เล่นเกม…อย่าให้เกมเล่น


หมั่นใส่กิจกรรมบวกและมีธรรม(ชาติ)ไปเสริมความสามารถนั้น ๆ ใส่วิธีคิด ทักษะในการคิดวิเคราะห์ ช่างเลือกอย่างมีเหตุผล ไม่ละเมิด เบียดเบียนตนเองและคนรอบข้าง ทุกกิจกรรมง่ายและสำเร็จง่ายตามช่วงวัย

วันนี้อ่านข่าวเรื่องน้องนักเรียนประถมศึกษาปีที่6 ตกจากอาคารเรียนและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในเนื้อข่าวลงความเห็นว่าโดดตึกฆ่าตัวตายจากสาเหตุโดนพ่อ(ที่เป็นตำรวจจราจร) ตำหนิ ดุด่าเรื่องเล่นเกมเป็นประจำ

       ที่จริงเคยเขียนเรื่องเด็กติดเกมไปก่อนหน้านี้แล้ว ที่

 http://gotoknow.org/blog/prapapunch/198638

แต่มาวันนี้ขอเขียนอีกครั้งแล้วกันนะคะ เพื่อน ๆ ลองเข้ามา ลปรร กัน

ดิฉันขอเปิดประเด็นเล่นเกมได้แต่ต้องมีความสามารถป้องกันตัวให้ดีที่จะไม่ให้เกมมาเล่นเรา หมายความว่าเกมที่มีอยู่ในตลาดทั้งเกมออนไลน์และเกมแผ่น หรือรวมถึงการพนัน ยาและสารเสพติด สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ถ้าเราไม่เริ่มไปสัมผัสมันก็ไม่มีทางที่มันจะบินมาเข้ากลไกในร่างกายเราได้  เคยมีโอกาสคุยกับคนติดเกมที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว ถามไปว่าเขาคิดว่าตัวเองติดเกมไหม เขาตอบว่า ไม่นะครับอยากเลิกก็เลิก  แต่จริง ๆ เขายังเล่นอยู่เล่นทั้งคืน พอเช้ามาก็มาทำงานสาย วันหยุดก็เล่นตลอดวัน พอถามก็บอกว่าไม่ติด ช่างเหมือนกับคำตอบของคนติดยาบ้าที่ดิฉันเคยถามเขาก็ตอบว่า ไม่ติดหรอกครับ อยากเลิกก็เลิก เลยถามว่าใช้มากี่ปีแล้ว เขาตอบว่า 4-5 ปีแล้ว แต่ก็ไม่ติดนะครับ (แน๊ะ! ยังจะยืนยัน!!)  เมื่อคิดเล่นเกมก็ต้องเล่นเกมให้เป็นเพราะถ้าพลาดเราจะถูกเกมเล่นจนอาจเสียชีวิตเช่นน้องคนนี้ หรืออาจหมดอนาคตเช่นคดีน้องที่ต้องโทษฆ่าคนขับรถแทกซี่แถวถนนจรัลสนิทวงศ์อันมีเหตุหนุนเนื่องมาจากการเล่นเกม GTA เมื่อปีที่แล้ว ฯลฯ

     สมองเด็กติดเกมนั้นมีพัฒนาการจากสมองเริ่มถูกพาไปรู้จักการเล่นเกม เมื่อเพิ่มความถี่ในการเล่นก็จะพัฒนาเป็นเด็กที่ชอบใช้เวลาว่างในการเล่นเกม เพิ่มความสม่ำเสมอจะพัฒนาเป็นเด็กติดเกมไปในที่สุด ณ ตอนนี้ตอบไม่ได้ว่าเล่นไปกี่วันกี่ชั่วโมงถึงจะติด ไม่ง่ายที่จะฟันธงเหมือนบุหรี่ หรือยาบ้า แต่สังเกตได้ถ้าไม่ได้เล่นเด็กเริ่มมีอาการหงุดหงิด และมีความพยายามแสวงหา นั่นเริ่มมีการอาการของการติดแล้ว

ทางออกที่ดีตามทฤษีสมองคือถ้ามีถนนใหม่(ที่เป็นด้านลบ)ถูกสร้างในสมองก็ต้องรีบสร้างถนนใหม่ที่ดีคู่ขนานแทรกไปด้วยความถี่และสม่ำเสมอ หมั่นใช้ถนนนี้ขับบ่อย ๆ จนคุ้นเคยเป็นอัตโนมัติ ถนนเก่าจะถูกริดรอนไปเอง แต่ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าสมองมนุษย์เริ่มทำงานพัฒนาจากส่วนสัญชาตญาณ(ตั้งแต่เกิด)ไปสู่ส่วนจิตปัญญา(สมบูรณ์เมื่ออายุ 20 ปีโดยประมาณ) แปลว่าจริตในวัยเด็กและเยาวชนเป็นจริตของสัญชาตญาณเป็นทุนตั้งต้น แต่เราแปลงทุนให้เป็นกำไรด้วยการเปลี่ยนเป็นสัญชาตญาณด้านบวก เช่นคิดบวกโดยอัตโนมัติ มีสุขอย่างเพียงพอเป็นอัตโนมัติ สุขง่าย ยิ้มง่าย ให้อภัยง่าย อ่อนโยนง่าย แต่อ่อนแอยาก จะสร้างถนนนี้ได้ด้วยการหมั่นใส่กิจกรรมบวกและมีธรรม(ชาติ)ไปเสริมความสามารถนั้น ๆ ใส่วิธีคิด ทักษะในการคิดวิเคราะห์ ช่างเลือกอย่างมีเหตุผล ไม่ละเมิด เบียดเบียนตนเองและคนรอบข้าง ทุกกิจกรรมง่ายและสำเร็จง่ายตามช่วงวัย

คาถาสำคัญสมองชอบความสำเร็จที่เข้าถึงง่าย ยิ่งท้าทายแต่ทำได้สำเร็จเร็วกว่าที่คาดยิ่งมีความสุขและอาจถึงขั้นลำพองกันไปเลย   กลับมาเรื่องเล่นเกม ทำไมเด็กถึงติดเกมง่าย เพราะเกมถูกออกแบบมาสอดคล้องกับชีววิทยาสมองมนุษย์ซึ่งชอบสิ่งท้าทาย อิสระทางความคิด และสุข สนุก เกมแต่ละเกมจึงออกแบบให้มีสีสัน ท้าทาย บีบคั้นให้ผ่านด่านแต่ละด่าน เมื่อผ่านได้จะสะใจมาก เวลาเล่นเกมประเภทต่อสู้จะรู้เลยว่าเราจะลุ้นมาก แต่ถ้าผ่านไม่ได้จะไม่ค่อยท้อแต่จะพยายามแล้วพยายามอีกคิดเปลี่ยนสปีดความเร็วในการขยับมือ นิ้วในการกด ซื้ออาวุธแต่งองค์ทรงเครื่องครบชุดประลองใหม่ (แอบคิดว่านี่ถ้าเปลี่ยนเป็นฝึกฝนในการเรียนรู้ทางบวก ฝึกแล้วฝึกอีก บ้านเราคงมีอัจฉริยะเต็มบ้านเต็มเมือง) ความพยายามเอาชนะกดกันจนบางครั้งคีย์บอร์ดแทบพังไปเลย บางเกมเล่นกันข้ามวันเลย (แอบคิดว่าใครหนอกล่าวว่าเด็กมีสมาธิสั้น !!!)

     เพราะฉะนั้นกรณีน้องโดดตึกคนนี้ไม่ว่าผลจากการสืบสวนจะออกมาอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ความเป็นจริงคือเด็กเสียชีวิตไป สังคมต้องนำมาเป็นกรณีตัวอย่างในประเด็นการดูแลเด็กในภาวะการณ์ของเศรษฐกิจสังคมปัจจุบัน ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมา ร่วมเรียนรู้วิทยาการใหม่ ๆ ในการดูแลเด็ก ใครมีอะไรทั้งเก่าใหม่เอามาแลกกัน และร่วมพัฒนาไปด้วยกันจะดีกว่าปล่อยให้หน่วยใดหน่วยหนึ่งดูแลไปตามลำพัง ประเด็นสำคัญคือโลกของเด็ก ๆ เล็กค่ะไม่เกินความสามารถของคุณพ่อคุณแม่ที่จะมองเห็น เขามีเพียงคุณพ่อคุณแม่ เพื่อน ครู โรงเรียน แค่นี้...คนที่อยู่ใกล้ชิดต้องมีเวลาในการปั้น สรร ตบแต่งสมองของเขาให้เติบโตเต็มตามศักยภาพ เช่น คุณพ่อคุณแม่ต้องค่อย ๆ โตไปกับลูกด้วยหมั่นช่วยลูกแก้ปัญหาในยามวิกฤตชีวิต เพราะเขาเพิ่งโตมาแค่2 ปี 6 ปี 8 ปี 12 ปี บ้าง เขาจะมีประสบการณ์สักเท่าไหร่เชียวที่จริงเขาเป็นมนุษย์หน้าใหม่ในสังคม ในครอบครัว คุณพ่อคุณแม่เสียอีกขนาดโตมาก มีประสบการณ์มากเป็นคนวัย25 วัย 30 วัย 40 บ้างยังใช้อารมณ์นำเหตุผลในการแก้ปัญหาเลย (บ่อย ๆ ) คุณพ่อคุณแม่ควรต้องมีอารมณ์ที่มั่นคงพอ หนักแน่นพอ ระงับ ยับยั้งอารมณ์ของตัวเองให้ดีพอ อย่างน้อยก็ต้องเป็นผู้นำลูกให้ได้ เมื่อเขาต้องอดกลั้น ยับยั้งอารมณ์เขาก็จะมีต้นแบบในการปฏิบัติ หลายครั้งที่เคยสัมภาษณ์คุณพ่อคุณแม่ที่ตีลูก ถามว่าความผิดเขาสมควรถูกตีจริงหรือตีเพราะโมโหจนยั้งไม่อยู่กันแน่ 9 คนใน10 ตอบว่าโมโหจนฟาดมือไปโดยไม่รู้ตัวเป็นอัตโนมัติ ฟาดไป ปากก็ด่าไป และหยุดเมื่อตัวเองระบายไปจนพอใจ หรืออาจตีไปหนึ่งทีแต่เป็นการฟาดแบบ อืมห์...ผั๊วะ! เต็ม ๆ ...

ทิ้งท้ายด้วยการฝันให้เด็กทุกคนติดครู ติดบทเรียน ติดกิจกรรมกับเพื่อนในโรงเรียน เลิกเรียนอยากกลับบ้านติดคุณพ่อติดคุณแม่ ติดความสุขในบ้าน เข้านอนแต่หัวค่ำเพื่อจะรีบตื่นมาโรงเรียนแต่เช้า ในทางกลับกันฝันอยากเห็นครูติดสอน ชอบสอน ชอบอาชีพครู ติดนักเรียน ติดพัฒนาโรงเรียน ติดจิตอาสา คุณพ่อคุณแม่ติดลูก ติดกันและกันเอง ติดอยากทำงานอย่างเต็มที่เพื่อเป็นฐานเสริมฐานะในการเอื้อทำกิจกรรมส่งเสริมจิตปัญญากับลูก ติดกิจกรรมจิตอาสาต่อสังคม ติดมีน้ำใจต่อเพื่อนบ้านและชุมชน ก็เป็นเพียงคนช่างฝันน่ะค่ะ

หมายเลขบันทึก: 262678เขียนเมื่อ 22 พฤษภาคม 2009 15:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 มิถุนายน 2012 16:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
  • มายืนยันกับพี่อาจารย์เหม่งว่า
  • ครอบครัวที่อบอุ่นจะช่วยป้องกันได้
  • อยากเห็นเด็กๆๆมีจิตอาสา
  • มีกิจกรรมช่วยเหลือสังคม
  • เล่นกีฬา
  • ดีใจที่พี่อาจารย์เหม่งกลับมา ฮ่าๆๆ
  • เอาภาพการอบรมวิจัยในชั้นเรียนของคุณครูมาฝากครับ
  • ติดคุณครู...
  • แถมท้องฟ้ายามเย็นของแก่งกระจาน

คิดถึงอาจารย์ขจิตเช้นกัน (มาก ๆ) เมื่อไหร่หนอจะเจอกัน คนติดblog...

ลูกชายที่บ้านก็เล่นเกม วันนี้ก็เล่นอยู่ แต่วันธรรมดาโรงเรียนเปิดไม่เล่น แม่สอนให้รู้ว่าเล่นเกมได้ แต่ต้องไม่ติดเกม

อยากให้คุณครูที่โรงเรียนผมได้ทำworkshop อย่างนี้บ้างจัง ยินดีด้วยครับกับการร่วมพัฒนาทางการศึกาา เป็นกำลังใจให้ทุกๆคน

อยากให้คุณครูที่โรงเรียนผมได้ทำworkshop อย่างนี้บ้างจัง ยินดีด้วยครับกับการร่วมพัฒนาทางการศึกษา เป็นกำลังใจให้ทุกๆคน ครับ รองฯสันติ

ขอแจ้งข้อมูลการค้นพบ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์

"อาการตามืดบอดชั่วขณะ เกิดจากประสาทตาและสมองถูกกระตุ้นจากการใช้คอมพิวเตอร์ต่อเนื่องและสะสมมายาวนาน จนอาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อสมองได้ กลไกการป้องกันตัวเองของร่างกายจึงสั่งการให้สมองหยุดการรับสัญญานภาพจากตาชั่วคราว ( Shut down )เป็นมาตรการเตือนจากร่างกาย หากยังฝืนทำอยู่ อาการตามืดบอดก็จะเกิดถี่ขึ้นเรื่อยๆ

ในเด็กเล็กการใช้คอมพิวเตอร์มากๆ จะกระตุ้นประสาทตาและสมองจนทำอันตรายแก่สมองถึงชักได้ ส่วนในผู้ใหญ่ กลไกจะแตกต่างจากในเด็กเล็ก สมองมีความทนต่อการกระตุ้นได้มากกว่าในเด็กเล็ก และร่างกายยอมเสียสละเซลล์และเส้นใยประสาทตาบางส่วน เพื่อลดการส่งสัญญานจากตาไปยังสมอง หากร่างกายยังดำเนินชีวิตดังเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ประสาทตาก็จะถูกทำลายไปเรื่อยๆจนบอดในที่สุด(โรคต้อหิน) เพื่อหยุดยั้งกระบวนการส่งสัญญานภาพไปยังสมอง และรักษาอวัยวะสมองที่สำคัญกว่าเอาไว้

ถ้าเป็นวัยรุ่นที่ติดเกมส์และใช้คอมพิวเตอร์เล่นเกมส์อย่างบ้าคลั่ง จะเกิดอะไรขึ้น? เซลล์และใยประสาทตายังแข็งแรงและทนทานกว่าในผู้ใหญ่ สมองจะถูกกระตุ้นอย่างหนักสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันกลไกการชักที่จะหยุดพฤติกรรมดังกล่าวก็เกิดยากกว่าในเด็กเล็ก ฉะนั้น สมองจะได้รับความเสียหายจนอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้"

www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L7825682/L7825682.html

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท