ประสบการณ์ชีวิตหรือการอ่านที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของข้าพเจ้า:Forrest Gump


Life is like a box of chocolates… You never know what you're gonna get.

    เรื่องย่อ

    ภาพแรกที่เราเห็นใน Forrest Gump คือขนนกที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า ปลิวเคว้งคว้างไปมาตามสายลมอ่อนๆเหนือซาวานนาห์ และร่วงลงพริ้วสู่แทบเท้าของชายคนหนึ่ง ที่นั่งอยู่บนม้านั่งสำหรับรอรถประจำทาง
ขนนกนั้นเป็นสัญญลักษณ์ของคาแร็คเตอร์หลักของเรื่อง ชายผู้นั่งอยู่บนม้านั่งผู้นี้ ผู้ที่มีความบริสุทธิ์และถูกโยนให้ปลิวไปมาตามสายลมที่เปลี่ยนแปลงอเมริกา ผ่านข้ามความโกลาหลของยุค 50 , 60 , 70 แต่ไม่ว่าประสพการณ์ที่ผ่านมาจะเป็นอย่างไร เขาไม่เคยมองมันในแง่ร้าย

                 

    ฟอเรส์ กัมพ์ เอ่ยคำพูดที่เปิดเรื่องว่า "แม่ของผมกล่าวว่า ….Life is like a box of chocolates… You never know what you're gonna get. " คำสอนของแม่เป็นสิ่งที่เขาจำได้แม่นที่สุด
ฟอเรส กัมพ์เป็นเด็กในอลาบามา ผู้ที่ต้องสวมเครื่องช่วยพยุงขาตลอดเวลา เขาเรียกมันว่า "magic shoes." ผู้บริหารของโรงเรียนที่นั่นไม่ค่อยจะเต็มใจรับฟอเรส กัมพ์เข้ามาเรียนนัก "เขาแตกต่างจากเด็กทั่วไป"ผู้บริหารพูด แต่แม่ของฟอเรสไม่เคยคิดอย่างนั้น เธอมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะทำให้ลูกของเธอ "ไม่แตกต่าง"

     แม้มิซซิสกัมพ์จะบอกว่า ฟอเรส ไม่แตกต่างจากคนอื่นๆ แต่สิ่งที่เราได้เห็นคือ เขาแตกต่างจากคนอื่นๆมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือเขาไม่เหมือนใครคนใดในโลกนี้เลย

     ฟอเรส เก็บคำสอนของแม่สู่หัวใจ ดำเนินชีวิตไปอย่างคนปกติ ปราศจากมารยา และปฎิบัติตามคำแนะนำของคนที่เขารักซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาก้าวผ่านเหตุการณ์ที่เป็นประวัติศาสตร์สำคัญของอเมริกา และความสับสนรอบตัวด้วยความเรียบง่ายอย่างน่าทึ่ง

ฟอเรสได้ออกทีวีเคียงข้างกับจอห์น เลนนอน

ฟอเรสได้เช็คแฮนด์กับประธานาธิบดีนิกสันในทำเนียบขาว

ฟอเรสได้กลายเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จที่สุดมั่งคั่งที่สุด….

    เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้ฟอเรสภาคภูมิใจหรือ คนสำคัญของอเมริกาเหล่านี้ทำให้ฟอเรสศรัทธาหรือ
.เปล่าเลย … ด้วย IQ เพียง 75 ทำให้ฟอเรสไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆตัวนัก ฟอเรสเพียงแต่เข้าใจในทุกๆสิ่งที่เขาต้องการจะรู้ ทุกๆสิ่งที่มีความสำคัญต่อหัวใจ ดังนั้นคนที่ทำให้เขาได้รับความอบอุ่นเป็นคนที่สองต่อจากแม่ คือ เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง

     เมื่อฟอเรสได้ขึ้นรถประจำทางไปโรงเรียนเป็นครั้งแรก ไม่มีเด็กคนไหนยอมให้ฟอเรสนั่งด้วย เขาเดินช้าๆผ่านที่นั่งจากหน้ารถเมล์ไปเรื่อยๆ ทุกคนปฎิเสธที่จะให้เขานั่งคู่ ฟอเรสเดินไปจนเกือบสุดคันรถ จึงมีเสียงของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เสียงที่ไพเราะยิ่งกว่าเสียงของใครๆที่เขาเคยได้ยินมาในชีวิต "เธอนั่งตรงนี้ได้" ด้วยคำพูดสั้นๆเพียงประโยคเดียวทำให้เธอต่างไปจากคนทั้งโลก ในสายตาของฟอเรส และเธอได้ก้าวเข้ามาอยู่ในหัวใจของเขาเป็นครั้งแรก และอยู่อย่างนั้นไปจนตราบชั่วชีวิตของฟอเรส

     ถ้าสมองเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ใช้ในการดำเนินชีวิต ฟอเรสกลับไม่ใช้มันมากนัก แต่ฟอเรสใช้หัวใจในการแยกแยะความแตกต่างของคน ดังนั้นคนที่สำคัญต่อฟอเรสจึงไม่เหมือนใคร นี่จึงเป็นสาเหตุที่ แม่และเจนนี่จึงต่างจากคนอื่นๆ ความรักทำให้แม่และเจนนี่อยู่เหนือกว่าคนทั้งหมด อย่าถามฟอเรสเลยว่าเขารักสองคนนี่แค่ไหน เขาตอบมันไม่ได้หรอก แต่การแสดงออกของเขาประกาศเจตนารมณ์ที่มั่นคงเหนือคำพูดใดๆที่เคยมีมาในโลก

    เจนนี่เป็นสาวช่างฝัน นั่นเป็นสิ่งที่ฟอเรสให้เธอไม่ได้ ฟอเรสจึงไม่สามารถก้าวเข้าไปอยู่ในหัวใจของเจนนี่ แม้เธอจะมีความอบอุ่นและเอื้ออาทรให้กับฟอเรส แต่มันก็ไม่มากไปกว่านั้น เจนนี่นอนกับฟอเรสในคืนหนึ่ง แต่มันก็ไม่ได้สร้างความผูกพันมากพอที่จะทำให้เธอยอมอยู่กับฟอเรส เจนนี่จึงไปจากเขาในวันรุ่งขึ้น แม้จะเข้าใจความรู้สึกของฟอเรส …..แต่เธอให้เขาได้แค่นั้น

    เจนนี่ฉลาดกว่าฟอเรสมาก แต่ชีวิตของเธอกลับผ่านประสบการณ์ที่เลวร้ายมากกว่า เธอถูกพ่อทารุณตั้งแต่เด็ก และดูเหมือนทุกช่วงเวลาที่ผ่านไปเธอยังถูกกดขี่อยู่อย่างไม่หยุดหย่อน เจนนี่เข้าไปพัวพันกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ชีวิตเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิงและสับสน จนกระทั่งเธออยากจะหาความสงบสุขครั้งสุดท้ายของชีวิตด้วยตัวเอง

    แม้จะร่ำรวยและดูเหมือนคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต แต่แท้จริงแล้ว ฟอเรส กัมพ์เป็นคนเหงา ภาพในโปสเตอร์ที่ฟอเรสนั่งอยู่อย่างโดดเดี่ยวแสดงถึงความเหงาอย่างชัดเจน เขาแตกต่างจากคนทั้งหมด จึงไม่มีใครก้าวเข้ามาอยู่ร่วมในโลกของเขาได้อย่างแท้จริง ชีวิตของเขามีความสุขอยู่กับการได้รักเจนนี่ เมื่อสิ้นเจนนี่ความสุขของเขาก็สิ้นสุด เขาอาจจะไม่มีความทุกข์ แต่ก็ไม่มีความสุขเช่นกัน แม้ฟอเรสจะมีลูก แต่ความรักที่มีให้ลูกก็ไม่เหมือนความรักที่เขามีให้เจนนี่ ภาพสุดท้ายที่แสดงความเหงา คือเมื่อฟอเรสส่งลูกไปโรงเรียน เขาบอกลูกว่า "I'll be right here" การเดินทางอันยาวไกลของฟอเรสได้หยุดลงแล้วตรงนี้

    หลังจากที่ข้าพเจ้าได้ดูหนังเรื่อง Forrest Gump จบนั้นรู้สึกได้ถึงความประทับใจของหนังเรื่องนี้ได้ทันทีแม้จะเป็นหนังที่เก่ามากแล้วก็ตาม แง่คิดที่ได้จากหนังเรื่องนี้มีมากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาที่พบเจอขอเพียงแค่ลุกขึ้นสู้อีกครั้งเราสามารถที่จะมีชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิมได้ หรือแม้แต่แนวคิดในด้านของความรักที่บริสุทธิ์ที่ Forrest ต่อ Jenny ที่รอคอยเธอตลอดเวลาไม่เขาจะอยู่ในสถานะใดก็ตาม หนังเรื่องนี้ยังช่วยให้ข้าพเจ้ามีมุมมองต่อเรื่องต่างๆในชีวิตประจำวันที่หลากหลายออกไปด้วย แล้วจะมีหนังซักกี่เรื่องกันที่สะท้อนความคิดดีๆเช่นนี้ออกมาได้อย่างน่าประทับใจ

 

คำสำคัญ (Tags): #forrest gump#learning process
หมายเลขบันทึก: 295624เขียนเมื่อ 8 กันยายน 2009 05:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

Life is like a box of chocolates… น่าสนใจจริงๆ

พูดถึงเเล้วอยากกินช๊อกโกเเลตจัง!! 55+ ล้อเล่น

ชีวิตคนเรามีเรื่องราวผ่านเข้ามามากมาย

ขึ้นอยู่กับว่าเราจะผ่านมันไปได้อย่างไร อยากดูเรื่องนี้จังเลย !!!

ไม่เคยดู สงสัยต้องไปหาดูมั้ง

เผื่อจะเปลี่ยนชีวิตเค้าบ้าง

ต้องหามาดูเเล้วบ้างเเล้วละ

ภาพสวยมากเลย

เปนเรื่องที่ดีนะ

น่าจะเปี่ยนชีวิตคนบางคนได้เลยละ

อยากดูหวะนัท

เด๋ววหลังสอบไปหาดูก่อนน

จะได้ไม่คิดมาก

เฮ้ออ มองโลกในง่ดีนี่ดีจิงๆๆเนอะแก

"""ถ้าสมองเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ใช้ในการดำเนินชีวิต ฟอเรสกลับไม่ใช้มันมากนัก แต่ฟอเรสใช้หัวใจในการแยกแยะความแตกต่างของคน""""

ประโยคนี้อ่านแล้วขนลุกเลย

เป็นภาพยนต์ที่โ่ด่งดังมาก

ประทับใจเช่นกัน

เป็นหนังที่ดีมากครับ ผมดูหลายรอบแล้ว มันได้อะไรหลายๆ อย่าง... เรื่องครอบครัว เรื่องคนรัก เรื่องเพื่อน และเรื่องความตั้งใจในการทำสิ่งต่างๆ ในชีวิต... ดีมากครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท