ความเห็น: 8
บริการอย่างไร...ไร้ขัดแย้ง (ว่าด้วยเรื่องคนไข้ขอนอนโรงพยาบาล)
“ความเห็นไม่ตรงกันการพนันจึงเกิดขึ้น “ ประโยคนี้เคยได้ยินจาก อ๊อด เอกซเรย์ ของเราเมื่อนานแล้ว เลยนึกขึ้นได้ว่า ตอนนี้เห็นฝ่ายการพยาบาลตื่นตัวเรื่องพฤติกรรมบริการ ว่าจะมาปัดฝุ่นกันใหม่ อันเนื่องมาจากมักเกิดปัญหาความขัดแย้งของการให้บริการ ซึ่งขอเลียนแบบว่าเป็น “ความเห็นไม่สอดคล้อง การฟ้องร้องจึงเกิดขึ้น” แต่ไหนๆเราก็กำลังโปรโมทเรื่องของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ก็เลยถือโอกาสใช้เวที gotoknow เป็นที่แลกเปลี่ยนเสียเลย ก็อยากให้ทุกคนลองมาเล่าเรื่องประสบการณ์ดีๆ เกี่ยวกับการจัดการบริการที่มีความขัดแย้ง ว่าได้ทำอย่างไรไปบ้าง เรื่องเล็กๆก็ได้ ผมจะลองเปิดหัวข้อให้ว่า “ บริการอย่างไร ไร้ขัดแย้ง ( ว่าด้วยเรื่อง.......) “ ลองเข้ามาเล่ากันดูครับ วันนี้ขอเปิดประเด็นประสบการณ์ “ บริการอย่างไร ไร้ขัดแย้ง(ว่าด้วยเรื่องคนไข้ขอนอนโรงพยาบาล) “
หลายครั้งที่คนไข้หรือญาติอยากให้คนไข้นอนโรงพยาบาลโดยที่เราอาจเห็นว่าไม่สมควร (ตามความเห็นเรา) เราจะต้องทำอย่างไรเมื่อ ความเห็นไม่สอดคล้องกันเสียแล้ว แต่ก่อนอื่นขอเปิดมุมมองเพื่อทำความเข้าใจของทั้งสองฝ่ายก่อน
มุมมองคนไข้หรือญาติ คนไข้จะหนักหรือไม่หนักจะดูที่อาการ,ความรู้สึกหรือความกังวลเป็นหลัก ถือมีข้อเหล่านั้นก็ถือว่าหนัก ต้องนอน รพ. โดยไม่สนใจเรื่องพยาธิสภาพหรือสาเหตุ
มุมมองแพทย์ , พยาบาล คือ คนไข้ที่ต้องนอนคือคนไข้ที่ต้องมีพยาธิสภาพที่จำเป็นต้องให้การรักษาแบบผู้ป่วยใน เช่น ให้ยาเข้าเส้น ให้น้ำเกลือ หรือดูอาการใกล้ชิด โดยปกติมุมมองของแพทย์และผู้ป่วยก็มักตรงกัน คือถ้าผู้ป่วยรู้สึกอาการหนัก แพทย์ก็มักจะเห็นว่าหนักด้วย แต่มีบางกรณีที่คนไข้ว่าอาการหนัก แต่แพทย์บอกว่าไม่หนักเช่น ผู้ป่วยเวียนหัวจากการเปลี่ยนท่า ( benign position vertigo) ผู้ป่วยจะรู้สึกว่าอาการหนักมาก บ้านหมุน อาเจียน ใจสั่น แต่ในมุมมองแพทย์จะรู้ว่าพยาธิสภาพอาจไม่รุนแรง และส่วนใหญ่จะหายในเวลาไม่นานถือว่าไม่น่านอน รพ. ถึงตอนนี้ก็เริ่มเกิดความขัดแย้ง จะทำอย่างไร ผมขอเสนอประสบการณ์ที่อาจพอช่วยลดความขัดแย้งได้ดังนี้
1. ใช้เวลามากขึ้นหน่อยที่จะต้องอธิบายถึงพยาธิสภาพและพยากรณ์โรคเพื่อให้คนไข้เข้าใจมากขึ้น คิดว่าสำคัญมาก บางทีพอเข้าใจก็จะยอมรับได้ แต่ถ้าไม่ได้ก็ไปข้อ 2
2. ลองต่อรองให้กลับไปดูอาการที่บ้าน (กรณีที่เรามั่นใจมากว่าไม่มีอันตราย) และเปิดโอกาสให้ว่าถ้าไม่ดีขึ้นให้มาได้ตลอดเวลา ทันที ทางเรามีคนคอยดูแลตลอด ถ้าจำเป็นเร่งด่วนก็มี EMS คอยรับ แต่ถ้ายังไม่สำเร็จ ก็ไปข้อ 3
3. พบกันครึ่งทาง ก็คือนอนสังเกตอาการไว้ก่อน อาจใช้เวลาแค่ 2-4 ชม. อาจดีขึ้นแล้วก็กลับได้ เช่น คนไข้เวียนหัวอาจดีขึ้นได้เร็ว หรือปวดท้องให้ยาแล้วอาจดีขึ้น คืออย่าเพิ่งรีบปฏิเสธว่าไม่ให้นอนตั้งแต่ตอนแรก แค่ประกันว่าถ้าไม่ดีขึ้นก็จะให้นอนพักค้างคืน แน่ๆ แต่ถ้าไม่สำเร็จ ก็ไปข้อ 4
4. ต้องยอมแพ้ให้นอนไปก่อน รุ่งเช้าส่วนใหญ่ขอกลับเพราะมักดีขึ้น
ลองทำดูเท่านี้เราก็อาจจะช่วยลดคนไข้ที่ไม่จำเป็นต้องนอนลงไปบ้างแบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น ทั้งหมดนี้ไม่ได้รังเกียจที่คนไข้จะนอน รพ. แต่ต้องการยกตัวอย่างการทำให้สมประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย เวลาเกิดความขัดแย้งทางความคิด สุดท้ายต้อง happy ทั้งสองฝ่าย
บรรพต