อย่ามองกะทิว่าเป็นผู้ร้าย


กะทิมีประโยชน์เหมือนน้ำมันมะพร้าว

               

 

                        

 

      กะทิประกอบด้วยกรดไขมันที่มีขนาดปานกลาง ซึ่งถูกย่อยได้ง่ายและเคลื่อนย้ายได้สะดวก เมื่อบริโภคเข้าไปจะผ่านลำคอไปยังกระเพาะเข้าสู่ลำใส้ แล้วไปถูกเผาผลาญให้เป็นพลังงานในตับโดยไม่ไปสะสมเป็นไขมันเหมือนกับน้ำมันไม่อิ่มตัวที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่

 

        ดังนั้นผู้บริโภคกะทิจึงแข็งแรงเพราะได้พล้งงานทันทีที่บริโภคเข้าไป อีกทั้งยังไปกระตุ้นให้ต่อมธัยรอยด์ทำงานได้ดีขึ้น ก่อให้เกิดความรัอนจากผลของ thermogenesis ซึ่งช่วยในการเผาผลาญอาหารที่บริโภคเข้าไป พร้อมกัน ให้เปลี่ยนเป็นพลังงานแทนที่จะไปสะสมเป็นไขมันในร่างกาย

 

             ยิ่งไปกว่านั้นความร้อนที่เกิดขึ้น ยังไปช่วยสลายไขมันที่ร่างกายสะสมอยู่ก่อนหน้านั้น ให้สลายตัวไปเป็นพลังงาน จึงทำให้ผู้บริโภคผอมลง ดังคำกล่าวที่ว่า eat fat look thin และนี่เองเป็นเหตุให้คนสมัยโบราณ ไม่ค่อยมีใครอ้วน เพราะรับประทานกะทิร่วมกับอาหารคาว-หวาน

 

           นอกจากตัวมันเองจะไม่ไปสะสมเป็นไขมันแล้ว กะทิยังช่วยไปดึงเอาไขมันที่ร่างกายสะสมไว้ก่อนหน้านั้น ไปเปลี่ยนเป็นพลังงาน 


         ( ข้อมูล เขียนโดย ดร. ณรงค์ โฉมเฉลา หน้งสือชื่อ มาใช้กะทิแทนนมกันเถอะ เอกสารวิชาการฉบับที่3/2551 ชมรมอนุรักษ์และพัฒนาน้ำมันมะพร้าวแห่งประเทศไทย ณ.สถาบันพืชสวน กรมวิชาการเกษตร) 

 

        คนส่วนใหญ่เมื่ออายุมากขึ้นจะรับประทานกะทิน้อยลงหรือหยุดเลย เข้าใจผิดกันอย่างมาก โดนกล่าวหาว่าเป็นโทษกับร่างกาย มีคอเลสเตอรอล ที่โดนเหมารวมและเข้าใจผิดกันมาตลอด ไม่ได้คิดไม่ได้พิจารณา และคุณหมอบางท่านก็บอกด้วย ว่ามีโทษ ทุกคนลองคิดสักนิดว่าจริงหรือเปล่า 

 

      น้ำมันมะพร้าวเป็นไขมันอิ่มตัวก็จริง แต่มาจากไหน มาจากมะพร้าวแก่ เป็นต้นไม้เป็นพืช จึงไม่มีคอเลสเตอรอล เหมือนน้ำมันพืชชนิดอื่นๆ( น้ำม้นที่มีคอเลสเตอรอลคีอน้ำมันที่มาจากสัตว์เท่านั้น ประโยคในวงเล็บนี้เป็นประโยคที่ม.สงขลานครินทร์ เผยแพร่ลงในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ที่ลงมากกว่า 1 ครั้ง)

 

      และคณะอุตสาหกรรม ม.เชียงใหม่ ก็เผยแพร่เช่นเดียวกัน ว่า น้ำมันมะพร้าวไม่มีคอเลสเตอรอล  รวมทั้ง องค์กรเภสัชกรรมGPO ก็เผยแพร่ว่า น้ำมันมะพร้าวโคเลสเตอรอล 0%  โดยให้หมายเลขไว้โทร.ถามด้วยคือ call center 1648 และจำหน่ายด้วย  

 

      อาหารไทยๆทั้งคาวและหวานเป็นกะทิ ที่อร่อยทั้งนั้น แต่ต้องงดเพราะความเข้าใจผิด ที่มีโทษนั้นคือ ไขมันจาก ไก่ หมู เนื้อ ที่ปนอยู่ในอาหาร ไม่ใช่กะทิ

 

     และขนมก็เช่นกัน ที่เป็นโทษกับร่างกายคือ น้ำตาลทรายขาว และ แป้งขาวที่อยู่ใน อาหารหวาน ไม่ใช่กะทิ ไขมันจากเนื้อสัคว์ น้ำตาลทรายขาว  แป้งขาว ถ้ารับประทานมากเกินความต้องการของร่างกาย ก็จะทำให้เกิดโรคในร่างกาย เช่น โรคอ้วน เบาหวาน มีคอเลสเตอรอลเกาะตามอวัยวะต่างๆ เป็นต้น  

 

     ทุกท่านที่รักสุขภาพ น้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันที่ดีต่อร่างกายทั้งภายในและภายนอก สารพัดประโยชน์ ปลอดสารเคมีไม่มีสื่งเจือปน ธรรมชาติ 100% ไม่เปลี่ยนเป็นไขมันทรานส์

 

    ที่บางประเทศออกกฏหมายห้าม ขาย ห้ามใช้ อาหารที่เป็นทรานส์ ก่อให้เกิดมะเร็ง   น้ำมันมะพร้าวทำใช้ได้เองเหมือนการทำอาหารอย่างหนึ่ง ได้ลงวิธีทำสกัดเย็นลงบล็อก ให้ 1 วิธี หัดทำกันได้เลยนะคะ


ด้วยความปรารถนาดี  กานดา แสนมณี

 

           

       

หมายเลขบันทึก: 296997เขียนเมื่อ 13 กันยายน 2009 00:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท