สวัสดีครับพ่อ แม่ พี่ น้อง ลุง ป้า น้า อา และ มิตรรักแฟนเพลงทุก ๆ ท่าน
รักสายลม น้อยยย ๆๆ แต่ขอให้รักนานๆ นะครับ อิอิ
ก่อนอื่นขออนุญาตชี้แจงในเรื่องที่ผมเขียนบันทึกเกี่ยวกับกิจกรรมงานสานฝันฯ เพื่อน้อง ๆ ผู้ป่วย ลงบล็อกช้าที่สุด ( และมีโทรศัพท์มาจากสมาชิกอีกหลายท่านซึ่งเป็นห่วงเป็นใยโทรฯ มาถามไถ่ถึงการคลอดของบันทึกอย่างที่ควรจะเป็น )
กล่าวได้อย่างเต็มหัวใจครับว่าผมเองตั้งใจที่จะเป็นคนท้าย ๆ ถึงท้ายที่สุดของสมาชิกที่จะเขียนบันทึกถึงกิจกรรมที่งดงามที่ได้เกิดขึ้น .. แต่นั่นผมก็คือเหตุผลส่วนตัวบางอย่างที่ "ยัง" ไม่เขียนบันทึกใดๆ ทั้งสิ้น
หนึ่งในหลายเหตุผลของผม คือ เพราะผมต้องการที่จะซึมซับ ซึมซับ ซึมซับ จากความรู้สึกของตัวผมเองและจากบันทึกของสมาชิกท่านอื่น และผมเชื่ออย่างล้นหัวใจครับว่า สมาชิกทุก ๆ ท่านในพื้นที่แห่งนี้ล้วนต่างก็ได้ซึมซับความสุขจากบันทึกต่าง ๆ ของบรรดาสมาชิกที่มีจิตอันเป็นกุศลร่วมกิจกรรมสานฝันฯ ในครั้งนี้ได้บรรยายถึงความสุขได้อย่างดีที่สุดและไม่มีที่ติเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น พี่แผ่นดิน, คุณพรหล้า, พี่แดงเจ้าของโครงการฯ, พี่ไก่, พี่แก้ว อุบล จ๋วงพานิช, พี่กุ้ง, พี่เกศ, และอีกหลายท่าน (ขออภัยที่ไม่ได้เอ่ยนามนะครับ)
อาจอธิบายให้หลายท่านได้เข้าใจในแนวความคิดและวิถีแห่งชีวิตของตัวผมเองอย่างชัดเจนที่สุด อย่างน้อย ก็ ณ เวลานี้ครับ
อย่างไรก็แล้วแต่ "ผม" ก็ขอเก็บเหตุผลอีกหลายอย่างของผมไว้กับตัวผมเองแบบนี้ดีที่สุดแล้วครับ เอาเป็นว่า ผมจะขอนำเสนอในอีกมุมมองหนึ่งของการเกิดกิจกรรมอันงดงามนี้ ในแง่งามตามแบบฉบับของตัวผมเอง ตามมุมคิดมุมชีวิตของ นายสายลม อักษรสุนทรีย์ เชิญชมได้ต่อจากบรรทัดถัดไปได้เลยครับ
....................................................................................................................................
ความสุขหน้าตาเป็นแบบเนี๊ยะ : ปิดโครงการสานฝันสร้างกำลังใจเพื่อน้องผู้ป่วยโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น
จุดเริ่มต้นของกิจกรรมที่งดงามนี้ .. ผมขอยอมรับตามตรงครับว่าผมจำไม่ได้ว่ามันเริ่มขึ้นตอนไหน มารู้สึกตัวอีกทีก็รู้ตัวเองว่าได้รับปากรับคำจากความรู้สึกที่ดีงามจากกัลยาณมิตรสองท่านคือ คุณพรหล้า และ พี่แดงแห่งโรงพยาบาลศรีนครินทร์ อาการคล้าย ๆ กับคนที่กำลังมีความรัก พอมารู้สึกตัวอีกที่ก็ไม่รู้ว่าความรักมันเกิดขึ้นตอนไหน เวลาใด 55555 ( ซะงั้น )
และด้วยความยุ่งยากในภารกิจของตัวผมเองซึ่งมีหลายอย่างที่ต้องรับผิดชอบอยู่ แต่ผมก็ไม่ลืมที่จะร่วมกันสานต่อกิจกรรมดีดีแบบนี้ไปยังบรรดาผองเพื่อนสนิทมิตรสหายอันเป็นที่รักของผมในแวดวงต่าง ๆ ว่ามีอีกงานที่อยากจะบอก และก็เป็นเหมือนเช่นทุกครั้งคือผมได้รับการตอบรับด้วยดีเสมอมา ด้วยที่ว่าพวกเรารู้ใจกันแล้ว ขอบคุณครับ( ขออนุญาตเล่าเกี่ยวกับผองเพื่อนของผมต่อในภายหลังนะครับ )
.....................................................................................................................................
ถ้าหากเปรียบเทียบกันระหว่างความสุข และ ความทุกข์ ผมว่ามันคงไม่ต่างกันในด้านของสัจจธรรม แต่มันต่างกันเพียงแค่พลังแห่งความสุขจะทำให้เราหลงลืมเวลาซึ่งเวลาก็ทำหน้าที่ของมันอย่างเที่ยงตรงหมุนวนอยู่รอบตัวเราเพียงแต่เรารู้สึกว่าเมื่อเวลามีความสุขเวลาก็หมุนเร็วตามไปด้วย และก็เช่นกันพลานุภาพแห่งความทุกข์ ก็ฉุดรั้งตัวเราให้อยู่กับมันนานเท่าที่มันจะครอบงำเราได้
แต่ถ้าเลือกได้หลาย ๆ คนบนโลกใบนี้คงจะเลือกไม่ต่างจากผมคือ "เลือกที่จะมีความสุขเพียงอย่างเดียว"
สำหรับน้องผู้ป่วยในที่แห่งนี้ ด้วยความทุกข์ที่สุมรุมเร้าจากเพียงแค่ร่างกายที่อ่อนแออยู่แล้วยังส่งผลต่อสภาพจิตใจอ่อนแอตามไปด้วย ( ผมเชื่ออย่างนั้น )
และถ้าหากว่ามีใครสักคนมามาเสริม มาแต่งเติมพลังใจให้น้อง ๆ เหล่านี้ได้แข็งแรงขึ้นร่างกายของน้อง ๆ ก็จะมีเรี่ยวมีแรงที่จะต่อสู้ต่อไปเช่นกัน ( และผมก็ยังเชื่อเช่นนั้น )
ณ วันนั้น ผมไม่ได้เห็นไม่ได้สัมผัสเพียงแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของน้อง ๆ เท่านั้น ด้วยอานิสงค์แห่งความดีงามที่ทุกดวงใจต่างร่วมกันถักทอสร้างขึ้นนี้ ยังส่งความสุข ความสนุกสนาน สร้างเสียงหัวเราะส่งไปยังผู้ปกครองที่มาเฝ้าดูแลน้อง ๆ ไปยังพี่ๆ พยาบาล ส่งไปยังพี่ ๆ ที่มาร่วมกิจกรรมและอีกหลาย ๆ คน รวมทั้งทุก ๆ คนที่ได้เข้ามาสัมผัสกับบันทึกแห่งความสุขต่าง ๆ ที่ได้เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ( ผมก็ยังเชื่ออย่างนี้ )
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ยังไง ๆ ความสุขก็หน้าตาเป็นแบบเนี๊ยะ
ในโลกเล็ก ๆ ใบนี้ ยังมีหลายสิ่งให้เรามองหาเพื่อความงดงามได้เกิดขึ้นที่หัวใจ มิใช่จะมองแค่ตัวเองเป็นหลัก ยังมีหลายอย่างให้เราได้ทำเพื่อคนรอบข้าง และหาใช่ทำเพื่อตัวเองเพียงอย่างเดียว
ทุกย่างก้าวของเราที่ก้าวเดิน ในรอยทางแห่งชีวิตผ่านพ้นไปในแต่ละวัน อย่างน้อยก็ขอให้สร้างความดี สร้างประโยชน์ แบ่งปันความสุข บรรเทาความทุกข์ให้กับเพื่อนร่วมเส้นทางของเราบ้าง ทำเท่าที่ทำได้ และจงพยายามทำให้บ่อยครั้งที่สุดเท่าที่ความสามารถของเราจะอำนวย
ผมเชื่อด้วยชีวิตของผมครับว่า ดอกไม้แห่งสังคม จะงดงาม เบ่งบานยู่ได้อย่างยั่งยืนก็ด้วยน้ำใจที่พวกเรามีให้แก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกันเท่านั้นครับ
การแบ่งปัน ยังคงงดงามเสมอ และ สัมผัสได้โดยหัวใจ ครับ
สำหรับผม ทุกย่างก้าวในรอยทางแห่งชีวิตของผม ผมเชื่ออย่างสุดใจว่า
ณ จุดหมายสุดท้ายของชีวิตที่เราหวัง แม้ไม่มีอะไรให้ไขว่คว้า
แต่มันก็คุ้มค่า .. กับความเป็นคน
สายลม ไร้ตัวตน แต่รู้ว่ามี ..
( กรุณารอสักครู่(ใหญ่) ผมจะขอเล่าเรื่องบรรดาผองเพื่อนรัก กัลยาณมิตรแห่งผมในวันนั้นให้ฟังนะครับ )