เปลือยความสุข (28) : เมื่อน้องดินต่อยอดบทเรียนใหม่...


วันนี้ ผมพาน้องๆ ในกลุ่มงานมาใช้ชีวิตกินอยู่ร่วมกันนอกพื้นที่มหาวิทยาลัยฯโดยยึดเอาพื้นที่อันปลีกวิเวกในจังหวัดกาฬสินธุ์เป็นพื้นที่แห่งการอยู่ร่วมกันภายใต้แนวคิดการดำเนินงานตามโครงการ “พฤหัสสกัดความรู้ ครั้งที่ 2”

ผมเรียกกิจกรรมครั้งนี้แบบง่ายๆ ด้วยภาษาปากว่า
“กินอยู่ร่วมกัน”เพราะอยากให้ทุกคนได้รู้สึกว่าการมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ไม่ใช่การมาอบรมสัมมนา หรือแม้แต่การประชุมหากแต่เป็นการมา “ใช้ชีวิต”ร่วมกันตามประสาคนใน “ครอบครัว” เดียวกัน(บ้านเดียวกัน)โดยมีกระบวนการของการพูดคุยอย่างเปิดเปลือยในวิถีการ “เป็นอยู่”ทั้งที่ผ่านมา-ปัจจุบัน-อนาคต


มีช่วงหนึ่งที่ผมเปิดประเด็นเรื่อง
“โมเดล” (Model) การทำงาน หรือการอยู่ร่วมกันของเราทุกคนภายใต้ชายคาบ้าน หรือชายคาองค์กรโดยผมนำเสนอแนวคิดในรูปของ “ต้นไม้”แบบเชยๆ ง่ายๆดังว่า

องค์กร หรือบ้านของเรา เป็นเสมือน..ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง
- รากเป็นประหนึ่งผู้บริหารดับสูงและระดับกลาง
- ลำต้น เป็นประหนึ่ง ผู้บริหารระดับต้น (หัวหน้ากลุ่มงาน)
- กิ่งก้าน เป็นประหนึ่งหัวหน้างาน
- ใบ เป็นประหนึ่ง บุคลากร
- ผล/ดอกเป็นประหนึ่งนิสิต หรือผลสัมฤทธิ์ของการทำงานของทุกระบบ”







ถัดจากนั้นก็เปิดเวทีให้ทุกคนได้แลกเปลี่ยนเล็กๆ น้อยๆ พอเป็นน้ำย่อยโดยเน้นไปถึงภาพรวมๆ ของระบบการทำงานของ
“ต้นไม้”ที่สัมพันธ์กันทุกระบบทั้งจากใบลงราก และจากรากขึ้นสู่ใบไม่ว่าจะเป็นการสร้าง,การลำเลียง,การกักเก็บ ควบคุม ฯลฯ

เสร็จจากนั้นก็มอบหมายให้มีการจับกลุ่มสังเคราะห์โมเดลการทำงานในส่วนย่อยของแต่ละงาน เพื่อนำเสนอและแลกเปลี่ยนกันอีกครั้งหลังอาหารมื้อค่ำ แต่ไม่บังคับว่าจะคิดและสร้างเวทีทางความคิดผ่านการแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างไรบ้างโดยเปิดกว้างให้ทุกกลุ่มมีอิสระเต็มที่กับการขบคิดและสังเคราะห์

บางกลุ่มเดินทอดน่องคุยกันไปเรื่อยๆ
บางกลุ่มนั่ง
“โสเล่”กันบนเรือนพัก
ขณะที่บางกล่มไม่รีบร้อนแต่เลือกที่จะไปเยี่ยมชมพื้นที่รายรอบที่พักอย่างสบายใจ







ส่วนผมนั้นกลับมานั่งทบทวนบทเรียนทั้งหมดที่ใช้ในภาคบ่ายพร้อมๆ กับการเตรียมบทเรียนบทใหม่เพื่อใช้เป็นสื่อแห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในภาคค่ำโดยไม่ทันสังเกตว่าเกิดอะไรขึ้นกับแผ่นภาพ
“โมเดล” อันเฉิ่มเชยของตนเองมารู้อีกทีก็เห็นน้องดินลากไปขีดๆ เขียนๆอะไรสักอย่างอยู่มุมหนึ่งของเรือนพัก


ผมแกล้งเฉยๆ ... แต่แอบมองเป็นระยะๆ ...
น้องดิน ก้มๆ เงยๆ อยู่กับการขีดๆ เขียนๆส่วนน้องแดนก็ประกบกายพี่ชายไม่ห่างคอยหยิบจับปากกาเคมีให้พี่ชายอยู่เนืองๆ







เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะผมจึงแกล้งร้องถามไปด้วยน้ำเสียงอันราบเรียบว่า
“เฮ็ดหยังอยู่”

"วาดรูป”..น้องดินตอบแบบไม่เงยหน้าขึ้นมาสบตา
“รูปหยัง…”ผมยิงคำถามกลับไปอีกครั้ง
คราวนี้น้องดินตอบยาวกว่าที่ผมคิดนัก“ดินวาดรูปต้นไม้มันบ่ซัด ดินเลยวาดให้ใหม่”
เท่านั้นแหละครับผมจึงถือวิสาสะละวางไปจากคอมพิวเตอร์ เพื่อเดินไปเบิ่งมองในระยะประชิด

พระเจ้าช่วย…
!
น้องดิน เปลี่ยนแปลงรูปโฉมโมเดลต้นไม้ของผมอย่างสิ้นเชิง
ภาพที่ว่านั้นเป็นภาพที่คนกำลังเลื่อยโมเดลต้นไม้ของผมอย่างเอาจริงเอาจังโดยมีลายมือของน้องดินกำกับไว้อย่างชัดเจนว่า“ตัวอย่างที่ไม่ดี”ครับ..



ผมเขียนบทเรียนเรื่องนี้เพื่อย้ำว่าการทำงานของพวกเราเสมือนต้นไม้ต้นนี้ที่ต้องพึ่งพิงและเกื้อหนุนกันอย่างมีระบบ
แต่น้องดินกลับมาเปลี่ยนบทเรียนนี้ไปอีกมุมหนึ่งอย่างไม่เกรงใจคนเขียนบทเรียนอย่างผม …

ผมถามว่า “เป็นหยัง คือ ตัดต้นไม้ของพ่อล่ะ..”
ซึ่งน้องดินก็ตอบมาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวว่า
“ถ่าตัดต้นไม้ไทเฮา กะ บ่ มีหม่องอยู่…มันเป็นโตอย่าง บ่ดี”







ครับ..
มันเป็นตัวอย่างไม่ดี..
ฟังดูก็จริงดังแกว่าเพราะหากมีพฤติกรรมใดทั้งจากภายในและภายนอกที่ส่งผลในทางลบต่อต้นไม้
– ต้นไม้ที่ว่านั้นก็มีอันต้องยืนต้นตาย หรือหักโค่นลงในที่สุดทั้งผมและน้องๆก็ไม่มีที่อยู่เหมือนที่น้องดินบอกจริงๆ …


แต่นั่นก็ไม่เท่าไหร่ หลังจากพวกเราเดินเล่นกันจนอิ่มและมุ่งหน้ากลับสู่เรือนพัก กลับต้องหยุดชะงักลงอย่างทันที เพราะน้องดินพร้อมขุนพลคู่กายอย่างเจ้าจุก ก็นำแผ่นภาพที่ว่านั้น มาโรยไว้ด้านหน้าเรือนพัก พร้อมๆ กัยส่งเสียงใสแจ๋วมายังพวกเราทั้งหมดให้รู้ว่า ..”โปรดฟังทางนี้….”

นี่เป็นเรื่องเล็กๆ ที่ผมเขียนบทเรียนแต่ลูกกลับมาเปลี่ยนบทเรียนนั้นไปในอีกมุม
ผมไม่แน่ใจนักว่าการเปลี่ยนบทเรียนที่ว่านั้นถือเป็นการ
“ต่อยอด”ในอีกมิติหนึ่งหรือเปล่า

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเหตุการณ์ที่ว่านี้ทำให้ผมแอบอมยิ้มอย่างเป็นสุขอยู่อย่างเงียบๆเพราะไม่เพียงน้องๆ ในทีมงานเท่านั้นที่ได้ร่วมถอดบทเรียนร่วมกันที่ไหนได้ลูกๆก็ร่วมอยู่ในเวทีนี้ด้วยเหมือนกัน


และจากนั้นผมก็เดินลงจากเรือนพักมุ่งหน้าออกไปชมวิวรอบๆ บริเวณกระทั่งเวลาผ่านไปสักผักผมก็หวนคิดกลับไปยังเรื่องราวของน้องดินที่วาดรูปคนตัดต้นไม้นั้นอีกรอบพร้อมๆ กับการรำพึงรำพันกับยตัวเองในแบบอารมณ์ดีว่า...


บางที การนำไปต่อยอดอาจเป็นคนละเรื่องกับสิ่งที่เราสรุปไว้ก็เป็นได้

หมายเลขบันทึก: 245274เขียนเมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2009 15:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 มกราคม 2016 10:02 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (26)
  • การต่อยอดไม่ควรมีธงในใจ เพราะเป็นอิสระทางความคิดของกันและกันใช่ไหมคะ
  • แวะมาฝากของว่างตอนบ่าย ของหวานทำให้ไม่เครียดจากอากาศร้อนและการงานนะคะ

สวัสดีค่ะ อ.แผ่นดิน

เห็นกิจกรรรม ของอ.ที่จัดให้เด็กได้ร่วมกัน

เห็นแนวคิดการต่อยอดของเด็ก ค่ะ น่าจะขึ้นอยู่กับการค่อยๆเรียนรู้และพัฒนาจากทำค่ะ

คุณแผ่นดินคะ เรื่องนี้ทำไม่น่ารักแบบนี้คะ

เรื่อง(ภาพวาด) ง่ายๆ บางทีมันไม่ง่ายอย่างที่คิด (แบบที่เราอยากเห็นไปในทิศทางเดียวกัน) แต่อ่านแล้วได้ พลัง ของการคิดเรื่อง งาน ซึ่งอาจไม่ใช่เรื่องเดิมๆ ก้ได้นะคะ

"เมื่อเด็กเป็นครูสอนผู้ใหญ่" เป็นโครงเรื่องล่าสุดที่ดาวลูกไก่กำลังว่าจะขึ้นบันทึกจัดการความรู้กับตัวเอง สอดรับกับที่น้องดินสอนเราเลยค่ะ คิดถึงสองหนุ่มน้อยนะคะ เห็นแล้วคิดถึงสาวนุ้ยด้วย หายไปไหนคะ

 

มาชื่นชมกับคนทำจริงครับ

แวะมาเรียนรู้ และดูความคิดใสๆของน้องดิน ที่ใครๆควรตระหนัก

ขอบคุณมากมายค่ะ

มีความสุขในการทำงาน นะคะ

น้องดินน่ารักและเก่งจริงๆนะคะ คุณพนัส

  • นำรูปเณรน้อยมาฝากค่ะ
  • สามเณรน้อยช่างน่ารักเป็นหนักหนา
  • และมาดูผลงานของน้องดินค่ะ
  • ไร้เดียงสาน่ารักมาก

 

สวัสดีคะอาจารย์

น้องดินเข้าใจคิดและวาดภาพได้น่ารักนะคะ

เด็กๆน่ารักจังค่ะ..

ครอบครัวอาจารย์อบอุ่นจัง..อิอิ

^^

สุดยอดค่ะ เก่งๆๆๆ ชื่นชมค่ะ น่ารัก อิอิ เหมือน...คุณพ่อ

สวัสดีครับ

การมีส่วนร่วม ครอบครัว ชุมชน หนุ่มสาว ผู้ใหญ่

หากว่าสิ่งเหล่านี้ โยงใยกันด้วยสายสัมพันธ์ที่ดีแล้ว

ย่อมจะนำพาให้เยาวชนที่กำลังเติบโต ได้เรียนรู้

ในสิ่งที่ดี ๆ และเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต ขอแสดงความชื่นชม

ในโครงการดี ๆ หลากหลายที่อาจารย์ ได้ทำลงไป

เพราะบ่อลืมครองเค้า

เฮาควรเอามาเว้าสอนคนประสานต่อ

ให้ลูกหลานนั้นฮู้ของดีไว้บาดใหญ่

บอกลูกหลานเด้อ อย่าถิ่มปล่อยวางป๋า

ประเพณีเฮาต้องรักษาเอาไว้

จั่งสิใสไปหน้านาวาไทยไปฮอดฝั่ง

บ่อมีพังกระทบคลื่นเถิงสิ น้อยกะเรื่องเฮือ

สิสดใสอยู่ทุกเมื่อเกื้อหนุนส่งพงษ์ไสว

สิสดใสโสภาคันหมู่เฮาทำดีไว้

อุปมาเหมือนคนไข้ต้องกินยามันจั่งช่วง

บ่อแม่นกินไก่ต้มปลาย่างให้ช่วงหาย

แม่นบ่ออ้ายแผ่นดิน

ฮักสาสุขภาพเนออ้าย

สวัสดีครับ..กอก้าน>>>ก้านกอ*:)*(แก๊งค์ก้านคอพับ)

ขอบคุณที่นำพาเพลงเพราะมาฝากนะครับ..

เราล้วนมีวันเวลาที่เท่าเทียม..และวันเวลาชีวิต ถึงดูน้อยนิด แต่ก็ยิ่งใหญ่เสมอ  หากเราเรียนรู้ที่จะดูแลวันเวลาเหล่านั้นอย่างรู้ค่า

....

เป็นกำลังใจให้เช่นกัน นะครับ

สวัสดีครับ Sila Phu-Chaya

ปีนี้ร้อนเร็วกว่าทุกปี..สงกรานต์นี้ คงได้สาดน้ำกันแสนสนุกเป็นแน่ครับ..

หน้าร้อนทีไร..อดคิดถึงน้ำแข็งใสไม่ได้  ตอนเด็กๆ ชอบทานมาก ขอเงินแม่บ่อยครั้งเพื่อไปซื้อที่ร้านค้า  กินได้แป๊ปเดียวเกลี้ยง.. กินช้าก็ละลายเสียหมด

เป็นเสน่ห์ของฤดูร้อนโดยแท้  แต่หัวใจก็รบรากับลมร้อนมาหลายยกแล้วครับ, ทนไม่ไหว  เลยจำต้องติดแอร์ ...

สวัสดีครับ..berger0123

กิจกรรมที่ว่านี้ ผมจัดขึ้นโดยนำทีมงานเจ้าหน้าที่ไปคุยสรุปงาน เรื่อง "วัฒนธรรมองค์กร" และยุทธศาสตร์การพัฒนานิสิต  โดยยึดเอาสถานที่นอกมหาวิทยาลัยเป็นที่ตั้ง  เพื่อให้ทุกคนได้อิสระไปจากกรอบสำนักงาน และมองเห็นเรื่องราวที่ผ่านมาอย่างมีสมาธิ..เปิดหูเปิดตา  มีบรรยากาศใหม่ๆ  เผื่อจะได้คิดอะไรใหม่ๆ ...

ผมเป็นคนดำเนินกระบวนการเอง ให้ทีมงานได้ทำกิจกรรมร่วมกัน..และครั้งนี้  จำต้องพ่วงเอาลูกๆ ไปด้วย  ก้ถือว่าโชคดีมาก  เพราะเขาก็เข้าร่วมกิจกรรมไปกับเรา

ต่างวัย, แต่ไม่ต่างบรรยากาศ  เพราะดินและแดน ก็เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในทีมนั้นๆ  อย่างกลมกลืน  มิหนำซ้ำ หลายเรื่องยังจุดประกายให้พี่ๆ แบบนึกไม่ถึงเลยก็มีครับ

....

 

อิอิอิ

อ่านแล้วอมยิ้มเลย (หัวเราะ)

ช่างคิดจังเด็กคนนี้

ถ้าพวกนายทุนมาเห็น

มันจะรู้จักอายเด็กบ้างหรือป่าว

เด็กตัวแค่นี้ยังคิดดีดีได้ขนาดนี้

เด็กๆเค้าคิดอย่างไร

เค้าก้อเขียนออกมาแบบนั้น

ชอบบรรยากาศบ้านไทยๆๆ

ดูโล่งๆๆดี คงจะเย็น ดี นะคะ

แอบเห็นโปงลาง อยู่ด้านหลัง ใช่หรือป่าวคะ

หวัดดีค่ะ

  • ลูกไม้ หล่นไม่ไกลต้น ถ้าไม่มีพายุพัด แรงโหมกระหน่ำ
  • น้องดิน ตัวน้อย มีความคิดที่เฉียบแหลม เหมือนเบ้าหลอมไม่ผิดค่ะ

สวัสดีครับ ดาวลูกไก่ ชื่นชมยินดี

ในชีวิตจริงของคนเรา คงปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่า บางเรื่องผู้ใหญ่ก็ล้วนแล้วแต่ได้ไอเดียมาจากแนวคิดของเด็กตัวเล็กๆ เสมอ  เพราะในขณะที่ผู้ใหญ่คิดหนัก, คิดซับซ้อน จนบางครั้งกลายเป็นเส้นผมบังภูเขาไปโดยปริยาย  แต่สำหรับเด็กนั้น คิดโดยมีจิตนาการที่ไม่เคลือบแฝง เรื่องหลายเรื่องที่เด็กมองแบบสดใสๆ  จึงกลายเป็น "มุม" ที่เรามองไม่เห็นจริงๆ

เกี่ยวกับเรื่องนี้  ผมยังไม่มีโอกาสได้คุยกับน้องดินเพิ่มมากขึ้นในเรื่องดักงล่าว  แต่ก็พอรับรู้ได้ว่า  เขากำลังคิดเรื่อง "โลกร้อน"  อยู่มาก  สังเกตจากการที่เขาเคยไปทุ่งนา แล้วถามคุณปู่ว่า  ทำไมไม่สร้างเถียงนาสักหลัง  มิหนำซ้ำย้ำ  บอกอีกว่าที่ทุ่งร้อนๆ เช่นนี้ก็เป็นเพราะว่าไม่มีต้นไม้นั่นแหละ

บางครั้งแกเห็นโฆษณาในทีวีเรื่องปิดแอร์ในรถ...แกก็นำมากำชับกับผมเสมอ...

....

ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ.อ. JJ

ขอบพระคุณที่แวะมาเยี่ยมและให้กำลังใจต่อผมนะครับ...

ตอนนี้ มีหลายเรื่อง หลายเป้าหมายที่ผมอยากทำให้สำเร็จ  โดยเฉพาะเรื่องการยกฐานะเรื่องกิจกรรมเข้าสู่วิชาเรียน และการผลักดันในระบบทรานสคริปกิจกรรมผ่านสภามหาวิทยาลัย  ซึ่งทั้งสองเรื่องนั้น  ผมเองก็เคยได้เกริ่นกับท่านอาจารย์ไปแล้วรอบหนึ่ง ...

การไปคุยกันครั้งนี้  เป็นส่วนหนึ่งของ KM ที่เราวางแผนไว้  และมีเรื่องที่ผมพุดถึงข้างตั้นนั้นอยู่ด้วย

ยังคงต้องลงแรงอีกหลายยกเลยทีเดียว แต่ช่วงนี้ ก็คิดว่า เรื่อง "ทีม" เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้

....

 

สวัสดีครับ... @..สายธาร..@ 

ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจ...นะครับ

ตอนนี้น้องดิน นอนพักยาว หลังจากไม่ได้พักผ่อนมาหลายวัน ส่วนน้องแดน ก็พักฟื้นจากการเป็นไข้-ทั้งปวงนั้น มาจากผลพวงของการพักผ่อนน้อยทั้งนั้นเลยครับ  ซึ่งก้ผมอีกแหละ ที่พาลูกๆ โดดเรียนไปเรียนรู้ชีวิตนอกห้องเรียนของเขา..

สวัสดีครับ พี่แก้ว..อุบล จ๋วงพานิช

ดินเป็นคนชอบศิลปะ  เด็กๆ ชอบแคน, กลองยาวมาก

โตขึ้น ตอนนี้ชอบเขียนรูป-วาดรูปเอามากๆ ...และดูเหมือนจะมีทักษะที่ไม่เลวเลยทีเดียว  ซึ่งเทียบกับผมแล้ว  ผมวาดรูปสู้น้องดินไม่ได้จริงๆ ..

....

ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ..คุณครู วรางค์ภรณ์ เนื่องจากอวน

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะครับ...

กรณีน้องดินนั้น ปีนี้โตขึ้นเห็นได้ชัด  ชอบทำกิจกรรมกับสังคมเสมอ โดยเฉพาะกิจกรรมที่มีพี่ๆ นิสิตในมหาวิทยาลัยเข้ามาเกี่ยวข้อง

ตอนนี้เลยพยายามสังเกตว่า แกสนใจอะไร,..แต่ไม่รีบร้อนที่จะให้เรียนพิเศษในทุกๆ เรื่อง  ปิดเทอมนี้  ก็จะไปฝากให้อยู่กับปู่ย่า  จะได้เรียนรู้ความเป็นชนบทๆ ...

ขอบคุณครับ

 

สวัสดีครับ พี่ประกาย~natachoei ที่~natadee

อันที่จริงผมเองก็มองว่า  เด็กๆ ในวัยนี้ชื่นชอบงานศิลปะกันอยู่แล้ว  โดยเฉพาะการวาดรูปและการระบายสีนั้น  เด็กๆ จะให้ความสนใจกันมากอยู่แล้ว  เห็นได้จากรูปการ์ตูนที่หล่อด้วยปูนฯ นั้น  เด็กชอบที่จะไประบายดีอย่างไม่รู้เบื่อ  สิ่งเหล่านี้ช่วยให้เด็กๆ ได้ฝึกทักษะทางศิลปะ ฝึกความคิด ฝึกการจินตนาการได้เป็นอย่างดี

และที่สำคัญ  ศิลปะที่ว่านี้ ก็จะช่วยขัดเกลาจิตใจของเด็กไปในตัวด้วยเช่นกัน

....ขอบคุณครับ....

 

สวัสดีครับ คุณครูแอ๊ว

งานนี้ เด็กสองคนจำต้องขาดเรียนไปด้วย  แต่ก็ถือว่าโชคดีมาก  เป็นการเรียนล่วงหน้าของเขาโดยแท้  เพราะกิจกรรมทุกกิจกรรม  พวกเขาเข้าไปอยู่ในบริบทบรรยากาศนั้นแทบทั้งสิ้น  เชื่อว่าคงได้คิดอะไรบ้างล่ะ...

แต่ทุกอย่างก็คงต้องใช้เวลาอีกนาน  ถึงจะชั่งวัดได้ว่า  เราเรียนรู้ได้จริงสักแค่ไหน...

ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ..paula ที่ปรึกษาตัวน้อยแต่~natadee✿

ต้องบอกว่า..น้องดินชอบศิลปะเหมือนคุณพ่อ  แต่ทักษะทางศิลปะนั้น  ต้องยกให้ทางคุณแม่เขาครับ, เพราะผมไม่สันทัดสักเรื่อง

...ขอบคุณครับ...

สวัสดีครับ thassana wong

ให้ลูกหลานนั้นฮู้ของดีไว้บาดใหญ่

บอกลูกหลานเด้อ อย่าถิ่มปล่อยวางป๋า

ประเพณีเฮาต้องรักษาเอาไว้

จั่งสิใสไปหน้านาวาไทยไปฮอดฝั่ง

....

ผมชอบถ้อยคำเหล่านี้มาก  เพราะถือว่าเป็นจุดยืนของตัวเอง โดยการไม่ลืมที่จะให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมท้องถิ่น  โดยเฉพาะตอนนี้ ผมกำลังเก็บข้อมูลเขียนเรื่องราวประวัติศาสตร์หมู่บ้านของตัวเอง  ซึ่งตั้งใจว่า จะพัฬนาขึ้นเป็นแบบเรียนในชุมชน  อย่างน้อยก็เก็บไว้ที่ห้องสมุดโรงเรียนประจำหมู่บ้าน หรือไม่ก็ที่วัดด้วยเช่นกัน ครับ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท