บันทึกจากใจฝากไว้ในองค์กร.....เมื่อผู้บริหารต้องการระบบที่ดีมีนวัตกรรม แต่ทำไมผมนำเรื่องสุนทรียสนทนาไปยั่วท่าน


เพราะสิ่งเหล่านี้มันเป็นคนละเรื่องเดียวกัน

องค์กรของผมอยู่ในธุรกิจเกษตรซึ่งมีผู้บริหารเป็นคนไทยวัยกลางคนถึง 3 ท่าน บ่อยครั้งท่านมักพูดถึงระบบต่างๆ เช่น KPI และฝันอยากให้ Innovative Organization เกิดขึ้นในองค์กรของเรา 

ที่ผ่านมาผมฟังแบบเงียบๆอยู่พักใหญ่ แต่เมื่อท่านพูดถึงเรื่องนี้บ่อยขึ้น ผมจึงชวนท่านมาสนใจเรื่องสุนทรียสนทนา แต่ผมก็ยังไม่ได้พูดว่าสุนทรียสนทนาจะส่งผลกระทบในเชิงบวกต่อองค์กรและนำไปสู่การมีนวัตกรรมในองค์กรอย่างไร ?

เพราะอยากเห็นองค์กรนี้เป็น Happy Workplace ผมจึงอยากตั้งคำถามชวนให้คิดร่วมกันในองค์กรว่า..

อะไรคือต้นทางที่จะก่อให้เกิดระบบที่ดี และการมีนวัตกรรมในองค์กร

สภาพแวดล้อมในองค์กรแบบใดที่เอื้อต่อการเกิดนวัตกรรม

นวัตกรรมจะเกิดขึ้นได้ง่ายหรือหากเรายังไม่รู้จักคำว่าการเคารพความเป็นปัจเจกชน (Respect individual)

อคติในองค์กรมีหรือไม่ และมีมากน้อยเพียงใด

เราเคยรู้หรือไม่ว่าใจที่เบาบางจากอคติแปรผกผันกับโอกาสที่จะเกิดขึ้นของนวัตกรรมในองค์กร

หากสิ่งที่ว่ามาเป็นจริง ตัวเราเองพร้อมที่จะเปิดใจยอมรับได้หรือไม่ว่าเราเองก็มีอคติอยู่ไม่น้อยทีเดียว และก่อนที่เราจะถามหาความเป็นกลางจากผู้อื่น อยากให้เราทบทวนตัวเราเองก่อนว่า

เรากล้าไหมที่จะหันมาปรับเปลี่ยนที่ตัวเราเองก่อน

เรากล้าพอไหมที่จะห้อยแขวนคำพิพากษาผู้อื่นแล้วหันกลับมาพิพากษาตัวเองดูบ้าง

แล้วลองสังเกตผลสัมฤทธิ์เล็กๆในเชิงบวกที่จะเกิดขึ้นรอบๆตัวในระยะเวลาอันใกล้

ที่สำคัญอย่าลืมยิ้มให้กันและหัดพูดคำว่าไม่เป็นไรบ้างนะครับ

โดยปกติแล้ว เมื่อใดที่มีเรื่องมากระทบให้คิด อาจมีบางสิ่งที่เรียกว่าความคิดปรุงแต่งผุดตามขึ้นมาในใจ อาจมีทั้งปรุงให้อร่อยและไม่อร่อย ปรุงอร่อยก็ปรุงสร้างสรรค์ แต่ถ้าเกิดปรุงไม่อร่อย บรรยากาศการทำงานที่ดีอาจเสียไป 

ผมฟังแบบเงียบๆไป ก็เพราะกำลังทบทวนตัวเองว่า ผมกำลังนั่งบัลลังก์พิพากษาผู้อื่นด้วยใจที่ไม่เป็นกลางหรือไม่ วิธีที่ผมใช้ ก็คือผมไม่พยายามจะทำให้ใจผมเป็นกลางหรอกครับ แต่ผมจะพยายามตามรู้การคิดนั้นให้ทัน J

สุดท้ายอยากฝากไว้ว่า ในดีมีเสีย ในเสียก็ย่อมมีดีเช่นกัน หากเราพยายามดึงเอาข้อดีของผู้อื่นมาปรับใช้เพื่อพัฒนาตนและองค์กรด้วยการผสานพลังการเรียนรู้อันบริสุทธิ์ของกันและกัน และใจถึงที่จะสลัดเงามืดในใจเราออกไปบ้าง แล้วหันมายอมรับและเคารพความแตกต่างด้วยการเปิดใจของเราให้กว้างขึ้น และฟังให้ถึงเจตนาของผู้พูด เชื่อแน่ว่าทั้งนวัตกรรมและระบบที่ดีในองค์กรเกิดขึ้นได้แน่นอนครับพี่น้อง

ด้วยรักและปรารถนาดี

หมายเลขบันทึก: 283786เขียนเมื่อ 6 สิงหาคม 2009 13:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 02:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)
  • อ่านแล้วซาบซึ้งใจจริง ๆ ค่ะ อยากให้ผู้บริหารทุกท่านอ่านบันทึกนี้ดู
  • สิ่งที่ศิลามักจะเจอเสมอคือเวลาประชุมร่วมกับผู้บริหารระดับสูงกว่าเกี่ยวกับเรื่องวัฒนธรรมองค์กร ซึ่งผลการสำรวจพบว่าองค์กรขาด Role Model ที่ดี และ ไม่มี Sense of Ownership เท่าที่ควร
  • เราเสนอให้ท่านทั้งหลายย้อนมามองตัวเอง แทนที่จะไปมองพนักงานที่สะท้อนผลนี้ออกมา แต่ดูเหมือนเขาก็ยังไม่เข้าใจ มองว่าพนักงานส่วนใหญ่มีอคติอันเนื่องมาจากโดยเฉลี่ยแล้วผู้บริหารกับพนักงานมีวัยวุฒิไม่ต่างกันมาก ประมาณว่าพออายุไม่ต่างกันก็เลยขาดความนับถือ
  • ตามความเห็นของศิลานะคะ ความน่าเคารพอยู่ที่จิตใจของคนที่รู้จักเรียนรู้ตัวเอง มองกลับมาที่ตนเอง
  • ปัญหาใด ๆ หากเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงตนเอง ต่างคนต่่างสำรวจภายใน ก็จะเกิดวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็ง
  • เป็นบันทึกที่งดงามมากค่ะ  ขอบพระคุณมากเลยนะคะ ที่ทำให้ศิลารู้สึกว่ามีเพื่อนร่วมทางที่มองเห็นเช่นเดียวกันค่ะ

เห็นด้วนค่ะ ในดีมีเสีย ในเสียก็ย่อมมีดีเช่นกัน ดังนั้นมองให้รอบๆด้าน แล้วจะเห็นความงดงาม

ขอบพระคุณคุณ Sila Phu-ChayaP มากครับที่มาช่วยเติมเต็ม

ปัญหาใด ๆ หากเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงตนเอง ต่างคนต่่างสำรวจภายใน ก็จะเกิดวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็ง

 

สวัสดีครับคุณ kumfun P

ครับ...เราต้องมองให้รอบด้านด้วยสติและใจที่ไม่มีอคติจึงจะเห็นความงดงามของคนรอบข้างครับ
ขอบคุณครับ

พี่เห็นด้วยมากๆ ค่ะ KPI หรือISO อะไร คงไม่สำคัญเท่ากับ ใจ และทัศนคติ ที่มีต่อองค์กรค่ะ

เป้าหมายรวม เป้าหมายปัจเจกชน พี่ว่ายังไงน่าจะสอดคล้องกันบ้างนะ และที่สำคัญคือหากองค์กรได้ ใจ พนักงานไปแล้ว อะไรๆก็สบม ยห เลย

 

 

 

 

ที่องค์กรของเราไม่ขยับเพราะพนักวานทั้งองค์กรไม่ยอมปรับและรับกับสิ่งที่เคยทำมา กลัวในสิ่งที่จะเข้ามาใหม่ ความกลัวเลยปิดกั้นทุกอย่างที่เขามองว่ามันจะทำให้เขาอืดอัดหรือไม่คุ้นเคย กลัวการเปลี่ยนแปลง และการยึดกับสิ่งท่ี่เขาจะได้มา

นุ...ฟันธง 555

ใช่เลย.....โรคกลัวการเปลี่ยนแปลง !!!

ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท