หลายวันก่อนสี่ได้เขียนเรื่อง จริงหรือว่าวันนี้ เกิดความเหลื่อมล้ำทางความรู้ และได้รับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับสมาชิกทุกท่าน ได้เห็นมุมมอง ได้เปิดความคิด
และที่สำคัญยิ่งกว่านั้นความคิดเห็นของทุกๆ ท่านนั้น เมื่อนำมารวมกันแล้ว เชื่อไหมค่ะว่านั่นคือความหมายของความเหลื่อมล้ำทางความรู้ ไม่ต้องไปหาคำแปลจากที่ไหนเลย
โดยทุกท่านสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ
เพราะฉะนั้นหากท่านกำลังมีเรื่องสงสัย ข้องใจใด ไม่ต้องไปหาที่ไหนเลยค่ะ เพราะที่นี่ GotoKnow.org แห่งนี้ มีคำตอบแห่งคำถามรออยู่แล้ว
เมื่อได้ความหมาย ได้ปัจจัยของความเหลื่อมล้ำทางความรู้จากบันทึกก่อนหน้านี้แล้ว
เจ้าหนูจำไมก็เริ่มสมองว่าง เริ่มอยากรู้มากขึ้นแล้วล่ะค่ะ
ว่าเจ้าความเหลื่อมล้ำทางความรู้ digital divide หรือ knowledge divde หรือ ....divide ทั้งหลายนี้ ซึ่งน่าจะถือว่าเป็นปัญหาของสังคมนั้น สองมือเล็กๆ ของเราสามารถช่วยลดช่องว่างเหล่านี้ลงได้หรือไม่ ???
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า สี่ไม่ได้ยึดคำว่า digital divide ซึ่งหมายถึงความเหลื่อมล้ำทางความรู้ที่เกิดจากเทคโนโลยีนะค่ะ
แต่สี่หมายถึงความเหลื่อมล้ำทางความรู้จากทุกๆ ปัจจัยเลยค่ะ
ปัจจุบันคนตัวไม่เล็กนักอย่างสี่ ได้ทำงานเกี่ยวกับการกับการเผยแพร่ข้อมููลข่าวสารด้านสุขภาพที่Healthy.in.th กำลังพยายามจะเขียนหนังสือเกี่ยวกับบล็อกและการจัดการความรู้ เป็นคุณครูสอนพิเศษ เคยเปิดร้านเช่าหนังสือ พร้อมกับเลี้ยงลูกอีก 2 ตัว
ลืมอีกอย่างค่ะ คือเป็นนักเรียนใน GotoKnow.org มีหน้าที่เรียนรู้จากอาจารย์ทุกๆ ท่านใน GotoKnow.org และต้องส่งการบ้านเป็นบันทึกที่ต้องออกอย่างสม่ำเสมอ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวถูกลืม
นำความรู้ งานวิจัยใหม่ๆ ด้านสุขภาพจากทั่วโลกที่ได้รับการยอมรับแล้วมาเผยแพร่ต่อให้กับประชาชนในสังคมไทยได้รับรู้ เพราะว่าความเหลื่อมล้ำทางความรู้ส่วนหนึ่งมาจากภาษา
ความรู้และวิทยาการสมัยใหม่นั้น มักจะต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งแม้แต่งานวิจัยของไทยเองก็เช่นกัน
เพราะฉะนั้นสองมือ และหนึ่งสมองจึงมีส่วนช่วยลดช่องว่างส่วนนี้ลง
ตรงตัวเลยค่ะ สองงานนี้แม้ว่าจะทำด้วยจุดประสงค์ต่างกัน งานแรกทำภายใต้ว่าเป็นงานเพื่อสังคม และอีกงานเพื่อความอยู่รอดและความชอบ
แต่ทั้งสองอย่างก็ให้ผลลัพธ์เดียวกัน นั่นคือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เยาวชนไทย คนไทยหันมาอ่านหนังสือกันมากขึ้น ช่วยพัฒนาทักษะการอ่านของแต่ละคนให้เพิ่มขึ้น นิดหน่อยก็ยังดี
เพราะฉะนั้นสองมือนี้ ก็ช่วยลดช่องว่างของความเหลื่อมล้ำทางความรู้ลงอีกนิดแล้วค่ะ
ตอนแรกคิดได้เพียงแค่นี้ค่ะ แต่คิดว่าแค่นี้ก็หรูแล้ว สำหรับคนตัวเล็กๆ ที่ไม่ได้มีความรู้ ความสามารถมากมายนัก
แต่อาจารย์จันทวรรณบอกว่ารู้ไหมว่าการที่เขียนบันทึกใน GotoKnow.org นั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของการช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางความรู้เหล่านี้ลงได้เช่นกันค่ะ
เพราะการได้ถ่ายทอดความรู้ออกไป ความรู้ที่แม้แต่เจ้าของเองอาจจะไม่รู้ว่ามันมีอยู่ เพราะเราเคยชินกับสิ่งนั้น จนเห็นเป็นเรื่องปกติ
แต่สำหรับบางคน สิ่งนั้นอาจจะช่วยตอบโจทย์ ตอบคำถาม หรือ อาจจะช่วยแก้ปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ก็ได้
ทั้งหมดไม่ใช่เพื่อโอ้อวดแต่อย่างใด
เพียงแต่สี่เชื่อว่าสังคมนี้ ประเทศนี้ เป็นของคนทุกคน
ความเหลื่อมล้ำเป็นธรรมดาที่จะเกิดขึ้นได้ ปัญหาเกิดขึ้นได้
แต่ทุกๆ ปัญหา ทุกๆ ช่องว่าง เราทุกคนช่วยได้ เราทุกคนอุดช่องว่างเหล่านั้นได้ ด้วยสองมือเล็กๆ ของเรา
แม้คนๆ เดียวจะไม่สามารถทำได้ หรือช่วยได้มากมาย แต่เมื่อทุกๆ คนร่วมด้วยช่วยกันปัญหาต่างๆ น่าจะลดลง
แล้วคำถามก็ตามมาว่า สิ่งที่สี่คิดและเชื่อเสมอนั้นถูกไหม ???
เราสามารถช่วยลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางความรู้ได้จริงรึเปล่า ??? หรือจริงแล้วควรแค่นั่งดูเฉยๆ ??
แล้วคุณละค่ะ คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ ???
ที่สำคัญมีวิธีการใดบ้าง ที่สามารถช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางความรู้ได้บ้าง ทั้งจากสองมือเล็กๆ และหลายๆ มือร่วมกัน???
ขอบคุณค่ะ
หนึ่งสมอง สองมือเล็กๆ ของเราสามารถช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางความรู้ลงได้หรือไม่ ???
พาหลานมาซึมซับความรู้ดีดี
คำตอบ คือ "ได้" :)
สวัสดีค่ะท่าน ผอ.
ขอบคุณค่ะ น้องม่อนน่ารักมาค่ะ
สวัสดีค่ะอาจารย์Wasawat Deemarn
มายกมือถามเพิ่มค่ะ "ได้ อย่างไรค่ะ" ^____^
สวัสดี...ปีใหม่ไทย 2552 นะคะ
พอดียุ่งๆ ไม่ได้ทักทายตั้งนาน
มีสิ่งดีๆในทุกๆวัน นะคะ
Take care
สวัสดีค่ะ คุณ@..สายธาร..@
ขอบคุณค่ะ
ขอให้มีสิ่งดีๆ ในชีวิตเช่นกันค่ะ