เรียนรู้จากการตีความอย่างอิสระ
เป้าหมายการทำงานร่วมของทุกช่วงชั้นในภาคเรียนนี้ คือการชวนกันขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการ “ก้าวพอดี” ซึ่งเป็นแนวทางการเรียนรู้ที่ทางโรงเรียนคิดขึ้นจากการนำ best practice ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่ประสบความสำเร็จของครูแต่ละคนมาศึกษา ว่าประกอบไปด้วยขั้นตอนใดบ้าง แล้วปรับปรุงให้เป็นแนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้ของโรงเรียนเพลินพัฒนา
การนำไปใช้ก็เริ่มจากการตีความอย่างอย่างอิสระ ครูผู้สอนของทุกช่วงชั้นสามารถหาวิธีการที่เหมาะสมกับตนเอง โดยอาศัยเครื่องมือ คือ “แบบสะท้อนตนเอง”ที่ทางฝ่ายวิชาการสร้างขึ้นเพื่อให้ครูผู้สอนมีประเด็นในการสะท้อนตนเองในการจัดกระบวนการเรียนรู้แบบก้าวพอดี และผู้สอนเองก็จะใช้ข้อมูลที่ได้จากแบบสะท้อนในแต่ละครั้งไปใช้พัฒนาตนเองต่อไป
เครื่องมืออีกตัวหนึ่งที่เป็นส่วนทบทวนตนเองของผู้เรียน คือ Port’AAR (ที่เคยเขียนไว้ในบันทึก http://gotoknow.org/blog/krumaimai/214585 ) ก็เป็นหลักฐานร่องรอยที่ครูจะนำมาศึกษาเพื่อการพัฒนาฝีมือการจัดกระบวนการเรียนรู้ของตน และ ต่อยอดความกระหายใคร่รู้ของศิษย์ได้
เมื่อมีการใช้ภาพสะท้อนทั้งที่ได้จากตัวครูผู้สอน และที่มองมาจากตัวผู้เรียนประกอบกัน ก็จะเกิดเป็นภาพความรู้ที่กว้างไกลขึ้น และมีแง่มุมที่จะสนุกไปกับงานมากขึ้นได้
ในการไหลเวียนของความรู้ก็ใช้การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันร่วมกันมาช่วยตัวยกระดับความรู้ทั้งในหมู่สมาชิกของแต่ระดับชั้น และในวงหัวหน้าช่วงชั้นที่เป็นการพบกันของทุกช่วงชั้น ทุกคนในวงประชุมจะมีโอกาสตีความความรู้อย่างอิสระ รวมทั้งจะได้นำความรู้ที่ได้จากการปฏิบัติของเพื่อนไปทดลองใช้ในบริบทของตน แล้วนำที่ได้ผลนั้นมาเล่าสู่กันฟังในรอบถัดไป
เส้นทางสู่เป้าหมายของภาคเรียนนี้จึงเป็นเส้นทางที่แต่ละช่วงชั้นต่างก็สร้างสรรค์ให้เหมาะกับบรรยากาศการทำงาน และบุคลิกภาพของทั้งครูและเด็กในแต่ละช่วงชั้น ในขณะที่ครูแต่ละคนในช่วงชั้นก็มีประเด็นการเรียนรู้ที่โดดเด่นและแตกต่างกันออกไป แต่เมื่อนำมาประสานพลังกันแล้วก็เกิดกลายเป็นความเติบโตที่งดงามยิ่ง
เคล็ดลับของความสำเร็จนี้จึงอยู่ที่การให้อิสระในการปฏิบัติอย่างหลากหลาย ภายใต้เป้าหมายเดียวกันนั่นเอง
ความเห็น (4)
- อิสระในการทำงานทำให้เปิดกว้างทางความคิด นำไปสู่เป้าหมายเดียวกัน
- นับว่าเป็นแนวคิดในการทำงานเป็นทีมที่ดีมากค่ะ
"แบบสะท้อนตนเอง".... น่าสนใจมากครับ
แง่...มุมที่มีเยอะๆ ก็จะทำให้ "กลม" ได้เอง.... น่าประทับใจ
มีเคล็ดลับอีกข้อที่เพิ่งเจอคือ ๑๐,๐๐๐ ชม.
นั่นคืออยากจะประสบความสำเร็จเรื่องอะไร ทำเรื่องนั้นเป็นเวลา ๑๐,๐๐๐ ชม. ขึ้นไป
รับรองสำเร็จ
หาอ่านได้จากหนังสือชื่อ Outliers : The Story of Success ครับ
ขอขอบคุณทุกความคิดเห็นที่สะท้อนเข้ามาถึงผู้บันทึกค่ะ และจะลองฝึกปฏิบัติกระบวนการให้ครบ ๑๐,๐๐๐ ชั่วโมง จะได้มีความสำเร็จดีๆ มาเล่าสู่กันฟังอีกค่ะ :)