Episode 5 : อ่านมากรู้มากคือปัญญา


ไม่ค่อยมีเวลาได้อ่านหนังสือเป็นเล่มเท่าไรนัก  นอกจากตำราเรียนเท่านั้น  นอกนั้นก็จะอ่าน แต่เรื่องสั้นๆๆ  ข้อความสั้นๆๆ  จากวารสาร  หนังสือพิมพ์รายปักษ์  รายสัปดาห์  หรือจากพ็อคเก็ตบุ๊ก  ที่ชื่นชอบ 

แต่ไม่ค่อยมีเวลาได้อ่านเท่าไรนัก  จึงจะทุ่มเทกับการฟัง  ครูอ้อยชอบฟังรายการวิทยุตอนเช้า และตอนเย็นในขณะที่ขับรถไปโรงเรียนและกลับบ้าน  นอกจากแก้เหงา  ได้รับข่าวสารบ้านเมืองแล้ว  ยังได้รับอาหารสมองอีกด้วย

*****

ร่างกาย  ก็ต้องกินเพื่อได้แปลงอาหารเป็นพลังงาน  สมองก็เหมือนกัน  ต้องได้อ่าน ได้ทำงาน เพื่อ บำรุงสมองให้มีพลังอยู่เสมอ  แต่ทั้งร่างกาย และ สมอง  ขาดพลังใจ  ก็จะทำอะไรไม่ได้เช่นเดียวกัน  ดังนั้น  ทั้งใจ  สมอง และร่างกาย  ต้องดูแล ทะนุบำรุงให้เท่าเทียมกันเสมอ

*****

Best1

*****

การอ่านมาก  ก็ เท่ากับ รู้มาก  เป็น factor ซึ่งกันและกัน  และรู้อย่างเดียว ก็ไม่ใช่เสียแล้ว  ต้องรู้ จำ  และนำไปใช้ให้เกิดผลดีด้วย  จากสถิติและคำเล่าลืออันเป็นความจริงว่า  คนไทยโดยส่วนใหญ่ไม่ชอบการอ่านหนังสือ  แต่ชอบดูทีวี หรือฟังวิทยุ  ครูอ้อยก็จะเข้าไปอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย 

แต่เมื่อเข้าไปอยู่ในงานมหกรรมหนังสือที่ศูนย์สิริกิติติ์ทุกปีที่ผ่านมา  ผู้สนใจและชอบอ่านหนังสือมากมายเข้าไปในงานนี้อย่างเบียดเสียด  จับจ่ายซื้อหนังสือ อันเป็นอาหารสมองของเขากันอย่างสนุกสนาน  โดยใช้รถเข็นซื้อเลย  เพราะต้านทานน้ำหนักของหนังสือไม่ได้ 

จะสรุปอย่างไรว่า  คนไทย  ชอบอ่าน หรือ ไม่ชอบอ่าน  คนที่ทำวิจัยในเรื่องนี้  ได้เข้าไปสำรวจกลุ่มเป้าหมายที่ไหนกันหนอ  จึงสรุปว่า.....คนไทยไม่ค่อยรักการอ่านกันเลย

*****

Best5

*****

ไม่ว่า จะเป็นการฟัง หรือการอ่านอย่างไรก็ตาม  ครูอ้อยได้นำมาเล่า  มาเขียน  โดยตัดตอนมา  ให้ได้อ่านกันแล้วที่บล็อกนี้ค่ะ


Episode 5 : อ่านมากรู้มากคือปัญญา

จากการที่ได้จัดการกับตัวเองในเรื่องรักการอ่านแล้ว  ครูอ้อยยังมีโอกาสได้เป็นฟันเฟืองที่สำคัญในองค์กรที่จะทำให้ผลผลิตทางการศึกษา  ได้มีอุปนิสัยในเรื่องรักการอ่านด้วย

ผลผลิตนั้นคือ.....นักเรียนตัวน้อยๆๆที่จะต้องใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง  ในเรื่องของการอ่าน  นอกจากการอ่านจะเป็นการฝึกสมาธิให้กับนักเรียนแล้ว  ยังเป็นการฝึกให้นักเรียนได้พัฒนา และเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ 

ด้วยนักเรียนย่อมรู้ตนเองดี  ยอมรับตนเองว่า  มีความรู้มากเพียงไหน  ยิ่งอ่านมากเธอก็จะสรุปได้ว่า.....เธอควรต้องอ่านต่อไป   รักการอ่านเป็นชีวิต 

ในแต่ละวัน  นอกจากจะวิ่งเล่นตามธรรมชาติของวัยนักเรียนแล้ว  นักเรียนต้องรู้จักการเรียนรู้ด้วยตนเอง  โดยการใช้แหล่งการเรียนรู้  เช่น ห้องสมุดโรงเรียน  หรือแหล่งข้อมูลข่าวสารที่พอหาอ่านได้ในบริบทที่นักเรียนมีอยู่ตามอัตภาพ

*****

จากโครงการนี้บันทึกรัก...การอ่าน ที่ได้จุดประกายให้ตนเองมีความรัก ในการอ่าน อ่านแล้วถ่ายทอดได้อย่างมีความหมาย และเกิดประโยชน์  มิใช่ว่า  อ่านแล้วอ่านเลย  ไม่ได้มีประโยชน์อันใดเกิดขึ้นมา 

การก้าวข้ามความเหลื่อมล้ำในเรื่องของการอ่านนี้  เพียงเพื่อ  ก่ออุปนิสัยที่ดี  ให้เกิดขึ้นกับนักเรียนในเรื่องของการอ่านสม่ำเสมอ  มีการแข่งขันการอ่านมาก  และจดบันทึกได้มาก

ครูอ้อยได้แนะนำ  ก่อนการอ่าน  ดังนี้

 

1..ดูปก ภาพใน หลังปก

2..หาที่อ่านเงียบๆ  สบายๆ  ไม่ให้ใครมารบกวน  มีแสงสว่างพอเพียงด้วยนะ

3..หาระดับภาษาง่ายๆ พอเข้าใจอ่าน 

4..อ่านไป นึกภาพไป

5..เจอคำศัพท์ไม่เข้าใจ  ลองเดา  เดาไม่ได้ให้เปิดพจนานุกรม

6..อ่านให้มากที่สุดเท่าที่จะอ่านได้  อย่าไปฝืนความรู้สึก

7..ยืดเส้นยืดสายเสียบ้าง  หากอ่านมานานแล้ว 

8..พกหนังสือไปทุกหนทุกแห่ง  มีเวลาว่าง ก็หยิบขึ้นมาอ่าน

9..จัดเวลาที่แน่นอนในการอ่าน  อย่างน้อย 10 นาที

10..อย่าไปท้อแท้ เมื่ออ่าน ต่อไป ท่านจะประสบกับความสำเร็จ

11..ไปห้องสมุดบ่อยๆ  เพื่อหาหนังสือใหม่มาอ่าน

*****

แล้วจดบันทึกไว้ในบันทึกรักการอ่านทุกครั้งที่อ่าน  เมื่อเวลาผ่านไป  ก็จะรู้ตนว่า.....อ่านมากแล้ว....รู้มาก  เพียงใด

*****

Readdd

*****
จัดการกับการรักการอ่าน..ให้ได้

*****ความตอนเดิม*****
Lead to "เขียน" และ "ขุด" เรื่องเล่า ความเหลื่อมล้ำทางความรู้
Episode1:สอนสอน สอนคือ งานประจำ
Episode2: งานอื่นที่ทำ ก็มี มิใช่น้อย
Episode3 : เรียนคอมพ์ง่ายๆกับครูอ้อย
Episode4 : เบื่อน้อยๆกับครูอ้อยประชุม

หมายเลขบันทึก: 258132เขียนเมื่อ 29 เมษายน 2009 12:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สวัสดี ครับ ครูอ้อย

ผมเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ของการอ่านมาก รู้มากด้วยคนครับ

ขอบพระคุณ ครับ

สวัสดีค่ะ แสงแห่งความดี

  • ขอบคุณมากค่ะ  ที่ให้เกียรติมาเป็นส่วนหนึ่งของการอ่านมากรู้มาก

สวัสดีค่ะ มาดีใจที่ได้ถูกเสนอชื่อคะ

ขอให้ขยันบันทึกต่อนะคะ

เจริญพร โยมครูอ้อย

คนทำงานส่วนใหญ่แล้วมักจะไม่ค่อยมีเวลาได้อ่านเพราะมีงานภาระ

มากมาย อาตมาก็เช่นกันมีเวลาอ่าน แต่โยมมาปรึกษานั่งคุยกัน

คนละนานๆจึงต้องใช้วิธีปิดประตูอยู่เงียบๆอ่านเรื่องโปรด

เจริญพร

สวัสดีค่ะ น้องแดง แดง

  • ขอบคุณที่เชียร์ ครูอ้อย
  • รางวัลสุดคะนึง ในปัจจุบัน แตกต่างจาก สุดคะนึงในสมัยก่อนค่ะ
  • ครูอ้อย  ทำสถิติ  ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อไว้ 9 ท่านดังนี้
  • 1.อ.Wasawat   ได้ 14 เสียง
    2.พอลล่า         ได้  1  เสียง
    3.คนไร้กรอบ     ได้  1  เสียง
    4.ครูอ้อย          ได้  1  เสียง
    5.สายธาร         ได้  1  เสียง
    6.Direct           ได้  3  เสียง
    7.อัยการชาวเกาะ  ได้  1  เสียง
    8.คนไม่มีราก     ได้  2  เสียง
    9.ครูคิม            ได้  1  เสียง

    แต่ละท่าน เป็นนักเขียนชั้นยอดเยี่ยม  เชื่อถือและให้ความเคารพกรรมการตัดสินค่ะ

    กราบนมัสการพระคุณเจ้า  พระปลัด

    • มีเวลาว่างเล็กน้อย  ต้องจับหนังสืออ่านตลอดเวลาเจ้าค่ะ  แล้วบันทึกว่าอ่านแล้ว
    • ครูอ้อย เคยพบว่า อ่านซ้ำ ตั้งหลายครั้งเจ้าค่ะ
    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท