๙๑.การสอนแบบท้าสมองประลองปัญญา


เสน่ห์ของการสอนวิธีนี้ อยู่ที่การมีลูกล่อลูกชน การกั๊กคำตอบไว้ให้เขาแย้งครูมา และครูต้องมีเทคนิคเสริมแรงแกล้งไม่รู้ด้วย

             ความสำเร็จของการจัดการเรียนรู้ขึ้นอยู่กับอะไรกันแน่.....  บางท่านบอกว่าดูที่ การที่นักเรียนบรรลุ"มาตรฐานการศึกษาของชาติ" น่ะสิ  ทั้งที่เจ้าตัวยังจำไม่ค่อยจะได้.  บ้างก็ว่าดูที่"ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง"สิจ๊ะ  เด็กทำได้ไหม  ถ้าได้ก็ผ่านไงเธอ..เป็นการตัดสินที่แป๋มว่าค่อนข้างจะหยาบไปนิดหนึ่ง ด้วยไม่มี Rubric scale ให้เห็น ครูก็เช็คเพียงแค่เด็กส่ง/ไม่ส่ง  แค่นั้น  แบบนี้แป๋มก็เห็นแล้วค่ะ  เด็กๆมาเล่าว่าเธอมีรายได้เป็นกอบเป็นกำจากการรับจ้างทำรายงานให้เพื่อน  ด้วยมีแม่เป็นครูประถมศึกษาและที่บ้านมี omputer PC ผลัดกันทำผลงานของแม่และผลงานของลูกสลับกันไป  นี่แค่ออเดิร์ฟเล็กๆ  สำหรับการซิกแซกของครูบ้าง  นักเรียนบ้าง  แต่ของผู้บริหาร...เอ่อ...ละไว้ก่อนนะคะ...อิอิ...

            หลายครั้งที่มีการประชุมครูทั้งโรงเรียน  จะต้องมีคุณครูที่ค่อนข้างสนิทสนมกัน  ถามแป๋มอยู่เนืองๆ  ถึงวิธีการสอนนักเรียนของแป๋ม (ที่ดูแบบแปลกๆในสายตาของพี่ๆ) เป็นประจำ  ซึ่งแป๋มก็ยินดีที่จะตอบ   ด้วยคาดเดาอยู่แล้วค่ะ  ก็มนุษย์เรามีสัญชาติญานการอยากรู้อยากเห็นเป็นธรรมดาอยู่แล้ว  จึงตอบไปอมยิ้มไป  จนพี่ๆก็เขินในการถามซอกถามแซกขนาดนี้....อาจมีการแย้งบ้าง  จนเมื่อได้รับคำตอบจนเป็นที่พอใจ  ซึ่งเป็นสิ่งที่แป๋มปรารถนาค่ะ  หลายคราพี่ๆอาจจะมีอาการหัวเสียแต่ไม่ยอมลุกจากไปไหน  เพราะต้องการ "เคลียร์" ในสิ่งที่ตนเองสงสัยอยู่  นี่คือแผนของแป๋มเองค่ะ  ถึงจะบ่นกะปอดกะแปดไปพร้อมกัค้อนขวับให้แป๋มไป 2- 3 ที  แต่อาการตอนหลังนี้มีรอยยิ้มปนอยู่ด้วยนะคะ  เพราะท้ายที่สุดพี่เขาก็ได้คำตอบที่เกิดจากการเรียนรู้ด้วยตนเอง  แถมยังได้ฝึกปฏิบัติด้วยตนเองอีกด้วย  นี่ยังไงคะ  คือวิธีการสอนของแป๋ม  จึงมีเสียงอุทานดังๆว่า "อ้อ...อย่างนี้นี่เอง  ยัยแป๋มนี่ล้ำลึกจริงๆนะ..ยอมรับเลย  " เห็นไหมคะเป็นอุบายที่แป๋มอยากให้พี่ๆได้มาปฏิบัติจริงและรับรู้อารมณ์ความสนใจของเด็กเองค่ะ 

          นี่เป็นการสร้างองค์ความรู้  ที่เกิดจากการกระตุ้นของแป๋มซึ่งเป็นครูผู้สอนนักเรียนที่เป็นเด็กห้องเก่ง  เด็กพวกนี้ไม่เคลียร์ไม่ยอมค่ะจะถามๆๆๆๆ  เสน่ห์ของการสอนวิธีนี้อยู่ที่การมีลูกล่อลูกชน  การกั๊กคำตอบไว้ให้เขาแย้งครูมา  และครูก็ต้องมีเทคนิค"เสริมแรง  แกล้งไม่รู้" บ้างนะคะ  บางทีจะมีการอภิปรายยกเหตุผลออกมาโต้กันไปมา  เด็กๆได้ผ่อนคลาย  (ครูแอบพักเหนื่อย..อิอิ..) เอ่อ..ครูก็ต้องทำหน้าที่ส่งสายตา  ยิ้มบ้าง  พยักหน้าบ้าง  ให้กำลังใจสำหรับนักพูดมือใหม่  สนุกค่ะ  คือ..พี่ๆคุณครูที่มาถามน่ะค่ะ  ปัจจุบันรายวิชาภูมิศาสตร์  คณิตศาสตร์  ศิลปะ  ภาษาไทย  ได้นำแนวทางของแป๋มไปใช้ในบางท่าน  บางหัวข้อ  แค่นี้ก็ภูมิใจแล้วค่ะ...อย่างน้อย  เด็กๆก็จะมาเล่าให้ฟังว่า..."วิชา....คุณครู....สอนคล้ายกับครูแป๋มค่ะ....ผมฮามากเลยครับ"  "ครูแป๋มขา...คุณครู...ค่ะ..แกไม่ยอมบอกว่าทำไม........จึง.......คอยดูนะคะ...ทรายจะหาคำตอบให้ได้เอาไปอวดแกน่ะค่ะ.."  เป็นไงคะ  นี่เป็นวิธีที่เด็กๆบอกว่าเป็นวิธีสอนแบบ " ท้าสมองประลองปัญญา" อันเป็นชื่อวิธีสอนที่นักเรียนพร้อมใจกันตั้งขึ้นมาค่ะ.... 

หมายเลขบันทึก: 252146เขียนเมื่อ 31 มีนาคม 2009 11:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:43 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (43)

แหม...ได้ฟังคุณครูแป๋มเล่าอย่างนี้แล้ว

เกิดความรู้สึกอยากไปร่วมเรียนใน Class จริงจังเลย

ชอบมากครับการเรียนแบบ "ท้าสมองประลองปัญญา"

เสียดาย เกิดผิดที่ ผิดยุคไปหน่อยครับ

สวัสดีค่ะ คุณซวง

ถึงคุณจะบอกว่าเกิดผิดที่ผิดยุคผิดสมัยก็ตาม
แต่แป๋มมองว่าทุกบันทึกของคุณโดยเฉพาะ
มาในช่วงหลังๆนี่แหละเป็นสุดยอดของ
การ"ท้าสมองประลองปัญญา"ค่ะ

สวัสดีค่ะ ครูแป๋ม

สบายดีนะค่ะ

แวะมาอ่านเทคนิคน่ารักๆของคุณครู ชื่นชมและขอเป็นกำลังใจให้นะค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณ ♥あ★ 【KiTTyぃJUmP】あ ぁ♥•~ ★

เป็นเทคนิคที่แปรตามสถานการณ์ค่ะ 
ตอนนี้ที่บันทึกไว้ไม่ต่ำกว่าหลักร้อยวิธีค่ะ
ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ แวะมาอีกนะคะ

ขอบคุณครับ คุณครูแป๋ม

จำได้ว่าเคยมีโอกาสสนทนาสั้นๆ กับท่านอาจารย์หมอวิจารณ์  ครับ

ท่านกล่าวเรื่องทำนองนี้ไว้อย่างน่าสนใจมากว่า

สังคมไทย "ขาด" มากๆ ในเรื่องของการท้าทายความรู้เดิมๆ  เราไม่กล้าตั้งคำถามกับความรู้เก่าๆ นั่นทำให้ขาดการต่อยอด หรือสร้างสรรค์ปัญญาใหม่ๆ

ซึ่งผมคิดว่า กุศโลบายที่คุณครูกำลังทำอยู่ ก็น่าจะช่วยให้เด็กๆ กล้าคิด กล้าท้าทายความรู้เดิมๆ   กล้าคิดเหมือนพวกฝรั่ง  

แต่สิ่งที่ต้องมาก่อนก็คือ ทุกคนต้อง "เปิดใจ" เพื่อที่จะรับฟังผู้อื่นก่อนใช่ไหมครับ ไม่งั้นก็ "วงแตก"

.....

ว่าแล้วก็ชักอยากเห็น "ชิ้นงาน" สวยๆ จาก "แม่พิมพ์" ชิ้นนี้จัง จะสมคำล่ำลือมั๊ยน้อ ...

แต่เชื่อขนมกินได้ว่า  ยังไง ก็น่าจะดีกว่าสมัยผมแน่นอน

  • เยี่ยมเลยครับ..วิธีสอน"ท้าสมองประลองปัญญา"ของครูแป๋ม
  • เขาว่า ถ้าจะสอนให้เด็กคิด วิเคราะห์ สืบค้น ครูต้องใจเย็น อย่าพึ่งรีบร้อนบอกคำตอบก่อน
  • แต่ส่วนใหญ่แล้ว ครูมักจะตรงกันข้ามครับ อาจเพราะเวลาน้อย ชักช้า เสียเวลา
  • ชื่นชมๆ

มาชื่นชมวิธีสอนของน้อง

เยี่ยมค่ะ..อย่างงี้เด็กๆได้คิดวิเคราะห์สนุกไปด้วยชื่นชมนะคะ

สวัสดีค่ะ คุณซวง

เทคนิคนี้แป๋มจะนำมาใช้กับห้องที่เป็นเด็กที่ช่างสงสัย
ซึ่งที่โรงเรียนของแป๋มก็จะเป็นเด็กที่เป็นห้องคิงที่ต่างคน
ต่างมีข้อมูลในคลังสมองเต็มเปี่ยมอยู่แล้ว เป็นการให้
สมาชิกได้ระบายความรู้แลกเปลี่ยนกัน โดยเด็กๆจะตกลง
สร้างเงื่อนไขที่ประกอบด้วยเหตุและผลของแต่ละคน
สุดท้ายนอกจากจะได้เกณฑ์คร่าวๆจากการร่วมมือร่วมใจ
ของเด็กๆทั้งห้อง ยังเป็นการส่งเสริมคุณลักษณะที่เป็นประชาธิปไตย
แถมยังได้สังเกตบุคลิกของนักเรียนรายบุคคล และยังเห็นทักษะ
การสื่อสารของนักเรียนอีกนะคะ  หลายต่อทีเดียวค่ะ.

สวัสดีครับ คุณครูแป๋ม

อ่านแล้วสงสัยอยู่นิดนึงน่ะครับว่า

เทคนิคนี้ หากนำไปใช้กับเด็กธรรมดา ที่ไม่ใช่ห้องคิง ผลจะเป็นอย่างไรครับ

เขาจะกล้าแสดงความคิด ความเห็น  มากขึ้นหรือไม่

ถ้าใช่ ก็แสดงว่าเป็นเทคนิคที่เป็น Best Practice ที่ต้องขยายผลโดยเร็ว

แต่ถ้าไม่ใช่ ผมก็สงสัยว่า แล้วจะมีกระบวนการอะไรหรือไม่ ที่จะทำให้เด็กในระดับกลางๆ  สามารถพัฒนาความมั่นใจในการแสดงความเห็นขึ้นมาได้

ถามด้วยความสงสัยจริงๆ นะครับ ไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่น  ผมคิดว่าหากมีคำตอบ หรือมีแนวทาง จะช่วยยกระดับฐานความรู้ของเด็กส่วนใหญ่ได้ จะเกิดคุณูปการต่อแวดวงการศึกษามากทีเดียวครับ

ขอบคุณ คุณซวง มากนะคะสำหรับคำถามดีดีเช่นนี้

เทคนิคนี้ หากนำไปใช้กับเด็กธรรมดา ที่ไม่ใช่ห้องคิง ผลจะเป็นอย่างไรครับ  เขาจะกล้าแสดงความคิด ความเห็น  มากขึ้นหรือไม่ ถ้าใช่ ก็แสดงว่าเป็นเทคนิคที่เป็น Best Practice ที่ต้องขยายผลโดยเร็ว  แต่ถ้าไม่ใช่ ผมก็สงสัยว่า แล้วจะมีกระบวนการอะไรหรือไม่ ที่จะทำให้เด็กในระดับกลางๆ  สามารถพัฒนาความมั่นใจในการแสดงความเห็นขึ้นมาได้

เทคนิคนี้แป๋มใช้มาแล้วกับเด็กทุกกลุ่มค่ะ 
-  ก่อนอื่นแป๋มต้องมีข้อมูลเด็กทุกคนอยู่ในมือก่อนที่จะเปิดภาคเรียน (ข้อมูลเด็กขอความกรุณาครูที่ปรึกษาค่ะ)
-  สิ่งสำคัญที่จะทำให้เด็กได้อภิปรายกันอย่างกว้างขวาง  ทุกคนต้องมีข้อมูลจำนวนหนึ่งอยู่ที่ตัวก่อน  อาจมีชิ้นงานง่ายๆให้เขาไปศึกษาเป็นทุนสำรองไว้  แต่ต้องให้ทำบ่อยๆค่ะ  ความมั่นใจเขาจะมากกว่าเดิม  ครูต้องเสริมแรงบ่อยๆ  เพราะจิตใต้สำนึกของเขาจะบอกตัวเองว่าไช่เด็กเก่ง  ทำให้ความรู้ภายในตนเขาจะกักไว้ไม่กล้าแสดงออกมา  เดี๋ยวตอบผิดเพื่อนเขาจะหัวเราะ 
-  หน้าที่ของครูจึงต้องเสริมแรงกับเด็กกลุ่มหลังให้มาก  ให้เขามั่นใจโดยบอกเขาว่า  ไม่ว่าจะอย่างไรทุกคนที่ตอบครูจะให้คะแนนเท่าๆกันค่ะ  ครูต้องการดูกระบวนการคิดของนักเรียนในการคิดหาคำตอบ  นักเรียนผ่อนคลาย  ครูสบายใจค่ะ 

สวัสดีค่ะ อ.ธนิตย์

ยอมรับค่ะว่าแป๋มต้องอดทนมากๆ
กว่าที่เด็กจะ get ในวิธีจัดการเรียนรู้วิธีนี้
ครูเองต้องตั้งคำถามให้เก่งๆแนบเนียน
หลากหลาย กระตุ้นให้นักเรียนตอบ
ครูต้องยิ้มแย้มแจ่มใสให้โอกาสทุกคน

แต่กฏกติกาเรื่องของเวลาคิดจะต้องมีการจำกัดด้วย
ซึ่งก่อนครูจะเข้าสอน เขาจะประชุมกันก่อนค่ะ
ครูก็จะทำไม่รู้ไม่ชี้  แต่อมยิ้มด้วยความภูมิใจที่เขา
สามัคคีร่วมมือกันดี ประชาธิปไตยเบ่งบานค่ะ. 

กำลังใจที่พี่ ศน.add ให้เป็นสิ่งที่
ครูน้อยอย่างแป๋มต้องการมากๆ
ขอบคุณนะคะ

เรียนอย่างมีความสุข สนุกทั้งครูและนักเรียน เยี่ยมจริงๆ ครับครูแป๋ม

ขอบคุณค่ะท่านผอ.บวร
กว่าจะสนุกแบบนี้เล่นเอาเพลียเหมือนกัน
แต่แป๋มไม่เคยท้อค่ะ บอกกับเด็กเสมอๆ
ดังนั้นเมื่อนักเรียนให้ความร่วมมือเราต่างสุขใจค่ะ

ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจค่ะ

เยี่ยมเลยครับคุณครูแป๋ม

อย่างนี้ถือว่าเป็น Best Practice ของจริงแน่นอน

....

อ่านไป ๆ ผมมีประเด็นใหม่ครับ

ระยะหลัง ผมเห็นโรงเรียนหลายๆ แห่ง โดยเฉพาะโรงเรียนดังๆ ที่มีการแบ่งระดับของเด็ก เป็นห้องคิง ห้องควีน ห้องธรรมดา  ซึ่งลึกๆ แล้วผมค่อนข้างไม่เห็นด้วย กับวิธีการแบบนี้  ผมคิดว่ามันจะนำไปสู่การแบ่งแยก และทำให้เด็กไม่รู้จักการปรับตัวเข้าหาสังคม ซึ่งในสภาพความเป็นจริง คงไม่มีใครเลือกได้เช่นนั้น  และในสภาพความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นคนเก่ง หรือคนอ่อน ต่างก็ต้องพึ่งพาอาศัยกันทั้งนั้น เพราะคงไม่มีใครเก่งไปเสียทุกเรื่อง  ในใจผมคิดว่า สิ่งที่สัมคมไทยอ่อนมาคือในเรื่อง การทำงานเป็นทีม และการเคารพให้เกียรติกัน  คงได้ยินเรื่องราวของคนเก่งมากมาย ที่ทำงานร่วมกับใครไม่ได้  ทำงานคนเดียวเมื่อไหร่ล่ะก็เยี่ยม  แต่ถ้าต้องร่วมทีมประสานงานกันล่ะก็ เจ๊งลูกเดียว

จริงอยู่ว่า การแบ่งเด็ก อาจทำให้การเรียนการสอนง่ายขึ้น  และหวังผลสัมฤทธิ์ได้มากขึ้น แต่คำถามที่อยู่ในใจผมก็คือ อยากได้กันเท่านี้จริงๆ หรือ   สังคมเราทุกวันนี้ คนเก่งระดับอัจฉริยะนั้นมีมากจริงๆ  แต่รวมทีมทีไรก็ไปไม่เป็น

ที่โรงเรียนของหลานผมคนหนึ่ง ซึ่งเป็นโรงเรียนดังมาก  นอกจากการแบ่งเด็กเป็น ห้องคิง และห้องธรรมดา แล้วยังมีเด็กห้องกิ๊บ (น่าจะหมายถึง Gifted Child) อีกต่างหาก  ไม่รู้จะแบ่งอะไรกันนักหนา  ตามไม่ทันเลยครับ

ก็ว่ากันไปนะครับ คนคิดคนทำเขาก็คงมีเหตุผลของเขา เราคงไม่เกี่ยว

ขอบคุณครับที่กรุณาฟังผมบ่น

ขอบคุณค่ะ คุณซวง

การแบ่งเด็กเป็นห้องคิง  ห้องควีน  ห้องคิงลี่
เป็นนโยบายที่สนองความต้องการของหน่วยเหนือ
ข้อดี  จะได้ทุ่มเทความรู้ให้เด็กกลุ่มนี้ได้เต็มที่
มากและลึกที่สุด เพราะเป็นเด็กกลุ่มเก่ง  หัวกะทิ 
โรงเรียนใดมีเด็กแบบนี้มากแสดงว่ามีคุณภาพ 
เพราะสังคมไทยวัดคนด้วยคุณสมบัติข้อนี้ค่ะ
ข้อเสีย  เด็กห้องที่อยู่ห้องคิงจะมีอีโก้สูง  เห็นแก่ตัว 
พวกเขาถูกปลูกฝังให้มีชีวิตเพื่อการแข่งขัน 
ใครดีใครได้  บางคนโกงเพื่อคะแนนก็มี
ตรงข้ามเด็กที่รู้ตัวว่าเป็นห้องรองๆลงไป
จนกระทั่งห้องท้ายก็จะขาดความมั่นใจ  ครูไม่สนใจ 
บางคนอายที่จะต้องมาสอน  แถมใครเป็นที่ปรึกษายังดุว่า 
ว่าโรงเรียนไม่ยุติธรรมที่จับให้มาเป็นที่ปรึกษาห้องนี้ 
ทุกกิริยา  ทุกการกระทำล้วนส่งผลให้เด็กกลุ่มนี้
มีการลงโทษตัวเองด้วยความคิดที่มาจากความสับสน 
จากข้อมูลที่คนรอบข้างกระทำต่อตนเอง.

เด็กวัยรุ่นเขามีเหตุผลและรักความยุติธรรมค่ะ
ดีแต่"ปากว่าตาขยิบ"เด็กๆมีศักยภาพสามารถพัฒนาได้
ในทางปฏิบัติไม่เห็นทำกับเขาแบบที่กล่าวมา
เด็กห้องท้ายๆยังเป็นประชากรชั้น 2 และ 3 เหมือนเดิม
ผู้ปฏิบัติที่เป็นแบบนี้คือ "ครู" และ"ผู้บริหาร"ที่มักจะยกย่อง
เด็กคะแนนดีๆมีการให้ทุนการศึกษาเอิกเกริก  ขณะที่เด็กกลุ่มท้ายๆ
แม้จะเรียนช้าแต่เขาทำความดี มีใครไหมที่จะมอบทุนสำหรับ
เด็กนักเรียนที่เป็นคนดี  น้อยค่ะ  น้อยมาก......พูดไปก็ละเหี่ยใจค่ะ....
ครูคนไหน ใครก็ตามที่ทานกระแสสังคม  เสียสละ อดทนพัฒนาความสามารถด้วยหวังให้เขาได้รู้ว่าเขาเอง มีคุณค่าของ"ความเป็นมนุษย์"ไม่ต่างจากเด็กห้องคิง  อาจมากกว่าด้วยซ้ำ กลับเห็นเป็นเรื่องขบขัน  และดูแปลกแต่จริง นั่นเพียงเพราะไม่ได้ทำแบบที่คนส่วนใหญ่ทำ จึงได้แต่ปลงและมีความหวังว่า  สักวันจะทำให้เด็กกลุ่มนี้มีเกียรติ
มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกับเขาบ้างค่ะ....เฮ้อ!!!!!

สวัสดีค่ะ

สวัสดีค่ะ พี่ครูคิม

ไปแวะเยี่ยมคนหน้าตาดี
และจิตใจดีมาแล้วค่ะ....
สมกับที่เชื้อเชิญจริงๆ
ขอบคุณค่ะ.

เป็นเทคนิคการสอนที่น่าสนใจ...

ฝึกให้เด็ก ๆ ได้ใช้สมองประลองปัญญาด้วยนะครับ...

ขอบคุณครับผม...

ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ  สนุกดีค่ะ
คุณดิเรก สบายดีนะคะ.

เป็นการสนองตอบตรงตามความต้องการของเด็กๆ น่าจะมีความสุขดี

ค่ะ คุณปริม แป๋มก็หวังใจว่าจะเป็นเช่นนั้น
รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเด็ก
เป็นความสุขของแป๋มค่ะ คุณปริม

กลับมาอ่านความคิดเห็นที่ 16 ช่างกล้าดีแท้ แบบนี้สิคนจริง

23. ปริม

ความเสียใจและน้อยใจ ที่มาจากความตั้งใจล้วนๆ พี่ว่าน้องเหนื่อยไป



p'pink
 

  • kpam&p'pink
  • all Best Practice
  • Invitate Program
  • in Europe and HK, Singapore
  • Never in Thailand 
  • so good


25. แฝดพี่

น้อมรับคำชมจากคุณแทนน้องสาวทุกประการค่ะ  ขอบคุณ

p'pink

ครูแป๋มยินดีที่รู้จักคุณแฝดพี่...และขอบคุณทุกถ้อยคำค่ะ

  • หวังใจว่าการสอนแบบท้าสมองประลองปัญญา
  • จะทำให้นักเรียนระลึกถึงและทำข้อสอบได้ทุกคนนะคะ

       

กลยุทธิ์เยี่ยมยอด กับสมองที่ยอดเยี่ยม วิธีการแยบยล มีความเฉลียวฉลาดอยู่ในที ที่จะทำให้ครูรุ่นพี่เข้าใจวิธีการ เข้าใจธรรมชาติของเด็ก ไม่ธรรมดาครับ สนับสนุนแนวคิด เยี่ยมจริงๆ.

  • สวัสดีค่ะ คุณพชร
  • ขอบคุณกับการสนับสนุน
  • แนวคิดที่พยายามทำให้สำเร็จอยู่
  • ยังต้องปรับปรุงอีกมากมายค่ะ

       

ผมชอบสไตส์การเล่าเรื่องของคุณครับ เป็นประสบการณ์ตรงแล้วนำมาเผยแพร่ด้วยภาษาง่ายๆ ไร้การปรุงแต่งได้อรรถรสดี ดูเป็นครูที่สมกับคำว่าครูจริงๆ ประทับใจครับ

สวัสดีค่ะ  คุณพชร

  • การบันทึกของแป๋มจะใช้การเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นจริง
  • ไม่มีการแต่งเติมเสริมให้ดูดีค่ะ  ออกจะห้วนไปหน่อยนะคะ
  • แต่ทุกสิ่งใส่ความจริงใจลงไปทุกคำพูด และรับผิดชอบทุกคำ
  • คนเป็นครูที่สมกับคำว่าครู...แป๋มชอบค่ะ  ขอบคุณที่แวะมานะคะ

ขอต้อนรับครูดีในดวงใจกับรูปโฉมใหม่ของที่นี่ครับผม เป็นกำลังใจให้แป๋มนะครับ

สวัสดีครับ

ขอชื่นชมวิธีการสอนแบบนี้และขออนุญาตนำไปใช้กับลูกศิย์ผมด้วยครับ สอนให้เด็กคิดให้มาก ค้นให้มาก ถามให้มาก เรียนรู้ได้เอง ครูดูเหมือนไม่เหนื่อย แต่ผมคิดว่าเหนื่อยกว่าเดิมแน่ เพราะต้องขยันหาแหล่งความรู้ให้เด็กไป สืบ ค้น คว้า สกัดออกมาเพื่อนำไปใช้งานให้ได้ ครูอาจจะไม่รู้ความรู้ทั้งหมด แต่ครูรู้ว่าจะไปหาความรู้นั้นได้จากที่ไหน และที่สำคัญครูต้องใจเย็นด้วย

ขอบคุณ คุณพชร กัลยาณมิตรที่แสนดีของแป๋มเสมอมาค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณไทเลย-บ้านแฮ่

  • ทุกวันนี้แป๋มก็ยังปรับวิธีการนี้อยู่เนืองๆค่ะ 
  • ยิ่งมอสอนเด็กกลุ่มใหม่ ยิ่งต้องทำการบ้านมากขึ้น
  • เป็นการท้าทายความสามารถของเราอีกแบบหนึ่ง
  • เหนื่อยแต่สนุกและมีความสุขแน่นอน..จากรอยยิ้มของพวกเขาค่ะ..
  •  

 

ครูแป๋มครับ

   บันทึกนี้ผ่านตาผมไปไดไงไม่ทราบ  เป็นบันทึกการจัดการเรียนการสอนที่ดีมากครับ ถูกใจผม โดยเฉพาะ

   เสน่ห์ของการสอนวิธีนี้อยู่ที่การมีลูกล่อลูกชน  การกั๊กคำตอบไว้ให้เขาแย้งครูมา  และครูก็ต้องมีเทคนิค"เสริมแรง  แกล้งไม่รู้" บ้างนะคะ  บางทีจะมีการอภิปรายยกเหตุผลออกมาโต้กันไปมา

 

       ขอบคุณบันทึกดีๆเพื่อเด็กครับ

เรียน ท่านรองฯ ที่เคารพ

  • ขอบพระคุณยิ่งกับกำลังใจแสนดีจากผู้ที่ได้ชื่อว่าผู้นำของเหล่าบรรดาครูผู้สอน
  • ท่านคะ.. กลยุทธ์การสอนของแป๋มยังมีอีกมาก จะให้เรียกว่าเป็นวิธีใดวิธีหนึ่ง
  • ตามชื่อวิธีสอนที่เป็นความสำเร็จรูปต่อๆกันมา แป๋มบอกไม่ได้ชัดดอกค่ะ
  • เพราะในการจัดการเรียนรู้แต่ละครั้งแทบจะไม่เหมือนกัน บางครั้งนึกขึ้นมาจากสถานการณ์ที่ปรากฏตรงหน้า
  • การสอนเด็กวัยแรง ที่มีความคิดเป็นของตนเองนี่รับรองเป็นสูตรสำเร็จยากค่ะ
  • เด็กคนเดียวกัน สอนเวลาต่างกัน ห้วงแห่งความผันแปรอารมณ์วัยเขาก็มาก
  • ต้องรู้จักสังเกต รับฟังเขา ให้ความเป็นมิตร ให้เขาเห็นคุณค่าในตนเอง อย่าประนามดูถูกเหยียดหยาม..
  • นี่คือหลักต้นๆแห่งกลยุทธ์การสอน ส่วนการบริหารจัดการในชั้นเรียน ครูเราต้องเก่งในการดีไซส์แบบฉับพลัน
  • เท่านี้ก็น่าจะพอค่ะ.. ผลที่เกิดจากการสอนของแป๋ม ขอเชิญทัศนาได้ที่นี่ค่ะ
  • http://gotoknow.org/blog/kfstd/toc
  • ช่วยกันวิพากษ์มาเยอะๆนะคะ  จะได้นำไปพัฒนาการจัดการศึกษาของไทยเราค่ะ
  • ขอบคุณผู้นำที่ใส่ใจพนักงานโดยไม่เลือกปฏิบัติ... ปลื้มค่ะท่าน

 

มีเรื่องจะบอกครับ

-อาจารย์ครับ คำว่า Computer PC ตัว "C" ตกหายครับ

-ย่อหน้าที่ 2 บรรทัดที่ 5 คำว่า กับ มีอักษรตัว "บ" ตกครับ

ผมไม่ได้จับผิดนะ จะมาอ่านทีหลังจะได้เคลียร์

อาจารย์สอนดีครับ ถ้าสอนได้แบบไฮสคูลที่ต่างประเทศจะดีใหญ่ เราต้องช่วยกันปรับปรุงการศึกษาไทย

  • สวัสดีครับ ครูแป๋ม
  • มาเติมเต็มความรู้ดีๆ ครับผม

สวัสดีค่ะ ศิษย์ดี๋ กฤตเมธ ที่คิดถึง

  • ยินดีด้วยกับผลการสอบสำหรับนิสิตวิศวกรรมศาสตร์คนนี้..เก่งมากๆ
  • แม้ครูแป๋มจะยินดีช้าไปนิดแต่ความภูมิใจในตัวศิษย์มีให้ตลอดเวลาจ๊ะ
  • จากวันแรกที่ก้าวสู่รั้วสุรธรรมจวบวันนี้ที่ถึงวันจะต้องจากตามครรลอง
  • ดี๋คือตำนานแห่งศิษย์ที่ช่วยฝึกฝนให้ครูแป๋มอดทนแข็งแกร่งมองทุกสิ่งอย่างระมัดระวัง
  • คำพูดทุกคำพูดที่เราคุยกันในห้องโสตฯก่อนที่ดี๋จะจบยังก้องอยู่ในหูครูแป๋มมาตลอด
  • นั่นเองที่ทำให้ครูแป๋มมั่นใจว่าตนเองได้มีส่วนในการเจียระไนเพชรเม็ดงามเม็ดนี้ให้กับประเทศชาติอีกหนึ่งเม็ดแล้ว
  • สุดท้ายนี้แม้ว่าครูแป๋มจะต้องจากสุรธรรมพิทักษ์ไปก็ขอให้ความเป็นครูศิษย์ของเราอย่าสูญหายไป
  • ครูแป๋มยังรักและปรารถนาดีกับพวกเราเช่นเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง..นี่คือสิ่งที่ครูแป๋มอยากบอกและได้บอกแล้ว
  • ขอบใจมากนะคะที่แวะมาคุยกับครูแป๋มที่นี่..ขอให้ศิษย์เจริญก้าวหน้าในชีวิตยิ่งๆขึ้นไปนะคะ.

สวัสดีค่ะ Ico48 คุณครูฐานิศว์

  • ยินดีมากค่ะที่คุณครูคนเก่งคนนี้มาเยี่ยมถึงที่นี่
  • บันทึกนี้เป็นเพียงการบอกเล่าเทคนิคการจัดการเรียนรู้วิธีหนึ่ง
  • ที่ครูแป๋มใช้อยู่เป็นวิธีที่ง่ายไม่ซับซ้อนแต่หลายคราครูเรามักจะลืมนึกถึงไป
  • ก็นำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ค่ะเผื่อคุณครูท่านอื่นจะมีเทคนิคอื่นๆมาเล่าสู่กันฟังบ้าง
  • ขอบพระคุณคุณครูค่ะที่แวะมาทักทายอยู่เสมอ.

ขอบพระคุณ Ico48 คุณครูฐานิศว์ค่ะที่มามอบดอกไม้กำลังใจให้..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท