เรียบง่าย จึงงดงาม (3-9)


และอย่าได้คิดหาญกล้าจะพยายามแสดง “โวหาร” ที่ปรุงแต่งเกินจริง ... จนทำให้งานนั้น ปราศจาก “วิญญาณอิสระ” ของตัวผู้เขียน ....

 

 

 

ถ้อยคำสวยหรูนั้น...

 จะมีความหมายอะไร  หากว่าคำพูดสามัญสามารถสื่อความคิดให้เป็นที่เข้าใจกันได้? ”

 

                                      จากหนังสือ วิถีแห่งดุลยภาพ

                                                       ตาร์ธาง ตุลกู

 

 

    คนไม่มีรากถูกย้ำสอนจากครูบาอาจารย์เสมอ เมื่อฝึกเขียนงานใหม่ ๆ  ทั้งงานวิชาการที่ทำ งานวิจัยที่เรียนว่า... ให้เขียน...ราวกับว่าได้... กิน เคี้ยว กลืน และย่อยข้อมูลแล้ว จึงกลั่นออกมาจนเป็น หยาดเหงื่อ นั่นเชียว จึงจะเป็น... สุดยอดแห่งการเขียนงาน...

 

       ต้องเขียนให้สั้น กะทัดรัด ไม่เยิ่นเย้อ ได้ใจความ...

       ไม่เขียนแบบชวนให้เข้าใจผิด ตีความผิด ไม่ชัดเจน...

ไม่เขียนเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก...

ไม่เขียนเรื่องยากให้ยากมากขึ้นไปอีก..

ไม่ใช้คำฟุ่มเฟือย คำไม่สุภาพ หยาบคาย ......

ไม่ใช้การเขียน (งานวิชาการ) เป็นการระบายอารมณ์ส่วนตัว ทำร้าย โจมตีใคร ...

และอย่าได้คิดหาญกล้าจะพยายามแสดง โวหาร ที่ปรุงแต่งเกินจริง ... จนทำให้งานนั้น ปราศจาก วิญญาณอิสระ ของตัวผู้เขียน

 

แน่ล่ะ ... เพราะจะทำให้งานเขียนกลายเป็น...... ขยะทางความคิด ที่ไม่ได้กลั่นกรองและเต็มไปด้วยการลอกเลียน เสริมแต่ง แต่งแต้มจนแทบจะหา สาระอันแท้จริงไม่พบ เพียงใช้งานเขียนเป็นเครื่องมือ สู่จุดมุ่งหมายบางประการ...เท่านั้นหรือ?

 

ถือเป็นการดูถูกและไม่ให้เกียรติ ทั้ง ตัวเอง และ ผู้อ่าน งานของเรา...

 

กาลผ่าน เวลาจึงเป็นเครื่องพิสูจน์ให้ตระหนักชัดว่า...คำสอนสั่งของท่านผู้รู้นั้น จริงแท้และเป็นอมตะ...

 

คิดแล้ว... ก็ให้รู้สึกว่า การจะเป็น ผู้เขียนงานที่มี "วิญญาณอิสระและสร้างสรรค์" งานที่มีคุณค่านี่ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย .... ว่าไหมคะ !!!!

 

หมายเลขบันทึก: 242450เขียนเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2009 00:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:18 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (54)
  • หนักแน่นดี ตรงประเด็นครับ
  • อ่านแล้วเข้าใจเลย ไม่ต้องคิดมาก
  • จิตคือตัวสำคัญที่จะทำให้เกิดอิสระ
  • ขอบคุณมากครับ

สวัสดีค่ะ

  • ขอเรียนรู้ด้วยคนนะคะ
  • ให้เขียน...ราวกับว่าได้... กิน เคี้ยว กลืน และย่อยข้อมูลแล้ว จึงกลั่นออกมาจนเป็น “หยาดเหงื่อ” นั่นคือ สุดยอดแห่งการเขียนงาน...
  • ขอขอบคุณค่ะ
  • จะพยายามค่ะ

     

สวัสดีค่ะ น้องโก๊ะตาซื่อของครูอ้อย

 นำดอกไม้บ้านน้องไก่ ประกายมาฝาก น่ารักดีค่ะ

  • ครูอ้อยขอเป็นนักเขียน..ปานกลาง 
  • บางอารมณ์ ยังอยากตะโกน หาความถูกต้อง..เอิ๊กเอิ๊ก..เอาแค่ 7 เต็ม 10 นะคะ

ยกมือเห็นด้วย ทุกข้อ....เยี่ยม

เขาบอกว่านักเขียน  มี "ดวงตาที่สาม" .. ดังนั้น นักเขียนจึงมองในมุมที่คนอื่นมองไม่เห็น

การเขียน, เป็นการทำงานอันแสนหนักเสมอ ผมเองก็อยากเป็นนักเขียน แต่พรสวรรค์และการฝึกฝนไม่ถึงขั้น  จึงได้แต่เป็นนักอยากเขียนเรื่อยมา

นักเขียนวรรณกรรมหลายคนทำงานกันหนักมาก  กว่าจะได้หนังสือแต่ละเล่ม แต่ละเรื่องต้องทุ่มเทอย่างจริงจัง  และรวมถึงการลงไปฝังตัวกับเรื่องนั้นๆ  เพื่อให้ได้ข้อมูลมาสื่อแสดง

ในบรรดานักเขียนที่ว่านั้นผมชอบการเขยนของกนดพงศ์ สงสมพันธ์มาก  เขียนเรื่องสั้นได้อย่างเข้มข้น  สะท้อนชีวิตและสังคมได้อย่างลึกซึ้ง-คมคาย  มีภาษาชวนอ่าน มีกลวิธีที่น่าทึ่ง  ถึงแม้เรื่องยาวไปหน่อยแต่ก็ไม่ทำให้เบื่อกับการอ่าน, เสียดายก็แต่..นักเขียนท่านนี้เสียชีวิตเร็วไปหน่อย  ทำให้แวดวงนักเขียนไทยสูญเสียนักเขียนฝีมือดีไปอย่างน่าเสียดาย

อ.เกรียงศักดิ์  เจริญวงศ์ศักดิ์  เป็นอีกคนที่เขียนงานวิชาการได้น่าอ่าน.. เรื่องยากๆ ท่านเขียนได้ง่ายๆ .. อ่านง่ายและเข้าใจอย่างน่าชื่นชม

...

แต่ในความเป็นจริงนั้น,  อะไรที่ว่าง่ายๆ ..นั้น
ยากยิ่งต่อการรังสรรค์เหลือเกินครับ

 

  • แค่เขียนภาษาไทยให้ถูกก็ยังยาก
  • แต่อยากเขียน...
  • รู้สึก..จึงเขียน..ไม่ได้เบียดเบียน..
  • ไม่ได้ตั้งใจรบกวน..
  • ขอบคุณที่ชี้นำ..
  • จะจำนำไปคิด..ก่อนเขียน

สวัสดีครับ ใช่เลยตอนที่ผมถูกบังคับแกมขอร้องจากผู้ใหญ่ให้เขียนบันทึก เพราะถูกจับให้เป็นหนูทดลองของโครงการวิจัย Edkm ผมได้เข้ามาอ่านของรุ่นเดอะหลายท่านเพื่อจะได้เป็นแบบอย่างแล้วก็ไม่กล้าที่จะเขียนเพราะเขาได้ดี รู้ตัวดีว่าเรามือไม่ติดฝุ่น ด้วยความที่ชอบคิด ชอบพูดมากกว่าการที่จะถอดความรู้สึกนึกคิดออกมาเป็นตัวหนังสือให้ครบถ้วนสมบูรณ์เป็นเรื่องอะไรที่ยากมากมากสำหรับผม  สุดท้ายก็ต้องพยายาม แต่ก็คงทำได้แค่นี้ยังผิดๆถูกๆสื่อความไม่ชัดแบบที่ท่านว่าผมไม่ได้เรื่องหลายข้อเลย แต่จะพยายามปรับปรุง  ขอบพระคุณมากครับ ขอให้ท่านโชคดีครับ

สวัสดีค่ะอ. บวร

ขอบพระคุณที่ท่านกรุณาให้ข้อคิดเห็นค่ะ

และคนไม่มีรากก็ตระหนักว่า....จิตคือตัวสำคัญที่จะทำให้เกิดอิสระ
เพียงเราตามดูให้ทัน จิต ... เราจะสามารถรังสรรค์งานดี ๆ ที่มีประโยชน์ทั้งต่อตนเองและโลกค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะพี่ ครูคิม

พี่คิม เป็นผู้หนึ่งที่คนไม่มีรากยึดถือและชื่นชมในความเสมอต้นเสมอปลายในการบันทึกเรื่องดี ๆ ค่ะ

ขอบคุณค่ะ

(^__^)

สวัสดีค่ะพี่ ครูอ้อย แซ่เฮ

ดีใจทึ่พี่สาวเข้ามาทักทายค่ะ

น้องคิดเอาเอง จากการอ่านงานของตัวเองและอีกหลาย ๆ ท่าน พบว่า ผู้ที่มีความคิด ความรู้ชัดเจน ประกอบกับจิตเมตตา แจ่มใส บริสุทธิ์ เขียนเพียงไม่กี่บรรทัด เราอ่านแล้วก็เข้าใจ "ถึงใจ" รับรู้ได้ถึงนัยยะที่ท่านต้องการสื่อให้ด้วยจิตบริสุทธิ์นั้นค่ะ

คนไม่มีรากกำลังเพียรพยายามอยู่ค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับ

งานเขียนเริ่มต้นเมื่อลงมือ

แต่สั้นกระชับ หรือยืดยาว ขยายความ เป็นรสนิยม

ขึ้นกับจังหวะ โอกาส เจตนา ลีลา ฯลฯ

เพราะอย่างนี้ เราจึงมีผลงานหลากหลายรสให้ได้อ่าน

มาขัดคอเล่น อิๆๆ

สวัสดีค่ะอ. แผ่นดิน

คนไม่มีรากชอบแอบติดตาม...บันทึกของอาจารย์ค่ะ เพราะภาษาสวย เรียบง่าย เข้าถึงได้ เต็มด้วยสาระ  มีภาพประกอบงดงาม...

แรก ๆ ที่หัดอยากจะเป็น "นักเขียน" ก็เพียรศึกษา อ่าน วิเคราะห์ สังเคราะห์งานของ "มือชั้นครู"  คอยลอก จด ถ้อยคำงดงามต่าง ๆ แล้วนำมาใช้ในงานของตัวเอง ... นานเข้าอ่านไปอ่านมา ...

เอ...นี่หรือคือ "ตัวเรา" ... เลยได้คิดว่า เราน่าจะอ่านให้มาก เขียนให้บ่อย ทำความคิดให้ชัดเจน แล้วก็สื่อออกไปด้วยภาษาของตัวเอง...ดีที่สุดค่ะ

แม้จะไม่ได้เป็น นักเขียนมือทอง สำนวนสะท้านใจ คมทะลุความคิด ... แต่เราใส่ความตั้งใจ จริงใจ ในงาน ... นั่นคือ สิ่งที่นักเขียนควรจะภูมิใจแล้ว...

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับ ท่านนักเขียนไร้ราก

ขออนุญาตแสดงความเห็นนิดนึงนะครับ

ผมคิดว่า รูปแบบในการนำเสนองานเขียนใดๆ
ก็ควรจะสัมพันธ์กับเนื้อหาของสิ่งที่จะนำเสนอ
และวัตถุประสงค์ของการนำเสนอครับ

เช่นกรณีของ บทกวีไฮกุของเซ็นนั้น
จะเน้นไปที่รูปแบบความเรียบง่าย
อันจะสะท้อนภาวะจิตแห่งปัจจุบันของกวี

แต่ในขณะที่ โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน
ของไทย ก็เน้นสัมผัสคล้องจอง
อ่านแล้วก็เกิดความสุนทรีย์ในความงดงามของภาษา

นวนิยาย หรือ เรื่องสั้นเอง
ก็มีอรรถรสไปอีกแบบนึงครับ

แต่ผมก็เห็นด้วยนะครับ
ว่าในบางกรณี ถ้อยคำที่สวยหรูก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น
แต่ตรงกันข้าม กับฟุ่มเฟือยจนยากต่อการเข้าใจ
เช่น การสื่อสารในเรื่องของจิตวิญญาณ

ขออนุญาตแสดงความเห็นเพียงเท่านี้
ก่อนจะฟุ้งไปมากกว่านี้ครับผม

สรุป: น่าจะเลือกวิธีการและรูปแบบการนำเสนอให้เหมาะกับเนื้อหาและวัตถุประสงค์

:)

ยายธีเพิ่งหัดเขียนตอนแก่ค่ะถ้ามีอะไรเพี้ยนๆไปบ้างก็ขออภัยนะคะตัวหนังสือบางตัวหายไปจากความทรงจำที่ลองเขียนๆดูไม่ได้ใช้ทฤษฎีเป็นแต่ความอิสระในจิตวิญญาณเท่านั้นค่ะ..

สวัสดีค่ะคุณ เกษตร(อยู่)จังหวัด

เขียนบ่อย ๆ ก็ยิ่งได้เห็นและตระหนักใน ตัวตน ของเราเอง....

คุณเกษตร ฯ เขียนหนังสือดี ธรรมชาติออกค่ะ คนไม่มีรากยังชอบอ่านเลย...

ขอบคุณค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะพี่อุ้ย

อย่างโหลน่ะ เรียกว่า คิดว่าตัวเองเป็นนักเขียนค่ะ ...

ความจริงที่เพิ่งจะได้พบคือ....ก็แค่ "คนอยากเขียน" ยังต้องฝึกปรืออีกมากมายค่ะ

ขอบคุณพี่อุ้ยค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะท่านอ. นายประจักษ์~natadee

คนไม่มีรากคิดว่า...บันทึกของท่านเป็นงานเขียนคุณภาพค่ะ เพราะมีพร้อมทั้งสาระ และ ภาพประกอบที่งดงามชัดเจน

ชื่นชมและยกย่องท่านค่ะ

(^___^)

สวัสดีครับอาจารย์ แวะเวียนมาทักทายตามประสาคนรู้จักกัน นะครับ เรื่อง"เขียน"ขออนุญาตไม่ออกความเห็น " ข้าน้อย มิบังอาจ" ครับผม

สวัสดีค่ะอ. ธ.วั ช ชั ย


ชอบและชื่นชมการ "ขัดคอ" ของอาจารย์ค่ะ......^_^.....

งานเขียนเริ่มต้นเมื่อลงมือ แต่สั้นกระชับ หรือยืดยาว ขยายความ เป็นรสนิยม  ขึ้นกับจังหวะ โอกาส เจตนา ลีลา ฯลฯ  เพราะอย่างนี้ เราจึงมีผลงานหลากหลายรสให้ได้อ่าน

เป็นแง่มุมที่ทำให้ได้ข้อคิดว่า ... ต้องเลือกใช้กระบี่ให้เหมาะกับเพลงต่อสู้....โอกาส จังหวะ และที่สำคัญ เจตนาที่จะนำเสนอ...ค่ะ

ขอบคุณค่ะ

(^___^)

ลุ่มลึก เร้าอารมณ์ ชวนตาม เสมอ ๆ ๆ

แม้ไม่ได้เจอ ก็บอกว่า "คิดถึง"

สวัสดีค่ะคุณณภัทร๙

มาเยี่ยมทุกครั้ง คนไม่มีรากตื่นเต้น ด้วยรู้ว่าจะได้รับ ... ความคิดใหม่ ๆ ที่สร้างปัญญาให้เสมอ....

ขอบคุณข้อคิดเห็นที่มีคุณค่า และ ต้องบอกว่า...เห็นด้วยไม่มีข้อกังขาเลยค่ะ

สรุป: น่าจะเลือกวิธีการและรูปแบบการนำเสนอให้เหมาะกับเนื้อหาและวัตถุประสงค์

สุดยอดกระบวนท่า ก็คือ การไร้กระบวนท่า....ใช่ไหมคะ

(^___^)

สวัสดีค่ะ คุณคนไม่มีราก

อ่านแล้วก็ให้เกิดอารมณ์ ความรู้สึกร่วม..

คิดแล้ว... ก็ให้รู้สึกว่า การจะเป็น ผู้เขียนงานที่มี "วิญญาณอิสระและสร้างสรรค์" งานที่มีคุณค่านี่ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย .... ว่าไหมคะ !!!!

นั่นสินะ ไม่ง่าย แต่ก็คงไม่ยากจนเกินที่จะเป็นจริง..

สำหรับใบไม้แล้ว จะเขียนงานอะไรก็ตาม เราต้องรู้ว่าต้องการจะสื่อ "สาร" อะไร และสื่อไปให้ "ใคร" อ่าน.. เพื่อเลือกรูปแบบการใช้ภาษาที่เหมาะสมกับสารที่ต้องการสื่อ และกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้อ่าน

สำหรับงานเขียนเพื่อความเติบโตทางจิตวิญญาณของตัวเองนั้น ต้องซื่อสัตย์กับตัวเอง และแสดงออกมาอย่างธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่ง เขียนออกมาจากใจ

ขอให้เพื่อนเป็นผู้เขียนงานที่มีวิญญาณอิสระและสร้างสรรค์นะคะ ..^__^..

สวัสดีอีกครั้งครับ ท่านจอมยุทธไร้ราก

ผมเชื่อเป็นความเชื่อส่วนตัว
ตามหลักขององค์รวมว่า

เราแต่ละคนคือส่วนเสี้ยวขององค์รวม
ไม่เว้นแม้แต่อัจฉริยบุคคลชั้นยอด
ก็ไม่ต่างกัน เพียงแต่ว่าส่วนเสี้ยวของพวกเขา
อาจจะใหญ่กว่าของเราๆ อยู่บ้าง

และผมก็เชื่อว่า การที่เราจะเข้าถึงองค์รวม
ของเรื่องใดๆ ได้นั้น
เราคงจะต้องนำส่วนเสี้ยวที่เรามี
ไปประกอบกันกับของคนอื่น
ยิ่งมีส่วนเสี้ยวมาช่วยกันต่อมากเท่าไหร่
เราก็ยิ่งเข้าใกล้ความเป็นจริงของสิ่งนั้นมากขึ้นครับ

ด้วยเหตุนี้ ผมจึงชอบที่จะแสดงความเห็น
ในมุมมองที่ผมมี
บางเรื่องอาจต่างไป บางเรื่องอาจเป็นคนละมุม
และต้องขออภัย ที่ในบางความเห็นอาจไม่ได้ทิ้งร่องรอยใดๆ ไว้
(เพราะเค้นมุขไม่ออกไงครับ)

ในโอกาสต่อไป หากเจอความคิดเห็นใดๆ
ที่อาจดูไม่เข้าท่านัก ก็ขอว่าอย่าถือสาหาความกันนะครับ
เพราะผมเองก็กำลังฝึกฝน การแสดงความเห็นในทางสร้างสรรค์อยู่ด้วยครับ

ขอบคุณสำหรับการเปิดประเด็นสำหรับ
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อจะนำไปสู่การต่อยอดทางความคิด
เกิดเป็นภูมิปัญญาร่วมในหมู่กัลยาณมิตรครับ

แค่นี้ก่อนนะครับ
เพราะต้องกลับไปเตรียมหา "มุข" ไว้รับมือท่านจอมยุทธก่อน

:)

  • กราบขอบคุณ สำหรับกำลังใจที่มีให้ เสมอมานะคะ
  • สิงที่เขียน สิ่งที่บันทึก ณ เวลา นี้
  • คือ การได้ บันทึกถึงลูก เขียนถึงลูก  ให้ลูกได้อ่าน เมื่อยามเติบโต เจ้า
  • ด้วยความระลึกถึงนะคะ

สวัสดีนกแห่งอรุณรุ่ง

ขอผิดสัญญาสักหนึ่งวันครับ เพราะบันทึกนี้มีประเด็นที่ทำให้เกิด ...ประเด็นความคิดที่อยากแลกเปลี่ยนครับ

แน่นอนว่า การเขียนด้วยข้อความ ถ้อยคำที่สั้นกระชับ รัดกุม ใช้คำที่สื่อความหมายได้มากได้กว้าง ได้ตรง ย่อมจะดีกว่าการใช้ คำที่มากมาย เยิ่นเย้อ

บางคนสามารถใช้คำเพียงไม่กี่คำในการสื่อให้เกิดความคิดอันมหาศาลได้ แต่บางบทความเราอ่านไปตั้ง 2-3 หน้า ยังไม่รู่ว่า คนเขียนจะสื่ออะไร...

หน้าที่ของ ผู้เขียนงานจึงต้องฝึกหัด วรยุทธ์ให้คล่องแคล่ว เพื่อจะได้สยบคู่ต่อสู้ (เข้าสู่กลุ่มเป้าหมาย) ได้ในเพลงเดียวครับ

  • สวัสดีค่ะ คนไม่มีราก
  • ขอบคุณที่เข้ามาเม้นท์
  • หายไปหลายวันเพราะเจ้าหมิงตัวน้อยเกิดติดเชื้อไวรัส คล้ายหัด
  • ตอนนี้กลับมาเล่นเหมือนเดิมแล้ว ทำเอาแม่มือใหม่ผอมไปหลายกิโล
  • แหม่มว่า การเขียนมันก็เหมือนกับการฝึกวิทยายุทธ์ จะเก่งได้ก็ต้องมีอาจารย์ดี และการฝึกฝน

คนไม่มีรากเหง้าเข้าสื่อสาร...   ขอคุณท่านที่แวะเวียนและเขียนถึง

อ่านเรียบง่ายจึงงดงาม..ถ้อยรำพึง...   รู้สึกถึงซึ่งงานเราเข้าข่ายใด

งานที่มีคุณค่านี่ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ..

สวัสดีค่ะคุณ ยายธี

ดีใจที่คุณยายธีมาเยี่ยมอีกค่ะ....^_^....

ที่คุณยายธีบอกว่า....ยายธีเพิ่งหัดเขียนตอนแก่ค่ะถ้ามีอะไรเพี้ยนๆไปบ้างก็ขออภัยนะคะตัวหนังสือบางตัวหายไปจากความทรงจำที่ลองเขียนๆดูไม่ได้ใช้ทฤษฎีเป็นแต่ความอิสระในจิตวิญญาณเท่านั้นค่ะ...

ไม่ว่าจะอายุมากหรือน้อย ... ก็มีสิทธิ์ที่จะนำเสนองานเขียนที่ดีมีประโยชน์ค่ะ...และเท่าที่อ่านบันทึกของคุณยายธีก็ได้ความรู้เรื่องการปลูกต้นไม้มากมายเลยค่ะ

สู้ ๆ ค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะคุณ หนุ่ม กร~natadee

แวะมาเยี่ยมเยือนในฐานะกัลยาณมิตรก็ขอบคุณแล้วค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะน้าอึ่งอ๊อบ คนสวย แซ่เฮ

คนไม่มีรากแอบเป็นแฟนบันทึกน้าอี่งอีอบบ่อยค่ะ ...

ได้รับคำชม...ทำให้หน้าบานเชียวค่ะ...ลุ่มลึก เร้าอารมณ์ ชวนตาม เสมอ ๆ ๆ  แม้ไม่ได้เจอ ก็บอกว่า "คิดถึง"

เท่าที่ทราบน้าอี่งอ๊อบเป็นผู้ที่มีน้ำใจและชอบทำให้คนแปลกใจเสมอ  ๆ เช่นกัน...^_^...

ขอบคุณที่แวะมาทักทายค่ะ

คุณ ใบไม้ย้อนแสงที่รัก

ดีใจจัง...เพื่อนเรามีเวลามาเยี่ยมเยือนแล้ว....(^___^) 

เห็นด้วยค่ะที่ว่า....สำหรับงานเขียนเพื่อความเติบโตทางจิตวิญญาณของตัวเองนั้น ต้องซื่อสัตย์กับตัวเอง และแสดงออกมาอย่างธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่ง เขียนออกมาจากใจ

ปรุงมาก แต่งแต้ม เสริมเติมเกินไปก็ทำให้ขาดอรรถรสนะคะ เหมือนอาหารที่ปรุงจนเกินดี ... และที่สำคัญ ต้องซื่อสัตย์ กับตัวเองและผู้อ่านนั่นแหละค่ะ สำคัญมาก .....

ไม่มีอะไรยากจนเกินที่เราจะทำได้แลไปถึง...จริงไหมคะ

ขอบคุณมากค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะน้องณุตตา

ขอบคุณที่คอยมาเป็นกำลังใจจ้ะ

จริงล่ะที่ว่า ใคร ๆ ก็เขียนได้ แต่จะสื่อให้เข้าใจว่าเราหมายความว่าอย่างไรนั่นต่างหากที่...ยาก...

(^__^)

สวัสดีอีกครั้งค่ะคุณณภัทร๙

ความจริงส่วนที่สำคัญมากประการหนึ่งในการเขียนบันทึก...น่าจะเป็น การแสดงความคิดเห็นของกัลยาณมิตรนะคะ เขียนแล้วไม่มีคนมาอ่าน ไม่มีคนมาคอมเม้นท์ ... ก็ไม่ทราบจะเขียนไปทำไมมี...

แค่มาทิ้งร่องรอยการเยี่ยมไว้ ไม่ต้อง "เค้นมุข" หรอกค่ะ  เกรงว่าจะเหนื่อยเกินไปนะคะ ... 5555.... บันทึกมีมากมายเลย

เอาแค่คิดอย่างไร เห็นอย่างไร ก็บอกตามนั้น คิดเหมือนหรือคิดต่างจะแปลกอะไร สำหรับคนไม่มีรากแล้ว ชอบการท้าทายความคิดค่ะ เพราะสร้างประเด็นให้เกิด ปัญญาแตกฉานขึ้น ขืนมีแต่คนเห็นด้วยทั้งหมดที่เราเขียน คงเบื่อแย่เลย ...

ถึงอย่างไรก็ต้องขอบคุณมากล่ะค่ะที่กรุณามาเยี่ยมถึงสองครั้ง...เป็นปลื้มค่ะ

...^__^...

สวัสดีค่ะคุณครูใหม่บ้านน้ำจุน

ยินดีค่ะ เราต่างให้กำลังใจกันเสมอค่ะ

น้องพอและน้องเพียง ... คงภูมิใจมากเมื่อโตขึ้นและได้อ่านบันทึกที่คุณแม่เขียนไว้ด้วยความรักค่ะ

(^___^)

ขอสวัสดีอีกครั้งนะครับ

คงจะยังไม่เบื่อกันใช่ไหมครับ

จากคำตอบที่ได้ตอบมาล่าสุด

ทำให้ผมเข้าใจแจ่มกระจ่างมากขึ้นถึงอะไรบางอย่างครับ

"ส่วนที่สำคัญมากประการหนึ่งในการเขียนบันทึก...น่าจะเป็น การแสดงความคิดเห็นของกัลยาณมิตรนะคะ เขียนแล้วไม่มีคนมาอ่าน ไม่มีคนมาคอมเม้นท์ ... ก็ไม่ทราบจะเขียนไปทำไมมี..."

ตัวผมเองพึ่งเข้ามาที่นี่แม้จะไม่นาน
ก็เห็นด้วยเต็มที่กับสิ่งที่ว่ามาข้างต้น

ผมคิดว่าสิ่งที่ทำให้ G2K มีชีวิตชีวา
ต่างไปจาก Learner.in.th
ก็คือบรรยากาศตรงนี้แหละครับ
ผมคิดว่าการให้กำลังใจกันถือเป็น "พันธะ" อย่างหนึ่งที่เหนียวแน่น
ที่ช่วยยึดเหนี่ยวให้ชุมชนนี้มีชีวิต

มันอาจไปสอดคล้องกับความต้องการ
พื้นฐานที่สุดของมนุษย์เราทุกคนทุกเพศวัย

แต่ที่น่าแปลกใจ และชวนให้ค้นหา
คำตอบมากๆ เลยก็คือ

พฤติกรรมของครูบาอาจารย์ท่านนึงครับ
ท่านเขียนบันทึกไว้เป็นจำนวนมาก
และเป็นปัญญาปฏิบัติของท่านล้วนๆ
แต่ท่านก็ไม่เคยคาดหวัง และไม่ต้องการ
การตอบรับหรือการชื่นชมจากผู้ใด
ท่านยังคงมุ่งมั่นที่จะถ่ายทอดสิ่งดีๆ
มาให้ชาวชุมชนเราอย่างต่อเนื่อง
ไม่อยากเฉลยว่าเป็นท่านผู้ใด
แต่บอกเป็นนัยๆว่า มีบันทึกมากที่สุด
ใน G2K

ผมเคยถามตัวเองอยู่บ่อยๆว่า
ถ้าเขียนอะไรไปแล้วไม่มีใครมาเม้นท์
จะยังทนเขียนต่อไปไหม
แล้วก็ได้คำตอบว่า "ไม่แน่นอน"

ด้วยเหตุนี้แหละครับที่ทำให้ผม
ยิ่งเพิ่มศรัทธาในสิ่งที่ท่านได้ทำไว้
และหวังว่าสักวันหนึ่งคงจะทำได้
สักหนึ่งในสิบของท่านก็พอ

พอแค่นี้ก่อนละกันนะครับ
รู้สึกว่าจะออกนอกเรื่องกันไปไกลแล้ว

:)

  • สวัสดีค่ะ
  • คิด ๆ ไปแล้วการจะเขียนให้ดีทำได้ยากเหมือนกันเน๊าะ
  • เขียนออกจากใจ เขียนจากความคิดน่าจะดีที่สุด
  • การเขียนแต่ละครั้งคงไม่ถูกใจคนทุกคนแน่นอนใช่ไหมคะ
  • คิดถึงค่ะ คิดถึงค่ะ คิดถึงๆๆๆๆๆๆ ค่ะ

พี่คนตัดไม้คะ

ผิดสัญญาครั้งที่1 ... นับไว้แล้ว...^_^...ไม่นับก็ได้ค่ะ ... เพราะข้อคอมเม้นท์ของพี่เป็นประโยชน์และทำให้ได้คิดดีค่ะ

การเขียนด้วยข้อความ ถ้อยคำที่สั้นกระชับ รัดกุม ใช้คำที่สื่อความหมายได้มากได้กว้าง ได้ตรง ย่อมจะดีกว่าการใช้ คำที่มากมาย เยิ่นเย้อ   บางคนสามารถใช้คำเพียงไม่กี่คำในการสื่อให้เกิดความคิดอันมหาศาลได้ แต่บางบทความเราอ่านไปตั้ง 2-3 หน้า ยังไม่รู่ว่า คนเขียนจะสื่ออะไร...

หน้าที่ของ ผู้เขียนงานจึงต้องฝึกหัด วรยุทธ์ให้คล่องแคล่ว เพื่อจะได้สยบคู่ต่อสู้ (เข้าสู่กลุ่มเป้าหมาย) ได้ในเพลงเดียวครับ

สุดยอดวรยุทธ์จริง ๆ ค่ะ มิน่าถึงล่าทุนได้ทุกทุนตามที่ต้องการเลย...

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ. แม่น้องหมิง

ยินดีด้วยค่ะที่น้องหมิง...ปลอดภัยแล้ว

เป็นคุณแม่มือใหม่ ... เหนื่อยหน่อยนะคะ

สู้ ๆ ๆ ค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะอ. นายวิโรจน์ พูลสุข

ตอบเป็นกลอน ซึ่งคนไม่มีรากไม่มีความสามารถเลยค่ะ

แต่ก็ขอบคุณค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะเอก

ไม่ควรทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากนะคะ

เคยคุยกับพี่ท่านหนึ่ง โหลถามว่าทำไมไม่เขียนด้วยคำง่าย ๆ เข้าใจได้รวดเร็ว พี่บอกว่า ... เขียนไปอย่างนั้น คนก็จะหาว่าไม่มีภูมิรู้ เขียนอะไรเข้าใจง่าย ๆ ... ต้องเขียนให้ซับซ้อน ศัพท์แสงยาก ๆ คนอ่านไม่รู้เรื่องก็จะไม่กล้าซักถามอะไร ....

ดูสิคะ...คนเรา....ต้องปลงเนอะ !!!!

ทำงานให้สนุกค่ะ

(^___^)

จริงแท้ที่สุดครับ

การเขียนงานชุ่ย ๆ นั้น ถือเป็นการดูถูกและไม่ให้เกียรติ ทั้ง ตัวเอง และ ผู้อ่าน งานของเรา...

ดีจัง

สวัสดีค่ะคุณ. ณภัทร๙

เห็นด้วยค่ะที่คุณณภัทร๙ กล่าวว่า...ผมคิดว่าการให้กำลังใจกันถือเป็น "พันธะ" อย่างหนึ่งที่เหนียวแน่น ที่ช่วยยึดเหนี่ยวให้ชุมชนนี้มีชีวิต  มันอาจไปสอดคล้องกับความต้องการ พื้นฐานที่สุดของมนุษย์เราทุกคนทุกเพศวัย

ส่วนที่บอกว่า....แต่ที่น่าแปลกใจ และชวนให้ค้นหาคำตอบมากๆ เลยก็คือ พฤติกรรมของครูบาอาจารย์ท่านนึงครับ ท่านเขียนบันทึกไว้เป็นจำนวนมาก และเป็นปัญญาปฏิบัติของท่านล้วนๆ แต่ท่านก็ไม่เคยคาดหวัง และไม่ต้องการ การตอบรับหรือการชื่นชมจากผู้ใด ท่านยังคงมุ่งมั่นที่จะถ่ายทอดสิ่งดีๆ มาให้ชาวชุมชนเราอย่างต่อเนื่อง  .... แม้ไม่บอกคนไม่มีรากก็ทราบค่ะว่าคือใคร ท่านอ.วิจารณ์ พานิช ..ถูกไหมคะ คงไม่เป็นไรที่จะกล่าวนามท่านด้วยความเคารพอย่างชื่นชมและจริงใจ

ระดับผู้ใหญ่เช่น อ.หมอวิจารณ์ ดร.ประพนธ์ อ.หมอวัลลภ พี่ศศินันท์ และอีกหลาย ๆ ท่านนั้น ท่านเหล่านี้มีประสบการณ์ผ่านโลกมามาก มีความรู้ที่เต็มเปี่ยมและมีใจเมตตาที่จะเผยแพร่สิ่งที่ท่านรู้ เห็น และผ่านมาให้เด็กรุ่นเราได้รับรู้ ... แม้จะมีคนคอมเม้นท์หรือไม่ก็คงไม่ทำให้ท่านรู้สึกอย่างไร แต่ส่วนตัวถ้าได้อ่านแล้ว น่าจะแสดงตัวเพื่อให้เกียรติและให้ท่านได้ทราบว่าเรา...มารับรู้และเคารพในสิ่งที่ท่านได้บอกเรา...จริงไหมคะ

โดยส่วนตัวของคนไม่มีรากนั้น ... ยังมีความรู้ ประสบการณ์น้อยมาก การเขียนบันทึกก็เพื่อนำเสนอความคิดเห็นของตัวเอง (ที่อาจผิดหรือถูก) จึงต้องการให้มีท่านผู้รู้และกัลยาณมิตรเข้ามาให้ข้อคิดเห็น ติชม แม้จะเห็นด้วย ชื่นชม ตำหนิ เห็นต่าง ... คนไม่มีรากก็ยินดีและน้อมรับ เพราะทำให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ แตกฉานทางความคิดยิ่งขึ้นค่ะ

และขอบคุณมากเป็นพิเศษกับคุณณภ้ทร๙ นะคะ ที่เปิดประเด็นความคิด...

ว่าแล้วก็น่าจะได้อีกสักบันทึกหนึ่งค่ะ

(^__^)

สวัสดีค่ะ

* ขอแค่เขียนได้กับได้เขียนก่อนนะคะ

     

คุณคนไม่มีราก ทำบุญมาดีจึงเจอครูบาอาจารย์ที่เป็นของแท้ให้คำแนะนำที่วิเศษดุจอัญมณี พี่ว่าเป็นเรื่องสำคัญยิ่งนะคะที่เราต้องมีหลักหรือข้อนำทางที่ดี

การอ่านมาก อ่านอย่างดูวิธีเขียน วิธีคิด ของผู้ที่เขียนเก่งๆ จะทำให้เราได้เรียนรู้มากนะคะ แต่นั่นเป็นเพียงได้เรียนรู้เทคนิคการเขียน ส่วนสาระนั้นต้องกลั่นกรองมาจากใจของเรา ไม่ว่าจะเเป็นงานเขียนวิชาการ หรืองานเขียนทั่วไป พี่เชื่อเช่นนั้นค่ะ

 

ขอบคุณความห่วงใยจากพี่กฤษณ์ ค่ะ

สู้ ๆ ค่ะพี่.....^_^....

สวัสดีค่ะคุณยุวดี

จริงค่ะ....การเขียนงานนี่เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์...

และยังต้องเพิ่มเติมความเรียบง่าย จริงจัง จริงใจ...เข้าไปอีกด้วย คงจะดีนะคะ

(^__^)

ได้ความรู้เรื่องการเขียนเพิ่มค่ะ จะนำไปปฏิบัติในการเขียนค่ะ ขอบคุณมาก

สวัสดีค่ะ

แวะมาศึกษาเทคนิคการเขียนค่ะ  สบายดีนะคะ.....

ดอกไม้นี้ดูธรรมดา แต่ก็วยมากค่ะ       

 

สวัสดีค่ะคุณป๊อบ-เกษตร

ยินดีต้อนรับค่ะ...

อ่านแล้วก็ยิ้ม ๆ ... บางคนน่ะใช้งานเขียนโจมตีคนอื่น ระบายอารมณ์ (แย่ๆ) ใช้เป็นเครื่องมือสร้างผลงานและความเจริญให้ตัวเอง ด้วยการเหยียบย่ำคนอื่นอ่ะค่ะ

ใช่ค่ะ การเขียนบันทึกต้องแสดงความ "รับผิดชอบ" ต่อตนเองและสังคมค่ะ เพราะสิ่งที่คุณเขียน พูด ... ย่อมสะท้อนว่าคุณคิดอะไร เป็นคนอย่างไร...

ขอบคุณค่ะที่สนใจ

ภาพประกอบนี้...เป็นภาพดอกไม้ในสวนลุมค่ะ ไม่ทราบชื่ออะไร...ชอบในความเล็ก ๆ สดชื่นของเขาน่ะค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะ
พี่เป็นคนง่ายๆ ตรงๆ สบายๆ ไม่ปรุงแต่งคำพูดอะไรมากมาย ให้ดูสวยหรูค่ะ เพียงแต่ชอบความสุภาพ ให้เกียรติกันตามควร และพี่ก็ไม่นิยมคนที่ปรุงแต่งอะไรมากๆด้วย เพราะรู้สึกว่า มักมีอะไร ไม่ค่อยจริงอยู่ค่ะ และพี่ก็มีประสบการณ์เรื่องแบบนี้ มาไม่น้อยค่ะ

จริงมาก ๆ ค่ะ

คิดแล้ว... ก็ให้รู้สึกว่า การจะเป็น ผู้เขียนงานที่มี "วิญญาณอิสระและสร้างสรรค์" งานที่มีคุณค่านี่ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย .... ว่าไหมคะ !!!!

มาอ่าน อีกบันทึก ครับ

การใช้ค่าแห่งคำที่เรียบง่าย....สื่อความงามที่ชัดเจน

การยกย่องใครเกินงาม....จึงไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง

ความพอดีในคำ จึงเป็นสิ่งมีค่า ไม่ต้องคิดให้มากความหรือปรุงแต่งให้คิดอย่างเกินพอดี

 

เจ้าหมาน้อยตัวนี้ ยืนอย่างมั่นคงในความมีตัวตนของตัวเอง

แม้นว่า จะอยู่ท่ามกลางความง่อนแง่น...แต่ก็ยืนอยู่ได้ ด้วยใจที่เด็ดเดี่ยว ครับ ....

มีความสุข  กับ รางวัลที่ได้รับ....แม้นอาจมองว่าเป็นเพียงสิ่งสมมติ แต่ คุณค่าที่มีมากว่า คือ พลังใจ ครับ คุณคนไม่มีราก

..พี่คนตัดต้นไม้..คุยให้ฟัง

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท