"ส่วย" สุรินทร์


กูยเรียกตัวเองว่า กูย หรือกวย หมายถึง คน ชาวไทยเรียกว่า “ส่วย” โดยคำว่า “ส่วย” เริ่มใช้สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น เนื่องจากการส่งส่วยเป็นเครื่องราชบรรณาการเป็นประจำทุกปีในรูปผลผลิตจากป่าจึงทำให้คนไทยอีสานเรียกชาวไทย–กูย ว่า ส่วย

ช่วงวันหยุดได้มีโอกาสไปแอ่วสุรินทร์ ได้ไปพักและเรียนรู้วิถีชีวิตคนที่นั่น  ครอบครัวที่ไปเยี่ยมเป็นครอบครัวคน ส่วย หรือ คนกูย  ลองไปค้นหารายละเอียดของกลุ่มชาติพันธุ์นี้มาให้ทุกท่านได้เรียนรู้ร่วมกันครับ

กูยเรียกตัวเองว่า " กูย" หรือ "กวย" หมายถึง คน ชาวไทยเรียกว่า “ส่วย” โดยคำว่า “ส่วย” ริ่มใช้สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น เนื่องจากการส่งส่วยเป็นเครื่องราชบรรณาการเป็นประจำทุกปีในรูปผลผลิตจากป่าจึงทำให้คนไทยอีสานเรียกชาวไทยกูย ว่า ส่วย

 

กุยหรือกวยเดิมตั้งถิ่นฐานอยู่ตอนเหนือของเมืองสียมราฐ  กำปงธม อพยพเข้าสู่ประเทศไทยก่อนที่ชาวไทยและเขมรเข้ามาอยู่บริเวณดังกล่าวเสียอีก บางส่วนเข้าไปในพื้นที่เขมรตอนเหนือติดกับเขตแดนประเทศลาว บริเวณอัตปือ แสนแป หลังจากนั้นจึงอพยพจากเมืองดังกล่าวบริเวณฝั่งแม่น้ำโขงแดนลาวตอนใต้ อพยพข้ามเทือกเขาพนมดงรักเข้ามาอยู่ในพื้นที่ จ.สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานีและตอนใต้ของ จ.ร้อยเอ็ด

ถิ่นฐานเดิมของกูย จ.สุรินทร์อยู่ในแขวงอัตปือ แสนแป และจำปาศักดิ์ ทางตอนใต้ของลาว ชาวกูยอพยพเข้ามาในไทยตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เนื่องจากไม่พอใจผู้ปกครองบ้านเมือง จึงได้อพยพตามกองทัพไทยที่ไปรบกับลาวมา โดยมาอาศัยเขต จ.สุรินทร์ ศรีสะเกษ และ บุรีรัมย์

ส่วยอาศัยกระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ของ จ.สุรินทร์ โดยเฉพาะเขต อ.รัตนบุรี ท่าตูม ศีรขรภูมิ สังขะ นอกจากนี้ยังมีอยู่บ้างใน จ.ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี มหาสารคาม และนครราชสีมา

ลักษณะการตั้งบ้านเรือน

จะแยกกระจายเรียงรายไปตามถนนและตั้งบ้านเรือนเป็นกระจุก มีส่วนน้อยที่มีรั้วรอบขอบชิด ส่วนใหญ่มักปล่อยโล่งเพื่อไปมาหาสู่กันได้สะดวก เป็นการแสดงถึงความเป็นพี่น้องกัน ส่วนใหญ่เป็นบ้านชั้นเดียวใต้ถุนสูงและมีบ้าน 2 ชั้นรูปทรงสมัยใหม่บ้าง บ้านที่มีใต้ถุนก็จะทำที่เลี้ยงวัว ควาย บางบ้านจะมีกี่ทอผ้าเพื่อทอในฤดูแล้ง สำหรับบ้าน 2 ชั้นสมัยใหม่จะสร้างคอกวัวและควายไว้หลังบ้านหรือข้างบ้าน         

กูยเชื่อว่าบรรพบุรูษที่ตายแล้วจะกลับมาเกิดในตระกูลเดิม ดังนั้นการตั้งชื่อลูกหลานมักตั้งตามชื่อปู่ย่า ตายายที่ล่วงลับไปแล้ว กูยไม่นิยมการเผาศพเพราะเชื่อว่าการเผาศพจะทำให้วิญญาณผู้ตายร้อนรน จึงนิยมฝังและกระทำกันเองโดยไม่มีพระภิกษุ โดยจะหันศรีษะศพไปทางทิศตะวันตกและนิยมฝังในไร่นาของผู้ตาย แต่ปัจจุบันกูยก็หันมานิยมเผาศพตามธรรมเนียมพุทธศาสนา

ประเพณีพิธีกรรมในรอบปี

ลักษณะการจัดพิธีกรรมในรอบปีจะเป็นไปในรูปของฮีต 12 ของลักษณะประเพณีอีสานทั่วๆ ไป มีพระสงฆ์เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในพิธีกรรมทางศาสนา เช่น วันเข้าพรรษา ออกพรรษา ทอดกฐิน ชาวบ้านจะประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดและอุทิศส่วนกุศลให้ญาติพี่น้องที่ตายไปแล้ว โดยเฉพาะผีปู่ ย่า ตา ยาย

 


ขอบคุณโน๊ะเนย(พ่อเนย)  ใจงามแห่งอำเภอศีขรภูมิ มา ณ ที่นี้ด้วยครับ  

 (โน๊ะ ภาษาส่วยแปลว่า "พ่อ")

 


 

เอกสาร เกี่ยวกับ คนกูย สุรินทร์


ดาวน์โหลด

http://www.rinac.msu.ac.th/main/relateword/surinperson.pdf


 

 

♣ ประวัติศาสตร์ ชาวกูย กวย ส่วย

 


ดาวน์โหลด

 

♣ ภาษากูย,ส่วย

http://www.trumschool.net/dickui/index.html


ดาวน์โหลด


หมายเลขบันทึก: 24441เขียนเมื่อ 19 เมษายน 2006 07:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:20 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (98)
     การเปลี่ยนแปลงหรือความเสื่อมทางวัฒนธรรมเป็นธรรมชาติของการปรับตัวของสัตว์ไม่ว่าชนิดใด ๆ ก็ตามล้วนเป็นไปเพื่ออยู่รอด  "อนิจจังเป็นความเที่ยง"

คุณนพดล

ความเสื่อมของสิ่งทั้งหลาย เป็นเรื่องของ สัจธรรม ครับ ส่วนวัฒนธรรม ที่ เปลี่ยนแปลงไปมี ๒ นัยยะ ครับ คือ การเสื่อมลงจริงๆ และการปรับตัว การผลิตซ้ำทางวัฒนธรรมครับ คิดว่ามีสิ่งใหม่ ที่ดีๆเกิดขึ้นเสมอครับ

ขอบคุณคุณนพดลครับ

อยากรู้จริงๆส่วย-กูย-กวย ในประเทศเขมร-ลาวมีหรือไม่ ที่ว่ามาจากอัตปือแสนแป  จำปาสัก ของลาว  ส่วนมากพวกนี้กินอะไรเป็นอาหาร บ้าง ทำไมถึงพูดส่วยได้ ฟักดูแล้วยากมาก ไม่มีภาษาเขียนด้วย ส่วยเขาแน่จริงๆ นะ 
หนุ่ม อำเภอปรางค์กู่

ผมเป็น คน กูย ครับ ปัจจุบันผมทำงานอยู่กับองกรค์ของฝรั่ง ผมภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็น กูย ผมไม่เคยรู้สึกน้อยเนื้อ ต่ำใจเลยที่เกิดมาเป็นส่วย แต่กลับภูมิใจอย่างมาก ที่ กูย หรือ ส่วย ก็มีภาษาเป็นของตัวเอง ถึงแม้ว่าจะไม่มีภาษาเขียนก็ตาม

ทุกครั้งที่ผมกลับบ้านช่วงเทศกาล ( ปีใหม่ สงกรานต์) ผมจะมีความสุขมาก เรามีโอกาสได้เจอครอบครัว เพื่อนฝูง และได้พูดภาษา กูย กินเหล้าสาโท เขียดย่าง กบ ปลา สนุกมากาครับ

แต่ปัจจุบันนี้มีหลายอย่างที่เปลี่ยนไป ทุกคนเริ่มเห็นแก่ตัวมากขึ้น ต่างคนต่างแข่งขันกันทำมาหากิน เพื่อความอยู่รอด เพื่อความร่ำรวยของตัวเอง กิจกรรม ประเพณีอันดีงามเริ่มจางหายไป เช่น การลงแขกดำนา เกี่ยวาข้าว ปัจจุบันนี้จะไม่ค่อยเห็นกัน ใครจะทำอะไรก็ต้องว่าจ้าง

ผมคิดเสมอว่า ถ้าผมมีโอกาสผมอยากช่วยเหลือให้พี่น้องชาวกูยให้อยู่ดีกินดีมากกว่านี้ โดยเฉพาะเรื่องการศึกษาของเด็กรุ่นใหม่ อยากให้พวกเขามีการศึกษาที่ดีขึ้นเพื่อจะได้ยกระดับสติปัญญา ความคิด และนำความรู้นั้นมาช่วยเหลือถิ่นบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง

ในเรื่องการเรียนนั้นความสามารถของเด็กกูย ไม่ด้อยไปกว่าเชี้อชาติพันธุ์อื่นเลย ผมสามารถเรียนจบ ตรี และ โทได้ และได้ทำงานกับองกรค์ของฝรั่ง ข้อได้เปรียบของการเรียนของกูยคือเรื่องของภาษา เพราะกูยสามารถพูดได้หลายภาษา เช่นภาษาอังกฤษ เมื่อเปรียบเทียบระหว่างคนอีสานด้วยกัน กูยจะพูดและใช้สำเนียงเหมือนฝรั่งได้ดีกว่า

สิ่งที่ผมไม่ชอบอย่างหนึ่งเวลาที่เพื่อนคนอีสานด้วยกันชอบพูดในสิ่งที่ไม่ดีมาลงที่กูยหรือส่วย เช่น กินเหมือนส่วย ทำเหมือนส่วย ทั้งๆที่พวกเขาเหล่านั้นก็ไม่ดีอะไรไปกว่ากูยหรือส่วยเลย

แสมซาย ออนกูกะออบอือปอเด้อ (ขอให้พี่น้องกูยทุกคนมีความสุขครับ)

ผมเป็นคนอีสาณ บังเญบ้านเกิดอยู่ติดกับหมู่บ้านส่วย เลยซึมซับภาษาส่วยพอสมควร และผมก็พยายามสืบค้นเรื่อง ส่วย(กวย) แต่ด้วยสภาพทางเศรษฐกิจยังไม่อำนวย ผมก็พยายามทำได้ตามสภาพที่ยังไม่เต็มที่

แต่ผมก็พยายามเสนอภาษาเหล่านี้ที่ web http://www.baanmaha.com/forums/index.php/board,73.0.html

หรือที่ webhttp://www.ubru.ac.th/ccu/webboardkhmer_/webboard.php

ซึ่งผมพยายามตัดข่าว หรือบทความจากที่ต่างๆมาใว้

และส่วยส่วนหนึ่งซึ่งผมได้ไปสัมผัสที่ บ้านปาลฮาล จังหวัดพระวิหารในประเทศกัมพูชา

ถ้าท่านต้องการแลกเปลี่ยนข้อมูลหรือมีสิ่งอื่นใดแนะนำ หรืออยากรู้จักเป็นการส่วนตัวก็ mail มาที่ [email protected] or [email protected]

ขอบคุณครับ

คนอีสาณกันเอง

สวัสดีครับคุณเอก

  • แถวๆบ้าน  ยังมีร่องรอยอารยธรรมสมัยธาราวดีให้เห็น เช่นปรางค์ ประสาทหิน เป็นเพียงที่ประทับชั่วคราว เมื่อยามออกล่าสัตว์
  • คำนำหน้านามสกุลของผม  ก็คงมาจากภาษาส่วย(เขมร)แน่นอน  คงไม่ใช่จีนแน่
  • แต่ขนบธรรมเนียม ประเพณีล่าสุดที่พอจำได้ ก็มีให้เห็น กลับเป็นของมอญเสียแล้ว
  • คงจะมีการอพพยพกันมาเป็นระยะๆ ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น
  • ครูอ้อยไปทำวิจัย  ประวัติหมู่บ้าน  ก็พอมีร่องรอยย้อนหลังให้เห็นเพียง 400 กว่าปีเท่านั้นเอง ครับ

สวัสดีครับ

ผมดีใจครับที่บันทึกของผมมีผู้อ่านจำนวนไม่น้อยที่สนใจในประเด็นหลากหลายที่ผมเขียนขึ้น

ส่วนหนึ่งผมเองไม่ได้มีความรู้ที่ลึกซึ้ง เพียงผ่านมาและมีประสบการณ์บ้าง ก็นำมาแลกเปลี่ยนกันครับ

แต่เป็นโอกาสที่ดีมากครับ ที่มีการต่อยอดความรู้นั้น ตรงนี้เองเป็นการเพิ่มปัญญาให้แก่กระผมมากครับ

ประเด็น "กูย" หรือ "ส่วย" ผมมีโอกาสได้ไปพักและเที่ยวในชุมชนเหล่านั้นเมื่อปีกลาย ผมประทับใจในไมตรีจิตของชาวบ้านที่ปฏิบัติต่อผมและเเขกผู้มาเยือน ความงดงามของวิถีชีวิต ภูมิปัญญาที่ผมซึมซับในเวลาไม่กี่วัน...เป็นสิ่งที่ผมได้เรียนรู้ เป็นประสบการณ์ที่ดี

ผมขอชื่นชมลูกหลานชาวกูย - ส่วย ครับที่พยายามรักษาวิถีของบรรพบุรุษ เป็นภาระกิจที่ยิ่งใหญ่ของลูกหลานที่พึงสืบสานไว้ธำรงชาติพันธุ์

ขอบคุณ

คุณนพดล ครับที่เข้ามาเยี่ยม

ขอบคุณ คุณหนุ่มปรางค์กู่ ผมเป็นกำลังใจให้นะครับ

ขอบคุณ คุณส่วยเมืองศรี คนรุ่นใหม่ที่ได้สืบสานวิถีคนส่วย ผ่านสื่อ http://www.baanmaha.com/forums/index.php/board,73.0.html

ท่านไหนที่อยากแลกเปลี่ยนกับคุณส่วยเมืองศรี เชิญที่ [email protected] or [email protected]

และขอบคุณข้อมูลดีๆ จากพี่สมนึกครับ

P
แพงศรี ส่วย ขุนหาญ คะ

ดิฉัน เป็นเผ่าหนึ่งของจังหวัดศรีสะเกษ ที่เรียกตังเองว่า กวย ทั้งตำบลพูดส่วยกันหมด ยกเว้น 1 หมู่บ้านที่พูดเขมร แต่เราฟังกันรู้เรื่อง ตำบลเราอยุ่แบบพออยู่พอกิน หากบ หาปลาตามหนองบึงมาเป็นอาหาร หรือปลุกผักกินเองก็มีเยอะ

ช่วงนี้กำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี รุ้สึกภูมิใจมากที่สุดที่เกิดมาได้ชื่อว่าเป็น ส่วย หรือ กวย เวลาแนะนำตัวกับพี่ว่าที่บ้านพูดส่วย ไม่เคยปิดบังเลย เพราะดิฉันภูมิใจในภาษาของตนเอง อีกอย่างหนี่งคือ คนส่วยพูดภาษาได้หลายภาษา (อันนี้ภูมิใจจริงๆคะ)

รู้จักใครดิฉันพยายามถามว่ามาจากจังหวัดอะไร มีหลายคนที่มาจากศรีสะเกษ แต่ไม่มีใครพูดส่วยเลย ที่ดิฉันถามเพราะอยากพูดภาษาส่วยด้วย ซึ่งตามความรู้สึกของดิฉันแล้ว ส่วยไม่ว่ามาจากที่ไหนถ้าได้รู้จักกันก็จะดีใจเหมือนเจอญาติพี่น้องกัน

ดิฉันอยากกลับบ้านมาก ไปเจอเพื่อน เจอพ่อแม่ พูดส่วยกัน เป็นสิ่งที่มีความสุขที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิตของดิฉัน

ไฮยักซุยกวยนึงแซมซายกวยอะแรง

สะออบปอ ออซำเด้อ แซมซาย

ดืใจที่ยังมีเพื่อนๆชาวกวยมาให้ความเห็นที่นี่

แต่โดยส่วนตัวรู้แต่ว่าอยากศึกษา อยากค้นคว้า แต่ก็จนปัญญา เพราะข้อมูลมีให้ศึกษาน้อยมาก

ผมเคยไปพบพูดคุยกับชนชาติข่า(โส่ โซ่)แถวภูพาน

ซึ่งมีแบบแผนการดำรงชีพ วัฒนธรรมประเพณี ไม่ต่างจากชนชาติส่วย แถวอัตปือที่ลาว หรือชาวกวย ย่านจังหวัดพระวิหารในกัมพูชา

แต่มีอันหนึ่งที่เหมือนกันทุกที่คือ ความสามารถในการล่าสัตว์ การดำรงชีพในสภาพธรรมชาติ

และเมื่อผมได้พินิจพิจารณารูปสลักนูนต่ำที่นครวัด ผมยิ่งมีความคิดไปใกลเกินที่จะห้าม

 

 

สวัสดีครับ

ผมดีใจครับ ว่าบันทึกเล็กๆได้เป็นพื้นที่จุดประกายบางอย่าง อย่างน้อยก็ทำให้คน "กุย" ได้มาพบกัน ผ่านการค้นหาคำสำคัญ(Tag)

ไม่มีกลุ่มชาติพันธุ์ใดก็ตาม ที่ดำรงอยู่ได้ในปัจจุบันล้วนแล้วแต่มีภูมิปัญญาที่มีคุณค่าควรจดจำ

ที่จะสืบทอดต่อไปได้ก็คือ ลูกหลานนั่นเองครับ หากลูกหลายไม่สนใจก็จะสูญหายไนที่สุด โดยเฉพาะวัฒนธรรมหลักที่ครอบเราตอนนี้

ผมเป็นคนเมืองล้านนา และผมก็ภูมิใจในการเป็นคนเมืองของผม อู้กำเมือง แต่งกายชุดพื้นเมืองในหลายๆโอกาส

ขอให้กำลังใจนะครับทั้งคุณ

ไม่มีรูป
แพงศรี ส่วย ขุนหาญ คะ
และ
ไม่มีรูป
ส่วยเมืองศรี

ไฮยักซุยกวยนึงแซมซายกวยอะแรง

สะออบปอ ออซำเด้อ แซมซาย

สวัสดีครับ

ผมดีในที่เกิดมาเป้นส่วย ผมอยู่ที่สระแก้วครับ

ที่นี่ก็มีชาวกวยอยู่เยอะมากมีสองหมู่บ้าน สองอำเภอครับ

เกิดและโตที่นี่ แต่ก็ภูมิใจนะที่ที่เกิดมาเป็นชาวกวยดีใจนะที่ได้มาอ่นและได้รู้อะไรหลายๆอย่างเกี๋ยวกะชาติกำเนิดของตัวเองว่ามาจากไหน พยายามค้นหา

ขอเป้นกำลังใจให้ทุกคนนะ

สวัสดีครับ

ผมเป็นคนหนึ่งครับที่เกิดมาเป้นคนส่วย  ผมอยู่ที่ สระแก้วครับ อยู่เป็นหมู่บ้าน ดีใจครับที่ได้รับและแสดงความคิดเห้น ส่วยบางหมู่บ้านอาจจะพูดไม่เหมือนกันหรอกครับ คำบางคำอาจจะไม่เหมือนกันแต่ว่าสื่อสารกันได้ ดีใจครับที่ได้อ่านความคิดเห็น ขอเป็นกำลังใจให้คุณครับ

กอนกวยจงเจริญ

ที่ว่าจังหวัดสระแก้วมีหมู่บ้านส่วย ผมอยากทราบว่าอยู่หมู่บ้าน ตำบล อำเภออะไรครับ ผมอยากไปเยี่ยมเยียน ผมก็เป็นส่วยคนหนึ่ง และก็เข้า ออกเขมร ที่ด่านปอยเปตประจำ เผื่อวันใหนผ่านจะได้แวะคุยด้วย

 

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

สวัสดีครับคนเมืองศรี..ถ้าคุณผ่านมาทางถนนสาย  อรัญฯ-ตาพระยาแถวๆก.มที่25นั่นหละครับหมู่บ้านส่วยแวะมาคุยกันได้นะแล้วก็หมู่บ้านไปทางตาพระยาไม่ไกลจากนี้เท่าไหร่นะหมู่บ้านกุดเตยครับแวะไปถามเขาได้นะ  อาจจะมีเขมรปนด้วยอย่าว่ากันนะ

เด๋ยวนี้ส่วยเจริญแล้วครับ..เด็กส่วยบางคนพูดส่วยไม่เป็นด้วยซ้ำไปครับ..แย่จัง....สืบสานวัฒนธรรมไว้นะดีแล้วครับ..จะได้บอกลูกบอกหลานไว้ครับว่าเรามาจากไหน....จะได้รู้ว่าเราเป็นใครมาจากไหน...

             แถวบ้านที่เคยอยู่เด็กเริ่มพูดส่วยไม่ค่อยเป็นเหมือนกัน เดี่ยวนี้พ่อแม่ไม่ค่อยสอนลูกให้พูดส่วยกัน ไม่รู้ทำไม อันนี้ก็ไม่เข้าใจ อยากจะอนุรักษ์ ความเป็นส่วยนี่ เราพูดได้หลายภาษาถือว่าเป็นกำไรของชีวิตนะ

         แต่ทีบอกว่าสระแก้วก็มีส่วยนะ ไม่เคยได้ยินเลย มีเพื่อนที่เรียนมหาลัยด้วยกันบอกว่าพูดได้ ก็เลยลองพูดดูก็เหมือนกันจริงๆๆ ดีใจมากที่มีส่วยหลายๆที่มารู้จักกัน และอยากคุยกับคนส่วยด้วยกัน ใครอยากรู้จักก็แอดมาที่ [email protected]  นะคะ

              รักกันไว้เถิดเราเกิดร่วมแดนไทย

เมื่อวานนี้ได้ไปดูงานที่หนองคายเมื่อยมากๆเลยแต่ก็ยังได้มาทำงานตอนเช้าอีกแล้วก็ขอบคุณนะที่ตอบมาสำหรับคนที่ใช้ชื่อ  กวยไฮเอง  ที่บ้านก็พูดส่วยดีใจที่ได้เขียนถึงนะ....คนสระแก้วครับ...แล้วก็ดีใจที่มีคนพูดส่วยเหมือนเราว่างก็จะเข้ามาอีก

            เข้ามาอีกครั้งแล้วคะ  สำหรับส่วยของเรา ดีใจมากนะ ที่ได้รู้จักกับบุคคลที่สนใจในเรื่องนี้ เรามีความคิดที่ตรงกัน

            อยากกลับบ้านไปพูดส่วยบ้างเหมือนได้ระบาย ไม่ได้พูดตั้งนานคะ ยินดีที่ได้รู้จักส่วยทุกคนคะ

 แวะมาแล้วนะคะ กอนกวย

ก็วันนี้ก็เข้ามาอีกครั้งนะ..ดีใจจังวันนี้ที่ได้เจอใครบางคนที่เหมือนกะเราถึงจะอยู่ไกลแสนไกลก็เถอะเราก็พูดภาษาเดียวกัน   ทำให้เราได้รู้ว่ายังมีคนที่เข้าใจคำพูดของเรา

ผมอยู่บุรีรัมย์ อ.ละหานทราย พ่อและแม่เป็นคน ส่วย และภรรยาก็ ส่วยดีใจอย่างมากที่ได้มีความรู้เพิ่มเติมว่าต้นกำเนิดของตัวเองและภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นคน ส่วย แต่อยู่ที่ กทม.เวลาคุยกับแฟนก็ใช้ภาษา ส่วย ผมอยากตั้งสมาคมคน ส่วยที่กรุงเทพฯ แต่คงได้แต่คิด ตอนนี้แฟนอยู่ที่กรุงเทพเขตมีนบุรีเป็นครู แต่ผมอยู่ทื่สมุทรปราการ อ.บางเสาธงทำงานบริษัท อยู่อีก 1 หลัง อาทิตย์หนึ่งจะกลับบ้าน มาอยู่กรุงเทพเกือบ 15 ปีแล้ว แต่ไม่เคยลืมถิ่นกำเหนิดผมวางแผนชีวิตไว้บั้นปลายถ้าปลดเกษียนก็จะกลับไปอยู่ที่ อ.ละหานทรายเหมือนเดิม อยากเลี้ยงวัวสัก 50 ตัว

ดีใจที่ยังมีพี่น้องชาวส่วยมาร่วมแจมเป็นประจำ

บางครั้งผมก็จะไปที่ baanmaha.com บ่อย หลังจากที่ ubru.ac.th มีปัญหา

 

 

จากการศึกษา และท่องเที่ยวไป เมืองอัตปือ แสนแป หาก เรา (ส่วย) ไปเที่ยว แทบไม่ต้องพูดภาษาลาวเลย เพราะว่าแถวนั้นพูดส่วยกันหมดเลย ผมเลยศึกษาต่อถึง เมืองอัตปือ แสนแป (กำลังทำวิทยานิพนธ์ครับ โท.ม.มหิดล) เพราะผมส่วยผมเลยสนใจเรื่องนี้ครับ

ผมส่วย อ.สนม จ.สุรินทร์ อยู่กรุงเทพ มา 20 ปี ตั้งแต่เริ่มเรียน ปวส.จนจบปริญญาตรี และทำงานจนได้ตำแหน่งผู้จัดการในบริษัทเอกชน ทั้งบริษัท รู้ว่าผมเป็นคนส่วยเพราะผมจะบอกอย่างภาคภูมิใจและจะพูดภาษาส่วยหากเพื่อนร่วมงานต้องการให้พูด ให้ฟัง หากบางคนไม่รู้จักส่วยผมจะเล่าให้เขาฟังเสมอ ว่าเรามีประวัติศาสตร์ยาวนาน มาจากทางส่วนหนึ่งในประเทศลาวในปัจจุบัน และเมื่อตอนเด็ก ๆ พ่อจะเล่าให้ฟังเสมอว่าปู่ ของ ปู่ ของปู่ มาจากลาว และผมมีเชื้อเจ้าเมือง (สมัยนั้น) แต่ไม่รู้จริงหรือเปล่าเพราะเป็นคำเล่าต่อ ๆ ของผู้ใหญ่ ใครคิดว่าส่วยบ้านนอก อย่าคิดยังงั้นโดยเฉพาะคนไทยด้วยกัน เพราะโอกาสของปัจจุบันมันเท่ากัน ทุกคนมีสิทธิได้รับการศึกษา น้องชายผมไปเป็นหัวหน้าช่างเรือสินค้าที่อเมริกาแล้ว ผมเจอมันทีไรต้องพูดส่วยเท่านั้น   และผมยังสอนลูกผมพูดด้วย อย่าอายที่จะพูด ตอนผมเรียนขึ้นรถเมล์ผมกับเพื่อนก็พูดส่วย คนนั่งข้าง ๆ ก็งง แต่ผมคิดว่า   แกไม่วันเข้าใจในสิ่งที่ฉันพูดหรอก   ฮ่า ๆๆๆๆๆ

มีคนบางรู้ว่าผมเป็นส่วย บางคนก็อยากรู้ว่ามีความเป็นมายังไง บางคนออกไปทางดูถูก ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าผมเป็นใคร ทำไมคนไทยชอบดูถูกกันเอง แต่ผมจะภูมิใจในความเป็นส่วย  หาข้อมูลวิชาการต่าง ๆ ว่าผม (ส่วย) มาจากใหนกันแน่ พอรู้ประวัติศาสตร์ส่วยแล้วเข้าใจมากขึ้น   ใครอยากติดต่อคุยกัน mail มาได้ [email protected]

กูยกูหนองกี่กะแก๊ดอายแซมกะเจาเรียนกรุงเทพเรียนวิศวะพระจอมเกล้าพระนครเหนืออยากหลบเซาะคึดเพอะแซมซายคลัง

 

 

ชมรมกูยหนองกี่บุรีรัมย์

กูยเจากูเซาะตาเปลงกูหนองกี่ย้ายภูมิลำเนามาจากสำโรงทาบเซาะจะหกาวสุรินร์มีเยอะมากครึ่งอ.หนองกี่บุรีรัมย์

กะด๋ายอยู่กทมติดต่อด้าย

ส่วยบ้านสวาย ต.แตล อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ รายงานตัวครับผม คุยกันได้ที่ [email protected] (อยากรู้เหมือนกัน..ทำไมภาษาส่วยจึงได้มีหลายสำเนียงจัง..คนละหมู่บ้าน..พูดส่วยเหมือนกัน..บางครั้งก็เล่นเอาซะงงเหมือนกัน..ฮิฮิ)

I want to contact you if you have time please give the time to send mail to me becauseof i'm Kuay from Preah Vihear provinc (Palhal village)

I'm very interested to the Kuay history so ifyou have can support to me?

Thanks

Kuay

want to contact ส่วย เหมือนกัน

Soory forget put your name

Kuay

กูย ซุไขร สุรินทร์

ดีใจครับที่ทุกคนภูมิใจในถิ่นกำเนิดตัวผมเองนั้นไม่ต้องห่วงครับขนาดต่อหน้าธาลกำนัลยังคุยภาษากูยหน้าตาเฉยครับไม่ได้เกรงกลัวใครเลย ใครยังไงไม่สนใจครับพี่น้องกูยยิ่งใหญ่เสมอและไม่มีวันเปลี่ยนแปลงตลอดกาลครับ

คาระวะ กุยผู้ยิ่งใหญ่

สวัสดีครับ

จากคำว่า "ส่วย" ทำให้ผมนึกอะไรได้หลายข้อ(แต่ขอเก็บไว้ก่อนนะ)ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ๆ ที่คุณเอกช่างสรรหามาให้อ่านครับ แล้วต่อไปจะไปภาคไหนอีกละครับจะติดตามอ่านต่อไปครับ

ก็ไม่ค่อยได้เข้ามาทักทานตั้งนานแล้วนะ..ก็ยังคิดถึงที่นี่เหมือนเดิมนะ

สำหรับคนส่วยทุกท่าน..กอนกวยทุกคน

กอนกูยนะถัวหะเจากูกรุงเทพดูรแหลว เคยเขียนบล๊อกนะแต่ตอนนี้ไม่ได้เขียนแล้วไม่มีเวลา (ที่ทำงานน่ะ)และห้องก็ไม่ได้ต่อเน็ต เอาเป็นว่าผมมี Link พจนานุกรม ภาษากูย จากโรงเรียนที่บ้านเค้าทำไว้นะครับ ไม่ทราบว่าท่านใดเป็นคนทำแต่ก็ดีใจที่เห็นพัฒนาการด้าน ของกอนกูย

http://www.trumschool.net/dickui/

เข้าไปดูนะครับ

ขอบคุณเช่นกันครับที่ได้นำความรู้ใหม่ๆที่หลายคนอาจจะคิดว่าไม่ค่อยสนใจ เพราะวันเวลาที่ผ่านพ้นไป แต่สำหรับผมชอบมากกับการศึกษาประวัติศาสตร์ ความเป็นมาทั้งๆที่ไม่เกี่ยวกับคณะที่เรียนเลย

ครับศรีสะเกษก็เป็นอีกจังหวัดนึงที่มีชาวส่วยเยอะมากๆ และได้ชื่อว่าเป็นเมืองสี่เผ่าไทย อันได้แก่ ส่วย เขมร ลาว เยอ (มีพิพิธพันธ์แสดงที่วัดพระธาตุเรืองรอง ไกลจากตัวเมือง 8 กิโลเมตร)สำหรับส่วยในศรีสะเกษนั้นจะกระจายไปตามอำเภอต่างๆซึ่งเป็นหย่อมหมู่บ้านเพียงเท่านั้น เช่น อำเภอน้ำเกลี้ยง อำเภอขุขันธุ์ อำเภอไพรบึง อำเภอขุนหาญ ฯลฯ ซึ่งส่วนมากจะเป็นแถบชายแดนกำพูชา แต่เด็กสมัยใหม่ปัจจุบันจะได้รับการปลูกฝังภาษาใหม่มากขึ้นคือภาษาลาว ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นอิสาน แต่ก็ยังคงมีภาษาส่วยอยู่บ้าง

สำหรับตัวผมชอบเดินทางแสวงหาเหมือนพี่จตุพรแหละ ผมชอบเดินทางไปคนเดียวคำไหนนอนนั่น (โรงแรม เกสท์เฮาส์)เมื่อล่าสุดเดือนที่ผ่านมาผมก็ได้เก็บกระเป๋าเดินทางไปศึกษา วิถีชีวิตความเป็นอยู่ วัฒนธรรมประเพณี ของชาวเขาเผ่าอาข่า ที่อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย น่าสนใจมากครับ ทริปหน้ากะว่าไปมอร์แกน ที่ใต้ครับ หากพี่จตุพรสนใจไปด้วยกันตามเมล์นะครับ ยินดีครับ

อ.ดร.ปรีชา อยตระกล ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ท่านศึกษาและเขียนตำราชนชาวกยไว้นานแล้วครับ ใครสนใจติดต่อท่านที่ ราชภัฏโคราชได้ครับ

ไฮกะกอนกวยคือหนอ....

อยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับชาวส่วยมากกว่านี้คับ

ไม่เข้าใจทำไมเขมรชอบล้อว่า"ส่วยไม่มีประเทศ"ไม่เข้าใจบางที่ก็น้อยใจแต่คิดไปคิดมาถ้าเขมรมีประเทศแล้วมาอยู่ทำไมที่ประเทศไทยแล้วไม่ไปอยู่ประเทศตัวเองละใช่ปะ..

แต่ยังไงก็ภูมใจถึงไม่มีประเทศแต่ก็มีภาษาพูดเป็นของตัวเองภูมิใจมากคับ....

ผมพึ่งเปิดเจอเว็บของชาวส่วยดีใจมากคับ...

ผมเป็นคนบุรีรัมย์ อ.บ้านด่าน ตำบลของผมมีทั้งหมด 9 หมู่บ้าน มีส่วยทั้งหมด 6 หมู่บ้าน อีก 3 หมู่บ้านเป็นลาว หรือไทยอีสาน ดีใจมากที่ตำบลผมไม่มีเขมรผมไม่ค่อยชอบเขมรพูดไม่รู้เรื่องพูดจาไม่เพราะ....

อำเภอจอมพระมีคนพูดภาษากูยเเละกวยมากมีเกือบทุกตำบล

โดยเฉพาะตำบลจอมพระมีหมู่บ้านทั้งหมด 15 หมู่บ้าน

พูดภาษากูยเละกวย 14 หมู่บ้าน 1,2,3,4,5,6,7,8,9,10,12,13,14,15

อีกหนึ่งหมู่บ้านพูดเขมร หมู่ 11

บ้านจอมพระเป็นหมู่บ้านชาวกูยเก่าเเก่เเห่งหนึ่งของจังหว้ดสุรินทร์

เเต่ก่อนบ้านผมก็มีช้างเหมือนกันเเต่ตอนนี้ไม่มีเเล้ว

สมัยก่อนชาวกูยบ้านผมก็ออกไปคลองช้างที่ประเทศเขมร

เเต่ด้วยสภาพเเวดล้อมที่บ้านไม่เหมาะกับการเลี้ยงช้างจึง

ทำให้ช้างบ้านผมสูญพันธุ์ไปหมด

เหลือเเต่ศาลปะกำที่ชาวกูยเลี้ยงช้างนับถือ มีอยู่ 3 โรง

ไฮเกอะกอนกูยหนะเนียเยียจะขรัลเเซมซายคูหนะคูดายดราลๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เป็นส่วยที่มีคนใช้นามสกุลเดียวกันเยอะมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมากที่สุดในประเทศไทยหรือเปล่า ฮุ ฮุ ฮุ ดีใจจัง ถ้าได้เป็นนายกคงทำลายสถิติ นายกที่มีญาติใช้นามสกุลเดียวกันเยอะที่สุดในโลก

ผมเป็นนักการศึกษา(ครูสายอาชีวศึกษา ) ได้มีโอกาสคลุกคลีและพบลูกหลานชาวส่วยจำนวนมาก ในเขตอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ที่ทุกคน Post มานั้น ถูกต้องหมดแหละครับ เพราะว่าผมได้มีโอกาสสอนหนังสือที่ อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์มา 10 กว่าปี และได้มี่โอกาสไปแนะแนวการศึกษาโรงเรียนต่างๆ ได้เห็นข้อแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างบ้านลาว บ้านเขมรและบ้านส่วย และนอกจากนั้นกระผมได้มีโอกาสไปสอนหนังสือที่ประเทศกัมพูชา จ.กำปงทม โดรงการพระราชดำริ โรงเรียนพระราชทานกำปงเฌอเตียล พบหมู่บ้านส่วยมีหลายร้อยหลังคาเรือน และได้มีโอกาส ไปจัมปาศักดิ์ ได้พบคนส่วยอีกจำนวนมาก สำเนียงแต่ละพื้นที่ก็แตกต่างกันมาก แต่สำเนียงของส่วยกำปงทมและส่วยเสี่ยมเรียบ ( ภาษาไทยคือเสียมราษ)กับได้ใกล้เคียงกับสำเนียงที่สตึกมากๆ และเมื่อได้กลับมาสตึกและได้สอบถามคนเฒ่า คนแก่่ บอกว่า ส่วยที่บ้านกะโพ

ต.ตากลาง เขตสุรินทร์ กับส่วยที่ อำเภอสตึก บุรีรัมย์ คือส่วยที่มาจากรากเหง้าเดียวกัน และได้รวมกลุ่มกันไปจับข้างที่ประเทศกัมพูชา ตั้งแต่โบร่ำ โบราณแล้วครับ และเมื่อประมาณ 2485 พวกผมยังอายุไม่ถึง 10 ขวบ พ่อก็ได้ไปร่วมกองคาราวาน จับช้างด่้วย แต่่รอแล้ว คุณพ่อก็ไม่ได้กลับมา กลุ่มคาราวานช้างที่ไป ก็หายสบสูญไป ในรุ่นๆ เดียวกันกับพวกผม ได้กลายเป็นเด็กกำพร้ากันทั้งหมู่บ้าน

ผมได้พบหมู่บ้านส่วย ที่ สีโสพณ (ปัจจุบันคือ จังหวัดบันเตียเมียนเจย ในส่วนภาษาไทยเรียกว่า บ้านใต้มีชัย ชื่อเก่าคือ ศรีโสภณ ) , เขตอุดรเมียนเจย ( ภาษาไทยเรียก อุดรมีชัย , เขตพระวีเหียร ( ภาษาไทยเรียกพระวิหาร )เขตเสียมเรียบ (ภาษาไทยเรียกเสียมราษ หรือชื่อจังหวัดพิบูลสงคราม) และที่สำคัญพบชาวส่วยจำนวนมากในเขตกำปงทม ( บ้านเกิดของพอลพต อดีตผู้นำเขมรแดงอันลือชื่อ )และที่สำคัญ ได้พบชาวส่วยไปจนถึงเมืองสตึงเตรง ( ภาษาไทยเรียกสตรึงเตรงทับศัพท์เหมือนกันแต่สมัยเป็นเมืองขึ้นของไทย ภาษาไทยเรียกว่าเมืองเชียงแตง )เป็นเมืองที่ติดกับแขวงอันตะปือ ประเทศลาวครับ และที่นั่นผมได้พบอดีตทาหารเขมรแดงกลับใจ ได้เล่าให้ฟังว่า ชาวส่วยที่ประเทศกัมพูชาได้ถูกปลุกระดมมวลชนจากกลุ่มนายพอลพต (ผมมาทราบอีกทีว่า นายพอลพตสามารถพูดส่วยได้ดีมาก ) สมัยนั้นชาวส่วยยากจนมากๆ และ บ้านเรือนถูกอเมริกาโปรยระเบิดทิ้งด้วยเครื่องบิน บี 52 ทำให้พวกเขาจับอาวุธขึ้นสู่และสามารถบุกยึดสู้กับรัฐบาลลอนนอลที่มีอเมริกาหนุนหลัง จนสามารุถ บุกยึดเมืองสำคัญของเขมรได้หมด ผมมาทราบอีกทีว่า ชาวส่วยคือกองกำลังหลักของเขมรแดง ในการต่อสู่้กับรัฐบาลลอนนอล แต่แล้วพวกเขาต้องหนีเข้าป่าแทบหัวซก หัวซน เมื่อเจอกองกำลังจากพวกญวน พวกเขาต้องกินทุกอย่างในป่า แต่ปัจจุบัน เขมรแดงไม่มีอีกแล้วครับ

สวัสดีค่ะผู้ที่มีความรู้เรื่องของชาวส่วย กำลังศึกษาเรื่องของชนพื้นเมือง สนใจการอพยพเคลื่อนย้ายของคนส่วยที่มาจากอัดตะปือในประเทศลาว ใครมีความรู้เรื่องนี้ช่วยติดต่อมาทางอีเมลล์ทีนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ

สำนึกรักบ้านเกิด

ผมเป็นลูกหลานชาวส่วย แต่ก็พูดเขมรได้ กลัวว่าภาษาและวัฒนธรรมที่น่าช่วยกันอนุรักษ์จะค่อยๆหายไป งำๆๆๆๆๆ

จูงกะโผแมะแซมซาย ผมเป็นลูกส่วย100%ตั้งแต่ปู่ย่าตาทวดครับ ภาษาส่วยเป็นภาษาที่มีหลายสำเนียงมากขอบอก ประมาณ5-6สำเนียงเท่าที่ผมรู้พวกส่วยแถวบ้านผมเด็กเล็กๆประมาณ8-10ขวบจะสามารถพูดได้ถึง4ภาษาด้วยกัน(ส่วย/ไทย/ลาว/เขมร)คุณเชื่อหรือไม่ ผมคนนึงหล่ะที่เชื่อเพราะผมเองพูดได้เหมือนที่กล่าวมาข้างต้นตั้งแต่อายุ7-8ขวบ พูดถึงส่วย(กูย)แล้วทำให้คึดถึงบ้านจังคึดถึงแม่ที่แก่แล้วต้องอยู่คนเดียวอย่างเหงาหงอยไร้ซึ่งลูกหลานมาดูแล เฮ้อ!เศร้าจัง ใครที่เป็นส่วยหรืออยากรู้ภาษาส่วยmailมาหากันบ้างเน้อ เพราะไม่ค่อยได้พูดส่วยเลยตอนนี้ อยู่ก.ท.ม.จ๊ะตอนนี้

ภาษาส่วยวันนี้ อากูด-กบ อากา-ปลา ตำ-ตี กะตูม-อ้อยหรือต้นอ้อย กะนัย-หนู ปะแจด-ฆ่า เช่น ปะแจดโข ก็คือฆ่าวัว เป็นต้นแต่คำว่าปะแจดจะใช้เฉพาะการฆ่าสัตว์ใหญ่เท่านั้น ส่วนสัตว์เล็กๆพวกกบเขียดก่งหอยปูปลาจะใช้คำว่า ตำ เช่น ตำอากูด ก็คือตีกบ ฿฿฿฿จูงกะขรอบหนะขรอบดาย(สวัสดีทุกคน)

จูงกะโผแมะแซมซาย ผมเป็นลูกส่วย100%ตั้งแต่ปู่ย่าตาทวดครับ ภาษาส่วยเป็นภาษาที่มีหลายสำเนียงมากขอบอก ประมาณ5-6สำเนียงเท่าที่ผมรู้พวกส่วยแถวบ้านผมเด็กเล็กๆประมาณ8-10ขวบจะสามารถพูดได้ถึง4ภาษาด้วยกัน(ส่วย/ไทย/ลาว/เขมร)คุณเชื่อหรือไม่ ผมคนนึงหล่ะที่เชื่อเพราะผมเองพูดได้เหมือนที่กล่าวมาข้างต้นตั้งแต่อายุ7-8ขวบ พูดถึงส่วย(กูย)แล้วทำให้คึดถึงบ้านจังคึดถึงแม่ที่แก่แล้วต้องอยู่คนเดียวอย่างเหงาหงอยไร้ซึ่งลูกหลานมาดูแล เฮ้อ!เศร้าจัง ใครที่เป็นส่วยหรืออยากรู้ภาษาส่วยmailมาหากันบ้างเน้อ เพราะไม่ค่อยได้พูดส่วยเลยตอนนี้ อยู่ก.ท.ม.จ๊ะตอนนี้

ภาษาส่วยวันนี้ อากูด-กบ อากา-ปลา ตำ-ตี กะตูม-อ้อยหรือต้นอ้อย กะนัย-หนู ปะแจด-ฆ่า เช่น ปะแจดโข ก็คือฆ่าวัว เป็นต้นแต่คำว่าปะแจดจะใช้เฉพาะการฆ่าสัตว์ใหญ่เท่านั้น ส่วนสัตว์เล็กๆพวกกบเขียดก่งหอยปูปลาจะใช้คำว่า ตำ เช่น ตำอากูด ก็คือตีกบ ฿฿฿฿จูงกะขรอบหนะขรอบดาย(สวัสดีทุกคน) [email protected]

ไชโย เจอคนส่วยเยอะจัง

ผมก็กุยส่วย ศรีสะเกษ อำเภอ เมื่อจันทร์ มีกุยส่วยเประมาณ 60%

แต่ กำลังจะถูกกลืนกิน จาก หมู่บ้านอื่นๆ ที่ไม่ใช้ภาษาส่วยเป็นภาษาพูด

กลัว...สูญพันธุ์ ส่วยจัง.....

ยินดีที่รู้จัก กุยส่วยคนอื่นๆ

ภูมิใจที่เราไม่เหมือนใคร ภูมิใจในความเป็นส่วย

สันติขัย

อ.เมืองจันทร์

เราก็เป็นส่วยภาษาที่ใช้กับครอบครัวคือภาษากวยล้วนๆ พูดได้ 2 สำเนียง แต่ฟังออกหมด เพราะคิดว่ากวยมีหลายสำเนียงเช่นกัน เราคิดอยากจะอนุรักษ์ภาษากวย (กูย) เช่นกัน ทำงัยดี ตอนนี้ถูกกลืนกินไปหมดแล้ว เราอยู่ อ.เมือง บุรีรัมย์

ยินดีรู้จักทุกคนที่เป็นเชื้อสายกวย(กูย)ค่ะ

เราภูมิใจในความเป็นกวยที่สุด....555

mail คุยกันได้ค่ะ ตอนนี้ทำงานที่ชลบุรี

[email protected] (MSN ด้วยได้ค่ะ)

ดีใจมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆได้เจอคนที่มีภาษาเดียวกัน ไฮ มัก หมวง ผมเป็นส่วยศรีสะเกษโดยกำเหนิดภูมิใจมากถ้ามีคนเรียกเราว่าไอ้ส่วย และโกรธมาที่มีคนว่าเราไอ้ลาว ผมไม่ใช่ลาว เพราะเราคือ ส่วย ของแท้ ไม่ใช่ลาว ไอแหละ อะนุ อะแม แซม ซาย ช่วยกันอนุรักษ์ไว้น่ะครับก่อนที่มันจะหายไปจากโลกนี้ประวัติเรายิ่งใหญ่มากแล้ววันหลังจะเล่าให้ฟัง มีข้อมูลเยอะมากเพราะเรียนโบราณคดีครับ [email protected] สำหรับคนส่วยที่อยากคุยกันครับ

ดีใจมากๆเลยครับ

ที่มาเจอ พอดีคุณครูให้ทำรายงานกึ่งวิจัยเกี่ยวกับชาวส่วย

หรือชาวกูย หาข้อมูลยากมากครับ ถึงผมจะเป็นคนส่วยก็เถอะแต่

ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับชาวส่วยจริงๆซะทีแตพอมาเจอดีใจมากๆครับ

แถมยังได้รู้อีกว่าชาวส่วยก็มีเยอะเหมือนกัน ดีดีครับรักกันใว้

เพราะเราเป็นชาวกูย แต่ผมไม่เข้าใจอยู่อย่างหนึ้ฃทำไมคนส่วย

ถึงไม่ค่อยชอบให้เรียกว่าส่วยมันเหมือนเป็นการดูถูก แต่ให้เรียกว่ากูยหรือกวยแทน

มันมีสาเหตุมาจกอะไรเหรอครับ ใครรุ้บอกที....!!!

ตุ๊ก ตุ๊ก ก็เป็น"กอนกูย"(สุรินทร์)

ดีจัย..ที่ได้รู้จัก "กอนกูย" ทุกคนน่ะค่ะ

...ขอบคุณทุกๆคน ที่ช่วยกันอนุรักษ์ภาษาส่วย...ค่ะ

เพราะเด็กๆแถวบ้านทุกวันนี้ ไม่ค่อยใช้ภาษาส่วยในการสื่อสารเนื่องจาก

สังคมนิยม แฟชั่น เทคโนโลยี หรืออะไรก็แล้วแต่

..กลัวว่าซักวันหนึ่งมันภาษาส่วยจะหายไป

...อย่าว่าแต่เด็กๆเลยน่ะค่ะ ตุ๊ก ตุ๊ก เอง เรียนที่กทม.ทำงานอยู่กทม.ก็ไม่ค่อยได้พูด

ภาษาส่วยเท่าไหร่ ก็ไม่รู้จะพูดกับใครนี่ค่ะ..อิอิ นอกจากจะโทรกลับบ้าน คุยกับ

คุณพ่อคุณแม่ พี่ๆน้องๆ เวลาพูดบางคำก็นึกอยู่ตั้งนานว่าภาษาส่วยเรียกว่าอะไร..แหะๆ

...ทุกๆคน เคยสังเกตุมั้ยค่ะว่า บางคำภาษากูย ก็ยากทีจะสะกดเป็นคำพูด

บางครั้งก็จะฟังเพี้ยนๆกันไป แต่ความหมายเหมือนกัน

ยิ่งถ้าคนที่ไม่มีพื้นฐาน(ไม่เคยพูด)ยิ่งแล้วใหญ่...

ก็ต้องอธิบาย ยกแม่น้ำทั้งห้าก็ว่ากันไป...

งัย กอนกูย ก็ช่วยๆกันน่ะค่ะ...สู้ๆ

อ้อ!!....ขอบคุณเจ้าของบล๊อกมากมายค่ะ ที่ทำให้ "กอนกูย"

ได้พบ ได้รู้จัก แลกเปลี่ยนความคิดกัน..

[email protected]

ชาวกูย(Kui) กวย (Kuoy) ส่วย (Suay)

ชาวกูยมีถิ่นเดิมอยู่บริเวณตอนเหนือของเมืองกำปงธม ประเทศกัมพูชา ชาวกูยเคยเป็นรัฐอิสระ ในช่วงพุทธศตวรรษที่20 เคยส่งทูตมาค้าขายกับอยุธยา และเคยช่วยกษัตริย์ เขมรปราบขบถ ต่อมาเขมรได้ใช้อำนาจทาง

ทหารปราบชาวกูยและผนวกอาณาจักรเข้าไป เป็นส่วนหนึ่งของเขมร ชาวกูยชอบการอพยพ เพื่อแสวงหาที่ดินอุดมสมบูรณ์ในการเพาะปลูก ชาวกูยอพยพขึ้นเหนือเข้า สู่เมืองอัตตะบือ แสนปาง จำปาศักดิ์ และสารวัน ทางตอนใต้ของลาว อพยพข้ามลำน้ำโขงเข้าสู่ภาคอีสาน ทางด้านแก่งสะพือ อำเภอโขงเจียม

หลังจากนั้นลูกหลานชาวกูยแยกย้ายกันไปตั้งบ้านเรือน ชาวกูยอพยพเข้าประเทศไทยครั้งใหญ่ในสมัยปลายอยุธยา(..2245-2326) ชาวกูยที่อพยพมา มีหัวหน้าของตัวเอง คนไทยเรียกชาวกูยว่า เขมรป่าดง ชาวกูยเรียกตัวเองว่ากุย กูย โกย หรือกวยซึ่งแปลว่าคนปัจจุบันพบชาวกูยในจังหวัดบุรีรัมย์อุบลราชธานีนครราชสีมา มหาสารคาม สุรินทร์ศรีสะเกษ และสุพรรณบุรี

ชาวกูยมีการนับถือผีและศาสนาพุทธผสมกัน ภายในชุมชนมีทั้งวัดและศาลผีประจำหมู่บ้าน ชาวกูยยังนับถือวิญญาณ ได้แก่ภูติผีปีศาจเจ้าที่เจ้าทางเจ้าป่าเจ้าเขา เป็นต้น ชาวกูยยังเชื่อเรื่องผีปอบ และเรื่องขวัญในหมู่บ้าน จะมีแม่เฒ่าทำหน้าที่ดูแลความเจ็บไข้ชาวกูยเชื่อว่าการเจ็บป่วยเกิดจากการกระทำของผีจึงมีการอ้อนวอนให้ผีพอใจ โดยมีการรำผีมอ ผู้ที่จะรำผีมอต้องผ่านพิธีไหว้ครูครอบครู

ชาวกูยนิยมเลี้ยงช้าง ซึ่งสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ชาวกูยจะออกไปจับช้างในป่าด้วยการคล้องช้าง เรียกว่าโพนช้างเป็นการจับช้างโดย หมอช้าง ใช้บ่วงมาศที่เรียกว่าเชือกปะกำ" ทำจากหนังควาย ถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์เป็นที่สิงสถิตของดวง วิญญาณ บรรพบุรุษ ครูบาอาจารย์คล้องเท้า ช้างแล้วผูกกับ ต้นไม้และนำมาฝึกใช้งานการแต่งกายของชาวกูย หญิงสูงอายุจะนุ่งผ้าที่มีลายใส่เสื้อคอกระเช้า ใส่สร้อยคอลูกปัด เงิน นิยมใส่ดอกไม้หอมไว้ที่ ติ่งหูชาวกูยนิยมทอผ้า เช่น ผ้าจิกกะน้อย เป็นผ้าที่มีลักษณะคล้ายผ้าหางกระรอกมีสีเดียวเป็นผ้า

สำหรับผู้ชายนุ่งในพิธีสำคัญ ๆ ลักษณะการนุ่งจะนุ่งพับจีบด้านหน้า เหมือนการนุ่งโสร่ง ผ้านุ่งสตรีนิยมทอหมี่คั่นเป็นทางแนวดิ่งยืนพื้นสีน้ำตาลอมมีหัวซิ่น พื้นสีแดงลายขิด ตีนซิ่นสีดำมีริ้วขาวเหลืองแดง ผ้าจะกวีเป็นผ้าคล้ายอันลูซีมของเขมร มีลายทางยาวเป็นผ้าที่สตรีใช้นุ่งในงานสำคัญ ๆ

http://www.hilltribe.org/thai/downloads/thai_othertribes.pdf

ยินดีครับ คุณ took มีเรื่องราวที่น่าสนใจนำมาเเลกเปลี่ยนเรียนรู้กันครับ

ฮัยกะกอนกวยเด้อ.....วอเวี่ยกัวกรุงเทพ 7 กะมอแลวแต่กะล็อบดุงตลอดทุกเทศกาล

จีดุงมูฮัยอูสุรินทร์ซะอ๊อบคูดอง...จีเผอะโน๊ะเดวแซมซายคูนะคูได

ฮัยรู้สึกเอ๊อะคลัง๊ๆที่ดิงปายดองเกิดกอนเจาชาวกวยโมดเจาโววหน่อติงกระทู้แน

อย่างน้อยฮัยกะดองเกิดโมเดิลๆๆๆ

สวัสดีพี่น้องชาวส่วยทุกท่านค่ะ เรารู้สึกดีใจมากเลยที่เจอเพื่อนๆเข้ามาคุยกันที่นี่

เราเป็นคนส่วยร้อยปอร์เซ็นอะนะ ชาวสุรินทร์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาชีวิตประจำวันใช้แต่ภาษา

อื่นๆหลายภาษาเพื่อการทำงาน ภาษาส่วยจะมีโอกาสได้ใช้น้อย แต่เราก้อไม่เคยลืมภาษาส่วยของเราเลย

ส่วนมากจะได้คุยกับที่บ้าน เรามีความรู้สึกว่าเราภูมิใจกับภาษาของเรามากๆๆไปที่ไหนเรา present ภาษาส่วยของเราตลอดเลยนะ

แถมยังรับสอนภาษาถิ่นของบ้านเราด้วย ส่วย ลาว เขมร ไง เราได้หลายภาษา

เราคิดว่าเป็นภาษาที่ควรรักษาไว้ .......ถึงแม้เราไม่มีประเทศ แต่เราก็มีภาษาพูดเป็นของตัวเอง

ดังนั้นลูกหลานสุรินทร์จงภูมิใจไว้เถิด

ดีใจอีกครั้งที่ได้มาร่วมสนทนาในวงการส่วย หลังจากที่ไม่ค่อยได้เข้ามาพูดคุยเลย เพราะเรียนหนักมากคะ แต่ตอนนี้ก็ค่อยยังชั่วแล้ว จึงมีเวลาเข้ามาดู เห็นพี่น้องชาวส่วยคุยกันดี ก็ภูมิใจ เรามีน้อยเราต้องรักกันให้มากๆ ถูกมั้ยคะ แล้วตอนนี้ก็แจกเมลล์กันใหญ่ ดีใจคะที่เจอเมลล์คนภาษาเดียวกัน แล้วเจอกันนะเอ็มนะคะ

สวัสดีครับ ชายกุยทุกคน และเพื่อน ๆ ที่เข้ามาในกระทู้นี้

รู้สึกดีใจมาก ๆ เลยครับ ที่มีกระทู้นี้

พอดี เข้าไปใน google แล้วก็กดคำว่าส่วย แล้วมันก็ออกมาจิง ๆ

มีคนพูดภาษากุยในเวปตั้งเยอะแยะ ผมก็เป็นส่วยคนหนึ่งครับ อยู่ที่จังหวัดพิจิตร

เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่อยู่ในจังหวัดนี้ และก็ทั้งหมู่บ้านพูดภาษาส่วย

เนื่องจากว่าบรรพบุรุษของเราอพยพมาจากอ.สำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ มานานมากแล้ว

ประมาณสองสามชั่วอายุคนได้ เนื่องจากว่าหมู่บ้านเราไม่ได้อยู่ทางอีสาน ชีวิตความเป็นอยู่

จึงเป็นออกแนวไทยครับ ภูมิปัญญาท้องถิ่นเหมือนเดิม

เด็กรุ่นใหม่มีการศึกษาทั้งหมด ผมก็เป็นคนหนึ่งที่มีโอกาสได้ศึกษา

ผมจบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ครับ ปัจจุบันทำงานแล้ว ก็ทำอยู่ที่เชียงใหม่แหละครับ

แต่ตอนนี้มาเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนที่ประเทศไต้หวัน ที่มหาวิทยาลัยจงชิงครับ

รู้สึกเหงาก็เลยลองค้นชื่อส่วยดู เพราะคิดถึงบ้าน ก็เลยมีโอกาสได้อ่านกระทู้นี้

อยากให้ชาวส่วนทุกคนรักกันให้มาก ๆ นะครับ

แล้วจะแวะมาทักทายอีกครับ

กอนกุย

จูงก๊ะแซมซายครอบหนะ ไฮกูยสีขอแต่ติดสำโรงเถียบ ดีจัยมากๆที่มีเพื่อนชาวกูยที่ยังภูมิจัยในความเป็นส่วยของเรา อยากรู้จักพี่กอนกูยที่อยู่พิจิตรจังเลย อยากรู้ว่าชาวกูยที่นั้นมีวิถีชีวิตอย่างไร ยักดิงปายแซมซายไอกูวัวจานะเหนีย ไอดองเกอดประเพณีแบบเซาะมาไฮเถ หนะแกลมอแกลออ ท้ายนี้ขอกล่าวคำว่า เจาจาโดยเยอแซมซายครอบหนะครอบดาย แอม แอ๊ม หมะเหลย ซึ่งไปที่ไหนเราจะเรียกพี่น้องหรือผู้ที่ผ่านไปมาเวลานั่งกินข้าวกัน เป็นวัฒนธรรมที่หาได้ยากทุกวันนี้ จูงก๊ะ

สังออบสำปอนุเอวแซมซาย สวัสดีพ่อแม่พี่น้อง คำทักทายจากส่วยบัวเชดจังหวัดสุรินทร์ ดีใจที่ทุกคนเริ่มหันมาต่อสู้เรื่องการศึกษาจนพัฒนาตัวเองและครอบครัว แต่อยากฝากว่าคนที่ด้อยโอกาสยังมีอีกมากมายช่วยกันหน่อยได้ไหมอยากมีการตั้งชมรมหรือสมาคมชาวส่วยในเมืองกรุงหรือคนไกลบ้าน เพื่อจะได้ทำกิจกรรมได้ง่ายขึ้นโอนะครับ

ไฮกอนกวยอำเภอสนม จ.สุรินทร์ ภูมิใจมากที่ได้ร้จักเเซมซายกอนกวยขูนะขูได

ปิปายเวลาจึงผ่านจีดูนซำนาไฮกะจึงเวาภาษากวยตลอดจี

ออมะฮอมที่บืนพบปะกอนกวยคือหนอ

ไฮกอนกวยสุรินทร์ อ.สนม

ถามีโอกาสออนเจาจาโดยเยอแซมซาย

ไฮกะกอนกวยคือกันไฮกวยอ.สนม จ.สุรินทร์

ไฮเอ๊อะคลังๆที่เผอะเเซมซายกวยจ.ต่างๆ

หวังปายแซมซายกวยคงฉอยหนออนุรักษ์ภาษากวย

ต่อไป ซำแนเฮยจียวงเดอ

(ออหะ) ดีนะครับที่มีที่มาที่ไปของชาวกวย หรือ กุย มาให้เพื่อนๆได้ศึกษาหาความรู้ กอนกวยบางคนอยากดรู้มากเลยว่า เรามาจากใหนมีที่ตั้งเดิมอยู่ที่ใหนอย่างไร ผมเคยคิดอยู่ว่าลูกหลานชาวกวยของเราน่าจะมีเวพ ของเราขึ้นมาบ้าง วันนี้คิดยังไงลองเปิดดูเพื่อพี่กูเกิ้ลมีแต่มีจริง ผมก็พยายามหาข้อมูล กับโนะเทาแมะเทา ว่าเรามาจากใหนเมืองหลวงของเรามีใหมก็ได้ข้อมูลมาบ้าง ไม่รู้วาจะตรงกับความเป็นจริงเท่าใร แต่ก๊อยากเอามาบอกเล่าต่อกันฟัง เขาเล่าต่อๆกันมาวาปราสาทศรีขรนี้คือเมืองหลวงของชาวกวย แต่เพราะความที่มีผู้นำเป็นผู้หญิงจึงคิดว่าผู้หญิงคงนำความมั้นคงและความรุ้งเรืองไม่ได้จึงพากันแยกย่ายกระจายไปทั้ว คือศรีขรเป็นศูรย์กลาง พอแยกกันก๊กระจายไปอยู่ทั้วไป ก๊มีอยูอที่ศรีษะเกต ร้อยเอ๊ต บุรีรัม อุบลบ้างและอาจจะที่อื่นอีกอันนี้ผมก็ไม่รู้ สักเท่าใหร่ ผมก็ลงตามข้อมูลตามที่ผมได้รู้มาเพื่อไครที่รู้ความเป็นมาที่ถูกต้องมาให้ความรู้เพราะกอนกวยคนนี้อยากรู้ความเป็นมาของเราให้มากกว่านี้ อยากจะให้ชาวกวยเราไครพอมีข้อมูลช่วยลงไว้ให้เพื่อนๆๆอ่านด้วยเด้อแซมซาย อาจถูกบ้างผิดบ้างก็ต้องขออภัยแซมซาย คืออยากจะแชความรู้ที่ได้มาจากพ่อแม่ท่านได้เล่าไห้ฟัง

จูงกะมอไมชาวกูย เราคนหนึ่งที่เป็นคนกูยของแท้ มาจากอ.ศีขรภูมิ สุรินทร์ ออบบือคะนะคะดาย จาโดยเย้

ไฮ กุย อำเภอ วชิรบารมี จังหวัดพิจิตร ไฮ ผลัม ดิง หวาว เกิด ภาษา กุย เจา หวาว ดังเอาะ โม หมวง เกิด นะ เหยีย หนึด ยัง จี เถียว เชาะตี อ๋อ หนุไฮกู พา ไก ดูนเหลว ไฮ ปะ เคย จี ฉัม บ่ายโอกาศหน้าพบกันจร้า

กอนกวย อ.สนม จ.สุรินทร์

ไฮกอนกวยอ.สมม จ.สุรินทร์ โคล๊ะไฮเวากวยจิมโคล๊ะ ภูมิใจที่บืนเกิดเจาเกิดกอนกวย

ภาษากวยโมไฮควรอนุรักษ์เดอะต่อไปในอนาคต อาจปิเกิดกวยเวากวย กวยไฮกะเกิดภาษา

วัฒนธรรมเราไม่เห็นต้องยืมวัฒนธรรมภาษาอื่นมาใช้เลย

ไฮอยากเจาเชิญชวนเเซมซายกวยเจาจัดตั้งสมาคมชาวกวยกูยเพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรม

ประเพณีของชาวกวยกูยอย่างยั่งยืน

กอนกวยจงเจริญ

ส่วย บุรีรัมย์จร้า

ไฮกะกอนกูยคือเนียอิงเหอย กอนเจ้า อ.เมือง จ.บุรีรัมย์

ไอเหอมอไฮควรตอยรักษาดัว

จูงกะ แซมซายกอนกูยครอบหน่ะ ไฮกอนกูยล้านเปอร์เซนต์ ตอนนี้อยู่จังหวัดเลย แม่ะหนุ่กูบุรีรัมย์ครับ

อยากให้กอนกูยทุกท่าน ภูมิใจในความเป็นชาวกูย เคารพเชื่อฟัง พ่อ แม่ บรรพบุรุษ ยึดถือปฏิบัติ

ในสิ่งที่ดีงาม พากเพียรหาความรู้ ต้งใจทำงาน รักษาวัฒนธรรมที่ดีงามของพวกเราไว้ ชาวกูยมีน้อยเรา

ชาวกูยทุกคนคือแซมซายกันหมด รักกันให้มากมากนะ

จาก นะโม แจ่มใส

ไฮกอนกวยสเร็น กัวอำเภอศรีขรภูมิ  ไฮดีใจที่โจเกกิดกอนกวยสเร็น

สวัสดี โนะแมะ แซมซาย โมมองสาเขลโทระกาเชวอิง ไฮกัวโทระกาเชว อำเภอศรีขรภูมิ จ.สุรินทร์ กาไดสาเขลตอบลบโจเน้อ

เด้อ ไฮดีใจที่แซมซายกูยมาไฮ ผิเคยเกละภาษาดุงมาไฮเอง เพราะปายบางเน่อโมเนาซ่องไฮโซล เนาปายเตอะไฮหนาหานโซล

โมเน้อเนาผิหานโซล เนาอาทรอง ไฮเลยเวาปายอาทรองวานอภาษาเน โนะแมะเนาอันโจแต่เกิด สำเนไฮกะภูมิใจแลว สำเนเด้อ

ไฮวองานกัว อันเบ่รอันบรืนโทรบนะเด้อ กอนกวยสาเร็น

จุงกะ มไฮแซมซายกอนกวยคร็อบเนะ ดุงไฮกัวอำเพอซีนารง จังวัดซเร็น โซล มนายกวย จหมึ่ไฮ.. อาอึง = สวัสดีครับพวกเราลูกชาวส่วยทุกคน บ้านผมอยู่อำเภอศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทรื พูดภาษาส่วยครับ ชื่อผม..อาอึงครับ

บืนโมดโจ อาน มนายกวยโมมองเคียนเดาะ ไฮกะเอ้อ มะฮอม แลวกะออมะฮอม ทีด็องเกอด มไฮโมกวย โจเคียน มนายกวย โซลกันดอ ติงมนายกวย นะปายเฮย มนายโซล เล๊าะซำเนียงพึนะกันดอ คนาด โคร๊ะกัวเท็ดดอ ด็องโซลซำเนีงพึนะดอเทมอง= ได้เข้ามาอ่านภาษาส่วยที่พวกคุณเขียนไว้ ผมชอบใจ แล้วก็ดีใจ ที่ยังมี พวกเราชาวส่วย มาเขียน พูดกัน ด้วยภาษาส่วย อย่างว่าละครับ ภาษาพูด ออกสำเนียงไม่เหมือนกัน ขนาดหมู่บ้านอยู่ใกล้กัน ยังพูดสำเนียงไม่เหมือนกันเลยคุณ

จูง กะห์ ... ผมว่าภาษากูยที่พิจิตร น่าจะแยกไปแถบบ้านหนองดุม บ้านสะโน อำเภอสำโรงทาบ จ.สุรินทร์ จากสำเนียงพูด ส่วนผม กอฺนกูยโซระก์โพธา หรือ กะทา เทินโผรงเถียบ ซแร็น ไตร อเลอะ ยังคลัง ที่ บืน จะงัด มนาย โซล มนายหวาว ค็อง กูย-กวย โมไฮ หนะเหนียก้อเเซมซายอึนดัว .... แซมหนะซายจาตะกายหนะอึนหนี ปัฮแซงกังอึนดี แจะก์หนะอึนหนีจาแอ็มๆๆจะงัญๆๆ 

บันทึกนี้ถูกเขียนในวันที่ดีครับ ;)...

ซาวัดดี หนุ๊-แมแซมซาย

ฮัยก็กอนโกยเถ

โกยศรีสะเกษ

ตอนแหน แซมซายฮัย กามอนเหวาโกยผิเกิดแหลว

เกร๊อะ โกยเซ็ดแหลว

จางัดก็ผิดิงโกยแหลว

ฮัยอยากออนแซมซายเจาเหวาโกยและอนุรักษ์ภาษามาฮัยดั๊วะหนืด

ตอนแหนฮัยก็โก จ. เลย

อยากโซยโกยผิเกิดไดโซยเกิดเหลย

ขิดเตอะ หนุ๊-แม เด้

ออแบละบืน เด้อ โผะ เผะแซมซาย ครบนะ ไฮเกิ๊ดกูยนะดัว โผะเฒา เผะเฒาเจารู อำเภอ สีขอ เจากูสังขะ ไฮออ มฮอมคลัง

เจาเผอะแซมซายกูย ดาลโซะดาลแซ เจาวาวทัวนึงแน รูเดิม ไฮคึดปายเกิดกูยกูนึงอีสานใต้ มะไกเอง แต่ปายเจาเผอะกูย มเนา

พิจิตร ปายจีตะ ซำโรงเถียบ ดุงเผะกอนย์ ไฮกุโซะเผิลนาโซะจังเกา ไฮ พเยียะ ออนแซมซายกูย มะไฮ วาวกูยจี รื่ยๆ กอนกะแนน

ตะไมๆ ออนไอดิงวาวนึง นาโซะมไฮกูยวาวตะ เลียว กอนแนนดิงตะเลียว บ ดิงกูยฉำ โมหมวงจีบวนเนีย ออนวาวกูยเด้อ

ย่ะ อซอง มเนา บ เกิดดายจงัดเรอะเออะ ออมฮอมเลอะ ดิงตะมไฮ แซมซายนาโซะ ตรม โซะรูง โซะต๊ะ โซะอะเรียง โซะมันดู

โซะค็อง (แถบ บ้านตรึม นารุ่ง หนองเหล็ก อาราง ดู่ ม่วง ) เจาเผอะทัว ทักทัวนึงเอด้อ แซมซายเอย จียูง

จูงกะ หนุเมะแซมซายคุนะคุดาย กุออแบละบืนครบนะหะน้อ เกิดนะเนียหนึ ไฮออ มฮอมคลัง

เจาเผ้อแซมซายกูย ดาลนะ กูยไอเกิ๊ด ดาลสำเนียง ไฮกุ อำเภอสังขะ แต่ปายอะเมะมไฮ เจาตะ อำเภอสีขอระพูม

วเลียจีโรงเรียน วาวกูยนึงโม บควยดิงรืงเออะ เกิ๊ดตะกูยกะมลอ แต่ปายกะสื่อสารทัวพัวดิงรืงกู เกิ๊ดนะเนีย กะเจาโพสต์ดัวะ

นึงแนเด้อ

สวัสดี หนุแม่๋แซมซาย กวย ทังกัวในซียม เลียว เขมร์ หรือกวยที่กัวประเทศเนียทุกๆนะทุกจะ ทังกวยทรู่ กวยกะไป เองกวยจังหวัดสีเกด กะดีใจที่บืนเผอกวยซิเกราะกวย กะนาออนไล ตอนแน๋กอนกะแนนรุ่นเกริย ทั้งกอนกะแนน ทั้งกะมอนกอนเซา ซิเกิดได๋เว๋าภาษาก๋วยแล๋ว จีเว๋าแต่ภาษาเลียว ภาษาเซียม ทั้งที่ภาษากวยเป็นภาษาที่น่าจะอนุลักษ์เด๊วะ ก็เลยอยากกะเตออนแซมซายกวยส๋วยดั๋วออน

กอน กะมอนแซมซายอนุลักษณ์ภาษาส๋วยดั๋วเหน่อเด้อ

ป.ล กะงัดเพลง ภาษากวย ขะมึอเพลง ไฮมักมอง(ฉันรักเธอ).แล๋วกะเพลง ละเมือยพุง

ไง แนออนกวยกะงัดเพลง กวย http://www.youtube.com/watch?v=DWKm3ErOMP4&feature=related และเพลงhttp://www.youtube.com/watch?v=lBNdnxkFgVk&feature=related

หวัดดีครับ ไม่มีใครทักทายกันเลย พอดีวันก่อนผมได้คุยกับน้องสาวคนเขมร์ ว่าเคยไปบริจาคเสื้อผ้าที่บ้านเวินบึก เขมราฐ อุบลราชธานี พบ ชนกลุ่มหนึ่งที่เรียกตนเองว่า บรู (ภาษาส่วยคำว่า บรู น่าจะแปลว่าภูเขา) ซึ่งบรูก็คือส่วย (กวย) นั้นเองเพราะพูดเหมือนภาษาส่วยทุกคำ(อาจเพี๊ยนไปนิดหน่อย) แต่ที่สำคัญ เขามีภาษาเขียน เลยอยากให้คนที่อยู่ใกล้แหล่งที่ว่า หรือคนส่วย(กวย) ที่อยากศึกษาอย่างจริงจังไปตรวจสอบว่า มันจริงหรือไม่ ถ้าจริง ถือว่าสำคัญมากในบรรพบุรุษ หรือประวัติศาสตร์ส่วยครับ

จูงกะ แม๊ะโพแซมซาย ไฮกอนขะเเม แต่ก็พูดส่วยได้เเละฟังออก เพราะว่าผมพูดได้หมดทั้ง ส่วย ขะเเม ไทย ลาว ตั้งแต่เรียนประถมแล้วครับ ที่หมู่บ้านผม มีทั้ง 4 ภาษาเลยครับ

ใครอยากติดต่อผมคุยเรื่องส่วยหรือเรื่องไรก็ได้ที่อีเมล์ [email protected] หรือ เฟสบุ๊ค Lhearm Teerabood ครับ ขอบคุณกวยซุนะซุจะ ครับ

จูงกะ ไฮกูย อ.จอมพระจ.สุรินทร์ไฮคึดเต๊อดุงพัว เยี๊ยหลอบดุง เยี๊ยววาวกูยก้อปิบืนวาว ปิดิงจิงวาวนะดาย สุดท้ายแนออนกอนกูย มี มี คุนะ คุนายเด้อ

จูงกะไฮกูย อ.จอมพระ กอนกูยสมัยแนไอปิหานวาวภาษากูยเออ ไออะซอง กูยเฒ่าเซาะไฮเยียปาย พงกบถเชียจ พงมวงปายคือไฮเท

จะงัดเพลง ไฮมักมวง เดอง เหาะกูยร้องเกิดภาษากูย สวดยวด กูยผสมเกาหลี 555+++

ขีนเจาแกนนะไฮหนืดเด็อ แอต ไฮเกิดกะเนียกะเบืยน ไฮจิจำเด้อ....กูยเซาะพระ

ไฮก้อกูยเซาะผระ ขือเหนีย เออะดาล ที่แซมซายกูยไฮเจาหวาว กะเหนีย ออน ชูย กะเหนีย อนุรักษ์ ภาซา พองไฮ ดัวะ ดูงล์ๆ

Jo yer mo hi suay, guay, guai, yer, soang, .... , ( come on, come on , we are Suay, Guay, Guai, Yer, Soang, etc.),

Hi guay jung wad saren, ( I am a Guay in Surin province)

umper Sungkha, Tumbon Gratiam,

jee berng hi tern o link  tung gadorb der. (more about me is in the following link.) 

http://siamlocalnews.com/surin/?gid=&issueid=1808

http://www.moralmedias.net/index.php?option=com_content&task=view&id=107&Itemid=1

ผมสนั่น แสงแก้ว ครับ เป็นชาวส่วย ที่ อ.เมืองจันทร์ ศรีสะเกษ ครับ ดีใจครับที่่ได้เกิดมาเป็นส่วย เคยคิดเหมือนกันครับว่าต้นกำเนิดของคนส่วยมาจากที่ไหนแต่พอเข้าไปอ่านในกูเกิลแล้วถึงบางอ้อ ขอขอบคุณทุกคนๆคนนะครับที่ได้นำข้อมูลของคนส่วยมาให้ได้ศึกษาส่วนผมจะได้ไปบ

ดีใจครับที่ได้เกิดมาเป็นส่วย ผม เป็นช่าวส่วย อ.เมือ่งจันทร์

สวัดดีโนะแมะแซมซาย

ไฮ....กอนกวยทรุเผิลผืด ต.เมืองไผ่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ งัยแน มืนโมดเจาแมกระทูกอนกวยโมไฮ เผือความเห็นคองกวยเจากวยโมไฮ กะวอออนจะออบปะฮอมคลัง ที่ปายสมัยนอๆ แซมซายมืนโมดเจาคุยหนอนึงเวปไซส์แน ไฮยะดิงปาย การแต่งตัวคองกอนกวยปาย แบบเยืองคองฮับ ระกวด คองกวยกะไป กวยทลุ เกิดนะนา แอแบบมาตรฐานเกิดนิเยือง แต่กะเขยเผือนึงเวปไซส์แทวๆ สุรินทร์ ไอกะซัม ยะมืนเจาแตง เวลาวอเวียะ พอกะไดเผือปุ๊ป กะิดิงปายแหนแซมซายซะเอง กะจิงมืนคุยหนอเวาหนอ งัยแนม่ะแน ยวงเน้อ วอเวียะยวง บิเจานายเนาเวาผืน....หวัดดีคับ 

 

สวัดดีครับขอแนะนำตัวกอ่นครับผมชื่อปรีชา  คุชิตา อยู่บา้นเสม็จต.เสม็จอ.สำโรงทาบจ.สุรินทร์บา้นผมกวยทั้งตำบลเลยคับผมอยากรู้มานานแล้วว่าบรรณพบุรุษผมมาจากใหนและทุกวันนี้กวยอยู่ประเทศใหนบา้งครับอยากรู้ว่าเขายังพูดภาษากวยอยู่ใหม่และอีกอยา่งผมอยากให้ลูกหลานกวยพูดกวยกันถึงแม้แต่ละที่สำเนียงจะตา่งกันแต่คุยกันรู้เรื้องครับและถ้าใครมีเรื้องราวของชาวกวยเราส่งลายมาเลยครับเบอร์0985149236สนใจมาก กอนกวยขึดเต๊าะแซมซายขูแนะออนแบระบรืนจะแงดจะเงิมเดอ้

เพิ่งเล่นเป็น ได้อ่านข้อมูลแต่ละท่านแล้วเยี่ยมจริงๆ ผมนี่ชนชาติพันธ์กวยแท้ๆเลย พยายามหาวิธีการพีเซ๊นภาษากวยให้ชาวโลกได้รับรู้ ด้วยการแต่งเพลงกวยสมัยอยู่ทำงานอยู่ไต้หวันปี 2540-2544 กลับมาบ้านก็เอามาร้องเล่นในวงเหล้า ไม่เคยคิดว่าจะได้ทำเพลงกวยจริงๆจังๆ เผอิญมีครูเอกดนตรีมาสอนที่บ้านเลยได้รู้จักกัน แต่ครูเป็นคนลาวร้อยเอ็ด พอผมร้องกอนกวยสะเร็นให้ฟัง เขากลับมีความรู้สึกชอบจังหวะและทำนองทันที เลยลองเอาไกด์ไปลองทำลายดนตรีดู ทั้งทีตนเองฟังไม่ออก แล้วมาเล่นให้ผมฟังถูกใจ เลยทำทุกคนรู้จักเพลงกอนกวยสะเร็นจนถึงทุกวันนี้ และเกิดอัลบั้มชุดที่สองชื่อกวยสะท้านแผ่นดิน ในที่สุดก็มีน้องๆศิลปินกวย-กูย ผุดขึ้นมาเยอะแยะ ดีใจที่ทุกท่านช่วยสืบสานภาษา-วัฒนธรรมของเอาใว้ไม่ให้สาบสูญ ยิ่งเด็กรุ่นหลังๆเจอกันพูดแต่ไทย นับวันภาษาเราจะหายไปทีละน้อย ต้องขออภัยทุกท่านมากๆ เพราะตอนนี้ผมเป็นผู้ใหญ่บ้าน เลยไม่มีผลงานให้ฟัง คิดว่าอีกไม่นานเดี๋ยวมีแน่นอน

สวัสดีครับทุกท่่าน ขอบคุณ คุณพี่จตุพร อย่างมากครับ ที่เปิดพื้นที่ให้ผู้ที่เรียกตนเองว่า กูย กวย มาพบปะพูดคุยกันทางสังคมออนไลน์ ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน เป็นบรรยกาศที่ดีมากๆ ครับ ผมอยากพูดคุยปรึกษา พี่น้อง แซมซาย ว่า ท่านมีความรู้สึกอย่างไรที่มีคนที่พูดภาษาอื่นเรียกท่านว่า ส่วย จริงๆ แล้วในชุมชนที่เป็นภูมิลำเนาที่ท่านอาศัยอยู่ เขาเรียกตัวเองว่า กูย กวย หรือส่วยครับ ท่านมีทัศนคติต่อคำว่า ส่วย อย่างไรบ้างครับ ท่านยังคงให้คนที่พูดภาษาอื่นๆ เรียกท่านว่า ส่วย หรือเรียกว่า กูย หรือ กวย ครับ

เป็นลูกส่วย เหมือนกันค่ะ ภูมิใจในความเป็นส่วย จ้า "จู๊กก๊ะ เด้อแซมซาย วั่วงานกู่ งัยแหน่ ผุค่วยจะเอือบ"

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท