ผมจะไม่ไปประชุมอีกแล้ว


วันนี้ผมเปิดเครื่องคอมฯ ขึ้นมาเพื่อเขียนรายงานความก้าวหน้าประจำเดือนจะได้ส่งผ่านอีเมลให้คณะกรรมการของ สสส.​ ตามที่ผมทำโดยปกติในช่วงประมาณกลางๆ เดือนของทุกเดือน

ก่อนหน้านี้ผมเคยเขียนเป็นบันทึกเพื่อสื่อสารให้ทุกท่านที่เป็นผู้ใช้ระบบของ GotoKnow.org ได้ทราบถึงความคืบหน้าของการทำงานของพวกผมด้วย แต่ทีมงานของ สสส.​ บอกว่าวิธีการเขียนของผมนั้นสรุปลงแบบฟอร์มไม่ได้ ผมเลยต้องเขียนสองรอบ แล้วหลังๆ เลยเขียนแค่รอบเดียวแค่พอได้ส่งอีเมลตามฟอร์มที่เขากำหนด ในที่สุดรายงานต่อกรรมการของ สสส.​ ก็สำคัญกว่าการรายงานต่อผู้ใช้งานอย่างไม่มีทางเลือก เพราะทีมงาน UsableLabs ทั้ง 15 ชีวิตกินเงินเดือนจาก สสส.

และไม่ใช่แค่ 15 ชีวิต เพราะแต่ละชีวิตยังมีชีวิตที่รอคอยอยู่ข้างหลังอีกหลายคน ทีมงานผมไม่ได้มาจากกลุ่มประชากร "ผู้เป็นความหวัง" ของประเทศไทย แต่มาจากกลุ่มประชากร "ผู้เป็นปัญหา" ของประเทศ ถ้าเราหาเงินเดือนมาให้ 15 ชีวิตนี้ไม่ได้ ไม่ใช่แค่คน 15 คนที่จะเจอปัญหาครับ

แต่วันนี้ผมไม่มีแรงเขียน มันท้อแท้แม้จะกดลงบนปุ่มคีย์บอร์ด

มีอะไร "ก้าวหน้า" บ้างในเดือนที่แล้ว?

ผมนึกไม่ออก ผมนึกออกแต่ภาพตัวเองนั่งโยกเยกพยายามข่มตาให้หลับอยู่ในเครื่องบินขึ้นล่องระหว่างหาดใหญ่กับกรุงเทพฯ เพื่อประชุมสารพัดอย่าง

นึกภาพตัวเองที่ต้องพยายามรวบรวมสมาธิเขียนโปรแกรมท่ามกลางภาพและเสียงวุ่นวายรอบตัว ไม่ว่าจะในเครื่องบิน ในสนามบิน ในรถ ในโรงแรม ข้างถนน ข้างตึก ฯลฯ

ผมยังเป็นโปรแกรมเมอร์และผู้ดูแลเครื่องแม่ข่ายหลักของทุกงานที่ผมทำในขณะนี้

เป็นความจริงที่น่าเศร้า

ไม่ใช่เพราะผมเก่ง แต่เพราะคนเก่งไม่เลือกที่จะทำงานอย่างที่ผมทำ เพราะงานนี้ "มันไม่มีอนาคต"

อีกประการหนึ่ง ไม่ใช่เพราะผมเป็นคนดีด้วย

เพราะเท่าที่ผมเคยรู้จัก "คนดี" มา คนดีคือคนระดับวาดฝันและวางนโยบาย ผมยังไม่เคยเห็นการยกย่องคนที่ทำงานแก้ปัญหาอยู่หน้างานว่าเป็นคนดีเลย

ที่เคยเห็นก็คือคนทำงานอยู่หน้างานยกย่องกันเองพอเป็นกำลังใจให้กันและกันในความทุกข์ยากที่ต้องเจอตามประสาของผู้น้อยที่ไม่ได้ "ดี" และ "เก่ง" อย่างที่เขาชื่นชมกันในเมืองหลวง

ผมสับสนและเหน็ดเหนื่อยไปหมดกับการเดินทาง แต่งานก็คืองาน ไม่มีแม้กระทั่งเวลาให้ฉุกคิดว่า "อะไรคืองาน?"

แล้ว "ชีวิต" ล่ะ อยู่ที่ไหน?

ภรรยาผมจะต้องทำแท้งลูกคนที่สองของเราในวันอังคารนี้เนื่องจากลูกหัวใจไม่เต้นแล้ว

ผมถามตัวเองว่าผมอยู่ไหนในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา

ผมอยู่ในเครื่องบิน อยู่ในโรงแรม อยู่ในตึกสูง อยู่ในรถเกือบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นรถบัส รถแทกซี่ รถตู้ รถไฟทั้งใต้ดิน บนดิน และลอยฟ้า ขดตัวอยู่ในเก้าอี้สนามบินรอเวลาขึ้นเครื่องกลับบ้าน นั่งอยู่ข้างถนน นั่งกินแป้งอะไรก็ไม่รู้ที่ร่างกายพอจะแปลงเป็นพลังงานได้ ฯลฯ

ผมอยู่ทุกที่ยกเว้นอยู่ที่บ้าน

ผมปลอบตัวเองว่า อย่างน้อยที่สุดเราก็ได้เงินมาทำสิ่งที่เราอยากทำ แม้ไม่มีเวลาดูแลครอบครัว แต่สิ่งที่เราอยากเห็นจะได้เป็นรูปธรรมมากกว่าการวาดฝันอยู่บนอากาศ

เราอยากเห็นโลกนี้น่าอยู่ ผู้คนยิ้มแย้มทักทายกันเหมือนเพื่อนฝูงญาติมิตรที่เอื้ออาทร ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ทำงานร่วมกัน ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันเพื่อสร้างโลกให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น เพื่อให้ในที่สุด "ใจ" กลายเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนที่มีค่ายิ่งกว่าทุกสิ่งในโลกนี้

โชคร้ายที่งานของผม "ถอยหลัง"

ชีวิตผมก็ "ถอยหลัง" ด้วย

และนี่คือรายงาน "ความก้าวหน้าและความถอยหลัง" ที่จะใช้ได้ทุกเดือนตลอดไป:

GotoKnow.org งานคืบหน้าไปได้ด้วยดี ดีแค่ไหนไม่ทราบ ผมไม่เคยสนใจว่า UIP เป็นเท่าไหร่และเป็นเว็บไซต์อันดับที่เท่าไหร่ของประเทศ แต่ GotoKnow.org คือสิ่งที่ผมจะทำตลอดชีวิต ถ้าผมยังมีชีวิตอยู่ GotoKnow.org ต้องพัฒนาไปได้ด้วยดีแน่นอน

มะปรางและต้นกล้ากำลังทำ GotoKnow.org เต็มตัวแทนผมและภรรยา เราปล่อยให้เขาคิดและตัดสินใจทุกอย่างที่เป็นไปได้ หมายความถ้าผมไม่อยู่ในโลกนี้แล้ว GotoKnow.org ก็ไม่ได้สูญหายไปตามผมไปด้วย

Portal.in.th ก็คืบหน้าไปได้ด้วยดี ผมเบื่อพวกบริษัทรับทำเว็บหลายต่อหลายเจ้าที่เอาเปรียบลูกค้าอย่างไม่มีจริยธรรมโดยอาศัยประโยชน์จากความไม่รู้ของลูกค้า ดังนั้น Portal.in.th จะต้องคืบหน้าไปได้ด้วยดีและบริษัทเหล่านั้นจะต้องประสบปัญหาทางธุรกิจเพราะ Portal.in.th อย่างแน่นอน

Portal.in.th ไม่ใช่เว็บไซต์ มันคือสงคราม

Healthy.in.th ก็คืบหน้าไปได้ด้วยดีเช่นกัน ช่วงที่ผ่านมาทีมงานผมอาจจะไม่เข้าใจว่าเราทำ Healthy.in.th ทำไม ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าผมไม่ได้ทำ "ส่ง สสส." ปัจจุบ ันเขาเลยทำ "ส่งผม" อีกไม่นานเขาจะรับรู้และเรียนรู้ที่จะทำ "ส่งประชาชน"

ใช่ครับ ผมหมายถึงประชาชนตาดำๆ ที่ถูกหลอกลวงจากสื่อมวลชนอยู่ทุกวันอย่างไม่มีใครมากนักกล้าอ้าปากมาต่อสู้ในประเทศที่สื่อมวลชนมีอำนาจล้นฟ้าจนกลายเป็นอภินิหารเช่นนี้

Healthy.in.th จะเป็น "สื่อทางเลือก" เท่าที่เป็นไปได้ เราเริ่ม "ฟื้น" Healthy.in.th มาตั้งแต่เดือนที่แล้วและจะไม่มีปล่อยให้คลาดสายตาอีกต่อไป ทีมงาน Healthy.in.th เป็นทีมงานที่ดี แต่เขาจะได้ทำงานได้ดีก็ต่อเมื่อเขาได้รู้ว่าจะให้เขาทำงานอะไร นั่นคือการได้นั่งคุยกับผม ไม่ใช่ฟังเสียงผมมาจากปลายสายโทรศัพท์

และยังมีโครงการอื่นๆ ที่เรายังก้มหน้าก้มตาทำด้วยความหวังว่าวันหนึ่งมันจะออกผลให้เกิดประโยชน์ลดความเหลื่อมล้ำทางความรู้ที่เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศนี้บ้าง

ดังนั้นเพื่อให้งานเดินหน้า กรุณาปลดปล่อยผมจากห้องประชุมเถิด ให้เงินแต่ไม่ให้เวลาผมทำงานจะมีประโยชน์อะไรเล่า?

สองเดือนที่ผ่านมาผมเหมือนจะอยู่กรุงเทพฯ​ มากกว่าอยู่หาดใหญ่ ต้องวางแผนเตรียมตัวจะไปประชุมเพื่อพบว่าการประชุมนั้นมีการเลื่อนในวันสุดท้ายก่อนการเดินทาง ให้ผมต้องปรับแผนอีกครั้งที่จะเดินทางไปประชุมอีกครั้งในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งกับกำหนดตารางเวลาการบินของประเทศที่การเดินทางโดยเครื่องบินยังเป็นสิ่งสงวนสำหรับผู้สูงศักดิ์เช่นนี้

ผมไม่ไปแล้วนะครับ

ผมเป็นคนไทยไม่ใช่คนกรุงเทพฯ​ ผมคือชาวต่างชาติในเมืองหลวง

ทุกครั้งที่ผมไปกรุงเทพฯ​ ผมรู้สึกเหมือนชาวเมืองศรีวิชัยเดินทางไปถวายเครื่องบรรณาการที่กรุงรัตนโกสินทร์ทุกที

ถ้าจะประชุมคราวหน้า มาประชุมที่ประเทศของผมนะครับ

.....

ที่จริงแล้ววันที่ 19 นี้ผมจำเป็นต้องไปประชุมอย่างยิ่งเพราะมีเรื่องสำคัญต้องให้กรรมการฯ​ พิจารณาสองเรื่อง เป็นสองเรื่องที่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมต้องพิจารณา

เรื่องแรกคืองบครุภัณฑ์ เพราะผมพึ่งทราบว่า สสส.​ ไม่อนุญาตให้ซื้อครุภัณฑ์ น่าสงสัยว่าเราจะทำ "ระบบออนไลน์" ได้อย่างไรถ้าเราซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์มาทำงานไม่ได้?

เรื่องที่สองคือเรื่องค่าเล่าเรียนของนักศึกษาปริญญาโทที่ทำงานกับผมในโครงการของ สสส. นั่นเอง

ผมอยู่ในมหาวิทยาลัย "กำลังพล" ของผมคือนักศึกษา คือกลุ่มคนที่ต้องการพัฒนาตัวเองทางปัญญามากกว่าแสวงหาเงิน ถ้าผมไม่สามารถบำรุงกำลังพลของผมได้ผมจะรบได้อย่างไร?

ถ้าผมฉลาดกว่านี้ ผมจ้างมะปรางทีเดียวเลยเป็นค่าบริหารจัดการชุมชนออนไลน์และจ้างต้นกล้ายอดเดียวเลยเป็นค่าพัฒนาซอฟต์แวร์ เป็นใบสำคัญรับเงินแค่สองใบก็จบปัญหาเรื่องครุภัณฑ์และค่าเล่าเรียน

แต่ผมไม่ได้ทำอย่างนั้น ผมกลับชอบเอกสารเยอะๆ แนทกับเอ๋ทำเอกสารตั้งมากมายที่ผมต้องเซ็นก่อนจะซื้ออะไรสักอย่างได้

ผมพึ่งซื้อบ้านใกล้มหาวิทยาลัยที่มีสนามหญ้าไว้ให้ลูกเตะบอลกัน เอกสารเยอะๆ นั้นมีไว้เป็นคำตอบว่าผมไม่ได้ผันเอาเงิน สสส. ไปซื้อนอกเหนือจากเงินเดือนจากโครงการฯ​ อันผมพึงได้ตามการทำงาน

ใช่ สนามหญ้าไว้ให้ลูกเตะบอลกัน หมายถึงลูกสองคนเล่นด้วยกัน

ตอนนี้เหลือผมกับเจ้าต้นไม้ที่จะเตะบอล เจ้าต้นน้ำไม่ได้มาเล่นด้วยแล้ว

เมื่อวานผมไปที่บ้าน เอาต้นไม้ที่ซื้อเพื่อจะปลูกในสนามหญ้าไปเก็บ ผมอยากเป็นลมล้มลงบนพื้นสนามหญ้านั้นเพื่อไม่ต้องฟื้นขึ้นมาอีกเลย

น่าเศร้าที่ผมทำไม่ได้ ยังมีอีกหลายชีวิตที่ผมต้องรับผิดชอบ หลายพันชีวิตถ้านับนักศึกษาในภาควิชา เข้าใจแล้วว่ามนุษย์เรานี้เป็นนักโทษของตัวเราเองจริงด้วย และเข้าใจอีกว่าบางครั้งใครบางคนลุกขึ้นยืนได้ก็ไม่ได้หมายความว่าเขายังมีชีวิตอยู่

ประโยคแรกๆ ในชีวิตที่เจ้าต้นไม้พูดได้คือ "พ่อพ่อไปกุงเทบ"

แต่ผมอยากฟัง "พ่อพ่อกับมาและ"

ผมไม่ไปกรุงเทพฯ แล้วนะครับ

หมายเลขบันทึก: 288228เขียนเมื่อ 17 สิงหาคม 2009 09:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 18:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (81)

ขอแสดงความเสียใจต่อการสูญเสีย แต่ชีวิตก็ต้องเดินต่อไป นำสิ่งทีผิดพลาดมาแก้ไข ขอเป็นกำลังใจ

อาจารย์คะ

เหนื่อยก็พัก ชีวิตไม่ใช่เครื่องจักร

วันนี้พี่ก็ขอลาพักผ่อน 1 วัน เพื่อทบทวนชีวิตของตนเองที่ผ่านมาเช่นกัน

 

สวัสดีครับ

 

  • ขอแสดงความเสียใจกับลูกคนที่สองด้วยนะครับ
  • คนที่ไม่มีปัญหาคือคนที่ไม่ทำอะไรเลย อาจารย์ทำงานใหญ่เพื่อส่วนรวมก็ย่อมมีปัญหาบ้างเป็นธรรมดาครับ ต้องอดทนและใจเย็น ๆ นะครับ  
  • ผมเชื่อว่า ทุกปัญหามีทางออกเสมอ ปัญหามีไว้แก้ไม่ใช่มีไว้แบก วันเวลาจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นเอง ใจเย็น ๆ แก้ปัญหาทีละปัญหา จากง่ายไปยาก
  • ขอเป็นกำลังใจให้อีกแรงหนึ่งครับ

 

สวัสดี ครับ อาจารย์ ธวัชชัย

ผมนำกาแฟคุณภาพมาเสริฟ์ อาจารย์ ครับ

สร้างคุณภาพชีวิต

  สร้างพลัง สร้างแรงจูงใจ

เพื่อสังคมที่เราอยู่ ...

งานที่อาจารย์ทำ  ทำแล้วมีความสุข

ทำในสิ่งที่อยากทำ เพราะความสุขอยู่ตรงนั้น

ระลึกถึงอาจารย์ ครับ

มากกว่าความห่วงใยค่ะ

อาจารย์เข้มแข็งเสมอ

ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ทำเพื่อประชาชนค่ะ

เหนื่อยก็พัก เครื่องจักรยังทำงาน 24 ชั่วโมงไม่ได้

เราทุกคนเข้าใจแและเป็นกำลังใจให้ค่ะ

พี่ขอให้กำลังใจกับอาจารย์และอาจารย์จันครับ

เป็นช่วงเวลาที่อาจท้อไปบ้าง...แต่...บางที...ต้นน้ำอาจจะกลับมาอีกครั้ง มาวิ่งเล่นเตะบอลกับพี่ของเขาและอาจารย์...เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม....ก็เป็นได้นะครับ

ขอให้อาจารย์ อาจารย์จัน และน้องต้นไม้ มีสุขภาพดีทั้งกายและใจนะครับ

  • เป็นกำลังใจให้นะครับอาจารย์

ถึงแม้ว่าทุกองค์กรจะมีทั้งคนที่ดีและไม่ดี แต่สำหรับ สสส. ผมไม่ชอบหน้ากรรมการบางคนที่มักจะเลือกใช้เงินหลวงมาเบ่ง มาตบหัว เอาไปใช้ประโยชน์ต่อตนเอง ประมาณว่า ตัวเองใช้ได้ แต่ลูก ๆ ในโครงการที่ขอมา มันต้องพิจารณาอย่างหนัก กรรมการอยู่เชียงใหม่ ประชุมทีไรก็นั่งเครื่องบินฟรี ไป - กลับ (ประชุมบ่อยอีกต่างหาก) เงินหลวงทั้งหมด

แต่กรรมการอีกหลายคนผมไม่รู้จัก เขาอาจจะดีก็ได้ ผมไม่อยากเลือกมองแบบ "ปลาเน่า"

อ่านบันทึกอาจารย์แล้วก็เข้าใจในความรู้สึกถึงการแบกโลกและความรับผิดชอบในทุกด้านไว้พร้อมกัน

ผมเป็นหนึ่งในกำลังใจให้อาจารย์สู้ต่อไป เพราะไม่มีใครในโลกไม่มีปัญหา เพียงแต่ว่า จะใหญ่หรือเล็ก ในช่วงเวลานั้น ๆ ครับ ;)

อาจารย์ครับ พักสักผ่อนจะได้มีแรงลุกขึ้นมาสู้ศึกอีกครั้ง ท้อได้แต่อย่าถอย ผมยังจำครั้งที่ผมท้อและเหนื่อยใจได้ แต่สุดท้ายอาจารย์ก็มาช่วยให้ผมเห็นทางสว่างและเดินหน้าต่อไปได้อีกครั้ง เห็นมั๊ยครับอาจารย์ทุกปัญหามีทางออกเสมอ ขอเป็นกำลังใจนะครับ สู้ๆ

จะเอาดีที่สุด

แต่ระบบการจัดการห้วย สิ้นดี

  • ตามมาให้กำลังใจอาจารย์
  • ชีวิตเรามีสองด้านครับ
  • พยายามมองด้านบวก
  • ขอให้อาจารย์มีความสุขกับการทำงานครับ

อาจารย์ต้องสู้ครับ ท้อได้อย่าถอยครับ

ส่วนน้องต้นน้ำ ผมขอแสดงความเสียใจด้วยครับ อาจารย์อย่าได้โทษตัวเองเลยครับ

อาจจะเพราะว่าน้องเค้าไม่พร้อมก็ได้ครับ

ส่วนเรื่องที่เหลือ ก็ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีนะครับอาจารย์ สู้ๆ ครับ

อีกอย่างครับอาจารย์ อย่าดับเครื่องชนนะครับ มันจะเกิดอะไรไม่ดีขึ้นครับ

สู้ๆครับ \/ ครับ

เบิร์ดครับ

..ขอเล่าด้วยคน..เมื่อยายธียังสาว..จบปุ๊บได้ปํ๊บ..งานสอน..(ในต่างประเทศดูผิวมันโก้ไม่อยอก..สอนฝรั่งในมหาวิทยาลัย..ตอนรับงานต้องยอมรับว่าไม่มีประสพการณ์ใดๆทั้งสิ้น..ดีใจที่ได้เงินกินกันตาย)สัญญาการทำงานได้เงินค่าสอนสี่ชม.ต่ออาทิตย์แต่ต้องทำสี่สิบชม...มีที่ทำงานอยู่ห้องใต้ดิน..แถมยังเคยถูกขังเสียด้วย..ต้องปีนรอดลูกกรงออกมา(ตำแหน่งนี้เทียบได้กับภาษาไทยว่า..ครูตีนเปล่า)...ตอนรับงานยังไม่สบายอยู่..หนีออกมาจาก รพ.(เพราะไม่ชอบปากพยาบาล)...เล่าไว้ม้วนเดียวก่อน...ชาวบ้านเขาพูดกันว่า..ชีวิตไม่ดิ้นก็สิ้นใจ..ชีวิตยังมีก็ดิ้นไป..สู้ๆๆๆค่ะ..ขอให้โชคดีและอยู่เย็นเป็นสุขค่ะ..ยิ้มค่ะ..เคยฟังเพลงยิ้มสู้ไหมคะ

สวัสดี ครับ

วันนี้มาเยี่ยม อาจารย์ อีก ครับ

พาเจ้าของกลอนนี้มาด้วย ครับ

มามอบพลังใจ ให้ ครับ

สู้ๆ ครับอาจารย์ เป็นกำลังใจให้ครับ

ที่สุดแล้ว...คือ การพยุงตัวยืนและก้าวเดิน...

หลายครั้งหลายคราถามตนเองเช่นกัน...ว่ามามีวิถีชีวิตเช่นนี้ทำไม

ทำไมไม่ไปทำงานในความโก้หรู...นั่นน่ะก็เพราะว่า

ใจของเราเหนี่ยวนำให้มาทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้...

"ใจ" ตัวเดียวที่ยังเป็นเพื่อนแท้หรับเราอย่างไม่ทิ้งห่ายหายกันไป

ดูแลใจ...เราไว้ให้ดีนะคะ

 

ขอเป็นกำลังใจให้อาจารย์ตลอดไปนะคะ

สวัสดีค่ะ

มามอบกำลังใจให้ค่ะ

คนที่เข้มแข็งล้มไม่นานก็ลุกได้ค่ะ

ชีวิตเวลาสะดุด เหมือนมีเรื่องคอยซ้ำเติม

แต่ที่จริงแล้วทุกอย่างมันก็เป็นแบบนี้

แต่วันที่เรามีกำลังใจ เข้มแข็ง

เราก็ก้าวข้ามมันไปอย่างสบาย

ขอให้พระคุ้มครอง และปกปักรักษาให้มีความสุขทั้งกายและใจนะคะ

เห็นด้วยอย่างยิ่งกับที่อาจารย์เขียน

"...เราอยากเห็นโลกนี้น่าอยู่ ผู้คนยิ้มแย้มทักทายกันเหมือนเพื่อนฝูงญาติมิตรที่เอื้ออาทร ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ทำงานร่วมกัน ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันเพื่อสร้างโลกให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น เพื่อให้ในที่สุด "ใจ" กลายเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนที่มีค่ายิ่งกว่าทุกสิ่งในโลกนี้..."

และขอบคุณยิ่งที่อาจารย์และทีมงานได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจทำให้ G2K เป็นพื้นที่ที่สมาชิกได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันด้วย "ใจ"

บางทีผ่อนพักกับความเงียบสงบสักครู่ อยู่กับลมหายใจยาว ๆ สักพัก อาจจะรู้สึกดีขึ้นนะคะ

บางทีสถานการณ์ก็มาทดสอบกำลังใจและความเข้มแข็งของเรา

เราอาจเสีย "ใจ" ไปกับบางสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต

และเมื่อเวลาผ่านไป เราอาจได้ "ใจ" ที่แข็งแกร่งขึ้นจากสถานการณ์นั้น ๆ  

ส่งกำลัง "ใจ" ให้อาจารย์อีกคนค่ะ ..^__^..

 


  • ทุกชีวิตต้องผ่านทั้งสุขและทุกข์
  • อย่าติดอยู่กับอดีต....มองไปข้างหน้า....ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
  • เป็นกำลังให้ อาจารย์และครอบครัว เดินทางสู่จุดหมายได้ดังที่ตั้งใจครับ

ผมว่าผมเข้าใจความรู้สึกของอาจารย์นะครับ

มันคือชีวิตมนุษย์ครับ ที่จะต้องต่อสู้กับอุปสรรคนานาประการ

เราเหนื่อยเราท้อก็จริง แต่เรายังมีคนที่บ้านนะครับ ทั้ง อ.จัน และน้องต้นไม้ ที่ยังเป็นกำลังใจ ถ้าหัวหน้าครอบครัวใจแป้วคนในครอบครัวจะแป้วตามนะครับ ผู้คนใน G2K อีกมากมายที่เป็นกำลังใจให้อาจารย์ พักกายพักใจสักช่วงหนึ่งเพื่อเพิ่มพลังให้กับชีวิต แล้วเดินหน้าต่อครับ

เป็นกำลังใจอีกคนครับ

เป็นกำลังใจให้อีกแรงครับ

ขอเป็นกำลังใจให้ท่านอาจารย์ ครับ

มีเรื่องใดที่พอจะช่วยเหลือได้ กรุณาแจ้งให้ทราบด้วย

ด้วยความนับถือ

PH

  • เป็นกำลังใจให้ครอบครัวปิยะวัฒน์ค่ะ
  • สังคมจะแย่ลงหากคนดีท้อแท้

ขอเป็นกำลังใจให้กับอาจารย์ธวัชชัยด้วยครับ

และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งสำหรับเรื่องเศร้าที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น

ผมเชื่อว่าอุปสรรคที่เข้ามาหาคนเราเป็นเพียงชั่วคราวและเราจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

และผมก็เชื่าอีกว่าอาจารย์ตัดสินใจถูกแล้วที่เลือกสุขภาพและครอบครัวก่อน

เพราะถ้าสองอย่างนี้ดี โอกาสที่อาจารย์และทีมงานจะมีผลงานสร้างงานดีๆ

ได้สำเร็จในวัยังมีอีกมากครับ

ด้วยความเคารพอย่างสูง

ผมไม่ค่อยได้เข้ามาที่นี่นัก แต่ก็รู้สึกตกใจ และอยากร่วมให้กำลังใจครับ

มันเป็นเรื่องไม่เข้าใจที่เข้าใจครับ

ขอให้ "กำลัง" และ "ใจ" มาโดยไวครับ

อาจารย์อย่าเพิ่งท้อแท้และเสียใจเลยครับ เพราะหากเราท้อแท้หรือเสียใจไปนั้น เป็นทุกข์เสียเปล่าๆ อาจารย์ทำงานออกจากที่ทำงานแล้วก็วางทุกสิ่งทุกอย่างไว้ที่ทำงานเถอะครับ อย่าเอากลับมาบ้าน อยู่บ้านมีสนามหญ้าเตะบ้านกับลูกๆ มีความสุขมากกว่าอยู่ที่ทำงาน

ขอเป็นกำลังใจให้ครับ

มาเยี่ยม อาจารย์ แต่เช้าเลย ครับ

มากับครูอิงจันทร์

นำดอกไม้มงคล มาใส่ในแจกันที่บ้านของอาจารย์ ครับ

"พุทธรักษา"

38873

 

อ่านแล้วไม่มีอะไรจะพูดเลยคะ

แค่อยากให้กำลังใจ และทำในสิ่งที่คุณเชื่อมั้นต่อไปนะคะ

สู้ๆๆคะ

สวัสดีค่ะอาจารย์ มาให้กำลังใจค่ะแม้ว่าอ่านทุกตัวอักษรทุกบรรทัด จิตจะซึมซับได้ถึงความหม่นเศร้า แต่ก็ยินดีอ่าน หวังว่าพลังความปรารถนาดีจะส่งผ่านดวงจิตเพื่อแบ่งเบาความทุกข์ของผู้สูญเสียผู้เป็นที่รัก ที่รอคอย โลกหมุนทุกนาที ไม่ว่าเรื่องร้ายหรือเรื่องดีก็จะผ่านไป เข้มแข็งไว้นะคะอาจารย์ พลังความดีคุ้มครองอาจารย์และครอบครัวทุกนาที สู้ๆค่ะ

ไม่มีอะไร ได้มาฟรีๆครับ ทุกสิ่งทุกอย่าง ย่อมได้มาจากการแลกเปลี่ยน เพียงแต่ว่าจะเอาอะไรไปแลก เวลา ความรู้สึกดีๆ ความสุขในครอบครัว โอกาสในชีวิต สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นต้นทุน ในการแลกเปลี่ยน กับสิ่งที่เราต้องการ ไม่ว่าเราจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม นั่นเป็นสัจธรรมในชีวิตอย่างหนึ่งครับ

คนที่ประสบความสำเร็จ น่าจะเป็นคนที่สามารถปรับระดับให้ต้นทุนชีวิต อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับความก้าวหน้าในชีวิตครับ ไม่ใช่โชติช่วงชัชวาลย์ในด้านใดด้านหนึ่ง

แม้อาจารย์จะตอบปฏิเสธว่า ต่อไปจะไม่ไปประชุมแล้ว ก็ไม่ใช่หนทางในการแก้ไขปัญหา ทั้งด้านการงานและครอบครัวครับ.....ลองดูครับ ปรับทั้งสองทางให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ....พูดได้ง่ายครับ แต่ทำไม่ง่ายหรอก....ไม่เชื่อก็ลองดูครับ

รับผิดชอบกับทีม รับผิดชอบกับงานมันก็ดีครับ

แต่วันนึงคุณไม่อยู่ เค้าก็หาคนมาทำแทนได้ครับ

แต่ครอบครัวคุณล่ะ?

เคยถามตัวเองไหมครับ? ว่าอีก 10 ปี 20 ปี ก็จะทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ น่ะหรือ?

ขอให้กำลังใจอาจารย์ค่ะ

สิ่งที่อาจารย์ทำอยู่ เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์กับส่วนรวม อย่าเพิ่งท้อถอยไปนะคะ เรื่องที่น่าเสียใจที่เกิดขึ้น อย่าเพิ่งด่วนโทษตัวเอง

มาให้กำลังใจคะ

ไม่มีใครสามารถทำงานขณะเดียวกันได้หลายๆอย่าง

การลำดับความสำคัญของปัญหาเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเลือก

ต้องคำนึงประสิทธิผลของงานที่ทำด้วย

คนเราไม่ใช่เครื่องจักรนะคะ

คุณต้องใส่ใจความรู้สึกของคนในครอบครัวด้วยนะคะ

หากว่าเป็นภรรยาของคุณจะบอกคุณมากกว่านี้คะ

อ่านเรื่องราวของอาจารย์แล้ว ผมคิดถึงปัจฉิมโอวาทฯที่บอกให้เรา "ทำประโยชน์ตน และประโยชน์ท่านให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท" เหมือนเป็นคำง่ายๆ แต่ทำยากมาก เหมือนกับคำว่า ให้เดินสายกลางนั่นแหละ รู้แล้วว่าต้องเดินสายกลาง แต่แค่ไหน ตรงไหนล่ะกลาง พอเพียง พอดี นั่นแหละยากมาก

เชื่อมั่นว่าอาจารย์ คงหามันพบ หรือไม่ก็คงใกล้เคียง แต่สิ่งที่บอกเรา(คงเบื่อตัวชี้วัดกันมากแล้ว) แล้วไม่น่าจะผิดก็คือ เรา(ตัวเรา_ครอบครัว_ทีมงาน)มีความสุขจากการทำงานของเรา และสังคมก็ได้ประโยชน์(ไม่ต้องหวังว่าจะเปลี่ยนโลก เปลี่ยนประเทศก็ได้)

สรุปแล้วมันก็ยากอยู่ดี แต่ไม่มีทางเลือกกระมัง เราต้องพยายามทำให้มันได้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้(แค่ไหนก็แค่นั้น) ทำนองนี้ ไม่ใช่หรือ

เจริญชัย ไชยไพบูลย์วงศ์

อ่านแล้วเห็นใจ "อาจารย์ธวัชชัย" มากๆเลยครับ

อาจารย์ที่เคยยิ้มแย้มและเต็มไปด้วยบุคลิกแห่งการเรียนรู้ประดุจนักปราชญ์อริสโตเติล

มาบัดนี้กลับต้องถูกโชคชะตากลั่นแกล้งให้เศร้าหมองตรอมตรม

ผมอ่านแล้วเห็นภาพอะไรตั้งมากมาย มันคือปัญหาของเมืองไทยในเชิงโครงสร้าง ทั้งความฉ้อฉล การเล่นพรรคเล่นพวก และการสร้างภาพ

แต่อาจารย์ไม่ได้เดินตามลำพังครับ ยังมีคนดีๆอีกมากที่พร้อมจะช่วยเหลือและร่วมฟันฝ่าอุปสรรคกับอาจารย์

อ่านจบแล้ว มองไปที่รูปภาพ เห็นอาจารย์ยิ้มสดใส ก็นึกขำ ด้วยว่าเนื้อหาบทความนี้ขัดแย้งกับรูปภาพ...

  • อาจารย์น่าจะเปลี่ยนรูปภาพใหม่นะ

เจริญพร

อ.ธวัชชัยคะ

ชีวิตคนเรามีเวลาสุข เศร้าฯ เป็นธรรมชาติ อยู่ที่เราจะอยู่กับมันอย่างไร โดยเฉพาะช่วงเศร้า และ สับสน

ที่พี่เคยทำ คือ อย่าแบกโลกไว้ อย่าพยายามควบคุมสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา ทำดีที่สุด แต่ทำอย่างสมดุลกับกำลังที่มี

เป็นกำลังใจให้นะคะ

อ่านแล้วพูดอะไรไม่ออกครับ ขอให้กำลังใจอาจารย์ครับ ทุกครั้งที่ผมพบอาจารย์ อาจารย์มีพลังมุ่งมั่นในการบุกเบิกและทำสิ่งดี ๆ อย่างมาก ขอให้อาจารย์และภรรยาผ่านช่วงเวลานี้ด้วยความเข้มแข็งและความรักครับ

มาให้กำลังใจครับ

ภรรยาผมแท้งสองครั้ง แต่ละครั้งขูดมดลูก เธอเจ็บมากเลย

แต่สุดท้ายก็ได้ลูกคนที่สองครับ ไม่ง่ายแต่เป็นไปได้

ในฐานะคนชอบดูหนัง แนะนำเรื่อง Click เผื่อจะตอบแนวการเลือกวิธีใช้ชีวิต

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=amp-atom&month=12-2006&date=23&group=2&gblog=11

มีคำหนึ่งคำที่ผมใช้ในการดำเนินชีวิต

Sometimes when there's a conflict between work and family, choose family.

มีความสุขครับ

มาให้กำลังใจครับอาจารย์ อือ พูดไม่ออกมากกว่านี้

อาจารย์ครับ...

ผมให้กำลังอาจารย์ทั้งสองท่านนะครับ

อาจารย์ คะ

อ่านข้อเขียนของอาจารย์แล้ว เข้าใจความรู้สึกนะคะ

มาเป็นกำลังใจให้นะคะ อดทนนะคะ แล้วเมฆฝนจะผ่านไป ฟ้าใสๆ จะเข้ามาแทน

  • ผมเคยต้องไปรายงาน กรรมการ หน่วยงานเดียวกันนี้ 
  • ไม่ได้รู้สึกต้องไปถวายบรรณาการ  แต่เคยรู้สึกว่า ผมเป็นแค่คนรับจ้างคนนึง ที่เค้าจ้างไปทำงานไม่ใช่ภาคี 
  • เหนื่อยก็พักครับ Rush ชีวิตไป ก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น 
  • เราไม่ใช่ Superman ครับ เรากู้โลกไม่ได้ แต่ทำให้มันดีขึ้นได้ ด้วยเรานี่แหละ 
  • ผมไม่รู้จักกับพี่มาก่อน แต่ผมคิดว่าผมเข้าใจความรู้สึกเกี่ยวกับงานได้ ยกเว้นเรื่องลูกเพียงเรื่องเดียว ซึ่งในส่วนนี้ผมขอเป็นกำลังใจให้พี่ผ่านพ้น และฟื้นคืนได้โดยไว จากใจของผม
  • ความสุขบางอย่าง อาจจะเริ่มด้วยการวางเรื่องบางเรื่องลงไว้ข้างๆ แล้วมองดูมันไปพลางๆ 
  • ทำให้สังคมมีสุขแล้ว ขอให้พี่สุขบ้างครับ 
  • ยิ้ม  

เป็นกำลังใจให้อาจารย์ค่ะ เราต่างอยากทำอะไรให้ดูสมบูรณ์ ซึ่งเราเรียกมันว่างานและความรับผิดชอบ แต่อย่าลืม..ดูแลคนใกล้ชิด..ด้วยการให้เวลาและความรัก ซึ่งอาจารย์หนิงเองถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากไปกทม. เหมือนกัน

อาจารย์คะ

คนเราล้มกันได้ค่ะ   ล้มแล้วค่อยๆ ลุกก็ได้ค่ะอาจารย์  แล้วการลุกขึ้นครั้งใหม่จะเป็นก้าวย่างที่มั่นคงค่ะ

สู้ๆ นะคะ  น้องต้นไม้แลอาจารย์จันเองคงเป็นแรงใจให้อาจารย์อย่างที่สุด

พวกเราคงทำได้เพียงส่งกำลังใจมาเสริมนะคะ

เป้นกำลังใจให้อาจารย์นะคะ

ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งค่ะ

พักผ่อนและพาครอบครัวไปทำสังฆทานให้น้องนะคะ

ขอบคุณค่ะ

เอาใจมาเป็นกำลังใจ

สู้สู้ค่ะ ทั้ง อ.ธวัชชัย และ อ.จันทวรรณ

 

ขอให้กำลังใจทั้ง อ. ธวัชชัย และ อ.จันทวรรณ หากมีอะไรที่ผมพอจะช่วยเหลือได้ก็ยินดียิ่งครับ

ในฐานะที่เป็นเพื่อนร่วมเส้นทาง เคยมีความสัมพันธ์คล้ายๆ ผู้ให้ทุน กับผู้รับทุน (โครงการ)มาก่อน เลยถือโอกาสทบทวนสิ่งที่เคยร่วมมือกันมา เผื่อว่ามันจะเป็นประโยชน์ได้บ้าง

* งานเช่นนี้ ทำไป พัฒนาไป ซึ่งไม่ค่อยมีหน่วยงานมากนัก ให้การสนับสนุนงานลักษณะเช่นนี้ เพราะมันมีความชัดเจนในตัวชิ้นงาน แต่ชัดเจนว่าเราจะสร้างลานแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้กับสังคมไทย แต่ที่ผ่านมา เราทำกันมาแล้ว และหลายคน หลายองค์กรชื่นชม ผลงานที่เกิดขึ้นมา การทำงานที่ผ่านมา เลยไม่มีข้อกังขาใดๆ ในเรื่องนี้

*ผลงานความก้าวหน้า - สิ่งที่ท่านกำลังอ่านอยู่ตรงหน้านี่ไง เราตีความว่า มันคือ ผลงานที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลา มันไม่ใช่แค่ มี application ทางเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่โผล่มาในแต่ละเดือน ผมในฐานะผู้แทน สคส. รับผิดชอบประสานงาน GotoKnow ต้องตามอ่านเอาเอง คนอื่นๆ ใน สคส. ก็ต้องตามอ่าน ตามเขียน กันทุกคน เล่นบททั้ง user และ donor ในเวลาเดียวกัน ในช่วงเวลาที่สนับสนุน Gotoknow อยู่นั้น เราไม่ได้คาดหวังแบบลอยๆว่า "Gotoknow จะทำอะไรให้กับสังคม" แต่เราคาดหวังว่า "Gotoknow จะเป็นเครื่องมือให้เรา ได้ใช้เพื่อทำอะไรให้กับสังคม" ผลงานที่เราเห็นในแต่ละช่วงเวลาในขณะนั้น เหมือนมันเดินมาหาเราอยู่แล้ว เพียงแค่เรา click เข้าไป การพบกันระหว่าง สคส. และ Gotoknow แต่ละครั้ง จึงไม่มีความจำเป็นต้องมาคุยรายงานผล แต่เรามักจะคุยกันว่า เราควรจะปรับอะไรตรงไหนเพิ่มอีก เพื่อให้มันมีพลังมากยิ่งขึ้น

*แต่แน่นอนรายงานทางการใช้งบประมาณ ก็ต้องมีแต่เราเลือกวิธีที่ ง่ายที่สุด แต่ต้องโปร่งใสที่สุดด้วย เพราะมันไม่ใช่เงินส่วนตัวของใคร มันได้มาจากภาษีของทุกคน

"Treat him as he is" - มองเห็นส่วนดีของเขาตรงไหน ก็ใช้ตรงนั้นให้เป็นประโยชน์ ที่ผ่านมา อาจารย์ทั้ง 2 ท่านเก่งเทคโนโลยี เราก็หวังให้อาจารย์สร้าง "ตลาดแผงลอย" ให้ แต่ในส่วน หาแม่ค้า และสินค้าเข้ามาขาย โปรโมทตลาดแห่งนี้ ถือว่าเป็นภาระของ สคส. เป็นหลัก แต่พอทำจริงๆ อาจารย์ทั้ง 2 ก็ยังเข้ามาช่วยตรงนี้ไม่น้อยเหมือนกัน

ประเด็นเหล่านี้ ผมถือว่า สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการที่เคยทำงานร่วมกับ Gotoknow ในวันนั้น จึงเข้าใจวิถีความสัมพันธ์ในรูปแบบที่แปลกใหม่ ซึ่งต้องการวิถีปฏิบัติที่แปลกใหม่เหมือนกัน แล้วจึงได้อะไรใหม่ที่น่าสนใจ

ข้อแก้ไข ย่อหน้า 2 บรรทัดแรก "เพราะมันไม่มีความชัดเจน" ตกคำว่า "ไม่" ไปครับ

เป็นกำลังใจให้อาจารย์อีก1กำลังใจค่ะ

เป็นกำลังใจให้อาจารย์ด้วยคะ

สวัสดีค่ะ อาจารย์

  • ครูอ้อย มาอ่านทุกวันค่ะ  แต่ยังเขียนไม่ได้
  • เสียใจเหมือนกับ ที่ครูอ้อยเสียหลานน้อย  อาการเหมือนกัน หัวใจไม่เต้น
  • ครูอ้อยพูดเป็นครั้งที่สองว่า....เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ

เป็นศิษย์เก่าคนนึง ที่เคยมีอาจารย์เป็นอ.ที่ปรึกษาค่ะ เป็นเมล็ดพันธ์นึงที่ไม่เติบโตงอกงามเท่าไหร่ และมักละอายใจเกินกว่าจะกลับไปเยี่ยมเยือน วันนี้ก็เข้ามาในบล็อกของอาจารย์ด้วยความบังเอิญ และเมื่อได้อ่านก้อไม่รู้ว่า กำลังใจน้อยนิดที่ศิษย์คนนี้มีจะพอทำให้กำลังใจของอาจารย์จะฟื้นฟูได้กี่มากน้อย ก็หวังใจว่า อาจารย์จะผ่านพ้นมันไปด้วยดี อย่างที่อ่านความคิดเห็นของใครสักคนบางคนข้างต้น ว่าภาพอาจารย์ที่มีในความทรงจำคือใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม แต่ก็แทบไม่รู้ถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่ ...ขอให้มีช่วงเวลาที่ใบหน้าและหัวใจได้ยิ้มไปพร้อมๆ กันมากที่สุดน่ะค่ะ

สวัสดีครับอจ.

ผมไช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงครับ

3 ห่วง 2 เงื่อนไข

ใช้ได้จริงๆ ครับ กับจิตใจเรา

พอดีๆ กับทุกๆ เรื่อง

เจริญสุขครับ

สวัสดึค่ะอาจารย์ ดิฉันไม่รู้จักอาจารย์ แต่เจอ blog นี้โดยบังเอิญ เริ่มอ่านจากประวัติ อจ. คนนี้พูดจากวนๆดีแฮะ ก็เลยอ่านอย่างอื่นต่อ ก็คือ Blog ไม่ไปประชุมนี้ เพราะเขียนหัวข้อคล้ายๆ เด็กงอแงจะไม่ไปโรงเรียน

อ่านไปเรื่อยๆ ทีแรกไม่คิดว่าจะอ่านจนจบ

เพราะอจ.เขียนยาว แต่ก็อ่านจนจบ แบบทุกตัวอักษร สุดท้ายนำตาซึม อืมมมม.....

คนเราล้มได้ ท้อแท้ได้ แต่อย่านานค่ะ รีบลุกเมื่อรู้สึกตัวได้แล้ว รีบสร้างกำลังใจให้กับตนเอง

เพราะไม่มีใครสร้างให้เราได้ดีไปกว่าตัวเราเอง หากอจ.ท้อ คนรอบข้างอจ.จะมีแรงบันดาลใจจากอะไรกัน

ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ

เป็นบันทึกที่น่าอ่าน ทั้งคนนำเสนอ และผู้ติดตามทั้งหลาย คนเราไม่มีอะไรจะใกไว้บนแผ่นดิน ยกเว้นชื่อเสียงหรือชื่อเสีย นะครับ มาให้กำลังใจอาจารย์ สู้ๆๆ

!!!!!!อีกประการหนึ่ง ไม่ใช่เพราะผมเป็นคนดีด้วย เพราะเท่าที่ผมเคยรู้จัก "คนดี" มา คนดีคือคนระดับวาดฝันและวางนโยบาย ผมยังไม่เคยเห็นการยกย่องคนที่ทำงานแก้ปัญหาอยู่หน้างานว่าเป็นคนดีเลย !!!!

         พึ่งจะมีโอกาสได้อ่านครับ ถึงจะยาวแต่มันไม่ทำให้ผมคลาดสายตาได้แม้ตัวอักษรเดียว อ่านแล้วขนลุกครับอาจารย์

                                         คนหน้างาน

    ขออนุญาตร่วมแสดงความคิดเห็นนะครับ  ผมเข้ามาเจอบทความนี้โดยบังเอิญ เพราะต้องการหาข่าวดี แต่มาเจอบทความสะเทือนใจ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับการสูญเสียสิ่งที่เป็นดังดวงใจ ผมรู้สึกสะท้อนใจกับข้อความของอาจารย์ "ผมถามตัวเองว่าผมอยู่ไหนในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา" เป็นคำถามที่หนัก และแทงใจผมมาก ผมย้อนถามตัวผมเองเหมือนกันว่า แล้วผมหล่ะผมกำลังทำอะไรอยู่กับช่วงเวลาปีสองปีที่ผ่านมา ทำไมผมไม่ได้อยู่บ้าน ทำไมไม่ได้ดูแลพ่อแม่ที่แก่เฒ่าลงไปทุกวัน ไม่ได้ดูแลคนที่เรารักที่ตั้งตารอคอยผมกลับไป เราไม่รู้ว่าเราจะยังมีเวลาได้อยู่เจอหน้ากันอีกนานแค่ไหน แล้ววันที่ผมได้กลับบ้านจะยังมีรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นของพวกเค้าให้เห็นอีกไหม...หรือผมจะมีโอกาสได้กลับบ้านจริงๆไหม..ยังไม่รู้เลย      

     หากพวกคุณมีเวลาและโอกาสได้อยู่บ้าน นั่นเป็นเวลาที่มีคุณค่า เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุด ที่คนใกล้บ้านอาจจะไม่เห็นคุณค่า จงรักษาความสุขและรอยยิ้ม รักษาช่วงเวลานั้นเอาไว้...

     ผมคิดถึงบ้าน....คิดถึงทุกคนที่นั่น..วันนี้ผมอยู่ไกลจากพวกเขาเหลือเกิน... ผมอยากกลับบ้าน....

*-* สวัสดีค่ะ อ.ธวัชชัย

ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ เพราะไม่สามารถกล่าวคำใดได้มากไปกว่านี้

สวัสดีครับอาจารย์

       รู้สึกงานจะหนักมากนะครับ ความรับผิดชอบก็สูงมาก ก็ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ.

ปลายทางเหมือนกัน แต่ระหว่างทางไม่เหมือนกัน อยู่ที่ใครเดินไปบนทางแบบไหน ผมขอแสดงความเสียใจด้วยครับ กับการสูญเสียครั้งนี้ หวังว่า ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

สงสัยอย่างครับ สสส. เคยเข้ามาใช้งานเวปบ้างหรือเปล่า

สวัสดีค่ะ อาจารย์

- ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ

- เป็นกำลังใจให้อาจารย์สู้ต่อไป

- และเป็นกำลังใจให้ทีมงานในการทำงานที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นค่ะ

ลูกศิษย์อาจารย์

คนดีคือคนระดับวาดฝันและวางนโยบาย ผมยังไม่เคยเห็นการยกย่องคนที่ทำงานแก้ปัญหาอยู่หน้างานว่าเป็นคนดีเลย

ที่เคยเห็นก็คือคนทำงานอยู่หน้างานยกย่องกันเองพอเป็นกำลังใจให้กันและกันในความทุกข์ยากที่ต้องเจอตามประสาของผู้น้อยที่ไม่ได้ "ดี" และ "เก่ง" อย่างที่เขาชื่นชมกันในเมืองหลวง

ขอเป็นกำลังใจให้อาจารย์ สู้ สู้ นะค่ะ คำพูดของอาจารย์บางประโยคย่อมสะท้อนให้เห็นความจริงในสังคมได้ดีจริง ๆ

โอ้พระเจ้า ยอร์ช เป็น บันทึก ที่อ่านแล้ว ได้อารมณ์ หึกเหิมมากๆ

เป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ อ่านแล้วสะเทือนใจยังงัยไม่รู้อ่ะ

บางครั้งกรุงเทพก็ไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้นน่ะค่ะ

แต่มันคงเป็นเพราะงานด้วยมั้ง เลยทำให้รู้สึกแบบนี้

รู้สึกเสียใจด้วยน่ะค่ะ T T

  • อ่านบันทึกแล้วรู้สึกว่าอาจารย์กำลังท้อนะคะ
  • ขอเป็นกำลังใจค่ะ

เหนื่อนัก..ก็พักเสียหน่อย..นะคะ สู้สู้สู้

อาจารย์เหนื่อยทั้งกายและใจ ทุกคนทราบดี

ดังนั้น ขอเป็นกำลังใจเล็กๆ ที่ช่วยให้อาจารย์ชนะทุกอย่าง

พักผ่อนบ้างนะค่ะ ประเทศไทยมิใช่ของอาจารย์คนเดียว

ปล่อยให้คนอื่นเขารับผิดชอบกันบ้าง ดูแลสุขภาพนะค่ะ

อย่างน้อยก็มีคนทางบ้าน ลูกน้อง และลูกศิษย์เฝ้าห่วงใยเสมอ

สวัสดีค่ะ อ่านแล้วรู้สึกว่าอยากให้กำลังใจมากๆค่ะ

คนดี มีความสามารถ ย่อมมีอุปสรรค ลองถอยดูสักตั้ง...แล้วสู้ใหม่ อย่าทิ้งพวกเรานะค

 

...แม้โรคจะร้ายแรงอย่างไร หนูก็จะสู้

ขอเป็นกำลังใจให้อีกคนครับ

และขอชื่นชมผลงานอาจารย์ที่ทำเพื่อคนไทย

ประเทศไทยไม่ใช่ของเราคนเดียว...ถูกทึ่สุดค่ะ เหนือฟ้า ยังมีดาวดวงอื่นๆอยู่เยอะแยะค่ะ ห่วงตัวเองบ้าง รักษาสุขภาพด้วยนะคะอาจารย์

  • ขอเป็นกำลังใจนะครับอาจารย์
  • มีกำลังใจครับ ดูแลจิตใจและให้เวลากับการได้อยู่กับตนเองบ้าง
  • ขอร่วมเป็นคลื่นความคิด วิธีคิดที่ดี ความมุ่งมั่น ทุ่มเท อุทิศตน จริงจัง เพื่อเป็นกำลังใจกันนะครับ
  • บอกตัวเองว่าโชคดี
  • ที่ได้รู้จักคนดีๆในโลกนี้เพิ่มอีกหนึ่งคนค่ะ
  • ขอเป็นกำลังใจให้อาจารย์ก้าวผ่านพ้นอุปสรรคของชีวิตให้ได้นะคะ.

 

ขอป็นหนึ่งในหลายกำลังใจให้อาจารย์และภรรยานะค่ะ

หากบ้างครั้งรู้สึกถึงการถอยหลัง ขอให้ระลึกว่ายังมีมิตรภาพจากG2K

เป็นแรงผลักให้ก้าวไปข้างหน้า เหนื่อยก็หยุดพักบ้างนะค่ะ

ฟังแล้วเศร้าๆอย่างไรชอบกล แต่ไม่เป็นไรพักสักครู่แล้วสู้ต่อไป ฟังเพลงเสียหน่อยนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท