เด็กร้องไห้ไม่อยากไปโรงเรียน
การที่เด็กร้องไห้ไม่อยากไปโรงเรียนมีหลายสาเหตุค่ะ ทั้งนี้ผู้ปกครองจะต้องช่วยกันสังเกต โดยร่วมมือกับคุณครูด้วย สาเหตุมีดังนี้ค่ะ
1. อาจมีสาเหตุมาจากตัวเด็กเอง เด็กบางคนเป็นเด็กปรับตัวช้า เด็กแบบนี้มักจะหวั่นไหวทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม เช่น เปลี่ยนเพื่อน เปลี่ยนครู หรือเปลี่ยนโรงเรียน ซึ่งผู้ปกครองจะเป็นผู้รู้ดีที่สุด ว่าลูกเป็นแบบไหน เด็กแบบนี้ต้องการเวลาในการทำความเข้าใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเขา เพราะฉะนั้นผู้ปกครองจะต้องมีการเตรียมความพร้อมให้เด็กมากกว่าเด็กคนอื่น อาจจะมีการพูดคุยกับเด็กก่อนว่าเด็กจะไปเจอใคร อาจให้เด็กได้ไปเห็นห้องเรียนใหม่ หรือได้รู้จักครูคนใหม่ก่อนที่จะเรียนจริง ที่สำคัญ คือ อย่ารีบร้อนผลักให้เด็กไปรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นโดยไม่พร้อม แต่ผู้ปกครองควรจะช่วยให้เค้าสามารถจัดการกับอารมณ์ของเขาให้ได้ในระดับปกติ และสามารถเรียนร่วมกับคนอื่นได้อย่างปกติสุขต่อไป ผู้ปกครองอาจบอกเค้าว่า รู้ว่าหนูกังวลที่จะไปเจอเพื่อนใหม่หรือครูคนใหม่ แต่เด็กทุกคนก็จะต้องไปโรงเรียน หนูอยากจะให้ช่วยอะไรหนูบ้าง เพื่อช่วยให้หนูคลายความกังวล และบอกเค้าว่า จะทำทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อที่จะช่วยให้หนูคลายกังวล แล้วอย่าลืมพูดคุยกับเด็กทุกวันและไปรับเขาตรงเวลาค่ะ
2. อาจจะมีสาเหตุมาจากความเฉพาะตัวของเด็กบางคน เช่น เด็กบางคนมีปัญหาเรื่องการเรียนรู้ช้า เช่น เรียนรู้ช้าในเรื่องตัวเลข หรือ เรื่องภาษา หรืออื่นๆ ซึ่งในการไปเรียนในระดับชั้นสูงขึ้นที่เริ่มมีการอ่านเขียน จะทำให้เด็กรู้สึกทุกข์ใจ ประกอบกับถ้าหากครูไม่เข้าใจจะทำให้เด็กยิ่งไม่อยากจะไปโรงเรียน ส่วนนี้ผู้ปกครองอาจจะลองพูดคุยกับเด็ก หรือ พูดคุยกับครู และ อาจจะลองสังเกตเองว่าเด็กมีปัญหาช้าในเรื่องอะไร หรือเด็กบางคนมีปัญหาสมาธิสั้น ทำให้ไม่สามารถนั่งฟังอะไรได้นาน ในส่วนนี้จะต้องส่งตรวจกับคุณหมอจึงจะทราบว่าเด็กมีการเรียนรู้ช้าด้านไหน ซึ่งถ้าหากว่าเด็กมีปัญหาการเรียนรู้ช้าหรือสมาธิสั้นผู้ปกครองก็สามารถช่วยเด็กได้ มีเด็กหลายคนที่เรียนรู้ช้าหรือสมาธิสั้น แต่สามารถเรียนร่วมกับเพื่อน ๆได้จนจบปริญญา แต่ทั้งนี้ผู้ปกครองและคุณครูจะต้องเข้าใจค่ะ
3. อาจจะมีสาเหตุมาจากเพื่อนที่โรงเรียน บางครั้งเด็กอาจจะถูกเพื่อนแกล้ง หรือ มีปัญหากับเพื่อน ซึ่งผู้ปกครองอาจจะสอบถามจากคุณครู รวมถึงพูดคุยกับเด็กถึงเรื่องเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนว่าเด็กชอบเพื่อนคนไหนที่สุด มีเพื่อนคนไหนที่ไม่ชอบบ้างไหม เพราะอะไร รวมถึงสังเกตรอยแผลหรือรอยช้ำของเด็กในแต่ละวัน ถ้าพบว่ามีการรังแกกันในโรงเรียน ก็จะต้องหารือกับครู รวมถึงฝึกลูกหลานของเราให้สามารถจัดการกับสถานการณ์นั้น ๆ ให้ได้ด้วยค่ะ
4. อาจจะมีสาเหตุมาจากครู หรือ ผู้ใหญ่บางคนที่โรงเรียน ถ้าเป็นในระดับปกติ ก็อาจจะเป็นเพราะการเปลี่ยนครู ซึ่งครูคนใหม่ไม่เหมือนครูคนเดิม หรือพูดง่าย ๆ ว่าอาจจะดุกว่าครูคนเดิม ทำให้เด็กไม่คุ้นชิน และไม่ชอบ ซึ่งถ้าหากเป็นการดุว่าในระดับที่สมเหตุสมผล ก็ไม่เป็นไร ผู้ปกครองก็เพียงแค่พูดคุยกับเด็ก เพื่อทำความเข้าใจว่าเพราะอะไรครูถึงดุ และถ้าเด็กไม่อยากให้ครูดุต้องทำอย่างไร แต่ถ้าเป็นในระดับเกินปกติ คือ ครูมีการลงโทษที่เกินกว่าเหตุ โดยอาจจะไม่ถึงขั้นเฆี่ยนตีจนเกิดแผล แต่เป็นการลงโทษจนเกินกว่าเหตุ อาจจะต้องมีการพูดคุยกับครู สิ่งที่จะช่วยให้ผู้ปกครองสามารถรู้ได้ คือ การพูดคุยกับเด็ก และ สังเกตเด็กในช่วงเช้า และ ช่วงเย็น ถ้าเป็นแบบนี้ เวลาไปส่งที่โรงเรียน เด็กจะเกาะแขนเกาะขาพ่อแม่ไม่ยอมปล่อย และมีอาการกลัวการเข้าห้องหรือเข้าโรงเรียนจนเกินปกติ ครูแบบนี้มีตั้งแต่ลงโทษเด็กระดับน้อยจนถึงมาก แต่ในกลุ่มครูที่ไม่ได้ลงโทษเด็กจนถึงขั้นมีบาดแผล ก็จะไม่มีใครรู้เลย เช่น ครูตวาดเด็กเหมือนเด็กทำผิดมาก ๆ เพียงแค่เด็กเข้าแถวไม่ตรง หรือ บังคับไม่ให้เด็กลุกไปไหน มิฉะนั้นจะทำโทษ ทำให้เด็กไม่กล้าไปไหนแม้แต่จะไปเข้าห้องน้ำ
ผู้ปกครองทุกคนล้วนเป็นกังวลในเรื่องการที่ลูกร้องไห้ไม่ยอมไปโรงเรียนค่ะ นั่นเป็นเรื่องปกติ โดยส่วนใหญ่เด็กน่าจะร้องไห้นานไม่เกิน 2 – 4 สัปดาห์ เร็วช้าต่างกัน ขึ้นอยู่กับพื้นฐานของเด็กแต่ละคนค่ะ เด็กบางคน 2-3 วันแรกไม่เป็นไร แต่หลังจากนั้นร้องไห้เป็นอาทิตย์ก็มีค่ะ
ข้อมูลจาก
http://www.thaichildrights.org/newwebboard/main.php?board=970&userid=
ป.1 จะเจอปัญหานี้บ่อยๆค่ะ
มักจะเกิดกับเด็กที่พ่อ- แม่ตามใจ พอร้องไห้ก็ขอกลับบ้าน
ถ้าเด็กเรียนอนุบาลมาก่อน จะไม่ร้องไห้เพราะชินแล้ว
แต่หน้าตาของครูก็มืส่วนนะคะ..อิอิ
เข้าใจเลือกเรื่องค่ะ เข้าสถานการณ์
สวัสดีค่ะ คุณ tadsanee พอดีว่า....ครูสุภาภรณ์สอนเด็ก ป.1, ป.2 ค่ะ
น่าสนใจมากครับ ทุกปัญหาถ้าเราสามารถเจาะลึกถึงสาเหตุที่แท้จริง ก็คงแก้ไขได้นะครับ บางอย่างที่อาจแก้ไขได้ยากเช่นคุณครูหน้าตาไม่สวยแต่ขอให้ยิ้มแย้มแจ่มใส เด็กก็คงจะรักครูนะครับ
ผอ.ศักดิ์เดช