- แวะมาส่งกำลังใจค่ะ
- สบายดีนะคะ
- นำอาหารมื้อเย็นมาฝากค่ะ
- รับประทานกับผักพื้นบ้านก็ได้นะคะ
รู้จัก ราน้ำ ผักพื้นบ้าน ท้องถิ่น
ตั้งแต่ มาอยู่ที่สุราษฎร์ฯ ใหม่ๆ มีชาว G2K คุณไชยยงค์ - คงตรีแก้ว จากจ.ชุมพร สอบถามเรื่อง ราน้ำ ผักพื้นบ้านท้องถิ่นที่นี่ และได้ติดค้างไว้นานแล้ว วันนี้ได้รวบรวมข้อมูล มาได้แล้วครับ
ปัจจุบัน ผู้คนนิยมบริโภค ผักพื้นบ้านกันมากขึ้น เพราะ การบริโภคผักสดที่ซื้อจากตลาด ไม่แน่ใจ ในความปลอดภัย มักได้รับข่าว เสมอๆ เรื่องสารพิษจากยาฆ่าแมลง และสารเคมีที่มีพิษอื่นๆในการเกษตร คน ในชุมชนจึงหันมาปลูก และบริโภคผักในท้องถิ่นแทนผักที่ซื้อจากท้องตลาดกันมากขึ้น
ราน้ำ ชื่อนี้คงจะแปลกหู อยู่บ้าง แต่สำหรับคนภาคใต้แล้ว มันเป็นผักชนิดหนึ่ง ที่ใช้เป็นเครื่องเคียงสดๆ จิ้มน้ำพริกกะปิ กับการทานข้าว ในอาหารประจำวัน ชาวภาคใต้ (ส่วนใหญ่ นครศรีฯ , สุราษฎร์ฯ ) นิยมบริโภคเป็นผักสด จนมีการเพาะขยายพันธุ์ และจำหน่าย จนกลายเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่งของชุมชน มีให้เห็นทั่วไป ในถาดผักสด (เป็นผักเหนาะ) ของร้านขายข้าว-แกง เช่น ร้านป้าเอิบ ร้านป้าเขียว ฯลฯ และในครัวเรือน
ราน้ำ มีชื่อพื้นเมืองตามท้องถิ่นต่างๆ ดังนี้ : ผักกระโฉม กระออม นางออม กระออมโป๋ง กระออมหอม ผักชะออม กุหล่ำ (จันทบุรี) สุ่ยทุยเชียง(จีน) ราน้ำ เป็นพืชที่สามารถเจริญเติบโตร่วมกับพืชน้ำ ชนิดต่างๆ เช่น แพงพวยน้ำ ผักบุ้ง บัวบก ราน้ำ เป็นไม้น้ำ กลางแจ้ง ชอบความชื้นสูง ขยายพันธุ์โดยใช้ส่วนของลำต้น หรือแขนง ไปปักชำไว้ในดินที่มีน้ำขังประมาณ 10 วัน ก็จะมีรากงอกออกมา และสามารถเจริญเติบโตได้แล้ว ถ้าในธรรมชาติ ราน้ำจะชอบที่มีน้ำไหลผ่าน เคยเห็นมันขึ้นเอง ที่ริมห้วย และเคยนำมาปลูกที่ในอ่างเลี้ยงปลาที่บ้าน เจริญเติบโตได้ดี แต่ ตั๊กแตน ชอบกัดกินใบหมด จะฆ่าตั๊กแตน ก็สงสารมันอีก เลยปล่อยให้มันกินตามสบาย จนใบหมดต้น หัวโกร๋นไปเลย
การบริโภค นิยมใช้ทานเป็นผักสด หรือ นำมาหมักทำเป็นผักดอง เก็บไว้ได้นาน หรือ นำมาตากแห้ง เป็นราน้ำแห้ง ใช้เป็นเครื่องปรุงแกงเผ็ด เพื่อปรุงรสให้แกงมีกลิ่นหอม ใช้ต้นสดอ่อนๆ ผักจิ้ม ยำ ลาบ แกง (แกงคั่วปลาดุก) หรือใช้รับประทานกับลาบก็ได้ ใบ-ยอด สดๆมีรสชาติหวาน ติดปลายลิ้น แต่มีความรู้สึกว่า ราน้ำเดี๋ยวนี้ ไม่ค่อยหวานเหมือนแต่ก่อน ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุผลใด อาจจะเป็นเพราะ สภาพแวดล้อมก็ได้ทั้ง น้ำ ดิน ปุ๋ย ที่เปลี่ยนไป(เดาเอา) ประโยชน์ในทางยา เขาว่ากันว่า กินทั้งต้น ขับเสมหะ แก้ไอ หอบ แน่นหน้าอก ลำต้นใช้สับแล้วตำ พอกแผลพุพอง ส่วนของใบ ขับปัสสาวะ ช่วยเจริญอาหาร แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้แน่นหน้าอก เป็นยาขับลม ใช้ดับกลิ่นปาก ลำต้นจะมีน้ำมันหอมระเหยอยู่ด้วย เพราะว่า มีกลิ่นหอมๆ
สำหรับ หลักฐานทางการศึกษา วิจัย นั้น ยังค้นหาไม่พบ ว่ามีใครศึกษาไว้บ้าง (ไม่ค่อยได้ค้น) ที่เห็นก็มี น้องๆนักเรียนโรงเรียนเวียงสระ ศึกษาไว้บ้าง แต่ยังมีข้อมูลไม่มากนัก
จะเห็นว่า ส่งเสริม ให้ชาวบ้านปลูก (ปลูกเองก็ได้)เป็นผักพื้นบ้าน ผักสวนครัว ไว้บริโภคในครัวเรือนร่วมกับผักชนิดอื่นๆได้ ปลอดภัยดีด้วย ถ้ามีมากพอ ก็เป็นรายได้เสริมได้อีกทางหนึ่ง
ท่านใดมีข้อมูล ช่วยต่อเติมให้ด้วยครับ
ชัยพร นุภักดิ์
สวัสดีค่ะ เพิ่งรู้ว่าต้นราน้ำเอามาทานได้ ขอบคุณค่ะสำหรับข้อมูลดีๆ
นี้คือดอกหิรัญญิกา
ใช่ค่ะ
ตอนอยู่ที่นคร พี่ขนิษฐา กาญจนานิจ เคหกิจเกษตร เกษตรอำเภอเมืองนครศรีฯ
แนะนำให้ทาน บอกว่ามีประโยชน์มาก ๆ ค่ะ
แต่ก็ยังไม่กล้าทานสักที...
หิรัญญิกา นอกจากกลิ่นหอม
เห็นความงามของธรรมชาติค่ะ ได้ผ่อนคลายค่ะ
แถวยะลา ยังไม่เคยเห็น
รสชาดเป็นยังไงบ้างครับ
ออกเผ็ดๆร้อนๆรือเปล่า
ออ..หวานหรือครับ
ขอบคูณมาก
สวัสดีค่ะพี่
สบายดีนะค่ะ แวะมารู้จัก "ราน้ำ ผักพื้นบ้าน ท้องถิ่น" ด้วยคนค่ะ ...ไม่เคยทานนะค่ะ...แต่ที่แน่ ๆ อยากทานแกงส้มถั่วใต้ดิน ที่หัวโต ๆ กรอบ ๆ นะ....ตอนเรียนอยู่ที่สุราษฎร์ เคยทานบ่อย ๆ อิอิ
สวัสดีครับ
แวะชิม อาหาร ร้านข้าว-แกง ที่สุราษฏร์ ดูซิครับ
ผักเหนาะร้านไหน คุ้นๆ
สวัสดีครับ คุณ o.O ปลายฟ้า O.o°