งดอาหารที่ไปเร่งมันโตขยายได้ก็ยังดี นะคะ
กระเทียม มะเร็ง ไม่ชอบมากๆ
ขอบคุณคะคุณดา มาอ่านอีกตามลำดับเลยคะ วันนี้อยู่บล็อกคุณดาทั้งวันคะ เราต้องรู้เท่าทันคะ พอมาอ่านบล็อกนี้ ถึงได้รู้ว่าคนดี จากไปเสียแล้ว ขอให้ท่านไปสู่สวรรค์คะ สิ่งดีดีที่คุณดานำมาเล่า จากเรื่องราวของท่าน ไม่ได้ตายไปกับท่านหรอกนะคะ ยังดีที่คุณดาได้ถ่ายทอดเก็บไว้ เยี่ยมยอดเลยคะ
- มาติดตามอ่านอีกแล้วค่ะพี่ดา
- มีแต่ข้อมูลดี
- ได้ยินเรื่องราวดีๆของพ่อเลี้ยงวรรณ
- นับว่าท่านเป็นคนดีและมุ่งมั่นมากนะคะ
- ตอนนี้ก็ยังทำกันต่อเนื่องมา
- ขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้คนสืบสานงานนะคะ
- ขอให้ได้บุญเยอะๆ
- ขอบคุณพี่ดาที่ส่งข้อมูลดีๆมาเผยแพร่
- ขอให้ทุกคนๆแข็งแรงนะคะ
สวัสดีค่ะคุณสุ
ดายังจำเสียงท่านได้เสมอฟังท่านอยู่นานมากช่วงหนึ่งตามฟังท่านทุกวันพฤหัสฯเพื่อจดแล้วเผยแพร่ต่อ ตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ก็โทรคุยกับท่านหลายครั้ง และส่งข้อมูลน้ำมันมะพร้าวให้ท่านด้วย ท่านก็สนใจมาก และให้ท่านให้ผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ที่ทำน้ำมันมะพร้าวจากสูตรที่ดาสอนอยู่อีกจังหวัดลพบุรี ส่งไปให้ท่านใช้ ก็ดีใจค่ะที่ท่านสนใจน้ำมันมะพร้าวที่เผยแพร่ในขณะนั้น ค่ะเรามาช่วยบอกกล่าวสิ่งที่ท่านต้องการช่วยผู้ป่วยมะเร็งต่อๆกันไปนะคะ
สวัสดีค่ะคุณpikul
หนังสือธรรมชาติบำบัด พี่ดาได้รับจากท่านอาจารย์สุวัฒน์ ทรัพยะประภาส่งมาให้พี่ดาค่ะ เป็นหนังสือที่ดีมากค่ะ การรักษาสุขภาพเราต้องเรียนรู้จากหลายทางถ้าเรามีโอกาส ที่จะค้นคว้าหาข้อมูลได้ เราก็ควรทราบไว้ค่ะ เราโชคดีกว่าคนอีกมากมายนะคะที่ไม่มีโอกาสทราบหรือมีใครบอกกล่าวเลย บางคนรับทราบแต่ไม่ปฏิบัติเลือกไม่ถูก และไม่มีความเชื่อว่ามะเร็งรักษาได้ พี่ดาเคยพยายามส่งสูตรไปให้ครอบครัวเขา ญาติเขา แต่ครอบครัวเขาไม่เชื่อว่ามะเร็งรักษาได้ ไม่ยอมปฏิบัติเลย เขารักษาวิธีอื่นและกินอาหารที่มะเร็งชอบตลอด สูตรท่านพ่อเลี้ยงวรรณ สามารถทำได้ถึงแม้จะรักษาแผนปัจจุบันอยู่ กินอาหารไม่ได้แล้ว สูตรที่ท่านพอเลี้ยงวรรณนำมานี้ สามารถให้ทางสายยางได้ 15 ขุนพล และโอสถ ฯให้ได้หมด บดปั่นให้เป็นน้ำหยอดได้หมด ขอให้เข้าร่างกายได้ และอย่าไปกินอาหารของมัน ร่างกายจะดีขึ้นได้ไม่ทรุด ค่ะญาติก็สำคัญในการดูแลผู้ป่วยจะให้รอดหรือให้ตายได้เช่นกัน เพราะเป็นผู้ต้องเตรียมอาหารให้ผู้ป่วย
น้ำใบย่านาง ทำให้คุณครูต๋อมดื่มบ้างนะคะหากกลับไปอยู่บ้าน หาต้นมาปลูกไว้นะคะ ปรับความสมดุลร่างกายดีมาก เพี่อนพี่ดาที่เป็นมะเร็งก็ดื่มประจำค่ะ