ครูสอนธรรม


ผู้เขียนได้เรียนรู้ว่การเป็นผู้ใช้กฎหมายไม่ว่าจะในฐานะใด จะต้องยึดมั่นใน "หิริโอตัปปะ" ภาษาอังกฤษที่ผู้เขียนอยากใช้คือ "integrity" ซึ่งมีความหมายกว้างและลึกยิ่งกว่าความซื่อสัตย์

วันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ วันเดียวกันนี้  ผู้เขียนได้ไปงานศพถึงสองงาน  งานแรกเป็นงานพระราชทานเพลิงศพรองศาสตราจารย์ภาสกร  ชุณหอุไร ณ วัดตรีทศเทพ   ท่านอาจารย์ภาสกรเป็นผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชากฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีเมืองและกฎหมายที่ดินให้แก่ผู้เขียน

            

สิ่งที่ท่านสอนมิเพียงแต่เนื้อหาหลักวิชากฎหมาย  แต่ด้วยบุคลิกภาพของความเป็น "ครูเพื่อศิษย์" ของท่านก็ได้สอนลูกศิษย์ผ่านสิ่งที่ท่านเป็นด้วยเช่นกัน  ลูกศิษย์ทุกคนทราบกันดีว่าท่านเป็นนักวิชาการด้านกฎหมายที่สมถะ สุภาพเรียบร้อย ซื่อสัตย์ สุจริต

        

ขณะที่ผู้เขียนเรียนกับท่านนั้น วัยของท่านก็มากโข เพราะท่านเกษียณแล้ว แต่มาสอนในฐานะอาจารย์พิเศษ  ท่านมาสอนทั้งที่อยู่ในอาการเจ็บป่วยเพราะโรคภัยไข้เจ็บตามวัยชรา  ท่านเคยบอกว่าแม้ท่านจะเสียชีวิตไปขณะที่กำลังสอนอยู่ก็ภาคภูมิใจยิ่งนัก  ทุกลมหายใจของท่านคือ "การสอนกฎหมาย"  ท่านให้ความสำคัญกับผู้ใช้กฎหมายที่จะต้องมีความเที่ยงธรรม 

 

เพราะอาการเจ็บป่วยของท่าน  ทำให้ท่านต้องตัดใจหยุดสอนและพักผ่อน  แต่ผู้เขียนก็เพิ่งได้มีโอกาสเจอท่านได้ไม่กี่เดือนมานี้ ก่อนที่ท่านจะจากไป  ท่านไอมาก ไอจนต้องนั่งพักอยู่ที่เก้าอี้ริมสนามหญ้าของมหาวิทยาลัย  ผู้เขียนจะวิ่งเข้าไปประคอง แต่ท่านก็โบกมือห้าม  บุคลิกท่านที่เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งก็คือ "ไม่ยอมให้ใครช่วยเหลือ"  ผู้เขียนเคยผ่านเหตุการณ์ที่ท่านปฏิเสธิการช่วยเหลือมาแล้วครั้งหนึ่ง   นับว่าเป็น "ความหยิ่งทะนง" ที่น่ายกย่อง หากเรื่องนั้นจะไม่เกี่ยวกับสุขภาพของท่านเอง ก็จะเป็นการดีที่ศิษย์จะได้มีโอกาสตอบแทนอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง

          

กล่าวได้ว่า  แม้กระทั่งวันที่ท่านจากไป ท่านก็ยังสอนธรรมให้ผู้เขียนตระหนักถึงความแน่นอนแห่งการจากไป  ไม่ว่าช้าหรือเร็ว ก็มีค่าเท่ากัน  ความสำคัญคือฝากและฝังอะไรไว้ให้คนรุ่นหลัง

               

ผู้เขียนได้เรียนรู้ว่าการเป็นผู้ใช้กฎหมายไม่ว่าจะในฐานะใด จะต้องยึดมั่นใน "หิริโอตัปปะ" ภาษาอังกฤษที่ผู้เขียนอยากใช้คือ "integrity" ซึ่งมีความหมายกว้างและลึกยิ่งกว่าความซื่อสัตย์

    

หลังจากร่วมงานพิธีพระราชทานครูบาอาจารย์ที่เป็นที่รักท่านนี้แล้ว ผู้เขียนก็รีบดิ่งตรงไปอีกวัดหนึ่ง นั่นคือวัดลาดสนุ่น ไกลกันคนละแห่งเลย แต่เวลาต่างกันพอสมควรที่จะไปทันร่วมพิธีสวดศพ  ท่านที่สองผู้วายชนม์นี้เป็นเจ้านายเก่าผู้เขียน นามว่า นอ.ปรารถนา วรมิศร์  ท่านเป็นอดีตทหารอากาศและเป็นครูสอนนักบิน

 

ท่านเป็นเจ้านายผู้เขียนในช่วงเวลาอันสั้นมาก และการพบปะกันก็น้อยครั้ง  แต่ทุกครั้ง ท่านจะชอบสอนผู้เขียน ซึ่งทำให้ผู้เขียนประทับใจมาก  สิ่งที่ท่านสอน ผู้เขียนจึงขอยกย่องท่านเหนือกว่าความเป็นเจ้านาย นั่นคือ "ครู" คนหนึ่งของผู้เขียน

 

คำที่ท่านสอน ได้แก่  "การทำตัวเป็นนักวิชาการ จะทำให้เราพูดจาภาษาคนไม่รู้เรื่อง   ต้องหัดไปฝึกพูดจาภาษาควายให้รู้เรื่องด้วยนะ"  ผู้เขียนไม่ขอแปลความหมาย สุดแท้แต่กัลยาณมิตรจะตีความตามความเข้าใจ  บุคลิกเจ้านายคนนี้เป็นคนถึงลูกถึงคน  นอกจากคำกล่าวที่ว่ามานี้ ท่านยังสอนอีกว่า "ให้รักษาความดี และทำงานให้ดีเอาไว้ ไม่ต้องทำงานประจบใคร เพราะเจ้านายใหญ่นายโตเปลี่ยนแปลงไปมาตามกระแสการเมือง ขอให้เรามีจุดยืนไว้ก็พอ"

   

ความเป็นนักเลงของท่านทำให้ผู้เขียนได้เรียนรู้  และเข้าใจว่าการเป็นนักเลงที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร 

 

บทสรุปสุดท้าย สิ่งที่ท่านทั้งสองฝากไว้ให้ผู้เขียนคือธรรมอันบริสุทธิ์ผุดผ่อง การครองตนเป็นผู้มีหิริโอตัปปะ การใช้มธุรสวาจาที่เข้าถึงผู้คนได้ทุกระดับ ตลอดจนการไม่เห็นแก่ลาภยศเงินทองสรรเสริญยิ่งไปกว่าคุณธรรมประจำตน

 

การได้มาแสดงความเคารพศพของผู้มีพระคุณทั้งสองท่านทำให้ย้ำเตือนถึงความไม่ประมาทในการใช้ชีวิตอันควร

 

ขอกราบแสดงความเคารพอย่างสุดซึ้งแด่ครูผู้สอนธรรมแก่ศิษย์คนนี้ สิ่งที่ศิษย์จะตอบแทนคือทานมัย ศีลมัยและภาวนามัยแด่ครูเพื่อศิษย์ทั้งสองท่าน

    -----------------------------------------------------------------

หมายเลขบันทึก: 311897เขียนเมื่อ 8 พฤศจิกายน 2009 18:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:52 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

มาร่วมรำลึกถึงท่านอาจารย์ที่เป็นครูเพื่อศิษย์อย่างเเท้จริง กับพี่ศิลาค่ะ ขอไว้อาลัยเเด่ท่านขอให้ท่านจงไปสู่สุคติ

"ครูเพื่อศิษย์" อยู่เพื่อสังคม ขอคุณความดีของท่านจงนำพาท่านสู่สุคติ

*ขอร่วมแสดงความเสียใจและชื่นชมคนดีที่จากไปค่ะ...ท่านไปดีนะคะ...

ขอบคุณค่ะที่ไปเยี่ยมโคงการปลูกป่าชายเลนของเยาวชนของเราค่ะ..

 

  • ขอบพระคุณ น้องกุ้ง P มากค่ะ ท่านทั้งสองเปรียบเสมือนคุณครูที่สอนให้คนเป็นคนดี  ความดีของท่านย่อมทำให้ท่านไปสู่สุคติแน่นอนเลยค่ะ  ดีใจค่ะที่มาเยี่ยม

ขอบคุณคุณศิลามากค่ะที่พาไปศึกษาธรรมะใกล้ตัว..ในวันใดวันหนึ่งเราก็จะถึงจุดๆนั้นเช่นกันไม่ช้าก็เร็วนะคะ..โชคดีที่ได้ทำงานพยาบาลพอได้เก็บเกี่ยวความอิ่มเอมใจเพื่อหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณวันละเล็กละน้อยค่ะ...

สวัสดีค่ะ

* แวะมาฟังครูสอนธรรมค่ะ

* เพียงมีหิริโอตัปปะ เป็นธรรมเบื้องต้นของการดำรงตน....ชีวิตนี้อยู่สุข

*  สุขกายสุขใจนะคะ

-ขอให้ดวงวิญญาณของอาจารย์จงไปสู่สุขคติครับ  จำได้ว่าตอนเป็นลูกศิษย์อาจารย์ประมาณ ปี 34-38 อาจารย์สอนวิชาที่ดิน และกฎหมายระหว่างประเทศ ประทับใจอาจารย์มากครับ 

-สอนดี มีอารมณ์ขันหัวเราะในบางครั้ง เป็นกันเองกันลูกศิษย์  จำได้ว่าวันรับปริญญายังถ่ายรูปคู่กับอาจารย์อยู่เลย ผ่านมาเกือบ 20 ปีแล้ว ยังระลึกถึงความดีของอาจารย์อยู่เสมอครับ

  • ขอบคุณท่านประจักษ์ Ico48  พี่นงนาท Ico48   คุณ nussa-udon  Ico48คุณครูพรรณา Ico48 ที่กรุณามาร่วมไว้อาลัยในช่วงเวลานาน แม้เวลาจะผ่านไป ความทรงจำดี ๆ ที่ศิษย์มีแด่คุณครูก็ไม่เคยลางเลือน
  • ขอให้ทุกท่านมีความสุข ความเจริญค่ะ
  • ขอบคุณคุณทรงพลค่ะ ที่กรุณาแวะมาแสดงความไว้อาลัยในบันทึกนี้ ทำให้ระลึกถึงคุณงามความดีของท่านอีกครั้ง
  • หากอาจารย์ทราบว่ามีลูกศิษย์หลายคนที่ระลึกถึงท่าน ท่านคงภาคภูมิใจนะคะ
  • เชื่อว่าลูกศิษย์หลายคนเจริญรอยตามในความดีที่ท่านเป็นแบบอย่าง
  • ทุกครั้งที่แวะไปมหาวิทยาลัย เดินผ่านเก้าอี้ตัวที่ท่านนั่งซึ่งเห็นท่านพักพิงเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะไปงานฌาปนกิจ จะอดระลึกถึงท่านไม่ได้ทุกที

 

ชอบประโยคนี้ครับ

การเป็นผู้ใช้กฎหมายไม่ว่าจะในฐานะใด จะต้องยึดมั่นใน "หิริโอตัปปะ"

เพราะคำว่า หิริ คือ ความละอายต่อบาป โอตัปปะ คือความเกรงกลัวต่อบาป ทั้งสองอย่างนี้เกิดความละอาย และเกรงกลัวต่อบาป เป็นหลักธรรมที่ควรคิด ไตร่ตรอง กระตุ้นเตือนให้คน ๆ หนึ่งต้องระลึกเสมอว่าสิ่งที่จะกระทำนั้นมันถูกหรือผิด ให้มีความรู้สึกละอายใจต่อสิ่งที่กระทำในทางที่ผิด

ธรรมทั้งสองอย่างนี้ถึงเรียกว่าเป็น ธรรมอันคุ้มครองโลก คือมีสองอย่างนี้ก็ทำให้โลกสงบสุขได้เลยทีเดียว เพราะมีคนไม่ทำบาปทำกรรมไงครับ

  • ขอบคุณคุณโยธินิน Ico48 ที่กรุณาให้ความเห็นที่เติมเต็มบันทึกนี้ค่ะ    "หิริโอตัปปะ"   เป็นเครื่องระงับป้องกันกิเลสของมนุษย์ทุกคน ใครยิ่งมีมากและรู้ตัวในขณะที่กำลังจะกระทำผิด ย่อมเป็นผู้เพียรแผดเผากิเลสที่ใช้เครื่องมืออันประเสริฐได้ถูกต้องค่ะ
  • ที่คุณว่าธรรมะคุ้มครองโลก เป็นคำที่จริงแท้สมควรที่เราจะนำไปใช้กับตัวเองให้ได้ค่ะ 

ความทรงจำยังอยู่ คิดถึงท่านเสมอ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท