ศรัทธาก็ดี แต่ต้องมีเหตุผล


การศรัทธาต้องมีเหตุผลประกอบ

     บันทึกนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับศรัทธาครับ  บางครั้งการศรัทธาอย่างผิวเผิน  จนลืมมองถึงเหตุผลความเป็นจริง   ผมว่าเป็นศรัทธาที่ไม่พอดีไม่มีสมดุลย์ครับ   ดังตัวอย่างเรื่องจริงทั้งสามเรื่อง  ที่จะยกมาประกอบครับ

 

    เรื่องแรก  เมื่อวันพฤหัสที่ 28 มกราคม ที่ผ่านมา  ผมคุยกับผู้บริหารโรงเรียนท่านหนึ่ง ท่านคุยถึงเรื่องที่ท่านได้ไปเข้าอบรมเรื่องหนึ่งมา  วิทยากรเก่งมาก  น่าจะเชิญมาอบรมครู  ผมถามคุณครูผู้สอน  คุณครูก็บอกว่าวิทยากรท่านนี้เก่งจริงๆ  ผมก็ลองโทรศัพท์ไปหาวิทยากรท่านนี้  ท่านก็ยินดีมาเป็นวิทยากรให้  กลับมาเพื่อความแน่ใจ  ผมลองหาประวัติของวิทยากรท่านนี้ดูจากกูเกิล  คำตอบทำเอาผมหูตาสว่างเลยครับ  เพราะเขาบอกว่าคนๆ นี้เป็น "จอมลวงโลก"  ผมก็นำเรื่องมาเล่าให้ผู้บริหารคนเดิมฟัง  ท่านก็บอกท่านก็ไม่รู้ประวัติวิทยากรท่านนี้   ถึงเก่งจริงแต่เป็นจอมลวงโลก  ก็ไม่ควรไปยุ่ง

ผมเกือบพลาดไปแล้วครับ  เพราะศรัทธาที่ขาดเหตุผล

 

    เรื่องที่สอง เรื่องการปฏิบัติธรรมของผมกับภรรยา  ตามที่ผมเขียนบันทึกในสมาธิแปลก นั่นคือเป็นการปฏิบัติธรรมที่มีผู้ศรัทธาหลายคน รวมทั้งภรรยาผมด้วย  ผมก็ลองไปดู   คนสอนกรรมฐานก็น่าศรัทธาครับ  แต่พอนั่งกรรมฐานจริง มีแต่เสียงฟืดฟาด  มีเสียงร้องโหยหวน มีเสียงขย้อนคอ มีท่าทางแปลกๆ เสียงแปลกๆ  คนสอนกรรมฐานเขาบอกว่าเป็นการล้างกรรม  ทุกอย่างมีสติ แต่ไม่สามารถควบคุมได้  ผมเองยังคลางแคงใจอยู่ครับว่า "ไม่น่าจะใช่"  ก็เลยหาข้อมูลไปเรื่อยๆ  จนมาได้คำตอบสุดท้ายที่ผมวิเคราะห์ของผมเองครับ ว่าเกิดจาก    "อุปาทานหมู่"       ซึ่งเป็นเหตุผลที่มารองรับเหตุการณ์ดังกล่าวได้ครับ ในมุมมองของผม  หลายๆคนที่ศรัทธาในเรื่องนี้  ก็คงเป็นความศรัทธาส่วนตัวของเขาครับ  แล้วแต่มุมมอง   ขืนพูมาก ประเดี๋ยวจะโดนข้อหา "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่"

 

    เรื่องที่สาม  เรื่องการปฏิรูปการศึกษา  ประมาณ พ.ศ. 2542   ช่วงนั้นมีนวัตกรรมที่บอกว่าเป็นนวัตกรรมการปฏิรูปเข้ามามาก   และวิทยากรบางคนมักจะทำให้ดูว่าเป็น "นวัตกรรมที่ศักดิ์สิทธิ์"  นั่นคือ คุณครูต้องสอนด้วยวิธีแบบนี้เท่านั้น  จึงจะถือว่าสอนแบบปฏิรูป  ถ้าไม่สอนแบบนี้ จะไม่ได้ใบประกอบวิชาชีพครู   และ อาจจะผิดกฏหมายด้วย ที่ไม่สอนแบบปฏิรูป   เท่าที่ผมติดตามดู  การสอนแบบปฏิรูป ไม่มีความสุขทั้งครูทั้งเด็กครับ  และที่บอกว่าสอนแบบปฏิรูปแล้ว จะทำให้เด็กเป็นคนเก่ง คนดี และ มีความสุข  ผมก็ไม่เห็นว่าจะเกิดเลยทั้งสามเรื่อง ถามไปก็ไม่มีใครตอบได้ จำต้องศรัทธาโดยไม่มีเหตุผล  จนกระทั่งวันหนึ่ง ผมไปเข้าอบรมเรื่องการจัดการเรียนการสอน วิทยากรเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย   ผมจึงมีคำตอบครับ ว่าการปฏิรูปที่ทำกันอยู่มันเป็นอย่างไร  และ ที่ถูกต้องทำอย่างไร  ถ้ามีเหตุผลประกอบอย่างนี้ ผมยอมรับได้ครับ 

 

      ทั้งสามเรื่อง  เป็นตัวอย่างจริงของศรัทธาที่ขาดเหตุผลครับ  ผมว่าในวงการศึกษาและชีวิตจริง ยังมีอีกหลายๆๆๆๆ เรื่องครับ  ที่ศรัทธากันโดยขาดเหตุผล  

 

      ทั้งนี้ ไม่ใช่หมายความว่าไม่ให้ศรัทธาอะไรเลย  หรือให้ปฏิเสธในทุกๆเรื่องที่ไม่มีเหตุผลมารองรับ  

 

      เพียงแต่ว่าศรัทธา ต้องให้พอดีๆกับเหตุผลครับ

 

      ผมมี   จิตวิทยาพัฒนาตัวเองทำอย่างไรไม่ให้ถูกชักจูงง่าย เพิ่มความมั่นใจกันหน่อย   มาฝากครับ  

 

      จะได้ไม่ศรัทธากันง่ายเกินไป

หมายเลขบันทึก: 332160เขียนเมื่อ 30 มกราคม 2010 07:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 22:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)
  • สวัสดีค่ะ ท่านรอง ฯ
  • "ศรัทธาต้องมีปัญญากำกับ" จึงจะปลอดอวิชชา
  • ขอบพระคุณที่นำเสนอมุมมองดี ๆ พร้อมตัวอย่างประกอบจนเห็นภาพ
    เกิดความเข้าใจ
  • สังคมทุกวันนี้ปั่นป่วนวุ่นวายก็เพราะความศรัทธาในตัวคนโดย
    ขาดการพิจารณาด้วยปัญญากลายเป็น  "โง่งมงาย"  อย่างน่าสงสารนะคะ

สวัสดีค่ะ

  • กำลังฟังเรื่องการสร้างศรัทธาพอดีค่ะ  เกี่ยวกับการบริหารจัดการบอกว่า ถ้าสร้างศรัทธาไม่ได้การพัฒนาก็จะล้มเหลว
  • จอมลวงโลก  ไม่อยากได้ยินในวงการครูนะคะ
  • พี่คิมเคยไปปฏิบัติธรรมและพบเห็นสถานการณ์เหมือนที่ท่านรองฯ เล่าค่ะ
  • การปฏิรูป ฯ หลายอย่างที่หน่วยงาน..ออกกรอบมาบอกว่าให้ทำตามนั้น ให้ประเมินตามตัวชี้วัดที่ให้มา  บางทีเราก็ไม่มีช่องที่จะกา  แต่ต้องกาค่ะ
  • การคิดนอกกรอบอาศัยทฤษฏี...น่าจะเป็นทางเลือกของการปฏิรูปนะคะ ระหว่างการเริ่มต้นทางความคิดของครู ของผู้บริหารลงไปสู่ชุมชน ไม่ว่าจะเริ่มจากใครก็ต้องมีการยอมรับเพื่อเกิดการพัฒนา 
  • ขอขอบพระคุณค่ะ

ตัวศรัทธาต้องมีเหตผลกำกับหรือตัวปัญญานั่นเอง

หมวดธรรมต่างๆเมื่อมีศรัทธาต้องมีปัญญาตามมาด้วยเสมอ

ทั้งคู่นี้ขาดตัวใดตัวหนึ่งแล้วความเอนเอียงจะตามมาทันทีขอรับ

 

Pคุณธรรมทิพย์ครับ

  *  ศรัทธาต้องมีปัญญากำกับ" จึงจะปลอดอวิชชา

     (มีวิชชา มาแทนนะครับ 55..)

 

*  สังคมทุกวันนี้ปั่นป่วนวุ่นวายก็เพราะความศรัทธาในตัวคนโดยขาดการพิจารณาด้วยปัญญากลายเป็น  "โง่งมงาย"  อย่างน่าสงสาร

   ( ครับ หลายสิ่งหลายเรื่อง  เพราะศรัทธาโดยขาดการพิจารณาด้วยปัญยาอยู่ครับ)

                ขอบคุณมากครับ

  

Pพี่คิมครับ

*  ตรงนี้เป็นการสร้างศรัทธาที่ดีครับ

   "การบริหารจัดการบอกว่า ถ้าสร้างศรัทธาไม่ได้การพัฒนาก็จะล้มเหลว"

   ส่วนศรัทธาที่น่าเป็นห่วง

ทั้งจอมลวงโลก  การปฏิบัติธรรม  และ การปฏิรูปการศึกษา 

    การปฏิรูปการศึกษา ต้องอย่างที่พี่คิมเขียนมาแหละครับ  ตรงกับใจผม

                ขอบคุณครับ

 

ขอบคุณค่ะ ศรัทธาจากตัวเอง ไม่ใช่ ฟังคนอื่นมาศรัทธาค่ะ

...ยายธีทราบมาว่า..อย่าเชื่อ..นั้นมีสิบกรณี...ที่พุทธองค์ทรงตรัสไว้..แม้แต่คำสอนของของพุทธองค์เอง..ก็ไม่ต้องเชื่อและศรัทธา...สวัสดีค่ะ

Pท่านธรรมฐิตครับ

*  หมวดธรรมต่างๆเมื่อมีศรัทธาต้องมีปัญญาตามมาด้วยเสมอ ทั้งคู่นี้ขาดตัวใดตัวหนึ่งแล้วความเอนเอียงจะตามมาทันทีขอรับ

   (ครับ ศรัทธามากๆ ปัญญาก็มักจะหายไป หรือ มีน้อย  จะเอนเอียงครับ)

              ขอบคุณครับ

 

Pครูอ้อยครับ

  ดีมากเลยครับ สำหรับ

"ศรัทธาจากตัวเอง ไม่ใช่ ฟังคนอื่นมาศรัทธา"

                   ขอบคุณครับ

 

Pยายธีครับ

* อย่าเชื่อ..นั้นมีสิบกรณี   กาลามสูตร

              ขอบคุณครับ

 

สวัสดีค่ะ ท่านรองฯsmall man

  • ศรัทธากับไว้ใจอย่างเดียวกันมั้ยคะ?
  • "ไว้ใจ"แล้วก็ "บาดเจ็บ" ค่ะ  เหมือนนักมวยไว้ใจคู่ต่อสู้เดินไปข้างหน้าโดยไม่มีการป้องหมัด
  • กลอนของสุนทรภู่ค่ะ..แต่ตัวเองไม่ค่อยได้เอามาใช้..เพราะข้อเสียคือมักจะศรัทธาไว้ใจ..

  • บันทึกนี้ทำให้คิดถึงเรื่องของความศรัทธาและไว้ใจคนมากขึ้น ขอบคุณค่ะ

ศรัทธาด้วยสติ น่าจะช่วยให้รอดจากภัยทั้งปวงทางสังคมได้นะค่ะ

ตั้งสติพิจารณา ใคร่ครวญ สมเหตุสมผล  ศรัทธานี้จึงจะสมเป็น "ศรัทธา" ค่ะ

สวัสดีค่ะท่านรอง..มาสนับสนุนวิธีการที่ถูกต้องแบบพี่ครูคิม และท่านรอง ขอเน้น"การบริหารจัดการบอกว่า ถ้าสร้างศรัทธาไม่ได้การพัฒนาก็จะล้มเหลว"

....สวัสดีค่ะ....ของแบบนี้ เป็นความเชื่อส่วนบุคคลค่ะ...

....แต่ถ้าเป็นดิฉันเอง เชื่อมันในตัวเองดีกว่าค่ะ....

Pอาจารย์นิตยาครับ

  * ศรัทธากับไว้ใจ  ผมว่าใกล้เคียงกันนะครับ  เมื่อไว้ใจแล้ว ก็เชื่อตามที่เขาบอก  ถ้าเขาเป็นคนดีก็ดีไป  แต่เป็นคนร้ายนี่  ถือว่าไว้ใจคนผิดครับ 

  *  ต่อไปคงต้องยึดกลอนของท่านสุนทรภู่ไว้เตือนใจตัวเองครับ

     (กลอนบทนี้ อ่านประกอบดูหนังการ์ตูนสุดสาครแล้ว ยิ่งซึ้งมากครับ)

           ขอบคุณอาจารย์มากครับ

Pครูนกครับ

  *  ศรัทธาด้วยสติ 

            ดีมากเลยนะครับ

                   ขอบคุณครับ

Pครูแป๋มครับ

ตั้งสติพิจารณา ใคร่ครวญ สมเหตุสมผล 

         สำหรับ "ศรัทธา"

               ขอบคุณมากครับ

  

PคุณRindaครับ

"ถ้าสร้างศรัทธาไม่ได้การพัฒนาก็จะล้มเหลว"

       จะพยายามครับ  ขอบคุณครับ

 

Pคุณสายลมที่หวังดีครับ

  *  เชื่อตัวเองดีที่สุดครับ

              ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะ ท่านรอง ฯ

  • ชอบความคิดเห็นของ ธรรมทิพย์ที่ว่า "ศรัทธาต้องมีปัญญากำกับ" จึงจะปลอดอวิชชา
  • ขอบพระคุณที่นำเสนอมุมมองดี ๆ พร้อมตัวอย่างประกอบจนเห็นภาพ

Pคุณปริมปรางครับ

* ศรัทธาต้องมีปัญญากำกับ" จึงจะปลอดอวิชชา

    คุณธรรมทิพย์เสนอความคิดเห็นได้ดีครับ

             ขอบคุณครับที่เข้ามาติดตามเยี่ยมชม

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท