ผอ.ศิลป์ประสิทธิ์ ทับทิมธงไชย ทักทายนักเรียนในการแข่งขันโครงงานฯระดับจังหวัด
สถานศึกษามีภารกิจที่จะต้องพัฒนากระบวนการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งส่งเสริมให้ผู้สอนสามารถวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียนในแต่ละระดับการศึกษา ดังนั้นผู้บริหารสถานศึกษาต้องส่งเสริมให้ครูทุกคนทำวิจัยในชั้นเรียน เพื่อพัฒนาการเรียนการสอน แต่เท่าที่ครูแป๋มได้สังเกตและศึกษาข้อมูลด้วยวิธีการหลากหลายได้ข้อค้นพบที่น่าสนใจดังนี้ค่ะ
เมื่อสำรวจดูแล้วพบว่าปริมาณงานวิจัยยังน้อย ส่วนมากเน้นไปทางการขอเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง การวิจัยเพื่อนำผลมาใช้ปฏิบัติอย่างแท้จริงมีน้อยมาก บางโรงนี่แทบไม่มีเลยค่ะ ปัญหารองลงมาที่พบมากคือ บุคลากรหลายท่านคิดว่าเป็นเรื่องของนักวิชาการระดับอุดมศึกษา ส่วนนักปฏิบัติระดับขั้นพื้นฐานยังไม่มีความจำเป็น (ข้อนี้น่าจะหมดไปแล้ว แต่พอสำรวจเข้าจริงๆยังมีอยู่ค่ะ) แถมทั้งผู้บริหารและครูยังคิดว่า การวิจัยเป็นเรื่องที่ยากขาดความเข้าใจในวิธีวิจัย ไม่กล้าทำ อ้างไม่มีเวลา ไม่คุ้มค่าที่จะทำไปโน่น และอันนี้สำคัญค่ะ นั่นคือ การขาดการสนับสนุน ส่งเสริม และพัฒนาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการพัฒนาศักยภาพในงานวิจัย การเผยแพร่ เลยไปถึงเรื่องของงบประมาณค่ะ
แท้ที่จริงในความคิดของครูแป๋มคิดว่า การวิจัยเป็นการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันอย่างมีแบบแผนเป็นระบบ น่าเชื่อถือ นำไปสู่การพัฒนา "ความเป็นผู้มีเหตุ มีผล" ทุกคำตอบสามารถพิสูจน์ได้ ที่สำคัญผู้บริหารและครูจะได้ทราบข้อเท็จจริงที่จะนำมาปรับปรุงหรือพัฒนาภารกิจที่รับผิดชอบได้ดียิ่งขึ้น ทำให้แก้ปัญหาได้ตรงจุด ประหยัดเวลาและการลงทุนอีกด้วย จากนั้นเมื่อเข้าใจวิธีวิจัยและขั้นตอนที่ได้ศึกษาจากวิทยาการใหม่ๆ จะช่วยในการวางแผนการดำเนินการงานแต่ละอย่างได้ถูกต้องและประสบความสำเร็จ ผู้บริหารและครูก็จะมีความตระหนัก เกิดความสนใจในสิ่งที่สงสัยและเป็นปัญหาอันจะนำไปสู่ปัญหาวิจัย ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมการสร้างผลงานเพื่อความก้าวหน้าของโรงเรียนและตนเองต่อไป.
เรื่องนี้ยังไม่จบค่ะ ขอไปสำรวจความต้องการของสมาชิกว่าต้องการทราบหรือแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในหัวข้อใดกันบ้าง แล้วจะกลับมาอีกนะคะ
*****************************************************************
"ครูแป๋ม"...จิราภรณ์ บุญสงค์
28 พฤศจิกายน 2552
สวัสดีค่ะ...ครูแป๋ม...
ต้องล้างทั้งระบบมังค่ะ...ผู้บริหารก็ต้องเห็นความสำคัญด้วยค่ะ...
ทุกคนก็ต้องร่วมมือกันทำวิจัยอย่างจริงจังค่ะ...
สวัสดีค่ะ คุณครูธรรมทิพย์
สวัสดีค่ะ คุณบุษยมาศ
เห็นด้วยกับคุณครูแป๋มครับ คือครูที่ทำวิจัยเพราะต้องการทราบคำตอบ-ข้อเท็จจริง นั้น มีน้อยมาก ๆ
ส่วนใหญ่ทำวิจัยเพราะผู้บริหารให้ทำ หรือเพื่อการเลื่อนตำแหน่ง
สวัสดีค่ะ ท่านเอกชัย
สวัสดี ครับ ครูแป๋ม
โชคดี นะครับ ที่ไม่ค่อยได้ใช้เวลา ในช่วงนี้
วันนี้ ช่วงเวลานี้....ได้เจอ กัลยาณมิตร หลาย ๆ ท่าน
ครูแป๋มสบายดี นะครับ
....
ชื่นชมบันทึกทางการศึกษา บันทึกนี้ นะครับ
.....แท้ที่จริงในความคิดของครูแป๋มคิดว่า การวิจัยเป็นการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันอย่างมีแบบแผนเป็นระบบ น่าเชื่อถือ นำไปสู่การพัฒนา "ความเป็นผู้มีเหตุ มีผล" ทุกคำตอบสามารถพิสูจน์ได้ ที่สำคัญผู้บริหารและครูจะได้ทราบข้อเท็จจริงที่จะนำมาปรับปรุงหรือพัฒนาภารกิจที่รับผิดชอบได้ดียิ่งขึ้น ทำให้แก้ปัญหาได้ตรงจุด ประหยัดเวลาและการลงทุนอีกด้วย ....
เห็นด้วยกับสิ่งที่ครูแป๋ม พูดมา นะครับ
ด้วยความระลึกถึง ครับ
สวัสดีค่ะอาจารย์
สวัสดีค่ะ น้องซิลเวีย
แวะมาเยี่ยมครูแป๋มครับ...
งานวิจัยถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อเลื่อนขั้นตำแหน่งมากกว่านำมาใช้หาความรู้เพื่อพัฒนางานมากเกินไปครับ
เราจึงไม่ค่อยเห็นงานวิจัยแบบหลัง
คงต้องขับเคลื่อนอีกยาวนานครับ กว่าจะทำให้การวิจัยเป็นเครื่องมือเพื่อการพัฒนาจริง ๆ
งานวิจัย หลายคนรวมทั้งตัวเองก็รู้สึกว่ามันยาก
สิ่งที่ทำอยู่คือการพัฒนางาน(CQI)
เพราะทำได้ไม่ยากเกินไปและนำกลับมาใช้จริงในงานประจำ
ตอนนี้สนใจและอยากทำวิจัย
ซึ่งวิจัยของพี่นางไม่เกี่ยวข้องกับการเลื่อนขั้น
แต่..เกี่ยวข้องกับงานที่อยากเห็นการพัฒนา
อย่างที่เรียกว่าทำเพราะใจอยากทำนั่นเอง
พูดยาวไปหน่อยนะคะ
พี่นางคะ
หวัดดีคร้าฟฟฟ ครูแป๋ม
ได้อ่านแล้วอดไม่ได้ เลยขอแจมด้วยคนนะคร้าฟ
......
ผมเคยทำงานวิจัยห้าบทและวิจัยในชั้นเรียนมาแล้วหลายเรื่อง
ผมเห็นด้วยกับครูแป๋มมากๆ เกี่ยวกับการทำงานวิจัยของครู
จะเพื่อแก้ปัญหาแก่เด็กหรือเพื่อทำผลงานเลื่อนตำแหน่งก็ตาม
...ประโยชน์ทั้งนั้นครับ...ขอแค่มีความตั้งใจจริงที่จะทำ...
ปัจจุบันและปัญหา คือ มีครูหลายคนทำวิจัยได้ถูกต้อง คล่องแคล่ว ถนัด
แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ทำไม่ได้ แม้จะพยายามแล้ว...
คนเราถนัดไม่เหมือนกันครับ...พี่รู้สอง น้องรู้หนึ่ง...
ขอแค่ครูเหล่านั้นตั้งใจทำงานเต็มความสามารถ...ตามถนัด...ประโยชน์ย่อมเกิดแก่เด็กๆ
ลุงรุน ขอให้กำลังใจกับทุกคน น่ะขอรับ
และขอเชิญครูแป๋มเยี่ยมชม ติชม แนะนำ บล็อคมือใหม่ครับ
http://gotoknow.org/blog/cai-animation/288964
สวัสดีค่ะ คุณครูแป๋ม
- งานวิจัยในโรงเรียนจะใช้ไปในทิศทางการพัฒนาได้....ขึ้นกับหลายปัจจัยค่ะ ครูนกขอพูดถึงงานเล็กที่ยังไม่ถึงขั้นงานวิจัย อย่างเช่นการประเมินโครงการ หรือการประเมินกิจกรรม จะมีสักกี่ครั้งที่คณะทำงานประเมินผลรายงานผลแล้วฝ่ายบริหารจะหยิบมาเป็นข้อมูลในการพัฒนางานครั้งต่อๆ ไป เผลอ...สิ่งที่ทำไปกลายเป็นไม้ประดับของ PDCA ค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณลุงรุน
สวัสดีค่ะ คุณครูนก
สวัสดีครับครูแป๋ม งานวิจัยหลายชิ้นที่ทำแล้วไม่ตอบสนองความอยากรู้จริง งานวิจัยชุมชน ก็เหมือนกัน
วิจัยแล้วไม่ได้คืนข้อมูลไปให้ชุมชนได้เรียนรู้ พัฒนา นับว่าเสียโอกาสของชุมชนครับ
สวัสดีค่ะ ท่านวอญ่าฯ
สวัสดีค่ะครูแป๋ม มาเป็นเพื่อนคนนอนดึกค่ะ
วันนี้เวรดึก คิดถึงนะคะ เป็นกำลังใจให้ว่าที่ดร. คนสวยนะคะ
สวัสดีค่ะ พี่แดง
ขอบคุณที่มาทักทายและให้กำลังใจครับ
สวัสดีค่ะ คุณchaychaodin
สวัสดีค่ะ น้องรัก
ครูอ้อย มาตั้งใจอ่านเรื่องวิจัย สำหรับครูอ้อย วิจัย คือชีวิต
ขอบคุณมากค่ะ
สวัสดีค่ะ พี่ครูอ้อย