ธรรมหรรษา
รศ.ดร. พระมหา หรรษา นิธิบุณยากร

มหาจุฬาฯ จัดสัมมนาผลงานวิจัยนานาชาติ ครั้งที่ 2 มุ่งเผยแผ่พระพุทธศาสนาสู่ชาวโลก


                              

          มหาจุฬาฯ อยุธยา : 8 มกราคม 2553 : พระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาผลงานวิจัยนานาชาติ จัดโดย สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และองค์กรร่วมประกอบด้วย กองธรรามสนามหลวง มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย สภาวิจัยแห่งชาติ องค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และศูนย์ศึกษาพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด  ครั้งนี้ เป็นการจัดครั้งที่ 2 หลังจากที่มหาวิทยาลัยได้จัดมาแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา ในการสัมมนาผลงานวิจัยนานาชาติครั้งนี้ มีนักวิจัยทั้งจากในประเทศและประเทศต่างๆ ทั่วโลกเข้าร่วมสัมมนากว่า 400 รูป/คน จาก 21 ประเทศ 

                   

         อธิการบดี มจร กล่าวในการเปิดการสัมมนาว่า “นับว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และองค์กรร่วมมือได้จัดสัมมนาเช่นนี้ ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ถือเป็นผลสืบเนื่องจากการที่มหาวิทยาลัย ได้เป็นผู้นำในการจัดสัมมนาวิชาการทางพระพุทธศาสนามาหลายปีจนเป็นที่รู้จัก ในวงการพระพุทธศาสนาทั่วโลก การวิจัยถือเป็นหัวใจสำคัญในการนำเอาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาไปเผยแผ่ให้กับ ชาวโลก เป็นการศึกษาและเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างมีหลักเกณฑ์ มีอีกหลายประเด็นที่อยากให้ทำการวิจัยให้มากขึ้นโดยทำงานร่วมกับสภาวิสาข บูชาโลกและสมาคมมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาโลก หวังว่า ว่าผลการสัมมนาครั้งนี้ จะนำไปสู่การนำผลงานการวิจัยทางพระพุทธศาสนาออกเผยแพร่แก่ทั่วโลกและมีการทำ งานร่วมกันผ่านงานวิจัยมากขึ้น”


       ด้าน พระครูปลัดสุวัฒนวชิรคุณ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ กล่าวว่า “การจัดสัมมนาครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 มกราคม 2553 นอกจากการเสนอผลงานวิจัยด้วยภาษาอังกฤษ-ภาษาไทยและอื่น ๆ แล้ว ในวันที่ 9 มกราคม 2553 ยังได้เปิดโอกาสให้ผู้วิจัยและนักวิชาการได้นำเสนอผลงานด้วยภาษาบาลีซึ่ง เป็นภาษาจารึกคัมภีร์ของพระพุทธศาสนาเถรวาทด้วย ท่านที่สนใจสามารถเข้าร่วมการสัมมนาได้ หรือติดตามชมทางเวบไซค์ ที่ www.mcu.ac.th   หรือที่ www.mcuchannel.com

หมายเลขบันทึก: 326336เขียนเมื่อ 9 มกราคม 2010 20:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

นมัสการพระคุณเจ้า

  • อาจารย์ยูมิ ได้เข้ามาร่วมงานด้วย
  • ท่านได้เล่าไว้ในบันทึกของท่านเจ้าค่ะ
  • กราบขอบพระคุณอย่างสูง

ครูคิม

  • วันนี้อาจารย์ยูมิได้ขึ้นไปที่สำนักงานอาตมา และได้รับหนังสือวิชาการ ทุกเล่มที่มอบให้เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด
  • พรุ่งนี้ตั้งใจจะเดินทางเ้ข้าสำนักงานแม้จะเป็นวันหยุด และอาจจะมีโอกาสได้พบอาจารย์ยูมิ ซึ่งขณะนี้กำลังปวดหัวว่าจะฟังภาษาไหนดี
  • คิดว่าเสร็จงานคงมีอะไรดีๆ มาเล่าให้พวกเราฟัง
  • เจริญพร

นมัสการพระคุณเจ้าธรรมะหรรษา

วาว ๆ ก้าวทันยุคจริง ๆ ม. มจร...ของเรา...

ยังคุยกับเพื่อน ๆ ถึงความก้าวกระโดดในศักยภาพความสามารถของทีมบริหาร ม. มจร.ยุคนี้ละแบบชื่นชม

มองภาพบนนั้น...แถวหน้าระหว่าง ดร. สุทธิพงศ์และ อ. สนิท คือยูมิในเสื้อสีฟ้าแขนยาวละครับกระผม...อิ อิ อิ

เมื่อกี่นี้ได้คุยภาษาเหนือกับพระคุณเจ้ามาจากเมืองลำปางละครับผม.

ก่อนจะลาจากไปนอนขอกราบนมัสการพระคุณเจ้าครับ...

อาจารย์ยูมิ

  • ขอบคุณอาจารย์มากที่กรุณาตั้งใจไปเยี่ยมพวกเราด้วยบรรยากาศทางวิชาการ
  • รุ่นใหม่ๆ ได้รับการถ่ายทอด "เมล็ดพันธุ์แห่งความปัญญา" มาจากรุ่นพี่ๆ เช่นอาจารย์
  • อนุโมทนา

นมัสการครับพระอาจารย์

ขอกราบเรียนถามพระอาจารย์ครับว่า ในฐานะที่ประเทศไทยเราเป็นเมืองพุทธ มีผู้นับถือศาสนาพุทธมาก มีสถาบันการศึกษาศาสนาพุทธที่มีมาตราฐาน อย่าง มหาจุฬาฯ และ มหามงกุฎฯ แต่ในขณะที่ภาคประชาชนส่วนมากแล้วยังพึ่ง พระเครื่อง เครื่องรางของขลัง(ผลิตกันออกมามากเหลือเกิน) ชอบพระที่เป่าน้ำมนต์ พ่นน้ำหมาก ไล่เสนียดจัญไร เข้าวัดหาไหว้ ขอโชคลาภกับพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์

ทั้งหลายเหล่านี้ ไม่ทราบว่าเพื่อนชาวพุทธต่างชาติของเรา มีทรรศนะอย่างไรครับ แล้วสิ่งเหล่านี้มันจะไม่หลุดไปพร้อมกับการแผยแพร่พุทธศาสนาสู่ชาวโลกหรือครับ เพราะเดี๋ยวนี้นอกจากคนไทย ยังเห็นฝรั่งมาอาบน้ำมนต์ ครอบเศียรไหว้ครู แบบคนไทยแล้ว(คนไทยละครับพามา)

นมัสการพระคุณเจ้า

เมื่อวานมีสงครามเล็กๆในบ้าน (อิอิ ไม่เชิงสงครามหรอกเจ้าค่ะ แค่คุยกันอย่างจริงจัง)

ใจความว่า

สามี  การเผยแพร่ศาสนาโดยใช้การกราบไหว้วิงวอนก็ใช้ได้ เพราะแม้จะให้เปลือก แต่ถ้าคนได้รับไป ค่อยๆซาบซึ้ง วันหนึ่งก็อาจศึกษาจนเข้าแก่นก็ได้ เพราะการเผยแพร่แต่แก่น คนอาจไม่สนใจรับรู้เท่าไหร่ ถ้าไม่ใช้วิธีนี้ คนอาจหนีจากศาสนาพุทธไปนับถือศาสนาอื่น

ดิฉัน  การเผยแพร่แก่นแท้ดีกว่า เพราะคนเรายังไงก็ต้องพบความทุกข์ เมื่อเค้าทุกข์ เค้าก็จะหันมาศึกษาอย่างจริงจังเอง อีกทั้งการที่คนเราไม่นำเอาหลักธรรมมาปฏิบัติ เอาแต่อ้อนวอน ก็เท่ากับศาสนาพุทธได้ตายไปจากคนๆนั้นแล้ว ไม่ต่างอะไรกับเค้าไม่ได้นับถือศาสนาพุทธเลย

ดิฉันมองว่า หากหาเรื่องราวสนุกๆในพระศาสนามาเผยแพร่ก็จะช่วยดึงดูดความสนใจ เมื่อคนรู้สึกสนุกและสนใจแล้ว คงไม่ยากที่เค้าจะเกิดความสนใจในหลักธรรมของพระศาสนาต่อไป

เมื่อวานนี้ ไม่ได้มองว่าใครถูกใครผิดเจ้าค่ะ แต่มองว่า ถ้าไม่ใช่คนกันเอง สงสัยได้เป็นเรื่องเป็นราวแล้ว

เพราะเคยมีท่านหนึ่งบอกดิฉันประมาณว่า เรื่องการเมือง เรื่องศาสนา เค้าจะไม่หยิบมาคุยหาเหตุผลกันในหมู่เพื่อน

เพราะมัน ชวนทะเลาะ เจ้าค่ะ

นมัสการพระุคุณเจ้าครูต้อยมาติดตามข่าวค่ะ

เป็นนิมิตหมายมงคลยิ่งแล้ว

เพื่อประกาศความถูกต้อง และสัจจธรรม

ขอน้อมใจน้อมกายกราบนมัสการด้วยความศรัทธายิ่งค่ะ

นมัสการครับ

ทำไมไม่มีรูปผม

การประชุมครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเกินคลาด

มีนักวิจัยและนักวิชาการนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวการวิจัยเรื่องราวทางพระพุทธศาสนาได้อย่างดีเยี่ยมครับ

อาจารย์ฤทธิชัย

  • ถามอาจารย์ยูมิดูว่าอาจารย์หายไปไหน
  • ดีใจที่อาจารย์ได้ประโยชน์จากงานนี้
  • หวังว่าจะได้แลกเปลี่ยนกันที่เชียงใหม่น่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท