ครูอ้อย เป็นคนสมัยใหม่ เป็นครูที่ดี เป็นคนให้กำลังใจคนอื่น แลัวอีกหลายต่อหลายเรื่องราว ความดีของแม่จะส่งไปถึงลูกเสมอ ความเชื่อมั่นของแม่ น่าจะผ่านไปได้
ครูอ้อยครับ
ครูอ้อยเป็นแม่ที่เข้าใจลูกมากกว่าพ่อนะ....ลูกสาวครูอ้อยเป็นคนดี มีวินัยและความรับผิดชอบ ที่บอกให้แม่รู้ว่าลูกมีเพื่อนชายแล้ว เป็นวัยของเขาที่ต้องมี ถ้าไม่มีแฟนต่างหากจะเป็นเด็กผิดปกติ ครูอ้อยให้ความรู้และประสบการณ์กับลูกในเรื่องของการคบเพื่อนชายเป็นเรื่องๆได้เลยนะครับ ลูกจะได้เรียนรู้จากแม่ เป็นประสบการณ์ทางอ้อม แล้วครูอ้อยช่วยเป็นตัวกลางเชื่อมความเข้าใจไปสู่คุณพ่อ แล้วในที่สุดทุกคนก็จะแฮปปี้ (ยกเว้นพ่อหวงลูกสาวโดยไม่มีเหตุผล)นี่แหละครับที่เขาเรียกว่าช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ถ้าผ่านช่วงนี้ไป จนลูกขึ้นชั้นม.6 ลูกก็จะกลายเป็นวัยรุ่นตอนปลาย ที่รับผิดชอบตัวเองได้แล้ว ผมดีใจที่เห็นครอบครัวที่พ่อแม่ลูกเข้าใจกัน ต่างกับปัญหาที่พบในจังหวัดแม่ฮ่องสอน การกระทำของพ่อแม่บางคนยิ่งทำให้ลูกเตลิดเปิดเปิง สุดท้ายก็ต้องอาศัยลุงเกเข้าไปแก้ปัญหาให้ ลูกบางคนมีปัญหาเพียงว่า "พ่อไม่เข้าใจผม" ก็ทำให้ครอบครัวปั่นป่วนพอสมควร คิดถึงครูอ้อยครับจึงมาอ่าน
อาจารย์เก
เห็นประวัติครูอ้อยตั้งแต่สมัยเรียนหน้งสือจนจบ ป. ตรี แล้วชื่นชมครับ
"ครูอ้อยไม่เคยพูดโทรศัพท์กับผู้ชาย ไม่เคยออกจากบ้านไปไหนมาไหนกับผู้ชาย"
ทุกวันนี้ยังมีครอบครัวที่เลี้ยงลูกได้ดีแบบนี้อยู่เป็นตัวอย่างนะครับ
ญาติข้างบ้านก็มีลูกสาวคนเล็กเป็นเช่นครูอ้อย ตอนนี้อยู่ มหาวิทยาลัยดังใน กทม. ไม่เคยไปไหนกับผู้ชาย
เพราะเป็นเด็กในกรอบ จะมีเพื่อนก็เพื่อนสมัยเรียนด้วยกันชั้นมัธยมนานๆครั้ง แต่ไม่เคยออกจากบ้านไปกับผู้ชาย
เวลาไป Meeting ก็ให้พ่อเธอไปรับทุกครั้ง
มือถือมีแต่ไม่เคยเห็นโทรคุยกับเพื่อนชาย
บุคคลิกก็เหมือนสายเลือดคือนิสสัยดีไม่มีประวัติเสีย
แต่งตัวเรียบร้อย สวยน่ารักครับ...
ขอชื่นชมกับครูอ้อยที่มีครอบครัวที่อบอุ่นครับ
สวัสดีค่ะ น้อง เขาอกทะลุ
พรุ่งนี้ก็สว่างแล้วค่ะพี่อ้อย..เชื่อและศรัทธาในตัวลูกเราดูสักครั้งทั้งที่ห่วงน่าดูเกินบรรยาย..ใครจะรู้หัวอกแม่ๆอย่างเรานิ..