หมออนามัย ผู้ไร้วิชาชีพ.......การฉีดวัคซีน


ภารกิจที่เราตั้งอกคั้งใจทำ ด้วยใจจิตสำนึก

  ได้มีโอกาสดูภาพยนต์ จากDVD เรื่องหนึ่ง กล่าวถึงการบริจาควัคซีน ป้องกันโรค แก่ประเทศด้อยพัฒนา ที่ประชาชนยากจนมาก มีบาทหลวงเป็นหัวหน้าชุมชนแห่งนั้น จะเป็นเรื่องราว ที่สร้างมาจากเรื่องจริงหรือเปล่า ผู้เขียนไม่แน่ใจ แต่เนื้อเรื่องน่าสนใจมากค่ะ

   ในชุมชนที่ยากจนแห่งนั้น ได้มีบาทหลวงคนใหม่เข้ามาดูแล และมีกลุ่มที่ทำตัวเหมือนโจร เข้ามาในหมู่บ้าน พร้อมทั้งมีการฆ่าผู้เข้ามาขัดขวาง การปล้นครั้งนี้ เขาไม่ได้ปล้นเงินทองทรัพย์สินอะไร แต่มาปล้นวัคซีน วัคซีนป้องกันโรค ที่มีความสำคัญต่อเผ่าพันธุ์พวกเขามาก จึงต้องแต่งกองโจรมาปล้นเอาไป

ในเรื่องนั้น มีพยาบาลประจำโบสถ์คริส ได้พยายามเจรจา แบ่งปันกันใช้วัคซีน เพราะต่างก็จำเป็นต้องใช้ ด้วยกันทั้งสองเผ่า แต่บาทหลวงคนใหม่ รู้สึกคับข้องใจมาก จึงบันดาลโทสะ จนถึงกับฆ่าหัวหน้าโจรนั้น ซึ่งต่อมา ก็เกิดเรื่องราววุ่นวายใหญ่โต

  ผู้เขียนไม่ได้ตั้งใจจะเล่าเรื่องของหนังที่ได้ชม แต่เพียงจะบอกว่า วัคซีน ที่คนในประเทศเราๆ อาจมองเป็นเรื่องธรรมดา จะไปฉีดที่ไหน ก็ไม่มีปัญหา หรือถ้าอยู่ในเมือง อาจยอมเสียเงิน เพื่อฉีดวัคซีนตามคลินิก และยังมีวัคซีน ตัวใหม่ๆ แพงๆ มาให้เลือกฉีดได้ ตามสบายอีกด้วย

 ในชนบทของประเทศไทยเรานี้ คนส่วนใหญ่มักจะนำลูกหลานมาฉีดวัคซีนที่สถานีอนามัยใกล้บ้านเท่านั้น และฉีดฟรี กับวัคซีนที่ป้องกันโรคอันตราย ตัวหลักๆ คือ คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอ ตับอักเสบ ไข้สมองอักเสบ เป็นต้น แต่บางพื้นที่ การฉีดวัคซีนแก่เด็กๆ ก็มีปัญหา เช่น ชาวบ้านที่อยู่ไกลมากๆ ไม่มีพาหนะเดินทาง ครั้นจะหอบลูกอ่อน เดินทางมา ก็แสนจะลำบาก จึงละเลยไปเสีย

  แต่หมออนามัย ก็ไม่เคยย่อท้อ จำได้ว่า ทุกวันที่นัดฉีดวัคซีน เราจะมีรายชื่อเด็กเกิดใหม่ จากอำเภอทุกเดือน อยู่ในบัญชี เมื่อบ่ายคล้อยแล้ว ยังมีผู้ที่ไม่ได้มาฉีดวัคซีน ซึ่งก็คงไม่สามารถมาได้แล้วละ หมออนามัยทั้งหลาย ก็จะนำวัซีนใส่กระติกน้ำแข็ง พร้อมอุปกรณ์ ขับรถมุ่งหน้าไปสู่ บ้านเป้าหมาย เป็นเช่นนี้ทุกครั้งไป บางที ก็กลับบ้านมืดค่ำ แต่ก็ไม่มีใครมาดักทำร้ายหมออนามัยเลย

  ปัจจุบัน การคมนาคมสะดวกขึ้น และชาวบ้าน ก็เห็นความสำคัญของการฉีดวัคซีนป้องกันโรคมากขึ้น จึงมองดูเหมือน งานให้วัคซีน ที่หมออนามัยทำอยู่ ดูไม่ได้หนักหนาอะไร และการป้องกันโรค ก็ทำได้เกือบร้อยเปอร์เซน

  นึกถึงคืนวันที่ผ่านมา กับภารกิจที่เราตั้งอกคั้งใจทำ ด้วยใจจิตสำนึก ด้วยความเมตตาห่วงใย จึงส่งผลให้ทุกวันนี้ บางโรคเหล่านั้น ที่ใช้วัคซีนป้องกัน แทบไม่เคยปรากฏให้เห็นเลย เพราะการให้วัคซีนในครั้งนั้น ได้ทำการตัดตอน มิให้มีการเกิดโรคเหล่านี้ ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และจึงทำให้อยู่เย็นเป็นสุขกันมา ช่วยให้คนชนบทสมัยนั้น ได้มีชีวิตอยู่รอดปลอดภัย จากโรคร้ายแรงต่างๆ จนอาจได้มีโอกาส มาทำงานในระดับสูงๆก็มากมาย

   มาวันนี้ เรื่องราวเหล่านี้ ที่ยังคงมีอยู่ในสังคมชนบท หรือ อาจจะเป็นตำนานของบางท้องถิ่นไปแล้วก็ตาม แต่โซ่สายใย ที่คนอนามัย ถักทอกันต่อๆมา ด้วยใยรักในสังคมชนบท ก็ยังมีการสืบทอดกันต่อมา ไม่ให้ขาดตอนไป

  บางคนอาจระลึกได้ และขอบคุณวัคซีนเข็มนั้นๆ

ที่หมออนามัยมอบให้คุณ ด้วยความห่วงใย 

หมายเลขบันทึก: 244189เขียนเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2009 17:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:21 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (20)

เจริญพร โยมหมอ

ประเทศยากจนด้อยพัฒนาในโลกยังมีอีกเยอะ

ประชาชนอยู่กันยากลำบากที่สุด

แม้ในหนังแต่คงไม่ต่างจากเรื่องจริงเลยนะโยมหมอ

เจริญพร

สวัสดีครับ คุณพี่บุญรุ่ง

อ่านแล้วชวนให้นึกถึงวัยเด็ก

ยังจำได้ถึงทุกวันนี้ว่า

ไปที่ "สุขศาลา"

ไม่เข้าใจว่าคืออะไรเหมือนกัน

รู้แต่ว่าใครๆ ก็เรียกอย่างนี้

ที่จำได้แม่นที่สุดคือไป

"ปลูกฝี"

ไม่รู้หรอกครับว่ามันคืออะไร

จำได้แต่ว่ามีใครสักคนเอา

เข็มมาจิ้มที่ต้นแขนซ้าย

หลายครั้งมาก

และยังมีแผลเป็นติดมาถึงทุกวันนี้

ถ้าไม่มีวัคซีน

ไม่มีอนามัย ไม่มีสุขศาลา

"ฝีดาษ" และโรคร้ายอื่นๆ

คงไม่มีวันหมดใช่ไหมครับ

กราบนมัสการท่านพระปลัดเจ้าค่ะ

หมออนามัย ก็คงเก่าแก่พอๆกับวัดวาอารามในชนบทค่ะ

ยังมีเรื่องราวให้ได้เล่ากันสืบมา

ถึงหมอคนนั้น หมอคนนี้

โยมหยิบยกภารกิจการฉีดวัคซีนขึ้นมา

เพื่อจะได้มองเห็นภาพเชื่อมโยง

ร่วมสมัยได้ง่ายขึ้น

ถ้าไม่มีวันนั้น ก็คงไม่มีวันนี้เจ้าค่ะ

สวัสดีค่ะคุณณภัทร๙

ใช่ค่ะโรคฝีดาษหมดไปจากประเทศเรา

หมออนามัยเป็นกำลังสำคัญในการนี้

เด็กๆจะถูกฉีดวัคซีนมากมายหลายเข็มหลายครั้ง

ตัวดิฉันเองก็รอดชีวิตจากการเป็นไข้มาลาเรีย

เพราะหมออนามัยรักษาโรคให้

จนมาวันหนึ่งได้มาเป็นหมออนามัยเสียเอง

จึงรู้ว่าการรักษาชีวิตคนแต่ละคนนั้น

ต้องใช้ความรู้ความสามารถอย่างสูง

ขอบคุณหลักสูตร ที่เขาสั่งสอนเรามา

ช่างน่านิยม และยอดเยี่ยมยิ่งนัก

หมออนามัยทำมาแล้วเกือบทุกอย่าง

ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคน

ตั้งแต่เกิดจนตาย

แต่วิชาชีพนี้ ก็ไม่เข้าข่าย แท่งไหนของราชการยุคใหม่เลยค่ะ

ขอบคุณมากๆ ที่นำเรื่องเล่า

เกี่ยวกับฉากหนึ่งกับหมออนามัยมาให้ได้ทราบกัน

สวัสดีครับ...

ฉีดวัคซีนผิด...ติดคุกหัวโต วันที่เขาอ้างว่าเขาไม่ได้สั่งให้เราทำ มันจะเจ็บคูณ 2 เอาซีครับจนท.อนามัยต้องรับผิดชอบการทำงานของตนเอง เป็นการเสี่ยงอย่างยิ่งครับ

ระเบียบฯกระทรวงสาธารณสุข 39 บังคับให้ จนท.ต้องทำงานภายใต้การควบคุมกำกับของผู้ประกอบวิชาชีพ

คำถามคือ

1.ถ้าจนท.สาธารณสุขเป็นคนทำโดยถูกบังคับให้ทำ (ต้องฉีดให้ครอบคลุม 100%)

โดยความจริงแท้เราต้องแจ้งหมอทุกรายหรือไม่ โครงสร้างได้สร้างแนวทางในการทำเช่นนั้นหรือไม่

2.สอ.จะปฏิเสธการดำเนินการให้วัคซีนได้หรือไม่ เช่น เรียนฉีดมาท่าก้น แต่ดันต้องฉีดขา 555

ถ้าตอบแล้วผมขอสรุปเลยแล้วกัน จนท.สอ.กำลังถูกแปลกแยก(Alianat)จากงานที่ทำ นั่นคือโดยเนื้อแท้แล้วมนุษย์ไม่สามารถพัฒนา หรือสร้างมาตรฐานในงานที่เขาทำ..แต่กลับไม่มีส่วนรับผิดชอบดังนั้นมายาคติที่ว่า การทำงานต้องทำโดยแพทย์ควรจะหมดไปจากสังคมไทยได้แล้ว เพราะทุกคนทุกวิชาชีพต่างทำงานภายใต้วิทยาศาตร์ วิชาทางการแพทย์มิได้อิงศิลปะ(ถ้าอิงจริงคงยุ่งพิลึก) ดังนั้นเขาจึงตรวจแลปมีข้อบ่งชี้ที่ต้องยอมรับกันทั่วโลก วิชาชีพควรจะเป็นแค่สัญลักษณ์แห่งองค์ความรู้ที่ มนุษย์ทุกคนเข้าถึงได้ และกระทำได้ตามความสามารถแห่งมนุษย์นั้น โดยกำหนดกรอบกติกามาชุดหนึ่งเพื่อ ควบคุมให้ประชาชนที่มารับบริการปลอดภัย แหะๆๆ ผมขอเรียกว่า

จรรยาบรรณเจ้าหน้าที่สาธารณสุขก็แล้วกัน อิอิอิ

เป็นกำลังใจให้ครับให้ทุกท่านทำความดีต่อไป สู้ๆๆๆ

ขอชื่นชมภารกิจของหมออนามัยผู้เสียสละทุกท่านครับ

สวัสดีครับ คุณตันติราพันธ์ มหา มาเยี่ยมอีกรอบในฐานะที่เป็น อสม.และคนในชุมชนเป็นไข้เลือดออกถึง 25 คน เมื่อ 4 ปีที่แล้ว อนามัยไม่มีงบประมาณโดยตรง ต้องผ่าน อบต. ท้องถิ่น กฎหมายกำหนดให้ตั้งงบประมาณในด้านป้องกันโรคติดต่อ อนามัยก็เหมือนยักษ์ไม่มีกระบอง บุคลากรมีความรู้ในงานหน้า แต่ไม่มีงบประมาณสนับสนุน มหา เห็นใจและเข้าใจปัญหาส่วนราชการ( อนามัย )ที่ต้องอาศัยงบประมาณผ่าน ท้องถิ่น

สวัสดีค่ะคุณเด็กหลังเขา

ขอบคุณค่ะที่ช่วยขยายอีกมุมหนึ่ง

ที่หมออนามัยได้พบเจอมาตลอด

ต้องทำงานอย่างโดดเดี่ยว

บางครั้งต้องอยู่คนเดียว ทำงานทุกอย่าง

ดึกดื่น จนฟ้าสางก็ทำมาแล้ว

นั่งเฝ้าคลอดทั้งคืน

พอเช้าก็ทำงานต่ออีก เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ

ขอบคุณมาก กับคำว่าวิชาชีพ คือองค์ความรู้

ที่มนุษย์ทุกคนเข้าถึงได้

เมื่อผ่านจุดมาตรฐานที่ทำได้แล้ว

ก็ควรให้การรับรองแก่กัน

ไม่ใช่เทียบกับความรู้จากปริญญา

ที่อาจเรียนมาก แต่การปฏิบัติอาจไม่ถึงมาตรฐานก็ได้

แล้วคนที่อยู่เฝ้าชนบทมาเกือบสามสิบปี

จะได้อะไรในในการปฏิรูปราชการบ้าง

นอกจาก ป้าก็ไปเรียนต่อปริญญาตรีให้จบซิ

จะได้เข้าหลักเกณฑ์

ที่จริงประสบการณ์ของป้าๆเหล่านั้น

ก็อาจเลยความรู้ระดับปริญญาเอกแล้วก็ได้นะคะ

สวัสดีค่ะคุณครูพิสูจน์

ต้องขอขอบคุณแทนหมออนามัยทั่วประเทศ

ครูและหมออนามัยเข้าใจกันดี

เราทำงานร่วมกันเสมอมา

และเป็นเพื่อนให้รู้สึกอบอุ่นใจ

หมอฉีดวัคซีน แต่ครูก็ต้องมาคอยโอบกอดลูกศิษย์

ทุกวันนี้ ภาพเหล่านี้ก็ยังปรากฏให้เห็นเหมือนเดิม

ครูบ้านนอก กับหมออนามัย ก็โดดเดี่ยวพอๆกัน

สวัสดีค่ะคุณครูอ้อย แซ่เฮ

คุณครูอ้อยน่ารักเสมอ

อุตส่าห์แวะมาให้กำลังใจ

และส่งดอกไม้มาให้ชื่นใจ

สองสามวันนี้

ต้องขอเขียนถึงหมออนามัยหลายบันทึกหน่อย

เพราะอาจไม่มีใครชี้แจงตีความหมาย

ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการกำหนดตำแหน่ง

ของหมออนามัย ได้รับรู้ข้อมูลบ้าง

ขอบคุณมากๆๆๆๆๆค่ะ

สวัสดีค่ะคุณเหรียญชัย เหรียญชัย มาวงษ์

คุณมหา เป็นอสม.ที่เป็นเพื่อนแท้ของหมออนามัยจริงๆ

เพราะรู้ทุกข์สุขและการทำงานตลอดจนงบประมาณ

ทุกวันนี้ ก็ยังต้องขอสนับสนุนจาก อบต.เช่นเดิม

เพราะเป็นภารกิจที่ถ่ายโอนไปแล้ว

แต่เรายังมีหน้าที่ทำงานเหมือนเดิม

ออกป้องกันโรคเหมือนเดิม

ดูวิถีชีวิตจะยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงสักเท่าไหร่

ก็ได้ อสม.นี่แหละค่ะ

ที่ทำงานร่วมกันไม่มีใครทิ้งใคร

ขอบคุณแทนหมู่บ้าน ที่มีคุณมหาเป็นอสม.

ที่ยอดเยี่ยมมากๆค่ะ

ชอบงานเขียนของคุณมาก อ่านแล้วมามองดูตน

สวัสดีค่ะคุณนายนพ

ขอบคุณที่บันทึกเรื่องของหมออนามัย

เป็นเรื่องที่ทำให้ผู้ร่วมอาชีพ

บังเกิดความสุขความภาคภูมิใจในผลงานของตน

ที่คงไม่ได้แตกต่างไปจากนี้มากมายนัก

เรื่องราวของคนเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่ในความรู้สึกของผู้คน

ในสังคมชนบทที่ห่างไกล

ถึงจะร้อยปากพันปากจะรับรองผลงานเรา

ก็คงไปไม่ถึงฟากฟ้าโน้นหรอกค่ะ

ฉีดทุกวันพุธอ่ะครับพี่ เฮ้อ

สวัสดีค่ะคุณsuksom

ส่วนที่สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ เขาคันทรง

ฉีดวัคซีนเด็กทุกวันพฤหัสบดีค่ะ

จึงประกาศมาเพื่อให้ทราบทั่วกัน

หมออนามัย

  • ผมยังจำได้ สมัยเด็กแม่จะพาไปฉีดที่สถานีอนามัยใกล้บ้าน
  • และเมื่ออยู่โรงเรียนก็จะไปฉีดที่โรงเรียนเช่นกัน
  • ที่โรงพยายบาลเกาะช้าง นัดฉีดทุกวันพุธที่ 2 ของทุกเดือนนะครับ แจ้งให้ทราบโดบทั่วกัน

สวัสดีค่ะคุณMr_Jod

เหมือนกันเลยค่ะ

พี่คลอดลูก ก็ไปสถานีอนามัยด้วย

ดิฉันเคยเจ็บหนักเพราะเป็นไข้มาลาเรีย

ก้ได้คุณหมออนามัยรักษาจนหาย

ท่านเก่งจริงๆ ยิ่งสมัยก่อนถ้าไปถึงโรงพยาบาล

อาจตายเสียก่อน เพราะไกลมาก

ขอยกย่องคุณอนามัยที่ท่านได้รักาาจนหาหายมาจนถึงทุกวันนี้

ขอแจ้งต่อนะคะ ว่า

"ที่โรงพยายบาลเกาะช้าง นัดฉีดทุกวันพุธที่ 2 ของทุกเดือนนะครับ"

เป็นพยาบาลอยากย้ายไปอยู่ที่อนามัยนี้ต้องทำอย่างไรคะใครสนใจเปลี่ยนตัวมาอยู่ศูนยืมะเร้งบ้างติดต่อ 0841235744

สวัสดีค่ะคุณnamo

พยาบาลที่จะมาอยู่ที่สถานีอนามัยนั้น

บทบาทหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

ขอเพียงมีใจรัก มีจิตเมตตา ก็ปฏิบัติงานที่เป็นคนละรูปแบบได้ค่ะ

ติดต่อที่สำนักงานสาธารณสุขนะคะ

ถ้ามีตำแหน่งก็จะได้ย้ายมาทั้งตำแหน่งเลยค่ะ

ส่วนใครสนใจที่จะไปปฏิบัติงานที่ศูนย์มะเร็งนั้น

ยินดีให้พื้นที่นี้เป็นสื่อกลางค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท