“กริ๊ง...........”
เสียงกริ่งดังยาวต่อเนื่องกันกว่าสองครั้งหน้าห้องไอซียู โรงพยาบาลพิจิตร
“น้องคนเดิมค่ะพี่ หนูอธิบายไปหลายรอบแล้ว เมื่อกี้ก็เพิ่งจะอธิบายไป ทำไมไม่ยอมเข้าใจสักทีก็ไม่รู้...”
พยาบาลสาวกล่าวกับ “สุกานดา เมฆทรงกรด” พยาบาลหัวหน้างานห้องผู้ป่วยวิกฤติ โรงพยาบาลพิจิตร หลังจากถอนหายใจด้วยสีหน้าไม่สบายใจ
ทันที่ที่ประตูห้องไอซียูเปิดออก
“แม่หนูเป็นอย่างไรบ้าง แล้วจะรักษาต่อไปอย่างไร...”
น้ำเสียงคาดคั้นและสั่นเครือจากหญิงสาวผู้กดกริ่งเรียก
หญิงสาวต้นเสียงคนนั้น สีหน้าเคร่งเครียด ขอบตาหมองช้ำ ดวงตาแดงกล่ำ
“สมพร บุญนาค” หญิงสาวคนนั้น เธอคือลูกสาวคนเดียวของคุณแม่ผู้กำลังนอนรักษาอาการเจ็บป่วยอยู่ในห้องไอซียู
เธอทำงานที่บริษัทผลิตรายการโทรทัศน์แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน เธอหยุดงานเดินทางมาเฝ้าไข้แม่ซึ่งนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลพิจิตร เมื่อเห็นว่าคุณแม่มีอาการดีขึ้นจึงกลับไปจัดการธุระที่ทำงาน แต่เมื่อย้อนกลับมาการณ์กลับกลายเป็นว่าคุณแม่มีอาการหนักขึ้นจนต้องย้ายตัวเข้าไปรักษาในห้องไอซียู
เธอเทียวไล้เทียวขื่อ กดกริ่งครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อขอเข้าเยี่ยมแม่ และขอฟังคำอธิบายจากพยาบาลผู้เฝ้าไข้อยู่อย่างนั้นทั้งวี่วัน
ทันทีที่ สุกานดา เมฆทรงกรด เปิดห้องออกมา เห็นสภาพของหญิงสาวผู้ยืนกดกริ่งอยู่เบื้องหน้าก็รับรู้ด้วยหัวใจได้ทันทีว่า เธออยู่ในภาวะเครียดอย่างหนัก หนา ยิ่งทราบว่า “สมพร บุญนาค” เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของคุณแม่ที่นอนรักษาอยู่ภายใน ก็ยิ่งทำให้เข้าใจความทุกข์นั้นจนจับจิต
ผู้กดกริ่งและยืนรออยู่หน้าห้อง ถูกสัมผัสที่แขนด้วยความนิ่มนวลแผ่วเบา แล้วเดินตามไปนั่งที่โต๊ะรับแขกตามคำเชื้อเชิญอย่างว่าง่าย
“หนูมาถึงเมื่อไร แล้วไม่ต้องไปทำงานเหรอคะ...”
น้ำเสียงอ่อนโยน กับรอยยิ้มอันอบอุ่นและสัมผัสที่แผ่วเบา ช่วยทำให้เธอผ่อนคลายลงไม่น้อย
การสนทนาของทั้งคู่ดำเนินไป บรรยากาศเคร่งเครียดค่อยคลี่คลายลง
ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษารวมทั้งสภาวะการณ์ของคุณแม่ของสมพรจากการบอกเล่าของสุกานดา แม้ว่าความทุกข์โศกจะยังไม่จางหายไปแต่ก็ทำให้สมพรรับรู้และเข้าใจสภาพที่เป็นจริงได้มากขึ้น เธอเริ่มปรับและทำใจได้บ้าง
สำหรับสุกานดาแล้ว เธอมิได้ทำหน้าที่เพียงเยียวยาผู้ป่วยเท่านั้น การเยียวยาทางจิตใจแก่ญาติผู้ป่วยก็เป็นสิ่งที่เธอให้ความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ทั้งนี้เพราะเธอเห็นว่าเมื่อผู้ป่วยประสบภาวะวิกฤติกาย สิ่งที่พบทันทีคือภาวะวิกฤติใจของญาติผู้ป่วย ยิ่งความรักและความผูกพันของญาติที่มีต่อผู้ป่วยมากเพียงใด ความทุกข์อาทรร้อนใจก็ยิ่งโถมทับทวีตามไปด้วย
กิจกรรมการให้คำปรึกษา การให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมาและไม่ปิดบัง จึงเป็นบริการที่สำคัญประการหนึ่งของงานห้องผู้ป่วยวิกฤติ โรงพยาบาลพิจิตร ที่เธอดูแลอยู่ ดังที่เธอกล่าว
“การดูแลญาติให้พ้นวิกฤติใจเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญ เราจะมีการให้ข้อมูลแก่ญาติคนไข้ทุกวัน ทุกครั้งหลังเวลาเยี่ยม ที่สำคัญไปกว่านั้นเราจะให้กำลังใจแก่ญาติคนไข้ ให้เขามีกำลังใจ สามารถประคับประคองจิตใจให้ผ่านพ้นความทุกข์ในขณะนั้นไปได้...”
คำสอนของพระราชบิดา “เอาใจเขามาใส่ใจเรา” เป็นแนวทางที่สุกานดายึดถือนำมาปฏิบัติอย่างสัตย์ซื่อตลอดการประกอบวิชาชีพของเธอ
“สิ่งที่คิดถึงตลอดเวลาในการทำงานบริการด้านสุขภาพ ในการดูแลคนไข้นั้นยึดหลักเดียวคือดูแลเสมือนญาติ ถ้าคิดว่าผู้ป่วยเป็นญาติ ผู้รับบริการทุกคนเป็นญาติ เราอยากได้อย่างไรที่จะกระทำต่อญาติเรา เราก็ทำอย่างนั้นกับผู้ป่วย กับญาติผู้ป่วย ผู้มาเข้ารับบริการ แม้นว่าเราจะไม่สามารถดูแลให้เขารอดชีวิต แต่ว่าเราก็จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเขา เท่าที่เขามีเวลา เท่าที่เรามีโอกาสเรามีโอกาสที่จะทำได้...”
“พี่คะ แม่เคยบอกว่าอยากไปสิ้นลมที่บ้านค่ะ...”
สมพร เอ่ยขึ้นกับสุกานดาข้างเตียงคุณแม่ เมื่อเธอเห็นว่าลมหายใจสุดท้ายของคุณแม่ใกล้จะมาถึงเต็มที
แม้แววตายังไม่คลายจากความทุกข์โศก แต่สีหน้าของสมพรก็ดีกว่าหลายวันก่อนมาก จากการให้คำปรึกษาพูดคุยเป็นระยะ
“แม่รักบ้านมาก บ้านไม้เก่า ๆ โย้เย้ จะสร้างหลังใหม่ให้ก็ไม่ยอม แม่รักบ้านหลังนี้มาก...”
เธอเล่าถึงความผูกพันของแม่กับบ้านที่แม่อยู่มาตลอดชีวิต
สุกานดากล่าวขึ้น หลังจากรับฟังคำพูดของสมพรอย่างเข้าอกเข้าใจ
“แม่หนูคงอยากมีลมหายใจสุดท้ายที่บ้าน กับครอบครัวที่อบอุ่น ไม่ใช่กับอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีราคาแพงมากมายเหล่านี้ หนูว่าจริงไหม...”
ก่อนที่สมพรจะย้ายคุณแม่กลับบ้าน สุกานดาได้จัดให้มีการดำเนินการตามความเชื่อทางศาสนา ด้วยการนิมนต์พระสงฆ์ให้มารับสังฆทานจากคุณแม่พร้อมกับคุณพ่อและสมพร ให้ญาติได้กล่าวถึงคุณงามความดีงามของคนไข้ รวมทั้งขออโหสิกรรมซึ่งกันและกัน ซึ่งเหตุการทั้งหมดนี้อยู่ในความรับรู้ของคนไข้ทั้งสิ้น
“คุณแม่สิ้นลมแล้วค่ะ...”
สุกานดา รับฟังการแจ้งข่าวทางโทรศัพท์จากสมพร ปลายสายบอกต่อว่า คุณแม่สิ้นลมหลังจากเดินทางมาถึงบ้านได้ราวสามชั่วโมง
คุณแม่ของสมพร บุญนาค สิ้นลมอย่างสงบท่ามกลางความอบอุ่นของครอบครัวและญาติมิตร และที่สำคัญลมหายใจสุดท้ายของคนไข้สิ้นสุดลงภายใต้ชายคาบ้านซึ่งเป็นที่รักและผูกพัน สมดังเจตนารมย์และไม่เสียทีที่ได้สั่งเสียลูกไว้ก่อนจากไป
“พี่เค้าใช้หัวใจคุยกับเราค่ะ...”
สมพร บุญนาค กล่าวถึงความประทับใจที่ได้รับจากการเยียวยาของทีมพยาบาลงานห้องผู้ป่วยวิกฤติ โรงพยาบาลพิจิตร ว่า
“เค้าทำแบบว่า ‘เอาใจเขามาใส่ใจเรา’ มานั่งในใจเรา มาเข้าใจเราในฐานะญาติที่กำลังจะสูญเสียคนที่เรารักที่สุด ให้ความใส่ใจ สนใจในทุกรายละเอียดของทั้งคนไข้และญาติ เขาเต็มที่ที่สุด ทำทุกอย่างเต็มที่อย่างที่สุด เหมือนกับว่าเขาดูแลญาติของเขาเอง เขาให้ความสำคัญกับผู้ป่วยเหมือนกับที่เขาดูแลคุณพ่อคุณแม่ของตัวเอง...
...ขอขอบคุณพี่สุกานดาและทีมพยาบาลทุกท่านที่ช่วยดูแลคุณแม่ ในขณะนั้นถือว่าเจอกับสภาพที่วิกฤติที่สุดที่ต้องสูญเสียคนที่เรารักที่สุดไป แต่อีกด้านหนึ่งก็ถือว่าเป็นด้านบวกของชีวิตที่ได้พบคนที่จิตใจดีงาม...”
...นอกจากดูแลผู้ป่วยในห้องไอซียูแล้ว พยาบาลเหล่านั้นยังดูแลญาติผู้ป่วยในด้านจิตใจด้วย เมื่อญาติออกมาจากการเยี่ยม ทีมพยาบาลก็จะเข้ามาเล่าความคืบหน้าของการรักษา แนวทางรักษา ชี้แจงให้ทราบว่ามีความหวังแค่ไหน มันทำให้ญาติไม่กังวล ไม่ลังเลมากที่จะตัดสินใจ..."
พี่หนานเกียรติครับ เป็นเรื่องตามโครงการ สรพ ใช่ไหมครับ เยี่ยมมากๆๆการดูแลและเยียวยาด้วยหัวใจจริงๆๆ แบบนี้ต้องไปดูเรื่องการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายด้วยนะครับ...
ลุ่มลึกในมุมมอง เยี่ยมยอดในเนื้อหาที่สื่อสะท้อนมากครับ
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านด้วยจิตคารวะครับ
ชอบครับ
พยาบาลเหล่านั้นยังดูแลญาติผู้ป่วยในด้านจิตใจด้วย
อ่านแล้วก็รู้สึกเห็นใจทุกฝ่ายนะคะ..ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ
อย่างนี้เรียกว่าดูแลด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์
ขอชื่นชมคนรพ.พิจิตรมากๆค่ะ
ชื่นชมค่ะ ... รักษาด้วยใจ เยียวยาด้วยใจ
ประทับใจ ผู้หญิงสีขาว ชาวพยาบาลครับ ท่านทุกคนปี่ยมด้วยน้ำใจครับ
ดูแลผู้ป่วยด้วยหัวใจ ... เป็นนิมิตหมายที่ดีนะคะ ... อยากให้คุณหมอ พยาบาลทุกๆ สาขา ยึดถือเป็นแบบอย่างค่ะ
... หากทุกๆ สถานพยาบาล ใช้มาตรฐาน เยียวยาด้วย หัวใจ โลกของผู้ป่วย คงสดใส มหัศจรรย์ ...
ชื่นชมคุณหมอพยาบาล ผู้เสียสละ และเป็นกำลังใจแก่องค์กรส่งเสริมงานพัฒนาอย่างยั่งยืน ขอบพระคุณค่ะ
ขอบคุณทุกความเห็น
ขอบคุณทุกท่านที่มาแวะเยี่ยมเยียนครับ
น้อมคารวะต่อการเยียวยาด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ค่ะ...^-^
อารมณ์รักบริการแบบนี้ละค่ะพี่ที่เป็นหนึ่งเหตุผลในการทำงานบริการด้านสุขภาพต่อไป
แต่ก็มีอารมณ์และเหตุผลอีกมากมายที่อยากใช้ชีวิตเป็นของตัวเองมากกว่านี้
ขอบคุณมากนะค่ะสำหรับคำตอบที่แวะเอาไปฝากให้น้องค่ะ
"ยาดีๆหลายขนาน ไม่สำคัญเท่า "เยียวยาด้วยหัวใจ" ค่ะ
อ่านแล้วซาบซึ้งครับ
ชื่นชมมากๆครับ ขอบคุณเรื่องราวดีๆครับ
สวัสดีค่ะ
เป็นอีกหนึ่งกำลังใจนะคะ
รู้สึกเห็นใจและเข้าใจค่ะ
คิดถึงตอนพฃที่พ่ออยู่ทีไอซียู
สู้ๆน๊าค่ะ ^_^
ประทับใจค่ะ
ส่วนตัวจะแบ่งปันปัจจัยส่วนหนึ่งให้ห้องไอซียู โรงพยาบาลที่ทำงานเดิม ร่วมด้วยช่วยกันในการพิมพ์หนังสือธรรมะ ของพระอาจารย์ไพศาล วิสาโลและคู่มือการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย
เป็น การช่วย "การดูแลผู้ดูแล" ผู้ป่วยอีกทางหนึ่งค่ะ
ขอบคุณพี่หนาน ที่เขียนออกมาได้ละเอียดละออ ประณีต นุ่มนวล ซาบซึ้ง น่าประทับใจ เอ.... มีไรอีกอ่ะ...สุดยอดของการถ่ายทอดเลยค่ะพี่ เก่งจริงๆ ค่ะ ขั้นเทพมากๆ
สวัสดีค่ะหนานประทับใจมาก..การทำงานแบบองค์รวมได้ทุกเรื่อง....ดีค่ะ
เยี่ยมมากเลย น่าชื่นชมมากค่ะ
โรงพยาบาลนี้ หากมีทุกโรงพยาบาล ก็จะดีมากนะคะ แต่คงเป็นไปไม่ได้
ขอบคุณนะคะนำเรื่องมาเล่าให้ทราบ เป็นตัวอย่างที่ดีมาก ไม่จำป็นต้องเป็นผู้ทำหน้าที่ที่อยู่ห้องผู้ป่วยก็ได้นะคะ เราทุกคนหากพบ คนรู้จัก เพื่อน ญาติพี่น้อง เราก็ควรทำแบบคุณ สุกานดา นะคะ หรือคนที่มาปรับทุกข์กับเราก็ไม่ควรซ้ำเติม
สวัสดีครับ อ.ขจิต ฝอยทอง
อาจารย์ครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ ร.พ.พิจิตร ที่จะนำมาเผยแพร่ในงาน HA ของ สรพ. ครับ ผมสนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษครับ
สวัสดีครับ อาจารย์ เสียงเล็กๆ فؤاد
ขอบคุณมาก ๆ ครับอาจารย์
สวัสดีครับ คุณ มกระ
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมให้กำลังใจครับ
สวัสดีครับ อาจารย์ small man
เรื่องเล่าในบันทึกผม ยังสื่อความดีงามของทีมพยาบาลนี้ได้เพียงนิดหน่อยครับ
เรื่องเล่าจากปากน่าสนใจกว่าสิ่งที่ปรากฏในบันทึกมาก
ความสามารถของผมทำได้เพียงเท่านี้เองครับ
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมนะครับ
สวัสดีครับพี่ใหญ่ นาง นงนาท สนธิสุวรรณ
ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจครับ
สวัสดีครับ พี่add [IP: 125.26.189.33]
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ
สวัสดีครับ พี่ นาง...มณีวรรณ ตั้งขจรศักดิ์
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ
พยาบาลที่นี่เยี่ยมยอดมาก ๆ
เขาใช้ "หัวใจ" ทำงาน ครับ
สวัสดีครับ อ.จักรกฤษณ์
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ...
สวัสดีครับ คุณหมอ เพื่อนร่วมทาง
สวัสดีครับ คุณ blue_star
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ
เช่นเดียวกันครับ
ขอน้อมคารวะต่อการเยียวยาด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์
สวัสดีครับ คุณpivara
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนและแบ่งปันความรู้สึกครับ
ดีใจจริง ๆ ที่มีบุคลากรเช่นนี้ และที่สำคัญอยู่ในบ้านเกิดเมืองนอนของผม
จะหาโอกาสไปเยือนที่โรงพยาบาลสักวันนะครับ
สวัสดีครับ พี่ นิตยา เรืองแป้น
ใช่ครับ "ยาดี ๆ หลายขนาน ไม่สำคัญเท่า 'เยียวยาด้วยหัวใจ' "
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ
สวัสดีครับ คุณ capuchino
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ
ดีใจมากที่ชอบ มีเรื่องราวทำนองนี้มาฝากอีกเรื่อย ๆ นะครับ
สวัสดีครับ คุณ ดาวเรือง
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ
ดีใจที่ชอบครับ
มีเรื่องเล่าทำนองนี้มาแบ่งปันอีกนะครับ
สวัสดีครับ อาจารย์ ธนิตย์ สุวรรณเจริญ
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ
สวัสดีครับ น้อง เทียนน้อย
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ
เป็นไงบ้าง สบายดไหมครับ
ไม่ได้ทักทายกันนานเลย
สวัสดีครับ คุณภูสุภา
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนครับ
ชื่นชมกับกิจกรรมที่ดำเนินการอยู่มาก ๆ ครับ ขออนุญาตนำไปบอกเล่าต่อนะครับ
สวัสดีคุณน้องพรทั้งหล้า ♥paula .`๏'- ที่ปรึกษาตัวน้อย.`๏'-
เว่อร์ไปน้อง...
แหะ แหะ แต่ก็ชอบนะ ฮิ ฮิ...
สวัสดีเจ้าคุณครู rinda
ยินดีจ้าดนัก ที่แวะมาแอ่วเจ้า
สวัสดีครับ พี่กานดา น้ำมันมะพร้าว
ขอบคุณพี่กานดามาก ๆ ที่แวะมาเยี่ยมครับ