สวัสดีครับครู ป 1.ทั้งที่รู้กันอยู่ว่าตอซังมีประโยชน์เป็นปุ๋ย แต่คนติดนิสสัย ไม่รอนาน เหมือคนโบราณ ชิวิตไม่เร่วรีบ ประกอบอาชีพตามวิถี ทำนาปี พอมีอยู่มีกิน ถ้า"หนูไม่กัด วัดไม่กวน"
ใช่ค่ะท่านวอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei-- เดี๋ยวนี้มีเครื่องมือการเกษตรทันสมัย สามารถย่ำซังข้าว กลับลงในดิน รอเป็นปุ๋ย แต่ก็ยังไม่นิยมทำ
ขอบพระคุณพี่ครูป. 1 ที่เขียนเล่าเรื่องควันไฟ อ่านแล้วเห็นภาพเลยค่ะ
บ้านที่เมืองไทย อยู่ใกล้ทุ่งนา พอหมดฤดูทำนาแล่ว ที่บ้านต้องสู้รบกับฟางที่ไหม้ ที่ลอยมาตามลม ต้องกวาดถูบ้านเช้าเย็น
เรื่องเผาฟาง ตอข้าว ก็ถือเป็นความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างหนึ่งนะคะ...เพราะทำให้คนอื่นเดือดร้อน และโลกร้อนด้วย
สวัสดีค่ะ..ครูนงเยาว์
เตรียมสอนชั่วโมงต่อไป..ว่างแล้วจะมาช่วยลดโลกร้อนนะคะ...
สวัสดีค่ะ
แวะมาทักทายและส่งความระลึกถึงค่ะ
(^___^)
แวะมาทักทายครับ
ขอให้หมอกควัน หายไปโดยเร็วพลัน
สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะ...พี่ครู ป.1 ต้องร้องเพลงพี่เบิร์ดตามไปด้วยค่ะ...หมอกกับควัน แถวบ้านหนูบางทีเขาเรียก "ฟันไฟ" ออกเสียงควบกล้ำ "คว" ไม่ได้...อิๆๆๆ อยู่นาน ๆ แสบตาค่ะ...ฟันไฟมันเข้าตา
สวัสดีค่ะน้องJen พี่เป็นคนจมูกดีมาก(สงสัยติดมาจากชาติที่แล้ว)มีควันไฟทีไหน พี่แสบจมูกไปหมด
ขอบคุณค่ะศน.อ้วน ไม่เป็นไร เพิ่ง 2 วันเอง เรื่องเผาฟางข้าวนี้บางทีก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุเลยทีเดียวค่ะ
สวัสดีน้องอ้อยเล็ก สาวตาคมตัวจริง ทำรูปเก่งจังเลย พี่ทำไม่ได้สักที
ขอบคุณคนไม่มีราก ที่เข้ามาทักทายกัน
สวัสดีน้องครูโย่ง หัวหน้า~ natadee ควันหายไปในวันนี้ พรุ้งนี้ก็มาอีกค่ะ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะเรานี่
สวัสดีค่ะ พี่ครูคิม น้องกะจะโทร.ไปทวงคำอวยพรแล้วค่ะ พอดีอิ่มพรจากหมู่และพี่ น้องก็เลยยั้งไว้ก่อน
ขอบใจน้อง Vij มันจะร้องไม่ออกน่ะซีคะ ร้องทั้งน้ำตา วันนั้นจุดไฟที่ข้างรั้วบ้านพี่นี่เอง
อนิจจาชาวกรุงผู้มุ่งหวัง
บอกให้ฟังเพียงรำคราญคงไม่เผา
รู้เป็นปุ๋ยก็ต้องทำตรากตำเอา
ถ้าไม่เผาไถยังไงควายไม่กิน
[อยากบอกว่า ชาวนา บางคนอาจไม่มีเวลามาสนเรื่องนี้ เพียงปัญหาเล็กๆ ก็เหนื่อยพอแล้ว อยากรู้ว่าชาวนาเผาฟางหญ้าซักกี่ร้อยไร่กันครับ จึงจะเท่าโรงงานทำวันเดียว ขอบคุณครับ]