สวัสดีค่ะ
เรื่องแรก "หญิงทะเล" ครูส้มเล่าเรื่องประกอบภาพให้นักเรียนฟังเกี่ยวกับชายทะเลต่าง ๆ ในประเทศไทย ตามธรรมชาติของเด็ก ป.1 จะถามเก่ง พูดเก่งอยู่แล้ว ต่างแย่งกันถามโน่นถามนี่ตลอดเรื่องคนละ 2- 3 คำถาม และเด็กหญิงกอไก่ก็ถามขึ้นว่า "คุณครูขาแล้วหญิงทะเลอยู่ที่ไหนคะ"
เรื่องที่สอง "กินได้ไหม" ในการเรียนการสอนทุกครั้งครูส้มก็อธิบายให้นักเรียนฟัง กว่าจะเข้าใจก็คงหลายเที่ยวเพราะเป็นเด็ก ป.1 คราวนี้ใช้คะแนนเป็นการจูงใจ บอกกับนักเรียนว่า ใครคัดลายมือสวยจะได้คะแนนมาก เด็กชายขอไข่ก็ถามอีกแล้วว่า "คุณครูครับคะแนนกินได้ไหม" เด็กชาย คอควายถามว่า "คุณครูครับเอาคะแนนไปทำอะไร"
เรื่องที่สาม "คุณแม่ขอ" การเรียนรู้สาระวิทยาศาสตร์เรื่อง การเกิดฝน คุณครูส้มให้นักเรียนช่วยกันคิดว่าฝนเกิดขึ้นได้อย่างไร นักเรียนช่วยกันแสดงความคิดไปต่าง ๆ นานา เช่นฝนเกิดขึ้นได้เพราะฝนมันอยากตก (ถ้านักเรียนโตก็ต้องเข้าใจว่านักเรียนมีเจตนาก่อกวน) ฝนตกเพราะมันสงสารพื้นดิน ฝนตกเพราะพ่อแม่ปลูกต้นไม้ แต่คำตอบของเด็กหญิงงองูบอกว่า "คุณครูขาหนูทราบแล้วค่ะว่าว่าฝนตกเพราะแม่หนูขอฝนค่ะ หนูเห็นแม่นั่งขอฝนอยู่ที่ข้างโอ่ง"
เรื่องที่สี่ "คุณครูไม่เห็นบอก" คุณครูส้มมีความจำเป็นต้องสอนทุกกลุ่มสาระ ยกเว้นภาษาอังกฤษและพลศึกษาเท่านั้น นักเรียนระดับชั้นป.1 จะโปรดปรานการวาดภาพระบายสีมากที่สุด ให้นักเรียนวาดภาพดอกไม้ที่นักเรียนชอบ ระบายสีสวยงามและเขียนบรรยายตามชอบใจ เด็กชายอออ่าง วาดด้วยความไม่ตั้งใจและระบายสีเลอะเทอะ เพราะธรรมชาติของเด็กชายไม่สอดคล้องกับกับดอกไม้ ทำให้ครูส้มบ่นขึ้นมาเบา ๆ ว่า "วาดไม่เป็นสับปะรดเลย" เด็กชายอออ่างก็ถามด้วยความสงสัยว่า "คุณครูไม่เห็นบอกว่าให้วาดสับปะรดนี่ครับ"
เรื่องที่ห้า "ฝาหม้อ" เด็กชายจอจานย้ายมาใหม่ในชั้น ป.1 ภาคเรียนที่ 2 หน้าตาดี แต่งกายสะอาด เพราะมาจากโรงเรียนในเมือง และมีบ้านอยู่หน้าโรงเรียน ใกล้กับร้านอาหาร ครูส้มได้เขียนในกระดาษว่า "ข้าวผัด 1 กล่อง" ให้เด็กชายจอจานไปให้แม่ค้า แต่บังเอิญเด็กชายจอจานอ่านข้อความเอง ..กลับมาพร้อมฝาหม้อ 2 ฝา มาถามครูส้มว่าต้องการฝาหม้อเบอร์อะไร ครูส้มขอทบทวนกระดาษแผ่นนั้น และให้เด็กชายจอจานอ่านให้ฟัง เด็กชายจอจานอ่านว่า "ฝาหม้อ 1 ฝา" สาเหตุที่ย้ายโรงเรียนเพราะเป็นเด็กเรียนช้าตกซ้ำชั้น ป.1 มาแล้ว อ่านหนังสือไม่ออก
เรื่องที่หก "สัมผัสพิเศษ" หลังพักรับประทานอาหารกลางวัน เด็กหญืงมอม้า ได้ร้องไห้สะอึกสะอื้นมาหาครูส้ม หลังจากไต่ถามกันอยู่นานจึงได้รู้สาเหตุว่านักเรียนชอบเรียกพ่อ ล้อแม่กัน เป็นเรื่องใหญ่ของเด็กโรงเรียนนี้แทบทุกชั้น ครูส้มปลอบใจและถามว่า "เพื่อนด่าว่าอย่างไร" เด็กหญิงมอม้าตอบว่า "หนูไม่ทราบค่ะ" ครูส้มยิ่งงงจึงถามต่ออีก "หนูทราบได้อย่างไรว่าเพื่อนด่าพ่อ แม่" เด็กหญิงมอม้าตอบครูส้มว่า "หนูรู้ได้จากในใจค่ะ" (สัมผัสพิเศษ)
เรื่องที่เจ็ด "เพลงเป็นเหตุ" เหตุเกิด ณ ชั่วโมงดนตรีนาฏศิลป์ ครูส้มสอนให้ร้องเพลง วิหคเหิรลม และทำท่าประกอบเพลงไปด้วย ทุกคนกำลังสนุกสนานและมีความสุข แต่เด็กหญิงพอพานทำทางจะร้องไห้ และไม่ยอมร้อง รำเหมือนเพื่อน ๆ เพราะไม่พอใจที่เข้าใจว่าเพื่อน ๆ กำลังล้อชื่อแม่อีกแล้ว เพราะเนื้อเพลงตอนหนึ่ง..."แม้นเป็นนกได้ดั่งใจจินตนา ฉันคงเริงร่าลอยลม" เนื่องจากแม่ของเด็กหญืงพอพานชื่อ......นางจินตนา
เรื่องที่เก้า "ใครมีรถเมล์มากที่สุด" ธรรมชาติของเด็ก ๆ ชอบมากกับคำถาม "อะไรเอ่ย" เวลานั้นเป็นเช้าของวันจันทร์ เด็ก ๆ ต่างก็มีความกระตือรือล้นเป็นพิเศษ เพราะเป็นวันแรกของสัปดาห์ แต่ละคนจะมีกิจกรรมในวันหยุดเมื่อมาพบกันก็จะพูด คุย เล่าให้เพื่อน ๆ ฟัง เด็กชายสอเสือ ได้ตั้งคำถามเพื่อน ๆ ว่าใครมีรถเมล์มากที่สุด..ไม่มีใครตอบถูก ทำให้เพื่อน ๆ พ่ายแพ้ต่อเกมนี้ เด็กชายสอเสือจึงไปถามครูส้มอีกแล้ว "คุณครูครับใครมีรถเมล์มากที่สุด" และครูส้มก็พ่ายแพ้ในเกมอีกเช่นกัน ในที่สุดเด็กชายสอเสือจึงเฉลยว่า "เขาทรายครับ มีรถเมล์มากที่สุด" หมายถึงเขาทราย กาแล็คซี่นักมวยมีชื่อเสียงของไทย ครูส้มสงสัยได้ถามต่อว่า "รู้ได้อย่างไรว่าเขาทรายมีรถเมล์มากที่สุด" คำตอบของเด็กชายสอเสือก็คือ "ผมไปพิษณุโลกกับคุณแม่ครับ เห็นป้ายรถเมล์ติดชื่อเขาทรายตั้งหลายคันครับ" (เขาทรายที่เด็กชายสอเสือเห็นคือชื่อสถานที่แห่งหนึ่ง อันเป็นปลายทางสิ้นสุดของรถเมล์คันนั้น)
เรื่องที่สิบ "ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด" เด็กชั้น ป.1 ที่กำลังอ่านหนังสือได้ เขาจะมีความภาคภูมิใจ เห็นอะไร ๆ ก็อยากอ่าน บางทีจะได้ยินเสียงสะกดไปด้วยดัง ๆ เพราะยังไม่มีทักษะการอ่านในใจ เย็นวันหนึ่งก่อนโรงเรียนเลิกเด็กชายชอช้างได้กระหืดกระหอบมาบอกคุณครูส้มว่า "คุณครูครับผมไม่อยากเรียนสูง เพราะกลัวมีความรู้มาก มันไม่ดี" ครูส้มชวนคุยและถามจนได้ความว่า เด้กชายชอช้างได้ไปอ่านข้อความคติเตือนใจที่ห้องสมุดว่า "ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด" ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาครูบรรณารักษ์ได้จัดการโล๊ะข้อความนั้นทิ้งไปไม่เหลือร่องรอย
เรื่องที่สิบเอ็ด "อาจารย์ใหญ่...ต้องตัวใหญ่" ความสด ใส ซื่อไม่มีใครเกินนักเรียนตัวน้อย ๆ ยิ่งอยู่บ้านนอกหรือห่างไกลความเจริญ เด็กยิ่งมีความไร้เดียงสาอย่างบริสุทธิ์ ครูส้มได้ให้เด็กชายรอเรือ นำเอกสารไปให้อาจารย์ใหญ่ เพื่อต้องการสร้างความมั่นใจและการกล้าแสดงออก นอกจากนั้นได้รู้จักคุณครูในโรงเรียนด้วย พร้อมกับแนะนำว่าอาจารย์ใหญ่อยู่ที่ห้องใด เมื่อเด็กชายรอเรือนำเอกสารไปถึงห้องอาจารย์ใหญ่ บังเอิญมีคุณครูโรงเรียนอื่นมาเยี่ยม และนั่งสนทนากับอาจารย์ใหญ่ เด็กชายรอเรือได้ส่งเอกสารให้พร้อมกับบอกว่า เอามาให้อาจารย์ใหญ่และอาจารย์ใหญ่ก็จะรับไว้ แต่เด็กชายรอเรือยืนยันว่าเอามาให้คุณครูคนนั้น คนที่ตัวใหญ่คนนั้นไง ครูส้มบอกให้เอามาให้อาจารย์ใหญ่ ไม่ใช่ในคุณครูคนนี้
http://www.krukimpbmind.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538702701
ครูที่สอน ป.1 ต้องเก่ง ต้องเป็นต้นแบบ ต้องขยันครับ ครูป.1 คือบุคคลที่สร้างเด็ก ชื่นชมครับ เป็นบุญของเด็ก
ลูกชายเรียนป. 1 เห็นเลยค่ะว่าการเป็นครู ป.1 นั้นต้องใช้ความสามารถหลากหลาย เเละต้องขอบคุณคุณครูจริงๆค่ะ
ที่นำเรื่องราวน่ารัก น่ารักมาเเลกเปลี่ยน
สวัสดีครับ
น่ารักครับ
ขอบคุณครับไปทักทายกัน
มาชม
เป็นภาษาที่น่าสนใจและตั้งใจฟังเวลาคุณหนู ๆพูดนะครับ
สวัสดีค่ะพี่ ขอบคุณนะคะที่มาทักทายกันตลอด ครูป1ถือว่าเป็นคนที่สอนให้อ่านออกเขียนได้ การพูดไม่ชัดบางทีเป็นเรื่องที่พ่อแม่ คนใกล้ชิดมีส่วน
การที่พาเด็กพูดไม่ชัดเพราะมันน่ารักบ้างหล่ะ เด็กๆจะเลียนแบบ และสื่อด้วยค่ะ การเล่นตลก เพราะเด็กไทยใช้เวลาดูทีวีเยอะ
ขอบคุณที่ไปเยือนพาน้องท่องทะเลนะคะ โอกาสหน้าจะหาเวลามาเที่ยวสุพรรณ
มาดูบึงฉวาก ดูตลาดสามชุก....ค่ะ
สวัสดีค่ะครูป.1
ก็ยังดีนะคะ
ที่ยังเรียกชื่อคุณครูชัดเจนค่ะ^^
สวัสดีค่ะครู ป.1
ครู ป.1 เคยอ่านเขียนคำใต้ภาพไหมล่ะคะ คำว่า "ควาย"ไถนาได้ แต่สระตกหายน่ะค่ะ
เหวย เหวย อ่านของครูคิม สนุกจังเลย มาช่วยเติมสีสันให้น้องครู ป.1 พี่สุคิดว่า เด็กเล็กๆระดับประถม จะมีความไร้เดียงสาจริงๆ เกี่ยวกับความเข้าใจภาษา อย่าไปอ่านคติพจน์ คำคม คำปรัชญาให้ฟังเด็ดขาด เพราะเด็กซื่อตรงจริงๆ พี่สุขำ เด็กเห็น ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด เลยไม่อยากเรียนสูง อิ อิ ครูคิมก็ช่างสรรหามาเล่าให้ฟัง มันเป็นประสบการณ์ครูสอนเด็กประถมจริงๆ ส่วนครูคิมเป็นระดับมัธยมเลยไม่มีโอกาสได้เขียน
ที่น้องครู ป.1 พูดมาเกี่ยวกับเด็กพูดไม่ชัด ก็น่าเห็นใจนะคะ เขาอาจจะฟันหลอหรือเปล่าคะ อย่าหัวเราะเยาะเขามากนะคะ บอกเพื่อนด้วยเขาจะมีปมด้อยคะ โตขึ้นคงจะอ่านได้ดีคะ
ขอบคุณนะคะที่ไปเยี่ยมพี่สุ ในบล็อคพรุ่งนี้ พรุ่งนี้ของชีวิต ไปหละคะ
แวะมาเยี่ยมครับ
โผก็ผู้ไม่ชะคะ ฮิ ฮิ ...
เพิ่งพาเฌวาไปปลูกบวบมา
มาชวนไปดูครับ
น่ารักดีค่ะ
สวัสดีค่ะ
ดีใจจังมาอ่านอะไร สนุกๆๆ สอน ป.1 เหมือนกัน ค่ะ เดี๋ยวเอาไปเล่าค่อ ค่ะ