กอขอเป็นกำลังใจให้คุณมีนา
สู้ ๆ สู้โว้ยค่ะ
ด้วยบันทึกนี้น่ะค่ะ
บริจาคโลหิตกับงานอนามัยโรงเรียน
ดิฉันต้องขออภัยต่อท่านสมาชิกทุกท่าน ที่ช่วงนี้ดิฉันมีงานมากจนไม่อาจที่จะไปตอบให้ถึงบล็อกท่านได้ ก็พยายามจะหาเวลาให้กับท่านทั้งหลายอยู่นะค่ะ ด้วยเหตุว่าหลายท่านที่ได้แสดงความคิดเห็นมานั้นเป็นประโยชน์ต่อการทำ คศ. 3 เป็นอย่างยิ่ง ทั้งคำแนะนำ การแสดงความคิดเห็น
ต้องเรียนตรงๆว่า การแสดงความคิดเห็นของท่าน ได้ปลุกให้เกิดความคิดใหม่ๆ บางครั้งทำให้เข้าใจในสิ่งที่จะทำได้ดียิ่งขึ้น
เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 ที่ผ่านมา ดิฉันได้นำนักเรียนไปร่วมบริจาคโลหิตร่วมกับทางอำเภอร่องคำ นำโดยท่านดร.อลงกต วรกี นายอำเภอร่องคำ โรงพยาบาลจังหวัดกาฬสินธุ์ และเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ ทุกครั้งที่มีกิจกรรมนี้ดิฉันก็จะนำนักเรียนไปทุกครั้ง
ภารกิจที่รับผิดชอบในโรงเรียนนอกจากภารกิจหลักคือการสอนแล้ว ยังมีงานอนามัยโรงเรียนที่ต้องรับผิดชอบ ไม่ว่าจะมีกิจกรรมใดๆ งานอนามัยจะต้องให้การดูแลนักเรียนในทุกครั้ง
ส่วนนักเรียนที่จะบริจาคโลหิต ได้ก็ต้องเป็นชั้น ม.5-6 (เพราะผู้ที่จะบริจาคโลหิตได้อายุ 17 ปีขึ้นไป) ครั้งนี้ดิฉันนำนักเรียนชั้น ม.5 ไป ส่วนนักเรียนชั้น ม.6 ติดสอบปลายภาค ก่อนจะบริจาคต้องแนะนำให้เด็กเตรียมตัวให้พร้อมและเด็กก็ต้องเต็มใจด้วย วันนั้นมีนักเรียนร่วมบริจาคจำนวน 49 คน ซึ่งถือว่าพวกเขาได้เสียสละและได้ทำบุญที่ยิ่งใหญ่มาก เลือดพวกเขาจะได้ไปช่วยชีวิตคนอีกจำนวนไม่น้อย
วันนั้นมีนักเรียนหลายคนเป็นลม ด้วยเหตุว่าการเตรียมตัวไม่ดีพออาจจะพักผ่อนไม่เพียงพอ และวันนั้นอากาศค่อนข้างร้อน นักเรียนบางคน...เป็นครั้งแรกในการบริจาคโลหิตครั้งนี้ แต่ก็ถือว่า ใจพวกเขาสู้มากๆ ดิฉันก็ต้องรับผิดชอบดูแล มีบางคนถึงขนาดต้องให้น้ำเกลือ แต่ก็มีความสุขกับการช่วยเหลือและทำงานในด้านนี้
บ่อยมากที่ดิฉันจะต้องรับผิดชอบเด็กๆที่ไม่สบาย แม้ว่าจะเกินไปในเวลาส่วนตัวก็ตาม อย่างเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามีเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่งไม่สบายเป็นลมในช่วงที่จะเลิกเรียนพอดี ดิฉันก็ต้องรับผิดชอบนำส่งโรงพยาบาล เราจะปล่อยให้เด็กกลับบ้านในสภาพแบบนี้ไม่ได้ ติดต่อกับผู้ปกครองก็ไม่ได้ ดิฉันก็ต้องอยู่กับเด็กจนเย็น ก็คิดเหมือนกันว่าถ้าติดต่อไม่ได้ก็ต้องไปส่งที่บ้านแน่นอน
งานอนามัยโรงเรียนมีภารกิจหลายอย่าง ทั้งด้านการดูแลการเจ็บไข้ได้ป่วย ระยะเริ่มต้น การดูแลในเรื่องสุขภาพอนามัยอื่น หลายๆครั้งเรื่องค่าใช้จ่ายเราก็ต้องสำรองจ่ายไปก่อน เรื่องพาหนะก็เช่นกันเราก็ต้องพร้อมเสมอ
สรุปแล้วงานอนามัยเป็นงานอาสาที่ต้องเสียสละจริงๆ...ไม่ใช่งานโดยหน้าที่อย่างเดียวเท่านั้น ดิฉันมีภาพวันที่บริจาคเลือด และวันที่เด็กเป็นลมที่เล่าให้ฟัง มาให้ชมนะค่ะ
ทุกๆคน ยิ้มแย้มแจ่มใสมีความสุข...นำโดย ดร.อลงกต วรกี นายอำเภอร่องคำ
อนุโมทนาด้วย.....ครับ...ชาวพุทธถือว่าเป็นกุศลอย่างยิ่งครับ...การบริจาคโลหิต
สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะ..ครูป้อม
เรื่องนี้บางครั้งค้องอธิบายกันให้ลึกซึ้ง เพราะเด็กเองต้องการเป็นฮีโร่
สุขภาพร่างการ การพักผ่อนที่เพียงพอ การเป็นโรคต่างๆ การรับประทานยา มีข้อจำกัดมาก
บางครั้งคนจะบริจาคเต็มใจแต่สภาพร่างกายไม่อำนวย
บางคร้งจิตใจอ่อนไหว กลัวเลือด หรือบางคนฝืนความรู้สึก
ปัญหาการเป็นลมจึงตามมา
ผลคือครูค้องดูแล ต่อจนถึงผู้ปกครอง...
เอาใจช่วยครับ .......คิดด้านบวกเข้าไว้
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณ..มากๆค่ะ
บางครั้งคนจะบริจาคเต็มใจแต่สภาพร่างกายไม่อำนวย
บางคร้งจิตใจอ่อนไหว กลัวเลือด หรือบางคนฝืนความรู้สึก
ปัญหาการเป็นลมจึงตามมา ....
ใช่ค่ะ วันนั้นที่เป็นลมก็มีสาเหตุมาดังกล่าวด้วย
สวัสดีครับอาจารย์ ขอชื่นชมน้ำใจของนักเรียนที่ร่วมบริจาคโลหิต ครับ
สวัสดีค่ะ ชื่นชมในน้ำใจ
คนที่มีน้ำใจให้กับคนอื่น มีคุณค่าจริง ๆค่ะ
กอขอเป็นกำลังใจให้คุณมีนา
สู้ ๆ สู้โว้ยค่ะ
ด้วยบันทึกนี้น่ะค่ะ
ขอบคุณมากๆค่ะ
สวัสดีค่ะ
คนที่มีน้ำใจให้กับคนอื่น มีคุณค่าจริง ๆค่ะ...เป็นบุญกุศลที่สุด
ขอบคุณมากๆค่ะ
สวัสดีค่ะ ครูป้อม
ขอบคุณมากๆแวะมาส่งความสุขทุกวัน
ขอให้มีความสุขทุกๆวันค่ะ
ขอความสันติจงมีแด่ท่าน
แวะมาชื่นชมและให้กำลังใจนะครับ...
ขอให้เรื่องราวดีๆ แห่งจิตอาสานี้ ส่งผลต่อการเพาะบ่มให้นักเรียนเติบโตและเติบกล้า เป็นพลังของแผ่นดินสืบต่อไป...
ผมเชียร์ขาดใจ, นะครับ
สลามค่ะ
ขอบคุณมากๆค่ะ
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณมากๆค่ะ สำหรับกำลังใจ
สวัสดีค่ะ ครูป้อม
มีภาพน่ารักๆมาฝากทุกวัน
มีความสุขค่ะ
ผมก็มีโอกาสได้ไปเยี่ยมการบริจาคโลหิตของนักเรียนที่ว่าการอำเภอร่องคำครับ ดีใจแทนเด็กๆ ที่เขาทุกคนมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และมีจิตใจที่งดงาม ส่วนตัวกระผมไม่เคยบริจาคโลหิตเลยครับ เนื่องจากโลหิตจางครับ
สวัสดีค่ะ...คุณครูโอภาส
ยินดีมีความสุขมากค่ะ ที่เยาวชนไทย มีร่างกายสมบูรณ์
ขอบคุณมากค่ะ
มาอีกแล้วค่ะคุณมีนา
อิอิ
เอามาฝากค่ะ
เปิดลำโพงด้วยน่ะค่ะ
สวัสดีค่ะครูป้อม
ขอบคุณมากๆสำหรับดอกกุหลาบสวยๆ
คิดถึงเช่นกันค่ะ
ผมเป็นคนหนึ่งที่ก่อนหน้านี้บริจาคเลือดบ่อย สมัยเป็นนักศึกษาบริจาคบ่อยมาก พอกลับมาเมืองไทยใหม่ๆก็ไปบริจาคบ้าง ครั้งสุดท้ายก็เมื่อสามปีที่แล้ว
ผมเคยแนะนำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการรับบริจาค ให้ทำเชิงรุกบ้าง ผมเคยนำพวกเขาไปรับบริจาคที่โรงเรียนที่ผมทำงานอยู่ ได้รับการตอบรับเกินเป้า นักเรียนร่วมบริจาคเยอะจิรงๆ ที่น่าสังเกตคือนักเรียนหญิงจะร่วมบริจาคมากกว่านักเรียนชายหลายเท่า
ผมไปบริจาคครั้งสุดท้ายผมถามเจ้าหน้าที่ว่าทำไมไม่ทำเชิงรุกบ้าง.. คำตอบที่ได้ไม่มีคนทำงาน..
สมัยผมอยู่เมืองนอก เดินผ่านไปเรียนก็มีเก้าอี้บริจาคเลือดอยู่ริมทาง ไม่ตั้งใจจะบริจาคก็บริจาค คือ ได้บุญแบบไม้ต้องคิดมาก
แต่ทุกวันนี้ ถ้าผมจะบริจาคต้องตั้งใจจริง ไปโรงพยาบาลแล้ว ต้องหาที่รับบริจาค แล้วต้องเดินขึ้นไปชั้น 5 ..
แบบนี้.. ต้องเกณฑ์จริงถึงจะไปบริจาค
..
ขอบคุณผู้บริจาคเลือดทุกคน .. เพราะเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้วผมใช้เลือกบริจาคเยอะ .. ต้องผ่าตัดอันเนื่องมาจากถูกรถชน..
สวัสดีค่ะ ครูป้อม
สลามค่ะ
สวัสดีค่ะ
คิดถึงเช่นกันค่ะ
ขอบคุณมากๆ
สวัดดีค้า
หนู้เพิ่งเคยเข้ามาดูเว็บครูอ่ะค่ะ
ว้าววววๆๆๆๆๆ
มีรูปหนูด้วย