จากสนามหลวงถึงพัฒพงษ์


ถ้าพวกเขามีทางเลือก คงเลือกที่จะทำอาชีพอื่น..หรือฉันคิดมากไป

จากพารากอน แรงเราสองคนยังเหลือ แต่เป้าหมายท่องเมืองกรุงยามราตรียังไม่บรรลุจุดประสงค์ สถานที่ต่อไปที่เลือกไปเยือน เปลี่ยนแนวเป็นวิถีชีวิตคนกรุงแทนสีสันในยามราตรี "สนามหลวง" ไปดูแสงไฟของวัดที่รายรอบบริเวณเคยเห็นครั้งหนึ่ง สวยประทับใจทีเดียว

พาหนะของเราคือ พี่แทค นั่งไปคุยไป สัมภาษณ์พี่คนขับไป พอทราบจุดประสงค์ว่าเราจะไปเดินเล่นกันที่สนามหลวง ด้วยความหวังดี จึงฝากเรื่องเล่าเตือนระวังให้พวกเราหนึ่งเรื่อง

"มีน้องๆ มาเดินเล่นดูของที่วางขายรอบสนามหลวงกันตอนดึกๆ มากัน 3 คน สองคนก็เดินคู่กันข้างหน้า อีกคนเดินตามหลัง มีคนเข้ามาจี้คนข้างหลังที่เดินคนเดียว โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น คงเพราะมืด จึงไม่เห็นแสงวับๆ จากปลายมีด กว่าที่เพื่อนคนหน้า หรือใครๆ จะทราบว่ามีการจี้ปล้นเกิดขึ้น โจรผู้นั้นก็เดินหายไปกับความมืดและฝูงชนไปเรียบร้อยแล้ว" 

เมื่อรถถึงที่หมายเราขอบคุณพี่คนขับที่ขับรถมาส่งและเล่าเรื่องราวให้ระวัง หรือระแวงจนเดินไม่ค่อยมีความสุขเท่าไร ทั้งกอดกระเป๋าแน่น ทั้งเดินติดเพื่อนเป็นตังเม ที่สำคัญไม่ได้ถ่ายรูปมาด้วย...ทั้งๆ ที่ตั้งใจจะหัดถ่ายรูปแสงไฟยามค่ำคืนสักหน่อย

รอบสนามหลวงมีของวางขายแบกะดินมากมาย ตั้งแต่หนังสือ รองเท้า เครื่องเสียง จนถึงอุปกรณ์ก่อสร้าง  เราสองคนไม่ได้ซื้ออะไรจากที่นั้น เนื่องเพราะมองไม่เห็นเลยว่าสภาพของเป็นอย่างไร แสงสว่างที่มีมาจากเสาไฟที่มีเป็นบางจุด โคมไฟเล็กๆ ที่เจ้าของแผงเปิดไว้ และแสงไฟจากหน้ารถเป็นระยะ ไม่เพียงพอสำหรับเราที่จะเลือกซื้ออะไรได้

สถานที่ต่อไปที่เราตกลงว่าจะเดินทางไป ค่อนข้างเปลี่ยนแนวเล็กน้อย
เราเลือกไปสถานที่อโคจร
“พัฒพงษ์” แหล่งบันเทิงของคนกลางคืน
เราเดินเข้าหลายซอยในย่านนั้นเพื่อเลือกว่าจะแวะเข้าไปชมบรรยากาศในร้านไหนดี  
ท่ามกลางผู้คนเดินเบียดเสียด บ้างกำลังมองหาร้านที่จะนั่ง ด้วยการพินิจจากนอกร้านเข้าไปซึ่งประตูถูกเปิดออกให้เห็นอย่างจงใจ โชว์กิจกรรมและความงามของสาวเจ้าในร้านให้เห็นรางๆ
เพื่อจุดประกายในการค้นหาสิ่งที่ยังมองไม่เห็นด้านใน
 
บ้างเดินเรียกลูกค้าให้เข้าไปร่วมวงพาทีกันในร้าน  
บ้างถือกระดาษแผ่นเล็กๆ ยื่นให้ผู้ผ่านไปมาดูว่าสนใจในสิ่งที่เขาเสนอหรือไม่  
บ้างงงงวยกับสิ่งที่เห็นและมีความคิดค้านในสายตาว่ามีเช่นนี้ด้วยหรือ...เหมือนฉัน  
สุดท้ายเราเลือกนั่งร้านกาแฟที่มีขนมเค้กวางเชิญชวนเราที่เริ่มหิวยามดึก

สิ่งที่วนเวียนอยู่ในห้วงคิดของฉันตลอดคืนนั้น..

อาชีพให้บริการของหญิงสาว...

ทั้งใต้ต้นมะขามสนามหลวง และบนเวทีใต้แสงไฟ  
ฉันหยุดยืนมองแบบไม่ให้เจ้าตัวรู้ว่าเราเสียมารยาทยืนเพ่งการทำมาหากินใต้ต้นมะขามของเขา
บางคนยังเด็กฉันสังเกตจากสัดส่วนที่ยังไม่เว้าโค้งมากนัก
 
บางคนมีแววตาก๋ากั๋นกร้านโลกไม่แยแสกับสิ่งที่ตัวเองทำ  
บางคนมีสีหน้าเศร้าสร้อยเหมือนครุ่นคิดอะไรตลอดเวลา  
บางคนยืนเกาะหน้าต่างรถที่มาจอดเทียบท่าเพื่อต่อราคาแล้วเดินกลับมาด้วยสีหน้าผิดหวังคงเพราะตนถูกประเมินราคาต่ำกว่าที่ประเมินตัวเองไว้
 
บางคนยืนทอดอารมณ์พร้อมพ่นควันบุหรี่รอคอยอะไรบางอย่าง  

ทั้งบนเวทีในซอยบนถนนสีลม ร้านรวงต่างแสดงให้เห็นความสวย น่ารัก ขาวผ่อง และยั่วยวนของสาวนุ่งน้อยห่มน้อยผ่านประตูที่เปิดอ้า หรือโปสเตอร์ขนาดใหญ่ เพื่อจูงใจให้ลูกค้าเข้าไปเลือกสรรหาเพื่อสร้างความบันเทิง

ไม่มีอะไรในสมองของฉันมากมายนอกจากความว่างเปล่า  ใจฉันเบาหวิว รู้สึกมวนท้อง ตลอดระยะเวลาการมองเห็น...

ฉันมีคำตอบของความรู้สึกนี้เพียงประโยคเดียว..ถ้าพวกเขามีทางเลือก คงเลือกที่จะทำอาชีพอื่น...

หรือฉันคิดมากไป

-------

กรุงเทพฯ 2551

คำสำคัญ (Tags): #ท่องกรุง
หมายเลขบันทึก: 244294เขียนเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2009 10:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2012 14:41 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

ขอบคุณครับที่แวะไปทักทาย เห็นด้วยครับ ที่ว่า

ถ้าพวกเขามีทางเลือก คงเลือกที่จะทำอาชีพอื่น...

สวัสดีค่ะน้องพิมพ์ดีด

อ่านแล้วสะท้อนใจ....นะ....

คงไม่มีใครอยากทำงานที่สังคมไม่ชื่นชม....

บางคนไม่มีทางเลือกอื่น

บางคนเลือกได้แต่ไม่มีสติปัญญาพอที่จะเลือก

บางคนอยากเลือก แต่ไม่เข้มแข็งพอ...

อยากให้ทุกคนมีความสุขกับสิ่งที่เขาเป็น ... ว่าไหมคะ

(^___^)

  • ถ้าเป็นไปได้
  • คงไม่มีใครเลือกอาชีพแบบว่า
  • ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
  • ไม่ไกลจากพระบรมมหาราชวังเลย
  • เริ่มไม่เข้าใจอะไรเกี่ยวกับเมืองพุทธเท่าไร
  • หรือเราไม่ได้ศึกษาที่แก่นพุทธศาสนา

อ่านแล้วสะท้อนใจ บางคนทางเลือกเค้ามีมากมาย แต่เค้าเลือกที่ก้าวไปอย่างที่เราเห็น ไม่รู้ด้วยสาเหตุใด แต่คิดว่าเค้าคงมีความสุขในสิ่งที่เลือกนะคะ

สวัสดีคะ คุณพันคำ

ขอบคุณที่แวะมาทักทายเช่นกันคะ

กำลังคิดใหม่ว่า..บางทีเค้าอาจพอใจกับสิ่งที่ได้เลือกไป ถึงแม้ว่าจะมีทางเลือกอื่นที่คนอื่นเห็นว่าดีกว่า...กระมัง

---^.^---

สวัสดีคะ พี่คนไม่มีราก

ขอให้ทุกคนมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองเป็น...นะคะ

หวังว่าคงสบายดี

---^.^---

สวัสดีคะ พี่ อ.ขจิต

เฮ้อ! เมืองไทยนิแหละหนา...ยากแท้หยั่งถึง

หวังว่าพี่คงหายป่วยบ้างแล้วนะคะ

---^.^---

สวัสดีคะ คุณทรายชล

เลือกแล้วก็คงต้องอยู่กับสิ่งที่เลือก และอยู่อย่างมีความสุขด้วยนะคะ

ขอบคุณสำหรับข้อคิดเห็นคะ

---^.^---

  • สวัสดีค่ะน้องพิม
  • แวะมาติดตามอ่าน
  • เห็นแล้วเศร้า (เราเอง)
  • พี่เคยไปแถวนั้นโดยบังเอิญเพราะไม่รู้ (shopping ค่ะ แต่มองซีกไหนก็เห็นแบบว่าเต็มไปหมด) พวกเราก็ต้องรีบเดินไปไกลออกจากบริเวณนั้น
  • เดี๋ยว...เข้าใจผิด แย่เลย!
  • สมัยเป็นนักศึกษาพยาบาลจำได้มีวิชาหนึ่งครูพาเยี่ยมแหล่ง
  • ก็ได้ไปแลกเปลี่ยนพูดคุย ส่วนใหญ่ทำด้วยความสมัครใจ
  • เขาตอบว่า....เพราะรายได้ดี (ผู้หญิงสวยมากๆ ดูเรียบร้อยด้วยค่ะ) ....ทุกคนเลือกเป็นเอง...หรือบ้างอาจถูกเลือกทำด้วยภาวะจำยอม  คาดที่จะเดาได้ค่ะ
  • แต่คนกลางคืนดูภายนอกเขาไม่มีความทุกข์เลย

สวัสดีคะ พี่เกศ

เลือกที่จะทำเองก็คงมีความสุขบนการตัดสินใจด้วยตัวเอง...

เราก็ได้แต่มองเฉพาะในมุมของเรา...ดันไปทุกข์แทนเค้า...ทำไม

ขอบคุณที่แวะมานะคะพี่เกศ

หวังว่าคงสบายดี

---^.^---

แวะมาส่งกำลังใจในวันหยุดค่ะ

นำเมนูรสเลิศมาฝากนะคะ

(¯`°.•°•.★* ตลาดนัดอาหาร *★ .•°•.°´¯)

ถ้าเลือกได้คงไม่มีใครเลือกอาชีพนี้ แต่มันก็ไม่ได้เป็นอาชีพที่ต่ำจนเกินไปนี่คะ และมันก็เป็นอาชีพที่สุจริตด้วย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท