ว่ากันว่า ความสุขความดีใจมักจะมาหาเราโดยไม่รู้ตัว ไม่น่านก็จะจากไปราจึงควรเก็บความสุขความประทับใจไว้ในความทรงจำให้มากเข้าไว้.....เฉกเช่น...พวกเขา 8 หนุ่มแห่ง "จักรยานน้ำเก็บขยะ" ผู้ฝากผลงานที่ผู้คนต่างทึ่งในความสามารถ ที่เกิดจากแรงบันดาลใจของพวกเขาหลอมรวมกัน ออกเป็นชิ้นงานที่ใครเห็นก็ต้องยอมรับ ซึ่งกว่าจะถึงวันนี้ ทุกท่านคงจะได้อ่านเรื่องราวของพวกเขาไปบ้างจากบันทึกก่อนหน้านี้ไปแล้วนะคะ
จากวันนั้นจวบวันนี้ครึ่งปีแล้ว ไวเหมือนโกหกเลยนะคะ พวกเราต่างได้รับการยอมรับในความสามารถในระดับหนึ่ง พวกเรามีความสุขมากๆ ตอนเย็นทุกคนจึงอยากแบ่งปันความสุขโดยการเป็นผู้ให้บ้าง นั่นคือ การอาสาที่จะสอนวิธีการที่จะได้มาซึ่งชิ้นงาน และยังสอนทักษะการปฏิบัติให้กับผู้ที่สนใจ อีกทั้งมี"นัน" ที่พอจะมีความรู้ภาษาอังกฤษพื้นฐาน แถมยังมีบริการสอนการพูดหน้าที่ประชุมชนให้อีก เรียกกันว่า ใครถนัดอะไรก็จะถ่ายทอดสิ่งนั้น ตามที่ตนถนัด ทำไมครูแป๋มถึงกล้าที่จะให้พวกเขาสอนน้องๆน่ะเหรอคะ... นี่แหละค่ะเป็นการฝึกทักษะการสื่อสารให้ผู้อื่นเข้าใจ "เราต้องสรรหาวิธีการที่จะพูดให้ผู้อื่นเข้าใจ ไม่ใช่ให้ผู้ฟังหาวิธีการฟังให้รู้เรื่อง" ซึ่งทักษะหลังนี้จะต้องเชี่ยวชาญทักษะแรกให้ได้ก่อน ทุกอย่างราบรื่นดีค่ะ เพราะพวกเขามีวินัยในตนเองที่จะต้องมาบอกครูแป๋มหากจะไม่ได้มา หรือไปธุระต้องมาช้า เป็นตัวอย่างให้กับเด็กในโรงเรียนที่มักจะมาถามครูแป๋มด้วยความสงสัย .... ครูแป๋มไม่ให้คำตอบหรอกค่ะ "อยากรู้ก็ไปถามพี่เขาเลยสิจ๊ะ ได้ข้อมูลตรงเลย น่าจะดีกว่าไหมจ๊ะ" "ค่ะ" วันแรกๆเขิน ต่อๆมาวันไหนน้องไม่มาหรือตัวเองไม่ได้ ก็จะรู้สึกว่าชีวิตจะต้องขาดอะไรไปอย่าง.....ดีใจจังค่ะ เขารู้จักรับผิดชอบตัวเอง หากครูแป๋มต้องไปราชการ กระบวนการ็ยังดำเนินอยู่ นี่ค่ะ คือสิ่งที่ครูแป๋มต้องการที่จะบอก เด็กห้องท้ายเอาคะแนนมาล่อไม่ได้ผลหรอกค่ะ จะให้บังคับมาเหรอคะ ลืมไปเลย สิ่งที่จะทำให้พวกเขามาได้อย่างเต็มใจ คือ "การให้การยอมรับความสามารถของพวกเขา ยอมรับความเป็นมนุษย์ที่ไม่ได้ต่างจากเด็กแผนวิทยืเลย บางคนมีมากกว่าด้วยซ้ำ การให้กำลังใจที่มากกว่าปกติ เมื่อพวกเขาจะไม่เป็นที่ยอมรับ และเสริมแรงให้พวกเขาอยากที่จะพิสูจน์ตัวเอง"
นี่คือช่วงเวลาแห่งความสุขที่กำลังจะพรากจากไป ตอนหน้าจะเป็นเรื่องจะเป็นภาคต่อนับจากนี้ เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา ทำไมต้องทุกข์ใจ และทุกข์ใจมากกว่าวันแรกที่เขาเดินมาหาครูแป๋ม....รอนะคะ
ใช่เลยค่ะ..ต้องให้การยอมรับและเป็นกำลังใจให้กับพวกเค้า..คนเราได้รับกำลังใจก็มีพลังพัฒนาตนเองอีกเยอะเลย..
ขอบคุณบันทึกดีๆนี้ค่ะ.ครูแป๋ม^^
สวัสดีครับอาจารย์ มาให้กำลังใจ " คนบ้านเดียวกัน "
แวะมาให้กำลังใจด้วยคนนะคะ
ใช่แล้วครับ ทุกคนอยากมีความสุข ความดีใจกันทั้งนั้น และไม่มีใครยอมรับความเศร้าโศกเสียใจที่กำลังมาแทนที่
น้องครูแป๋มเยี่ยมมากๆๆ พยายามสอนให้เขาใฝ่รู้ใฝ่เรียนเองนะครับ เอาใจช่วยครับผม
ขอบคุณครูแอ๊วค่ะที่เข้ามาเสริมแรงใจ และให้แง่คิดที่ดีๆแบบนี้
ชอบค่ะที่ครูบอกว่า "คนเราได้รับกำลังใจก็มีพลังพัฒนาตนเองอีกเยอะเลย" ขอบคุณค่ะ เด็กๆคงดีใจที่มีครูใจดีที่เข้าใจเขาอีกคนหนึ่งในโลกใบนี้.....ขอบคุณแทนเด็กๆด้วยค่ะ
นับแต่วันที่คุณครูแป๋มให้ความสำคัญกับเด็กห้องท้าย
โดยการให้โอกาสให้เด็กห้องท้ายได้แสดงออกได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง
โดยธรรมชาติแล้วทุกคนอยู่ในสังคมต้องการการยอมรับจากคนในสังคม
และโดยทั่วไปเด็กห้องท้ายมักถูกมองในแง่ลบในสายตาคนอื่น
เด็กห้องท้ายมีความรู้สึกนึกคิดเหมือนคนอื่นๆ
และอยากจะทำกิจกรรมต่างๆเพื่อการสร้างสรรถ้าเขามีโอกาส
แต่สังคมไม่ให้โอกาสเขา
คุณครูแป๋มเป็นผู้นำ เป็นนักพัฒนา มีวิสัยทัศน์
ปัญหาเด็กห้องท้ายสามารถแก้ไขได้โดยการลดช่องว่าง
ต้องให้โอกาสเด็กห้องท้าย สิ่งที่เด็กห้องท้ายต้องการที่สุดคือการยอมรับจากผู้อื่น
คุณครูแป๋มมีมีการนำกิจกรรมต่างๆมาให้เด็กห้องท้าย
มีการจัดกิจกรรมเพื่อให้เกิดกระบวนการทางความคิดให้กับเด็กห้องท้าย
มิใช่เป็นการให้ท่องจำหรือเป็นผู้บอกขั้นตอนการทำกิจกรรมให้
แต่คุณครูแป๋มสอนให้เด็กแสวงหาวิธีการด้วยตนเอง
โดนคุณครูแป๋มเป็นผู้จุดประกายความคิดเท่านั้น
ให้เด็กได้แสดงความสามารถของตนเองเพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรค
เด็กห้องท้ายได้เกิดการเรียนรู้การทำงานเป็นทีม การแบ่งงานรับผิดชอบ
และเกิดการรับฟังความเห็นซึ่งกันและกัน
ผลงานของเด็กห้องท้ายที่ได้รับรางวัลได้ลบภาพอคติต่างๆของคนรอบข้างอย่างาสิ้นเชิง
หลายคนที่มีความสงสัยว่าทำไมคุณครูแป๋มจึงให้ความสำคัญและให้ความสนใจเด็กห้องท้ายมาแต่แรก ก็คงจะคลายความสงสัยและได้เข้าใจว่าคุณครูแป๋มรักศิษย์ทุกคนไม่ว่าจะห้องท้ายหรือไม่ก็ตาม และเมื่อมารับหน้าที่คุณครูแป๋มก็ใช้วิธีการให้ความสำคัญกับเด็กห้องท้าย โดยการให้โอกาส เพื่อนำไปสู่การยอมรับ ของสังคม
ขอแสดงถ้อยมาเชิดชูความเป็นครูที่ดีของคุณครูแป๋มมา ณ นี้
ข้างล่างนี้คือลิงค์เรื่องราวของเด็กห้องท้ายที่มีความต่อเนื่องในเรื่องราวขอเชิญเข้าไปชมกัน
จักรยานน้ำเก็บขยะ
http://gotoknow.org/blog/jrpkpp/223651
ความหวังเด็กห้องท้าย
http://gotoknow.org/blog/jrpkpp/225274
ปัญหาของเด็กห้องท้าย
http://gotoknow.org/blog/jrpkpp/225697
เวทีแสดงความสามารถ
http://gotoknow.org/blog/jrpkpp/225703
ความรู้ที่คงทนของเด็กห้องท้าย
http://gotoknow.org/blog/jrpkpp/227998
วันนี้ที่รอคอย
http://gotoknow.org/blog/jrpkpp/230309
ขอบคุณคุณหนุ่มและคุณแอ๊ดนะคะ
ที่เป็นกำลังใจให้แป๋มตลอดมาค่ะ..
สวัสดีค่ะคุณฤทธิชัยค่ะ
เห็นด้วยค่ะ
"ทุกคนอยากมีความสุข ความดีใจกันทั้งนั้น และไม่มีใครยอมรับความเศร้าโศกเสียใจที่กำลังมาแทนที่"
หน้าที่ของเราก็ต้อง หาทางทำให้เขามีภูมิคุ้มกันให้แกร่งพอที่จะอยู่ในโลกใบนี้ได้ค่ะ ขอบคุณที่แนะนำมาค่ะ
ขอบคุณ คุณศรีกมล ที่มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ
ดีใจจังพี่ขจิตมาแล้ว
สวัสดีค่ะ
แป๋มนั้นคลุกคลีตีโมงกับพวกเขามานานพอควรค่ะ แป๋มเปิดตัวเด็กเปิดใจต่อกัน ทำให้ทราบข้อมูลข้างต้น ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์ดีๆค่ะ
ขอบคุณค่ะคุณสุวัฒน์ที่ช่วยพูดอีกแรงค่ะ
ได้พิจารณาอ่านถ้วนถี่แล้ว
ขอบคุณค่ะคุณนภาพรที่ชอบบทบาทหน้าที่ของแป๋ม จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดค่ะ
บทวิเคราะห์สรุปของคุณสุวัฒน์ แป๋มต้องขอบคุณท่านที่เมตตาวิเคราะห์สรุปให้ เพราะภาษาที่แป๋มใช้กลั่นจากจิตสำนึกที่เกิดขึ้นจริง คุณสุวัฒน์เมตตาทำให้เคลียร์ขึ้นก็ต้องขอบคุณท่านมากค่ะ
สังคมปัจจุบันทำให้ช่องว่างระหว่างครูกับนักเรียนนับวันยิ่งห่างกัน ยิ่งสื่ออินเทอร์เน็ตเข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตมากเท่าใด ความเป็น "คน"ก็จะลดลงมากขึ้นดุจเงาตามตัว
เด็กสมัยนี้มีนสัยใจคอก้าวร้าว หยาบคาย ไม่เคารพครู บางครั้งเลยเถิดไม่เห็นหัว เอาครูมาล้อเล่นเป็นที่สนุกสนาน สะท้อนจิตใจมนุษย์ว่าเข้าใกล้...ไปทุกที อดทนครับครู
สวัสดีค่ะ