โรงเรียนเทศบาล 4 (เพาะชำ)
โรงเรียนเทศบาล 4 (เพาะชำ) เทศบาลนครนคราชสีมา

เด็กร้องไห้ไม่อยากไปโรงเรียน


เด็กบางคนเป็นเด็กปรับตัวช้า เด็กแบบนี้มักจะหวั่นไหวทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม

เด็กร้องไห้ไม่อยากไปโรงเรียน

          การที่เด็กร้องไห้ไม่อยากไปโรงเรียนมีหลายสาเหตุค่ะ   ทั้งนี้ผู้ปกครองจะต้องช่วยกันสังเกต   โดยร่วมมือกับคุณครูด้วย   สาเหตุมีดังนี้ค่ะ

1. อาจมีสาเหตุมาจากตัวเด็กเอง เด็กบางคนเป็นเด็กปรับตัวช้า  เด็กแบบนี้มักจะหวั่นไหวทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม  เช่น  เปลี่ยนเพื่อน  เปลี่ยนครู  หรือเปลี่ยนโรงเรียน  ซึ่งผู้ปกครองจะเป็นผู้รู้ดีที่สุด  ว่าลูกเป็นแบบไหน   เด็กแบบนี้ต้องการเวลาในการทำความเข้าใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเขา   เพราะฉะนั้นผู้ปกครองจะต้องมีการเตรียมความพร้อมให้เด็กมากกว่าเด็กคนอื่น    อาจจะมีการพูดคุยกับเด็กก่อนว่าเด็กจะไปเจอใคร   อาจให้เด็กได้ไปเห็นห้องเรียนใหม่   หรือได้รู้จักครูคนใหม่ก่อนที่จะเรียนจริง   ที่สำคัญ  คือ  อย่ารีบร้อนผลักให้เด็กไปรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นโดยไม่พร้อม    แต่ผู้ปกครองควรจะช่วยให้เค้าสามารถจัดการกับอารมณ์ของเขาให้ได้ในระดับปกติ   และสามารถเรียนร่วมกับคนอื่นได้อย่างปกติสุขต่อไป   ผู้ปกครองอาจบอกเค้าว่า   รู้ว่าหนูกังวลที่จะไปเจอเพื่อนใหม่หรือครูคนใหม่   แต่เด็กทุกคนก็จะต้องไปโรงเรียน   หนูอยากจะให้ช่วยอะไรหนูบ้าง  เพื่อช่วยให้หนูคลายความกังวล   และบอกเค้าว่า จะทำทุกอย่างที่ทำได้   เพื่อที่จะช่วยให้หนูคลายกังวล   แล้วอย่าลืมพูดคุยกับเด็กทุกวันและไปรับเขาตรงเวลาค่ะ

2. อาจจะมีสาเหตุมาจากความเฉพาะตัวของเด็กบางคน   เช่น  เด็กบางคนมีปัญหาเรื่องการเรียนรู้ช้า  เช่น  เรียนรู้ช้าในเรื่องตัวเลข  หรือ เรื่องภาษา  หรืออื่นๆ ซึ่งในการไปเรียนในระดับชั้นสูงขึ้นที่เริ่มมีการอ่านเขียน  จะทำให้เด็กรู้สึกทุกข์ใจ  ประกอบกับถ้าหากครูไม่เข้าใจจะทำให้เด็กยิ่งไม่อยากจะไปโรงเรียน   ส่วนนี้ผู้ปกครองอาจจะลองพูดคุยกับเด็ก หรือ พูดคุยกับครู    และ อาจจะลองสังเกตเองว่าเด็กมีปัญหาช้าในเรื่องอะไร หรือเด็กบางคนมีปัญหาสมาธิสั้น   ทำให้ไม่สามารถนั่งฟังอะไรได้นาน   ในส่วนนี้จะต้องส่งตรวจกับคุณหมอจึงจะทราบว่าเด็กมีการเรียนรู้ช้าด้านไหน    ซึ่งถ้าหากว่าเด็กมีปัญหาการเรียนรู้ช้าหรือสมาธิสั้นผู้ปกครองก็สามารถช่วยเด็กได้   มีเด็กหลายคนที่เรียนรู้ช้าหรือสมาธิสั้น  แต่สามารถเรียนร่วมกับเพื่อน ๆได้จนจบปริญญา   แต่ทั้งนี้ผู้ปกครองและคุณครูจะต้องเข้าใจค่ะ

3. อาจจะมีสาเหตุมาจากเพื่อนที่โรงเรียน   บางครั้งเด็กอาจจะถูกเพื่อนแกล้ง หรือ มีปัญหากับเพื่อน   ซึ่งผู้ปกครองอาจจะสอบถามจากคุณครู   รวมถึงพูดคุยกับเด็กถึงเรื่องเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนว่าเด็กชอบเพื่อนคนไหนที่สุด   มีเพื่อนคนไหนที่ไม่ชอบบ้างไหม   เพราะอะไร   รวมถึงสังเกตรอยแผลหรือรอยช้ำของเด็กในแต่ละวัน   ถ้าพบว่ามีการรังแกกันในโรงเรียน ก็จะต้องหารือกับครู   รวมถึงฝึกลูกหลานของเราให้สามารถจัดการกับสถานการณ์นั้น ๆ ให้ได้ด้วยค่ะ

4. อาจจะมีสาเหตุมาจากครู หรือ ผู้ใหญ่บางคนที่โรงเรียน   ถ้าเป็นในระดับปกติ ก็อาจจะเป็นเพราะการเปลี่ยนครู  ซึ่งครูคนใหม่ไม่เหมือนครูคนเดิม  หรือพูดง่าย ๆ ว่าอาจจะดุกว่าครูคนเดิม  ทำให้เด็กไม่คุ้นชิน และไม่ชอบ   ซึ่งถ้าหากเป็นการดุว่าในระดับที่สมเหตุสมผล ก็ไม่เป็นไร  ผู้ปกครองก็เพียงแค่พูดคุยกับเด็ก  เพื่อทำความเข้าใจว่าเพราะอะไรครูถึงดุ   และถ้าเด็กไม่อยากให้ครูดุต้องทำอย่างไร   แต่ถ้าเป็นในระดับเกินปกติ คือ ครูมีการลงโทษที่เกินกว่าเหตุ โดยอาจจะไม่ถึงขั้นเฆี่ยนตีจนเกิดแผล แต่เป็นการลงโทษจนเกินกว่าเหตุ อาจจะต้องมีการพูดคุยกับครู  สิ่งที่จะช่วยให้ผู้ปกครองสามารถรู้ได้ คือ การพูดคุยกับเด็ก และ สังเกตเด็กในช่วงเช้า และ ช่วงเย็น ถ้าเป็นแบบนี้ เวลาไปส่งที่โรงเรียน เด็กจะเกาะแขนเกาะขาพ่อแม่ไม่ยอมปล่อย และมีอาการกลัวการเข้าห้องหรือเข้าโรงเรียนจนเกินปกติ   ครูแบบนี้มีตั้งแต่ลงโทษเด็กระดับน้อยจนถึงมาก      แต่ในกลุ่มครูที่ไม่ได้ลงโทษเด็กจนถึงขั้นมีบาดแผล   ก็จะไม่มีใครรู้เลย  เช่น  ครูตวาดเด็กเหมือนเด็กทำผิดมาก ๆ  เพียงแค่เด็กเข้าแถวไม่ตรง  หรือ บังคับไม่ให้เด็กลุกไปไหน  มิฉะนั้นจะทำโทษ   ทำให้เด็กไม่กล้าไปไหนแม้แต่จะไปเข้าห้องน้ำ 

                                                                              
          ผู้ปกครองทุกคนล้วนเป็นกังวลในเรื่องการที่ลูกร้องไห้ไม่ยอมไปโรงเรียนค่ะ นั่นเป็นเรื่องปกติ  โดยส่วนใหญ่เด็กน่าจะร้องไห้นานไม่เกิน 2 – 4 สัปดาห์   เร็วช้าต่างกัน ขึ้นอยู่กับพื้นฐานของเด็กแต่ละคนค่ะ   เด็กบางคน  2-3  วันแรกไม่เป็นไร แต่หลังจากนั้นร้องไห้เป็นอาทิตย์ก็มีค่ะ   

 

                                                                             ครูสุภาภรณ์

ครูสุภาภรณ์ พลเจริญชัย
   โรงเรียนเทศบาล4(เพาะชำ)   

ข้อมูลจาก

http://www.thaichildrights.org/newwebboard/main.php?board=970&userid=

 

                                                                   
หมายเลขบันทึก: 297002เขียนเมื่อ 13 กันยายน 2009 00:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ป.1 จะเจอปัญหานี้บ่อยๆค่ะ

มักจะเกิดกับเด็กที่พ่อ- แม่ตามใจ พอร้องไห้ก็ขอกลับบ้าน

ถ้าเด็กเรียนอนุบาลมาก่อน จะไม่ร้องไห้เพราะชินแล้ว

แต่หน้าตาของครูก็มืส่วนนะคะ..อิอิ

ถ้าหน้าตาของครูก็มืส่วนละก็   หน้าตาครูสุภาภรณ์คงไม่มีปัญหาเนาะ   เพราะเด็กไม่ยักกะร้องไห้แฮะ

คลิ๊กดูรูป

เข้าใจเลือกเรื่องค่ะ เข้าสถานการณ์

สวัสดีค่ะ  คุณ P  tadsanee   พอดีว่า....ครูสุภาภรณ์สอนเด็ก ป.1, ป.2 ค่ะ

                                                     

น่าสนใจมากครับ ทุกปัญหาถ้าเราสามารถเจาะลึกถึงสาเหตุที่แท้จริง ก็คงแก้ไขได้นะครับ บางอย่างที่อาจแก้ไขได้ยากเช่นคุณครูหน้าตาไม่สวยแต่ขอให้ยิ้มแย้มแจ่มใส เด็กก็คงจะรักครูนะครับ

ผอ.ศักดิ์เดช

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท