เป็นบันทึกที่ 3 ที่เกี่ยวเนื่องกันมาในเรื่องเดียวกันคือ การสัมมนาเชิงปฏิบัติการส่งเสริมการเกษตรระดับอำเภอของสำนักงานเกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช บันทึกที่ 2 บันทึกที่ 1 เนื่องจากจังหวัดนครศรีธรรมราช มี 23 อำเภอ จึงได้แบ่งโซนการส่งเสริมการเกษตรเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำ การสัมมนาเชิงปฏิบัติการส่งเสริมการเกษตรจึงแบ่งออกเพื่อปฏิบัติการตามพื้นที่ลุ่มน้ำด้วย ดังบันทึกที่ 1 และ 2 บันทึกนี้ผมเล่าเรื่องการทดสอบกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ในพื้นที่ลุ่มน้ำกลายอำเภอชายฝั่งทะเลตะวันออก อำเภอขนอม สิชล ท่าศาลา และอำเภอที่มีพื้นที่เป็นภูเขาไม่ติดทะเลคืออำเภอ นบพิตำ พรหมคีรี และลานสกา
การบันทึกครั้งนี้ ขอเรียนว่าภาพถ่ายเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้นึกภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านมาแล้วหลายวันให้มองเห็นอีกครั้ง ถ้าไม่ได้บันทึกภาพไว้คงนึกออกได้น้อย สำหรับผมแล้วเชื่อว่าภาพถ่ายช่วยได้เยอะจึงมีกล้องพกติดตัวอยู่ตลอด ทั้งที่เป็นกล้องเฉพาะและกล้องในโทรศัพท์
วันที่ 19 ก.พ.52 ของการจัดสัมมนา ได้มีการทบทวนปรับปรุงในทีมงาน(KM Team) กันพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องเวลาให้มีความชัดเจน จึงทำให้มีการตกรถกันบ้างในช่วงเช้า เนื่องจากวันนี้ล้อเลื่อนทันทีเมื่อถึงเวลาที่นัดหมาย แต่ก็ไม่มีใครเครียดกับเรื่องนี้เพราะตกลงกันแล้ว เรายังเฮฮากันว่าคนที่เราไม่ได้รับขึ้นรถ เพราะเรามองไม่เห็นตอนรถออก(เพราะเขายังไม่มา)
ผมได้อยู่กับกลุ่มอำเภอนี้ตลอด หลาย ๆ อย่างได้ปรับเปลี่ยนให้ลื่นไหลมากขึ้น เพราะผ่านมา 2 กลุ่ม 2 เวทีแล้ว อะไรที่ด้อยก็ปรับเปลี่ยน สถานที่ใช้ศาลาประชาคมอำเภอสิชล ตามที่อำเภอสิชลเจ้าภาพเป็นผู้เลือก และเลือกได้ดีด้วยเพราะสามารถใช้ได้ทั้งในและนอกแบ่งกลุ่มแล้วเสียงไม่รบกวนกัน จึงทำให้ที่นี้ดูคึกคักมาก
และเมื่อท่านนายอำเภออิสรา ทองธวัตร นายอำเภอสิชล ได้ให้เกียรติมาพบปะต้อนรับพวกเราแล้ว เรา KM Team ชี้แจงนิดหน่อยและเริ่มกิจกรรมทันที โดยไม่บอกอะไรให้ต้องคิดสงสัย ไม่แจกเอกสารใด ๆ ทั้ง ๆ ที่มีเอกสารที่จะให้กลับไปอำเภอเยอะมาก เพราะได้เรียนรู้ว่าเอกสารที่แจกก่อนจะทำให้สมาชิกสนใจในเอกสาร ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่อยากรู้ว่าในเอกสารมีอะไร(มักขี้สงสัย) ก็เลยคุยกันตอนอยู่ในรถว่าทุกอย่างที่จะให้จะให้หลัง AAR และพยายามไม่ให้รู้เลยว่าจะทำอะไร
การแบ่งกลุ่มเรียนรู้ ทำได้ง่ายเหมือนเวทีในบันทึกที่ 2 เพราะมีคน 41 คน สังเกตุเห็นทุกกลุ่มตั้งใจแลกเปลี่ยน และใช้ Swot เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ชุมชนตามข้อมูลประกอบโจทย์ที่ให้
การนำเสนอหน้าเวทีกลุ่มใหญ่ของทุกกลุ่มทำด้วยความตั้งใจ และแน่นอนได้ปลายน้ำ คือแนวทางพัฒนา แผนงาน/โครงการ การกระตุ้นให้ออกในองค์ความรู้เรื่องกระบวนการ(กลางน้ำ) เขาไม่พูดออกมาแต่ KM Team ก็สังเกตุเอา ผมมองเห็นและบอกเขาตอนสรุปตามที่เห็นว่า ในกลุ่มไม่ใช้เครื่องมือ เช่น บัตรคำ หรืออื่น ๆ ที่จะช่วยให้สรุปได้เร็วขึ้น ทำให้การจัดลำดับหรือการหาข้อสรุปในบางประเด็นทำได้ช้า เพราะมัวอภิปรายกันว่าใช่หรือไม่ใช่ พี่วารี ทองสมบอกว่า "ก็น้องไม่บอกว่ามีมาด้วย" ซึ่งจริง ๆ ผมก็ไม่ได้บอกเขาจริง ๆ เพราะผมไม่อยากไปกำหนดกรอบให้ ตั้งไว้ให้เห็นแต่บังเอิญว่าพี่เขาไม่เห็น ตอนที่สรุปภาพรวม ผมวาดปลาทูขึ้นมาตัวหนึ่งไม่สวยงามมากนักแค่มองออกว่าเป็นปลา และบอกว่าตั้งแต่เช้าผมทำ KM แล้ว ที่หัวปลาที่วางไว้คืออะไร ตัวปลาที่ทำวันนี้คือทำอย่างไร หางปลาที่พบในวันนี้มีอะไรบ้าง เพื่อได้ทราบว่า โมเด็ลปลาทู ช่วยเราคิดได้อย่างไร
แม้นอากาศภาคบ่ายค่อนข้างร้อน แต่ รสชาดของกระบวนการ AAR ทำให้เวทีลื่นไหลไม่มีใครอยากเลิก ท่านเกษตรอำเภอได้พูดแสดงความรู้สึกกันทุกท่าน รวมถึง KM Team ระดับ CKO หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์ ฯ ท่านสราวุธ พลสิทธิ์ และ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร ท่านภาสวัต รัตนศรี ก็ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกันตลอด บัตรคำเล็ก ๆ ได้ถูกเขียนเพื่อแสดงความรู้สึกกันทุกคนทั้ง ๆ ที่ได้พูดแล้วก็เขียนตามมาอีกด้วย อ่านบัตรคำแล้วมีกำลังใจที่จะทำอีกต่อไป
บรรยากาศ AAR
ชาญวิทย์-นครศรีฯ
สวัสดีครับท่าน ชาญวิทย์
หัวปลาทูพัทลุง งานยุ่งมากครับ ไม่ได้มาทักทาย KM นครติดตามทุกตอนครับ รวมทีม น่าชวนพัทลุงมาหาความรู้บ้างน่ะครับท่าน
ด้วยความคืด-สบายดีทุกคนครับ
น้ำไม่เต็มแก้ว เติมเท่าไหร่ก็รับได้
ถ้าจะล่ม..เพราะว่ากูรู้แล้ว ประตูใจไม่เปิด ยากที่จะเข้าไปแล้วก็ยากที่จะเปิดออกมารับรู้โลกภายนอก
ที่เล่ามา ถือว่าโชคดี
ขอบคุณมากครับ
อยากเป็นเหมือนปีก่อน ๆ ที่ทีมงานต่างหน่วยงานประสานร่วมือกันแน่นเหนียว ยังคิดถึงกันอยู่เช่นกัน
ยังอยู่ในขั้นลองดูอยู่ครับ
ยังต้องดูผลย้อนกลับอีกซักสองสามครั้งก่อนจึงจะมั่นใจครับ
หากลยุทธ์ในหลาย ๆ ด้านครับ คลุมไปเลยนั้นเสี่ยงครับ
อ่านแล้วครับ